วันอังคาร, พฤศจิกายน 11, 2568

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (11พ.ย.2568)

by Trust News, 11 พฤศจิกายน 2568

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (11พ.ย.2568)
 
1.  หุ้นสหรัฐฯ พุ่งแรงรับสัญญาณยุติชัตดาวน์ – เฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยต่อ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นแรงหลังวุฒิสภามีความคืบหน้าในการผ่านร่างกฎหมายเพื่อยุติ government shutdown ที่ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ ดัชนี S&P 500 พุ่ง 1.5% แตะระดับ 6,800 จุด, Nasdaq 100 +2.2%, และ Dow Jones +0.8% โดยหุ้นเมกะแคปดีดแรงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ขณะที่บอนด์ยีลด์ 10 ปีขยับขึ้นสู่ 4.11%

นักลงทุนมองว่าการเปิดรัฐบาลจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นและการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจที่ล่าช้า ซึ่งอาจหนุนโอกาส เฟดลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนธันวาคม นักวิเคราะห์จาก UBS และ Morgan Stanley มองว่าการผสมผสานระหว่าง “เฟดผ่อนคลาย + กำไรบริษัทแข็งแกร่ง” จะหนุนตลาดสู่การเติบโตต่อในปี 2026
 
2. วุฒิสภาสหรัฐฯ เตรียมโหวตร่างงบชั่วคราวเปิดรัฐบาลภายในสัปดาห์นี้

รัฐบาลสหรัฐฯ ใกล้ยุติการปิดทำการที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยวุฒิสภาจะเริ่มพิจารณาข้อตกลงร่วมกับกลุ่มเดโมแครตสายกลางในวันจันทร์ ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรเตรียมลงมติภายใน 36 ชั่วโมงหลังร่างผ่านสภาสูง

ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว รัฐบาลจะได้รับงบประมาณเต็มปีสำหรับกระทรวงเกษตร กิจการทหารผ่านศึก และสภาคองเกรส ส่วนหน่วยงานอื่นได้รับงบชั่วคราวถึงวันที่ 30 มกราคม อย่างไรก็ดี สมาชิกเดโมแครตบางส่วนไม่พอใจที่ร่างงบไม่รวมการขยายสิทธิสวัสดิการภายใต้ Affordable Care Act (Obamacare) โดยได้เพียงคำมั่นจากพรรครีพับลิกันว่าจะนำเรื่องนี้กลับมาพิจารณาภายในกลางเดือนธันวาคม
 
3. สหรัฐฯ–จีน ระงับข้อพิพาทเดินเรือ–ยกเว้นค่าธรรมเนียมท่าเรือ 1 ปี

สหรัฐฯ และจีน ประกาศระงับการสอบสวนซึ่งกันและกันในภาคการเดินเรือและยกเว้นค่าธรรมเนียมท่าเรือระหว่างสองประเทศเป็นเวลา 1 ปี หลังการประชุมสุดยอดผู้นำทั้งสองชาติ ฝั่งสหรัฐฯ ระงับการสอบสวนอุตสาหกรรมต่อเรือของจีน ขณะที่จีนเลื่อนมาตรการภาษีพิเศษต่อเรือสหรัฐฯ และยุติการคว่ำบาตรต่อบริษัท Hanwha Ocean ของเกาหลีใต้ชั่วคราว

นักวิเคราะห์ Jayendu Krishna จาก Drewry Maritime Services ระบุว่าตราบใดที่การระงับยังมีผล ความเสี่ยงต่อการหยุดชะงักของระบบขนส่งทางทะเลทั่วโลกก็ลดลง นับเป็นอีกสัญญาณหนึ่งของการคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก
 
4. บันทึกประชุม BOJ ชี้โอกาสขึ้นดอกเบี้ยเดือนธันวาคม

บันทึกสรุปการประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เดือนตุลาคมระบุว่า เงื่อนไขสำหรับ “การปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งถัดไปเกือบครบถ้วนแล้ว” โดยหนึ่งในเก้ากรรมการกล่าวว่า BOJ อาจพร้อม “ยกเลิกนโยบายผ่อนคลายเพิ่มเติม” ภายในสิ้นปี หากข้อมูลเงินเฟ้อพื้นฐานและแนวโน้มการขึ้นค่าจ้างยังแข็งแกร่ง

การประชุมครั้งดังกล่าวมีมติ 7 ต่อ 2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% ขณะที่ตลาดคาดว่า BOJ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่เกินเดือนมกราคม ผู้ว่าการ คาซูโอะ อูเอดะ ย้ำว่าการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับผลของการเจรจาค่าแรงรอบใหม่
 
5. ทากาอิชิเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดแรก มุ่งลงทุนใน 17 อุตสาหกรรมยุทธศาสตร์

