วันศุกร์, ตุลาคม 24, 2568

บิ๊กเล็ก เผยประชุม GBC ไทย-กัมพูชา บรรลุ 4 ข้อสำคัญ แก้ปัญหาพิพาทเขตแดน

by Trust News, 24 ตุลาคม 2568

รมว.กลาโหม เผย ภายหลังการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีข้อตกลง 4 ข้อที่กัมพูชาต้องร่วมมือ ทั้งการถอนอาวุธหนักจากชายแดน การร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด การร่วมปราบปรามสแกเมอร์ และจัดการพื้นที่อ้างสิทธิ์หลักเขต 42-47

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ภายหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 วันที่ 23 ตุลาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย ว่า วันนี้ได้มาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปหรือ GBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 ร่วมกับฝ่ายกัมพูชา นำโดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย ตามคำเชิญของกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย โดยการประชุม GBC ในครั้งนี้ ประเทศไทยยังคงยืนหยัดในเงื่อนไขเดิม 4 ข้อ ได้แก่ (1) การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง (2) การเก็บกู้ ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (3) การปราบปรามขบวนการ Cyber Scam และ (4) การจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดนในจังหวัดสระแก้ว

รมว.กลาโหม กล่าวต่อว่า ผลของการประชุมในวันนี้ ถือว่ามีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยฝ่ายไทยได้ประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวให้ฝ่ายกัมพูชายึดถือปฏิบัติในประเด็นเดิม แต่มีการลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น เพื่อให้หน่วยในพื้นที่สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งผมจะขอชี้แจงให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน ดังนี้

ประเด็นแรก การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง ทั้งสองฝ่าย ได้บรรลุข้อตกลงในการจัดทำข้อกำหนดเงื่อนไขของงาน หรือ TOR สำหรับคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน หรือ AOT และได้มีการลงนามโดยผู้แทนของทั้งสองฝ่ายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคณะ AOT จะมีหน้าที่สำคัญในการสังเกตและติดตามผลความคืบหน้าของการถอนอาวุธหนักของแต่ละฝ่ายออกจากพื้นที่ขัดแย้ง รวมถึงได้มีการกำหนดกรอบเวลาและเป้าหมายปลายทางในการถอนอาวุธเรียบร้อยแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในแผนปฏิบัติการ หรือ Action Plan ที่ได้จัดทำร่วมกัน และมอบหมายให้แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย และผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา ขับเคลื่อนแผนไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งขั้นต้นจะหารือกันเพิ่มเติมในวันที่ 25 ตุลาคมนี้

ทั้งนี้ การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง มีความมุ่งหมายหลักเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เนื่องจากอาวุธของกัมพูชาส่วนใหญ่ เช่น จรวด BM-21 เป็นอาวุธที่มีอำนาจการทำลายเป็นวงกว้าง ยากแก่การควบคุมตำบลกระสุนตก จึงก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน รวมถึงเป้าหมายที่มิใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น บ้านเรือน ร้านค้า ไร่นา โรงเรียน และโรงพยาบาล เป็นต้น

ประเด็นที่สอง การเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทั้งสองฝ่ายได้ประสบความสำเร็จในการจัดทำระเบียบปฏิบัติมาตรฐาน หรือ SOP สำหรับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน ทั้งในพื้นที่ที่มีการกำหนดเขตแดนชัดเจนแล้ว และพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายยังเห็นไม่ตรงกัน หลังจากนี้ ชุดประสานของทั้งสองฝ่ายจะสามารถเริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ได้ทันที ซึ่งที่ผ่านมาศูนย์ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด หรือ TMAC ของฝ่ายไทย ไม่สามารถดำเนินการเก็บกู้ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมักถูกขัดขวางจากฝ่ายกัมพูชาบ่อยครั้ง เมื่อเราเข้าไปใกล้พื้นที่ชายแดน

แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่ฝ่ายกัมพูชายอมที่จะนำประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิดมาพูดคุยในรายละเอียดกันอย่างจริงจัง ทั้งนี้ การเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดนมีความมุ่งหมายเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดน ซึ่งฝ่ายไทยได้ยืนยันมาโดยตลอดว่าการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องเร่งดำเนินการ และต้องไม่นำเรื่องเขตแดนมาเป็นข้อจำกัดแต่อย่างใด

