แนวโน้มSETวันนี้ (2ธ.ค.68) ลุ้น ISA ช่วยหนุนตลาด
by Trust News, 2 ธันวาคม 2568
แนวโน้มSETวันนี้ (2ธ.ค.68) ลุ้น ISA ช่วยหนุนตลาด
คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์/แกว่งขึ้น วันนี้ ครม. จะพิจารณามาตรการเยียวยาน้ำท่วมภาคใต้ โดย นายกรัฐมนตรี ประเมินไม่กระทบงบ “คนละครึ่ง” เฟส 2 สัปดาห์หน้า ด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเสนอมาตรการออมรายบุคคล ISA หนุนตลาดแก้ปัญหา LTF
ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปีขึ้น 2 วันติด กดดันจิตวิทยา ทางเทคนิคติดตามการยืนเหนือ 1275 จุด ถึง 1278 จุด ที่เป็นแนวต้านใหญ่ หากยืนเหนือได้ จึงจะแกว่งตัวขึ้นรอบใหม่ ยืนไม่ได้ยังแกว่งไซด์เวย์ มีแนวรับ 1270 จุด ถึง 1265 จุด ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ 1278 จุด ถึง 1295 จุด
ประเด็นสำคัญ :
1. ครม. เศรษฐกิจเห็นชอบมาตรการเพิ่มเติมเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ได้แก่ เงินเยียวยา, จ่ายค่าสินไหมทนแทนโดย คปภ., เงินทดแทนกรณีว่างงาน, ลดภาระค่าใช้จ่าย, การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย, สินเชื่อสำหรับเยียวยา-ฟื้นฟู เป็นต้น ติดตามการเห็นชอบในที่ประชุม ครม. วันนี้
2. นายกฯ กล่าวหลังการประชุม ครม. เศรษฐกิจ ว่าได้หารือกับ รมว. คลังแล้ว และยืนยันการเยียวยาและฟื้นฟูน้ำท่วมภาคใต้จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เฟสสอง
3. ครม. เศรษฐกิจเห็นชอบ 3 มาตรการปฎิรูปตลาดทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง คือ บัญชีออมหุ้น (ISA) เพิ่มสิทธิ์ประโยชย์ทางภาษีและเปิดโอกาสลงทุนหุ้น ตปท., มาตรการคล้าย LTF โดยจะแก้ไขปัญหาการขายหุ้นเมื่อครบกำหนด และอนุญาตให้ บจ. ซื้อหุ้นคืน เพื่อแก้ปัญหาการขายออกของ LTF
4. กกพ. มีมติลดค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย. 2569 ลงเหลือ 3.88 บาท/หน่วย จาก 3.94 บาท/หน่วย เนื่องจากต้นทุน LNG มีแนวโน้มลดลง มองเป็นลบจำกัด เนื่องจากในระยะยาวคาดแนวโน้มต้นทุนจะลดลงและมีปัจจัยบวกเข้ามาชดเชยจากการเพิ่มกำลังการผลิตใหม่จาก Direct PPA และ PDP ฉบับใหม่ เป็นต้น
5. ธปท. เสนอกระทรวงการคลังปรับปรุงและเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ควบคุมบาทแข็งค่า เช่น ขยายวงเงินรายได้ ตปท. ที่ไม่ต้องนำกลับเป็น 10 ล้านดอลลาร์/ครั้ง จาก 1 ล้านดอลลาร์/ครั้ง, เพิ่มความเข้มงวดก่อนรับทำธุรกรรมเงินตราที่เกี่ยวข้องกับทองคำ, ให้ผู้ค้าทองคำรายงานข้อมูลธุรกรรมเพื่อการติดตาม เป็นต้น
กลยุทธ์การลงทุน :
ช่วงสั้นมอง SET จะยังคงแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1240-1290 จุด ระหว่างรอปัจจัยชี้นำใหม่ๆ โดยปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ การรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ พ.ย. ซึ่งเราคาดจะหดตัว 0.5%YoY จากที่หดตัว 0.76%YoY ในเดือน ต.ค., ครม. เตรียมพิจารณามาตรการเยียวยาน้ำท่วมใต้และช่วยเหลือสภาพคล่องผู้ประกอบการ SMEs ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ อาทิ ดัชนี PCE ก.ย., ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ พ.ย. ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :
ช่วงสั้นมอง SET ยังแกว่งตัวในกรอบระหว่างรอปัจจัยชี้นำใหม่ๆ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 4 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...