นายกฯ ญี่ปุ่น ซาเนะเอะ ทากาอิชิ เตรียมเปิดตัวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดแรก เพื่อจุดประกายยุทธศาสตร์การเติบโตใหม่ผ่านการลงทุนในอุตสาหกรรมสำคัญ 17 สาขา อาทิ เซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ อุตสาหกรรมต่อเรือ กลาโหม และแร่ธาตุสำคัญ เป็นต้น

รัฐบาลมีเป้าหมายสร้างวงจรเศรษฐกิจเชิงบวก ด้วยการเพิ่มรายได้ ปรับปรุงความเชื่อมั่นผู้บริโภค และขยายฐานภาษีโดยไม่ต้องขึ้นภาษี ทากาอิชิยังส่งสัญญาณนโยบายการคลังแบบขยายตัว พร้อมเรียกร้อง ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นดอกเบี้ย ด้าน มิโนรุ คิอุจิ รัฐมนตรีด้านยุทธศาสตร์การเติบโต ย้ำว่ารัฐบาลจะเร่งสร้างสภาพแวดล้อมให้ค่าจ้างเพิ่มขึ้นเร็วกว่าเงินเฟ้อ โดยคาดว่ามาตรการช่วยค่าครองชีพ เช่น ลดค่าน้ำมันและค่าไฟ จะเริ่มปลายปีนี้
 
6. ครม. เศรษฐกิจไทยจะเสนอ ครม. ชุดใหญ่เพื่ออนุมัติโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เพิ่มเติม

ที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจไทยจะเสนอ ครม. ชุดใหญ่เพื่ออนุมัติโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เพิ่มเติมสำหรับร้านค้าที่ผ่านการอบรมเพิ่มทักษะการขายออนไลน์ในอัตรา 20% ของยอดขาย แต่ไม่เกิน 2,000 บาท โดยจะจำกัดสิทธิ์สำหรับ 4 แสนรายแรกเท่านั้น จากร้านค้าทั้งหมดที่เข้าร่วม 9 แสนราย รัฐบาลจะจ่ายเงินภายในวันที่ 25 ธ.ค. 2568
 
7. กระทรวงการคลังไทยเดินหน้าทบทวนการจัดทำแผนการคลังระยะปานกลาง

กระทรวงการคลังไทยเดินหน้าทบทวนการจัดทำแผนการคลังระยะปานกลาง เช่น การควบคุมการขาดดุลงบฯ ที่ 3% ต่อ GDP จากปัจจุบันที่ระดับ 4% และจัดทำแผนปฏิรูปรายได้ควบคู่กัน ตั้งเป้าที่ 17-18% ต่อ GDP จากปัจจุบันที่ระดับ 14% เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน และสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ คาดประกาศได้ภายใน พ.ย.  2568

ประเด็นที่ต้องติดตาม :

Unemployment Rate ของสหราชอาณาจักร เดือน ก.ย. คาดว่าจะออกมาที่ 4.8% จากก่อนหน้าที่ 4.8% และ ZEW Economic Sentiment Index ของเยอรมนี เดือน พ.ย. คาดว่าจะออกมาที่ 41.5 จากก่อนหน้าที่ 39.3

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

ทำไมทีมไหนๆจึงเลือกใช้ บอล Direct โจมตี ลิเวอร์พูล (ชมคลิป)

ทำไมทีมไหนๆจึงเลือกใช้ บอล Direct โจมตี ลิเวอร์พูล (ชมคลิป)

เล่นเร็ว เน้นบอลยาวและฟรีคิก แท็กติกที่ทำให้แมนยูฯเริ่มดีขึ้น (ชมคลิป)

เล่นเร็ว เน้นบอลยาวและฟรีคิก แท็กติกที่ทำให้แมนยูฯเริ่มดีขึ้น (ชมคลิป)

สำรวจหลักคิด หลอมรวมเศษแก้ว ที่พาหมอนทองวิทยาไปสู่ปรากฏการณ์

สำรวจหลักคิด หลอมรวมเศษแก้ว ที่พาหมอนทองวิทยาไปสู่ปรากฏการณ์

“พระปรุหนัง” ของขลังมหาอุตม์ของ “เสือฝ้าย” และจุดจบที่แสนอดสู

เรื่องเล่า "ของขลัง" ขุนโจรฉายา "จอมพลฝ้าย" ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน 4 เสือสุพรรณ โดยมีของดี เป็น "พระเครื่องปรุหนัง" พระระดับตำนานที่สร้างในสมัยอยุธยา ขึ้นชื่อเรื่อง มหาอุตม์ แต่จุดจบของเสือฝ้ายกลับตายอย่างน่าอดสู....

แนวโน้มราคาทองวันนี้ (11พ.ย.68) ขาขึ้นระลอกใหม่

แนวโน้มราคาทองวันนี้ (11พ.ย.68) ขาขึ้นระลอกใหม่

TrustNEws Line