วันพุธ, ธันวาคม 17, 2568

แนวโน้มSETวันนี้ (16ธ.ค.68) คาดวันนี้ กนง.ปรับลดดอกเบี้ย

by Trust News, 17 ธันวาคม 2568

แนวโน้มSETวันนี้ (16ธ.ค.68) คาดวันนี้ กนง.ปรับลดดอกเบี้ย

คาดตลาดไซด์เวย์ หรือ แกว่งขึ้น การประชุม กนง. วันนี้ ตลาดคาดว่า กนง. จะลดดอกเบี้ยลง 25bps ผลสำรวจ Bloomberg มีเพียง 1 ท่าน จากทั้งหมด 24 ท่าน ที่คาดว่าคงดอกเบี้ย อีก 23 ท่าน คาดลดดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตามชายแดนไทย-กัมพูชา อาจทำให้สหรัฐฯ นำประเด็นนี้มากดดันเรื่องภาษี ยังเป็นความเสี่ยง ทางเทคนิค ยังแกว่งตัวในกรอบ รอการเบรก กรอบบนอยู่ที่ 1275 จุด ถึง 1285 จุด ยืนเหนือได้จะเป็นการแกว่งตัวขึ้นต่อ ในขณะที่การอ่อนตัวลงมีแนวรับที่ 1258 จุด ถึง 1248 จุด ที่ต้องไม่หลุดต่ำกว่า

ประเด็นสำคัญ :

1. วันนี้ติดตามการประชุมนโยบายการเงิน กนง. ครั้งสุดท้ายของปี 2568 เราคาดว่าจะลดดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps สู่ 1.25% ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงจะเป็นบวกต่อกลุ่มที่มีต้นทุนการเงินสูงอย่างไฟแนนซ์, โรงไฟฟ้า, อสังหา  


2. นายกฯ สั่ง รมว. คลังและพาณิชย์หารือกับ ธปท. เพื่อหาแนวทางรับมือปัญหาบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้านผู้ว่าฯ ธปท. เผยสาเหตุหลักมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ และเม็ดเงินที่ไหลเข้าตามปัจจัยฤดูกาลจากการท่องเที่ยวและส่งออก รวมถึงปริมารณธุรกรรมที่สูงของผู้ค้าทองคำ


3. นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยในสัปดาห์ก่อนจำนวน 704,734 คน เพิ่มขึ้น 5.2%WoW จากทั้งกลุ่มระยะใกล้และไกล โดยเฉพาะมาเลเซียที่ฟื้นตัว 21.2%WoW หลังเผชิญน้ำท่วม ส่วนเกาหลีใต้และจีนขยายตัว 3.4%WoW และ 2.6%WoW ตามลำดับ ทำให้จำนวน นทท. ต่างชาติสะสมที่ 30.98 ล้านคน ลดลง 7.2%YoY


4. การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ใน พ.ย. 2568 เพิ่มขึ้น 6.4 หมื่นตำแหน่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ แต่ใน ต.ค. ลดลง 1.05 แสนตำแหน่ง มากที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2563 สะท้อนตลาดแรงงานที่ชะลอต่อ ตลาดมองความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ม.ค. 2569 ที่ 23% 


5. ราคาน้ำมันดิบทั้ง WTI และ Brent ปรับลงกว่า 2.7%DoD หลังตลาดกังวลอุปทานน้ำมันล้นตลาด และข้อตกลงสันติภาพยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนใกล้เป็นจริงทำให้รัสเซียจะส่งออกน้ำมันเข้าสู่ตลาดได้ ซึ่งราคาน้ำมันที่ปรับลงจะเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มสายการบิน ขนส่ง โรงไฟฟ้า และค้าปลีกน้ำมัน

กลยุทธ์การลงทุน :

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาส Sideway Down จากกังวลสุญญากาศทางการเมืองไทย โดยมีแนวโน้มลงไปทดสอบฐานเดิมบริเวณ 1230 และมีกรอบบนจำกัดที่ 1285 โดยมีปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญ ได้แก่ BoJ (ตลาดคาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bps สู่ 0.75%), ECB และ BoE (ตลาดคาดจะยังคงดอกเบี้ยนโยบาย)

รวมถึง กนง. (ตลาดคาดปรับลดดอกเบี้ย 25bps สู่ 1.25%) และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ เงินเฟ้อ พ.ย., PCE ต.ค. และตัวเลขภาคแรงงาน พ.ย. ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามรายชื่อผู้สมัครและนโยบายหลักแต่ละพรรค หลัง กกต. ประกาศวันเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 ก.พ. 2569 ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
 
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสปรับลงจากกังวลสุญญากาศทางการเมืองไทยและขาดมาตรการกระตุ้นใหม่ อีกทั้งรอติดตามผลประชุมนโยบายการเงินของ กนง. กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 3 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...