1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก คาด 4Q68 กำไรยังเติบโตดี YoY แนะนำ Outperform แนะนำ ADVANC BDMS BEM BGRIM GULF PTT
2. หุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดและลดความผันผวนให้แก่พอร์ต แบ่งเป็น
1) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะยาว (กำไรมั่นคง, ผันผวนต่ำ, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, มี SET ESG Ratings A-AAA และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาดให้ Yield สูงเกิน 5%) แนะนำ AP DIF KTB PTT TISCO
2) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะสั้น 6 เดือน (กำไรปี 2568 มั่นคง, ผันผวนต่ำ, ปันผลจากกำไรปี 2568 หลังหักเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5%) แนะนำ BAM KBANK SAT THANI TLI
3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง เราคาด กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่ต้นทุนการเงินจะลดลงเพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่ต้นทุนการดำเนินการจะลดลงหรือกำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC และ REITs เช่น DIF FTREIT LHHOTEL
Trading Idea :
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...
1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากการฟื้นฟูซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังพ้นจากสถานการณ์น้ำท่วม แนะนำ HMPRO GLOBAL
2) หุ้นเรือเทกองที่คาดได้อานิสงส์จีน ต้องการเรือ Capesize เพิ่มขึ้นเพื่อขนส่งแร่เหล็กคุณภาพดีจากเหมืองแร่เหล็กใหม่ Simandou ของกินี ส่งผลให้เรือ Supramax ไม่โดนแย่งงาน และค่าระวางมีแนวโน้มดีขึ้น แนะนำ PSL TTA
3) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกหลัง ครม. เศรษฐกิจเห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนเร่งด่วน (BOI Fast Pass) เพื่อปลดล็อกเงินลงทุนในไทย แนะนำ กลุ่มนิคม (WHA AMATA)
4) หุ้นที่คาดนำเข้าคำนวณดัชนี SET50 ในรอบ 1H69 ซึ่งจะมีการประกาศในช่วงกลางเดือน ธ.ค. นี้ แนะนำ SAWAD ITC
Daily top picks :
PTT : มีปัจจัยกระตุ้นจากข่าว กพช. เห็นชอบหลักเกณฑ์โครงสร้างราคาก๊าซฯ ใหม่สะท้อนต้นทุนมากขึ้น ธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง รวมถึงการมุ่งหน้าธุรกิจ LNG มากขึ้น ในขณะที่การทํา Asset Monetization ทําให้ บ. ในกลุ่มแข็งแรงขึ้น มีเป้า Net Debt/EBITDA ไม่เกิน 4-5 เท่า เป้าหมายระยะสั้น 32.00 บาท
BBL : ราคาหุ้นมีโอกาสได้รับ Sentiment บวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 2 วัน ธนาคารมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆ คาดว่า ECL จะลดลงทั้ง QoQ และ YoY ใน 4Q68 Valuation ถูกที่สุดในกลุ่มธนาคารที่ PBV 0.48 เท่า และ PE 7 เท่าในปี 2569 ราคาเป้าหมายระยะสั้น 161.00 บาท
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (1ธ.ค.68) Sideway Up หาจังหวะขายทำกำไร
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (1ธ.ค.68) Sideway Up หาจังหวะขายทำกำไร
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (2ธ.ค.68)
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (2ธ.ค.68)
แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (26พ.ย.68) Sideway Up แกว่งในกรอบแคบ
แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ (26พ.ย.68) Sideway Up แกว่งในกรอบแคบ
แนวโน้มราคาทอง Sideway Up เก็งกำไรในกรอบแคบ
แนวโน้มราคาทอง Sideway Up เก็งกำไรในกรอบแคบ
6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ธ.ค.68)
6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ธ.ค.68)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง