แนวโน้มSETวันนี้ (27พ.ย.68) แกว่งพักตัว ขาดปัจจัยหนุนใหม่
by Trust News, 27 พฤศจิกายน 2568
แนวโน้มSETวันนี้ (27พ.ย.68) แกว่งพักตัว ขาดปัจจัยหนุนใหม่
คาดตลาดแกว่ง Sideways พักตัว ตลาดขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ๆ โดยหุ้นกลุ่มเทคฯ ต่างประเทศที่ฟื้นตัวอาจหนุนตลาดหุ้นไทยได้ไม่มากนัก ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ถูกกดดันจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ที่ยืดเยื้อกระทบ Sentiment ลงทุนในระยะสั้น ทางเทคนิคดัชนีถอยกลับมายืนบนเส้น 200 วันรอเลือกทาง หากไม่หลุดคาดรีบาวด์ได้ แต่หากหลุดมีโอกาสไหลลงต่อ แนวรับ 1250/1245 แนวต้าน 1275/1280
ประเด็นสำคัญ :
1. EIA เผยปริมาณสต็อกน้ำมันดิบสำรองในสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล ผิดจากที่ตลาดคาดจะลดลง เช่นเดียวกับสต็อกน้ำมันสำเร็จรูป อย่างดีเซลและเบนซินที่เพิ่มขึ้น 1.1 และ 2.5 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้
2. กระทรวงการคลังกำลังเตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ มาตรการเร่งด่วนเฉพาะหน้าเป็นศูนย์กลางรับบริจาค, แผนฟื้นฟูหลังน้ำลด เช่น สินเชื่อฟื้นฟูและความช่วยเหลือทางการเงิน และ การใช้กลไกทางการคลังให้การสนับสนุนระยะยาว
3. รมว. พลังงานเผยว่ากำลังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้น โดยเฉพาะจาก Data Center ซึ่ง BOI ได้อนุมัติการสนับสนุนการลงทุนแล้วกว่า 6 แสนลบ. โดยจะเร่งแก้ไขปัญหาคอขวดด้านสายส่งใน EEC, เสริมความพร้อมในพื้นที่อื่น และผลักดันโครงการ Direct PPA
4. นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน เผยตัวเลขสะสมนักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยอยู่ที่ราว 3.9 ล้านคน และปี 2568 คาดจะอยู่ที่เกือบ 5 ล้านคน ส่วนปี 2569 ตั้งเป้าอาจถึง 8 ล้านคนหลังผ่านจุดต่ำสุดปีนี้ไปแล้ว ปัจจัยหนุนจากเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างจีน-ญี่ปุ่น และการเสด็จฯ เยือนจีนของในหลวง
5. กยท. ประเมินพื้นที่สวนยางใน 9 จังหวัดภาคใต้เสียหายกว่า 1 ล้านไร่จากน้ำท่วม คิดเป็นผลผลิตราว 2.5 ล้านกก. แห้ง หรือมูลค่าราว 147 ลบ. และเตรียมมาตรการช่วยเหลือหลังน้ำลดโดยมีเงินทุนกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำรายละไม่เกิน 50,000 บาท
กลยุทธ์การลงทุน :
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1240-1300 จุด หลังตลาดยังขาดปัจจัยชี้นำใหม่ โดยปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความคืบหน้าการเจรจาภาษีไทย-สหรัฐฯ, ดุลการค้า ต.ค., ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ต.ค. และ ครม. เศรษฐกิจพิจารณามาตรการช่วยเหลือสภาพคล่องผู้ประกอบการ SMEs และมาตรการส่งเสริมการลงทุนเร่งด่วน (BOI Fast Pass)
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ดัชนี PCE และ PPI ก.ย., GDP 3Q68 (รายงานครั้งที่ 2) ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :
ช่วงสั้นมอง SET เคลื่อนไหวในกรอบหลังขาดปัจจัยหนุนใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 3 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...
1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก คาด 4Q68 กำไรยังเติบโตดี YoY แนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS GULF BEM BGRIM PTT
2. หุ้นปันผลคุณภาพดีซึ่งมี SET ESG Ratings A-AAA เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตระยะสั้น โดยคาดจะมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2568 หลังหักเงินปันผลจ่ายระหว่างกาลแล้ว ซึ่งให้ Yield เกิน 5% แนะนำ Outperform ได้แก่ BAM WHA KTB AP SIRI TOP BLA
3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง คาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL
Trading Idea :
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...
1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจาก ครม. เศรษฐกิจพิจารณามาตรการส่งเสริมการลงทุนเร่งด่วน (BOI Fast Pass) แนะนำ กลุ่มนิคมฯ (WHA AMATA)
2) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐ แนะนำ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) จากมาตรการเที่ยวดีมีคืน, กลุ่มไฟแนนซ์ (BAM MTC) จากมาตรการพักหนี้และให้สินเชื่อรายย่อย
3) หุ้นที่คาดนำเข้าคำนวณดัชนี SET50 ในรอบ 1H69 ซึ่งจะประกาศในช่วงกลาง ธ.ค. นี้ แนะนำ SAWAD ITC
Daily top picks :
FTREIT : ราคาหุ้นมีโอกาสได้อานิสงส์บวกจากแนวโน้มเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง และความต้องการเช่าพื้นที่ยังอยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะใน EEC ทำให้คาดปี FY2569 กำไรของกองทรัสต์จะยังแข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีแผนเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มอย่างน้อย 1.5 พันลบ. ซึ่งจะเป็น Upside ต่อประมาณการ ราคาเป้าหมาย 11.10 บาท
GPSC : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากราคาก๊าซฯ ที่ปรับลงและอัตราดอกเบี้ยที่มีโอกาสลดลง 4Q68 คาดกำไรจะทรงตัว QoQ และ YoY เนื่องจาก Ft ที่ลดลงแต่จะถูกชดเชยด้วยต้นทุนก๊าซฯ ที่คาดจะลดลง ส่วนการที่บริษัทกำลังพิจารณาลงทุน Data Center ในไทยและอินเดียจะเป็น Upside ในระยะถัดไป ราคาเป้าหมายระยะสั้น 36.50 บาท
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (25พ.ย.68) Sideway Up ขายทำกำไรที่แนวต้าน
แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (25พ.ย.68) Sideway Up ขายทำกำไรที่แนวต้าน
แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (20พ.ย.68) Sideway รอซื้อตามแนวรับ
แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (20พ.ย.68) Sideway รอซื้อตามแนวรับ
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (24พ.ย.68) Sideway ทยอยซื้อตามแนวรับ
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (24พ.ย.68) Sideway ทยอยซื้อตามแนวรับ
3 เหตุผล "น้ำท่วมภาคใต้" โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ หนักที่สุด
3 เหตุผล "น้ำท่วมภาคใต้" โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ หนักที่สุด พร้อมติงการบริหารจัดการน้ำ ต่ำกว่ามาตรฐาน หรือไม่...
6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ 24พ.ย.68
6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ 24พ.ย.68
ข่าวที่เกี่ยวข้อง