1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก คาด 4Q68 กำไรยังเติบโตดี YoY และแนะนำ Outperform แนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS BEM BGRIM GULF PTT

2. หุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดและลดความผันผวนให้แก่พอร์ตลงทุน แบ่งเป็น 1) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะยาว (กำไรแต่ละปีมั่นคง, ผันผวนต่ำ, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, มี SETESG Rating A-AAA และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Yield สูงเกินปีละ 5%) แนะนำ AP DIF KTB PTT TISCO และ 2) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะสั้น 6 เดือน (กำไรปี 2568 มั่นคง, ผันผวนต่ำ, คาดมีเงินปันผลจากกำไรปี 2568 ที่เหลือจ่ายหลังหักเงินปันผลที่ประกาศจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5%) แนะนำ BAM KBANK SAT THANI TLI

3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในวันที่ 17 ธ.ค. นี้ และปีหน้า 2 ครั้งในปี 2569 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL

Trading Idea : 

นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...

1) หุ้นที่คาดได้ sentiment บวกระยะสั้นหาก กนง. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายสัปดาห์นี้ แนะนำ AP GULF GPSC MTC SAWAD

2) หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินเข้าสู่ระบบในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CPAXT BJC) กลุ่มอาหาร (GFPT) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนระยะสั้นในหุ้นกลุ่มรับเหมาและกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เพราะเชื่อมโยงกับนโยบายและโครงการของรัฐ

3) หุ้น SET50 ที่คาดได้อานิสงส์จากทำปิด Window Dressing แนะนำ BDMS BH MINT CPF LH ซึ่งราคาหุ้นปรับลง YTD และพบสถิติย้อนหลัง 5 ปีราคาหุ้นจะปรับขึ้นเฉลี่ย 2.2% หากซื้อก่อน 5 วันทำการสุดท้ายก่อนสิ้นปี

Daily top picks :

BGRIM :  มีปัจจัยกระตุ้นจากแนวโน้มการปรับลดลงของต้นทุนก๊าซฯ ดอกเบี้ยและได้อานิสงค์เงินบาทแข็ง ในขณะที่กําไรหลักใน 4Q68 คาดเติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY จากต้นทุนก๊าซฯ ที่ลดลงมากกว่าค่าไฟฟ้าที่ลด และคาดกำไรหลักยังโตต่อในปี 2569 อีก +24% จากความต้องการใช้ไฟเพิ่มตาม Data Center ราคาเป้าหมายสั้น 15.00 บาท

CPALL :  ปัจจัยกระตุ้นจากเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบ ศก.ช่วงหาเสียงเลือกตั้งและคาดจะเป็นผู้ประกอบการรายเดียวในกลุ่มที่กำไรมีแนวโน้มเติบโต YoY ใน 4Q68 จากยอดขาย CVS แข็งแกร่งและมาร์จิ้น CVS กว้างขึ้น นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากการขยายเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่ ธ.ค.นี้เป็นต้นไป เป้าหมายระยะสั้น 45.00 บาท

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น

ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น

รีวิวหนัง Eternity สามรัก หนึ่งนิรันดร์

ถ้าโลกหน้ามีจริง คุณจะเลือกอยู่กับใคร เมื่อต้องเลือกระหว่าง อดีตสามีที่ตายไปก่อนหลายสิบปี กับสามีที่อยู่ด้วยกันมานานจนตายไปด้วยกัน...?

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (11ธ.ค.68) Sideway Up ลุ้นสร้างจุดสูงใหม่

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (11ธ.ค.68) Sideway Up ลุ้นสร้างจุดสูงใหม่

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (15ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อเมื่ออ่อนตัว

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (15ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อเมื่ออ่อนตัว

TrustNEws Line