ประเด็นที่สาม การปราบปรามขบวนการ Cyber Scam เรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราได้รับความร่วมมือมากขึ้นเป็นครั้งแรกจากฝ่ายกัมพูชา โดยหน่วยงานตำรวจของทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการ หรือ Action plan เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะจัดตั้งกำลังเฉพาะกิจร่วม หรือ Joint task force ภายในสองสัปดาห์ เพื่อเริ่มกวาดล้างแกนนำและผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการ Cyber Scam ได้ต่อไป ซึ่งต้องยอมรับว่ามีขบวนการบางส่วนเดินทางไป-มา ระหว่างสองประเทศด้วยวิธีต่าง ๆ
นอกจากนี้ ได้ตกลงร่วมกันเกี่ยวกับขั้นตอนที่ชัดเจน ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร หลักฐานพยานเหยื่อที่ถูกหลอกลวงและผู้ต้องหา รวมถึงมาตรการคุ้มครองพยาน อันจะทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่าขบวนการ Cyber Scam เป็นภัยคุกคามที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้ทุกคน ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อประเทศไทย ภูมิภาคอาเซียน และพื้นที่อื่น ๆ ทั่วโลก ตามที่ปรากฏเป็นข่าวให้เห็นอยู่เป็นระยะ ๆ ดังนั้น แผนปฏิบัติการที่ได้ร่วมกันจัดทำขึ้นนั้น จึงถือเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานตำรวจของไทยและกัมพูชา ซึ่งอาจรวมถึงเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของประเทศอื่น ๆ ที่มีประชาชนของตนตกเป็นเหยื่อของขบวนการ Cyber Scam ด้วย
ประเด็นที่ 4 สุดท้าย การจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดน ในจังหวัดสระแก้ว ตามข้อมูลขั้นต้นที่ได้รับจากการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC ซึ่งนำโดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีผลลัพธ์เชิงบวก ที่จะสามารถทำให้หน่วยในพื้นที่นำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะส่งเจ้าหน้าที่ของตนลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวเส้นที่แต่ละฝ่ายอ้างสิทธิ์ หรือ Boundary Claim โดยจะทำการสำรวจร่วมจากหลักเขต ที่ 42 ถึง 47 ช่วงบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว

ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกอีกเช่นกัน ที่ฝ่ายกัมพูชายินยอมร่วมมือกับฝ่ายไทย ในการลงพื้นที่เดินสำรวจแนวเส้นอ้างสิทธิ์ และวางหมุดชั่วคราวที่แน่ชัดด้วยกัน อันจะทำให้แต่ละฝ่ายยอมรับกับขอบเขตพื้นที่ที่เกิดขึ้น ตามผลการสำรวจและจะนำไปสู่การปรับการถือครองที่ดินของทั้งสองฝ่ายได้ต่อไป
ขอยืนยันว่าการวางหมุดชั่วคราวนี้ เป็นเพียงเพื่อการสำรวจเท่านั้น จะไม่กระทบต่อสิทธิของไทยในเรื่องเขตแดนทางบกตามกฎหมายระหว่างประเทศแต่อย่างใด

พล.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ฝ่ายไทยจะเริ่มดำเนินการสร้างรั้วชายแดน ในบริเวณที่มีความชัดเจนของเส้นเขตแดนแล้ว โดยยืนยันว่ารั้วดังกล่าวจะอยู่ภายในเขตอธิปไตยของไทย เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ตลอดจนเพื่อป้องกันภัยคุกคามข้ามแดนระหว่างทั้งสองประเทศ

รมว.กลาโหม กล่าวด้วยว่า ทั้งหมดตามที่กล่าวมานั้น นับเป็นความคืบหน้าอย่างมีนัยยสำคัญ ที่เกิดขึ้นจากการประชุม GBC ในครั้งนี้ ซึ่งยังคงมีรายละเอียดหลายเรื่อง ที่เราจะต้องร่วมกันติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดต่อไป ฝ่ายไทยขอยืนยันว่าเราต้องการเห็นความคืบหน้าที่ชัดเจนในทุกเรื่อง ตามที่กล่าวไปแล้ว จึงจะพิจารณาการยุติความเป็นปรปักษ์ต่อกัน ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาได้แสดงความจริงใจในการปฏิบัติตามผลการประชุม GBC ในครั้งนี้ โดยเคร่งครัด เพื่อร่วมกันนำสันติสุขให้กลับคืนสู่ประชาชนของทั้งสองประเทศตลอดจนภูมิภาคอาเซียนในภาพรวม

ผมขอยืนยัน ในนามของรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมว่า จะพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งอธิปไตย ผลประโยชน์ของชาติและประชาชน โดยคำนึงถึงเกียรติภูมิของประเทศไทยเป็นสำคัญ.


You might be intertested in this news.

Mostview

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้(24ต.ค.68) ยังคงอยู่ในระยะ Sideway

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้(24ต.ค.68) ยังคงอยู่ในระยะ Sideway

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้(22ต.ค.68) คาด Sideway

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้(22ต.ค.68) คาด Sideway

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (21ต.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (21ต.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น

รีวิว WENT UP THE HILL หลอนสวมร่าง

WENT UP THE HILL หลอนสวมร่าง หนังที่ดูเหมือนจะหลอนมีผี แต่กลับไม่มีให้เห็น เพราะเป็น “ผี” แนวเข้าสิงร่าง สลับคนไปมา ค่อนข้างออกแนว จิต ๆ หน่อย

แนวโน้มราคาทองวันนี้(20ต.ค.68) พักฐานลงระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองวันนี้(20ต.ค.68) พักฐานลงระยะสั้น

TrustNEws Line