วันอังคาร, ตุลาคม 28, 2568

แนวโน้มSETวันนี้ (27ต.ค.68) รอประชุมเฟด/ผู้นำสหรัฐฯ-จีนพบกัน

by Trust News, 27 ตุลาคม 2568

แนวโน้มSETวันนี้ (27ต.ค.68) รอประชุมเฟด/ผู้นำสหรัฐฯ-จีนพบกัน

คาดตลาดแกว่งผันผวนทดสอบแนวต้าน แม้ปัจจัยในประเทศจะกดดันบรรยากาศลงทุนทำให้ระยะสั้น แนะหลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้นกลุ่มบันเทิง/สื่อโฆษณา/ท่องเที่ยวออกไปก่อน แต่ DELTA งบดีกว่าคาดอาจหนุนตลาดช่วงเปิด และมองสัปดาห์นี้ SET จะให้น้ำหนักปัจจัยภายนอก อาทิ การเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน และการประชุมเฟด ทางเทคนิค

ตลาดมีกรอบบนที่แนวต้านแถว 1320 ต้องยืนเหนือจึงจะแกว่งขึ้นต่อ การลงมีแนวรับหลัก 1305/ 1295 หากยังบวกไม่ควรลงหลุดต่ำกว่าอีก

ประเด็นสำคัญ :

1. รมว. น้ำมันของคูเวตเผยว่า OPEC อาจผ่อนคลายมาตรการลดการผลิตเพิ่มเติมเพื่อชดเชยอุปทานที่ได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรล่าสุดของสหรัฐฯ ต่อ 2 บริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ของรัสเซีย ติดตามการประชุมร่วม (JMMC) ครั้งที่ 63 ในวันที่ 30 พ.ย. 2568


2. กบน. มีมติเร่งด่วนให้ดูแลราคาขายปลีกน้ำมันตามนโยบาย Quick Big Win ให้กองทุนน้ำมันฯ ช่วยประคองเสถียรภาพราคาน้ำมัน โดยจะตรึงราคาดีเซลที่ 32 บาท/ลิตร หลังราคาน้ำมันโลกปรับขึ้นจากการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ มองเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน


3. IMF เรียกร้องประเทศในเอเชียลดการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช้ภาษี (Non-tariff Barrier) และดำเนินนโยบายการค้าแบบบูรณาการ ซึ่งจะช่วยขยายตลาด ลดต้นทุน และชดเชยแรงกดดันจากผลกระทบของนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และวิกฤตการณ์การเงินโลก


4. สหรัฐฯ และ จีน บรรลุกรอบความร่วมมือการค้า “Very Substantial Framework” โดย รมว.คลัง สหรัฐฯ สกอตต์ เบสเซนต์ ระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะชะลอการใช้ภาษีนำเข้าสินค้าจีน และให้จีนเลื่อนควบคุมการส่งออกแร่หายาก พร้อมให้จีนกลับมาซื้อถั่วเหลืองสหรัฐฯ ในปริมาณมาก คาดทรัมป์–สี จะหารือสรุปในสัปดาห์นี้


5. ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในมาเลเซีย ไทยและกัมพูชาได้ลงนามแถลงร่วมฯ สู่สันติภาพ โดยมี ปธน. ทรัมป์ เป็นพยาน ซึ่งรวมถึงการยุติการสู้รบทั้งหมด ด้าน ปธน. ทรัมป์เผยว่าสหรัฐฯ จะลงนามข้อตกลงการค้ากัมพูชา และข้อตกลงเกี่ยวกับแร่ธาตุหายากกับไทย


6. สหรัฐฯ–ไทยบรรลุกรอบ “ข้อตกลงการค้าแบบซึ่งกันและกัน” เพื่อสร้างความสัมพันธ์เศรษฐกิจ โดยไทยจะยกเลิกอุปสรรคภาษีศุลกากร 99% สำหรับสินค้าสหรัฐฯ ขณะที่สหรัฐฯให้สิทธิภาษี 0% แก่บางรายการ ครอบคลุมสินค้าเกษตร พลังงาน และเครื่องบิน

กลยุทธ์การลงทุน :

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1285-1335 จุด โดยคาดตลาดจะให้น้ำหนักและติดตามปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ได้แก่...

