วันพุธ, ตุลาคม 29, 2568

แนวโน้มSETวันนี้(29ต.ค.68) ชะลอการลงได้ ที่แนวรับ

by Trust News, 29 ตุลาคม 2568

แนวโน้มSETวันนี้(29ต.ค.68) ชะลอการลงได้ ที่แนวรับ

คาดตลาดแกว่งพักตัว/แต่มีลุ้นดีดกลับสั้นที่แนวรับ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในระดับพันล้านบาทต่อเป็นวันที่สอง ตลาดเริ่มมีแรงเทขายหลังทยอยประกาศผลประกอบการ 3Q68 ยังคงติดตาม 2 ปัจจัยภายนอกหลัก ผลการประชุมเฟดในช่วงถาม-ตอบต่อแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ และการพบกันระหว่าง ปธน. ทรัมป์และ ปธน. สี จิ้นผิง

ทางเทคนิค ตลาดพักหลังหลุด 1320 ยังมีแนวรับถัดไปที่ชะลอการลงที่ 1305-1300 ส่วนการรีบาวด์หากยังไม่สามารถยืนเหนือ 1320-1323 ได้ยังเป็นการพักตัว

ประเด็นสำคัญ :

1. Reuters รายงานว่า OPEC+ กำลังพิจารณาเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบใน ธ.ค. 2568 อีก +137kBD ในการประชุมร่วม JMMC ในวันที่ 2 พ.ย. 2568 ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Brent วานนี้ปรับลง 1.54%


2. ค่าการกลั่นในเอเชียปรับขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตร 2 บริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ของรัสเซีย ทำให้โรงกลั่นอินเดียและจีนชะลอการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียท่ามกลางอุปทานน้ำมันสำเร็จรูปที่อยู่ในระดับต่ำ ค่าการกลั่นสิงคโปร์ล่าสุดที่ US$8.40/bbl มองเป็นบวกต่อกลุ่มโรงกลั่น หากรับความเสี่ยงได้ แนะเก็งกำไรระยะสั้น TOP


3. ธปท. เตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์ (JVAMC) เพื่อเปิดทางให้ซื้อหนี้เสียได้มากขึ้นและช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยในเฟสแรกไม่เกิน 2 ล้านราย รายละไม่เกิน 1 แสนบาท ด้านรมว. คลังเตรียมเสนอโครงการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย ต่อที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า และจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ต่อไป


4. จำนวน นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยในสัปดาห์ก่อนที่ 592,196 คน เพิ่มขึ้น 6.4%WoW สะท้อนสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง หนุนการขยายตัวของ นทท. จากอินเดีย, รัสเซีย และอินเดีย และปัจจัยหนุนเพิ่มเติมหลังสิ้นสุดเทศกาลดิวาลีและการจัด Music Events ขณะที่พบสัญญาณฟื้นตัวของกลุ่ม นทท. ระยะไกล


5. วันนี้ เวลา 06:00 น. เป็นวันแรกสำหรับการใช้จ่าย “คนละครึ่งพลัส” ผู้ค้ารายย่อย SMEs บริการขนส่ง และรถไฟฟ้าพร้อมเข้าร่วมโครงการ มองเป็นบวกต่อกำลังซื้อในประเทศ และคาดโครงการดังกล่าวจะช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยปี 2568 เติบโตที่ 1.8%

กลยุทธ์การลงทุน :

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1285-1335 จุด คาดตลาดจะให้น้ำหนักและติดตามปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ได้แก่...

1) การประชุมนโยบายการเงิน FOMC ECB และ BoJ (30 ต.ค.) ซึ่งตลาดคาดเฟดจะลดดอกเบี้ยลง 25bps สู่ 4.00% มองว่าแม้ตลาดได้รับรู้ไปแล้ว แต่คาดหวังเฟดจะส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยต่อ ขณะที่ ECB และ BoJ คาดคงดอกเบี้ยนโยบาย

2) หากมีการพบกันระหว่างทรัมป์และสีจิ้นผิงในช่วงก่อนประชุม APEC คาดจะส่งผลบวกต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง

3) งบ 3Q68 ของ บจ. ขนาดใหญ่สหรัฐฯ ที่คาดจะออกมาดีกว่าตลาดคาด และ 4) PMI ภาคการผลิตของจีนที่คาดจะฟื้นตัว ส่วนในประเทศเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบ 3Q68 ของหุ้น Real Sector หลังงบหุ้นธนาคารส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าตลาดคาด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
 
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ โดยคาดตลาดจะให้น้ำหนักและติดตามปัจจัยภายนอกเป็นหลัก กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักและ 2 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...

1. หุ้น Earning Play ซึ่งคาดผลการดำเนินงาน 3Q68 จะยังเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY และเราแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดีและราคาหุ้นยังมี Upside ได้แก่ ADVANC BCP LHSC OR PTT TRUE

2. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC TIDLOR รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL

Trading Idea : 

นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนอัดฉีดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน/ทรัมป์และสีจิ้นผิงมีโอกาสบรรลุข้อตกลงทางการค้าเบื้องต้นได้ แนะนำ IVL PTTGC SCC SCGP

2) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากรัฐมีแผนเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ผ่านการบริโภค แนะนำ CPALL BJC CRC HMPRO ขณะที่ระยะสั้นแนะนำระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นกลุ่มบันเทิง สื่อโฆษณาและท่องเที่ยว
 
Daily top picks :

OR :  มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับลง แนวโน้มกำไร 3Q68 คาดฟื้นตัวได้จากฤดูกาลท่องเที่ยว ความต้องการใช้น้ำมันตามฤดูกาลที่เพิ่มขึ้น และการขยายสาขา Café Amazon และร้านสะดวกซื้อยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้นไว้ที่ 14.90 บาท 

CENTEL :  มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวของรัฐบาล ราคาหุ้นอ่อนตัวลงสวนทางกับผลประกอบการที่ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 2Q68 กำไร 3Q68 คาดฟื้นตัว +15%QoQ และฟื้นตัวต่อเนื่องถึง 1Q69 จากโรงแรมมัลดีฟส์ที่เข้าสู่ High Season Valuation ยังไม่แพง PER ที่ -1SD เป้าหมายระยะสั้นที่ 32.25 บาท

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

รีวิว “เสือ 4 Tigers” หนังโคตรมันส์ ที่ก้าวข้ามไปอีกขั้น!

ไปดูมาแล้ว สำหรับหนังเรื่อง “เสือ” ของ ผู้กำกับก้องเกียรติ โขมศิริ ผู้เนรมิตหนังจากจักรวาล “ขุนพันธุ์” ที่ว่าด้วย 4 เสือภาคกลาง ได้แก่ เสือฝ้าย (เวียร์ ศุกลวัฒน์)​ เสือมเหศวร (มาริโอ้ เมาเร่อ) เสือใบ (เป้ อารักษ์) และ เสือดำ (โตโน่ ภาคิน)...

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้(29ต.ค.68) ฟื้นตัวในกรอบจำกัด

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้(29ต.ค.68) ฟื้นตัวในกรอบจำกัด

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้(24ต.ค.68) ยังคงอยู่ในระยะ Sideway

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้(24ต.ค.68) ยังคงอยู่ในระยะ Sideway

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้(22ต.ค.68) คาด Sideway

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้(22ต.ค.68) คาด Sideway

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (27ต.ค.68) แกว่งตัวในกรอบแนวรับและแนวต้าน

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (27ต.ค.68) แกว่งตัวในกรอบแนวรับและแนวต้าน

TrustNEws Line