1) การประชุมนโยบายการเงิน FOMC ECB และ BoJ (30 ต.ค.) ซึ่งตลาดคาดเฟดจะลดดอกเบี้ยลง 25bps สู่ 4.00% มองว่าแม้ตลาดได้รับรู้ไปแล้ว แต่คาดหวังเฟดจะส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยต่อในการประชุม ธ.ค. 2568 ขณะที่ ECB และ BoJ คาดยังมีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย

2) หากมีการพบกันระหว่างทรัมป์และสีจิ้นผิงได้ในช่วงก่อนประชุม APEC คาดจะส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง

3) งบ 3Q68 ของบจ. ขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่คาดจะออกมาดีกว่าตลาดคาด

4) PMI ภาคการผลิตของจีนที่ตลาดคาดจะฟื้นตัว ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามตัวเลขส่งออกไทย ก.ย. 2568 ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบ 3Q68 ของหุ้น Real Sector หลังงบหุ้นธนาคารส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าตลาดคาด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
 
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ โดยคาดตลาดจะให้น้ำหนักและติดตามปัจจัยภายนอกเป็นหลัก กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักและ 2 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...

1. หุ้น Earning Play ซึ่งคาดผลการดำเนินงาน 3Q68 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดีและราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ ADVANC BCP LHSC OR PTT TRUE


2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC TIDLOR รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL


Trading Idea : 

นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ

1) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนอัดฉีดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน/ทรัมป์และสีจิ้นผิงมีโอกาสบรรลุข้อตกลงทางการค้าเบื้องต้นได้ แนะนำ IVL PTTGC SCC SCGP

2) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากรัฐมีแผนเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ผ่านการบริโภค แนะนำ CPALL BJC CRC HMPRO ขณะที่ระยะสั้นแนะนำระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นกลุ่มบันเทิง สื่อโฆษณาและท่องเที่ยว
 
Daily Top Picks :

CPALL :  คาดได้อานิสงส์รัฐดำเนินนโยบายสร้างรายได้และลดค่าครองชีพซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อ กําไรปกติ 3Q68 คาดจะเติบโต YoY สูงที่สุดในกลุ่ม +8%YoY เทียบกับบริษัทอื่นๆ ที่ลดลง YoY ส่วนกําไร 4Q68 คาดจะเติบโต YoY จากคนละครึ่งพลัส ด้าน Valuation น่าสนใจ PE 2568F ที่ 15x ต่ำสุดในกลุ่ม เป้าหมายระยะสั้น 49.50 บาท

KTB :  มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากผลประกอบการที่สะท้อนว่า NPL และ ECL ที่ลดลง และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่ำกว่าคาด บริษัทมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ตํ่ากว่าธนาคารใหญ่อื่นๆ มี ROE ที่ดีกว่า Valuation ถูก และคาด Div. Yield ปี 2568 ที่ราว 6.3% เป้าหมายระยะสั้น 28.25 บาท

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

รีวิว “เสือ 4 Tigers” หนังโคตรมันส์ ที่ก้าวข้ามไปอีกขั้น!

ไปดูมาแล้ว สำหรับหนังเรื่อง “เสือ” ของ ผู้กำกับก้องเกียรติ โขมศิริ ผู้เนรมิตหนังจากจักรวาล “ขุนพันธุ์” ที่ว่าด้วย 4 เสือภาคกลาง ได้แก่ เสือฝ้าย (เวียร์ ศุกลวัฒน์)​ เสือมเหศวร (มาริโอ้ เมาเร่อ) เสือใบ (เป้ อารักษ์) และ เสือดำ (โตโน่ ภาคิน)...

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้(24ต.ค.68) ยังคงอยู่ในระยะ Sideway

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้(24ต.ค.68) ยังคงอยู่ในระยะ Sideway

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้(22ต.ค.68) คาด Sideway

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้(22ต.ค.68) คาด Sideway

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (27ต.ค.68) แกว่งตัวในกรอบแนวรับและแนวต้าน

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (27ต.ค.68) แกว่งตัวในกรอบแนวรับและแนวต้าน

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (21ต.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (21ต.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น

TrustNEws Line