วิถีแห่งวัลคีรี การเดินทางครั้งสุดท้ายของเครื่องบิน XB-70 บนถนนยาว 7 ไมล์
by Trust News, 29 ธันวาคม 2568
เราขอพาท่านผู้อ่านย้อนอดีตไปเมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว เพื่อไปดูการเดินทางระยะ 7 ไมล์ของ XB-70 วัลคีรี (Valkyrie) อดีตต้นแบบเครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วเหนือเสียง ในภารกิจสุดท้ายเคลื่อนจากลานจอดตากแดดตากฝน สู่ร่มชายคาในอาคารพิพิธภัณฑ์ ทอ.สหรัฐฯ
นกยักษ์สีขาวที่เกิดผิดยุคผิดเวลา
ในประวัติศาสตร์การบิน ไม่มีเครื่องบินลำใดจะดู "ล้ำยุค" และ "สง่างาม" เท่ากับนอร์ทอเมริกัน XB-70 Valkyrie อีกแล้ว ด้วยสีขาวสะอาดตาตลอดทั้งลำ ลำตัวที่ยาวระหงราวกับคอหงส์ และปีกทรงสามเหลี่ยมขนาดมหึมาที่ออกแบบมาเพื่อฝ่ากำแพงเสียงที่ความเร็ว 3 เท่าของเสียง (Mach 3) มันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1950 โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ที่บินได้สูง และทำความเร็วเเหนือเสียงได้เร็วที่สุดในโลก ที่ 3.1 มัค เพื่อให้รอดพ้นจากเครื่องบินสกัดกั้นของโซเวียต
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทคโนโลยีขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ (SAM) พัฒนาขึ้น การบินสูงจึงไม่ใช่ทางรอดอีกต่อไป ประกอบกับการมาถึงของขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ที่ถูกและรวดเร็วกว่า ทำให้โครงการ B-70 ถูกลดสถานะเหลือเพียงเครื่องบินวิจัยระดับไฮโดรไดนามิกเพียง 2 ลำ (AV-1 และ AV-2) ก่อนจะปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ
การเดินทางครั้งสุดท้ายของ XB-70 Valkyrie
ภารกิจสุดท้ายของ XB-70A Valkyrie เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1969 ไม่ได้เป็นเพียงการบินส่งมอบเครื่องบินเข้าพิพิธภัณฑ์แบบเรียบง่าย แต่มันคือการเดินทางที่เต็มไปด้วยความระทึกใจ และเกือบจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมในวินาทีสุดท้าย นักบิน ในวันนั้น คือ Lt. Col. Fitzhugh "Fitz" Fulton และนักบินผู้ช่วย Lt. Col. Ted Sturmthal นำเครื่อง XB-70A (หมายเลข AV-1) บินจากฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ดส รัฐแคลิฟอร์เนีย มุ่งหน้าสู่ฐานทัพอากาศไรต์-แพตเทอร์สัน รัฐโอไฮโอ ในระหว่างทางพวกเขาไม่ได้บินแค่ไปลงจอด แต่ยังทำการทดสอบการแพร่กระจายของ โซนิกบูม (Sonic Boom) เพื่อเก็บข้อมูลวิจัยครั้งสุดท้ายให้ NASA ด้วย โดยปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นบนฟ้า แต่เกิดขึ้นตอนที่ล้อแตะพื้นรันเวย์ที่ฐานทัพอากาศไรต์-แพตเทอร์สัน
เมื่อเครื่องลงแตะพื้นและนักบินเริ่มใช้เบรก ระบบ Anti-skid (ระบบป้องกันล้อล็อก) เกิดการล้มเหลวอย่างกะทันหัน การที่ล้อล็อกในขณะที่เครื่องบินยักษ์หนักกว่า 500,000 ปอนด์กำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง ทำให้เกิดความร้อนมหาศาล ยางล้อหลังของเครื่อง XB-70 ที่มีมากถึง 28 เส้น เริ่มระเบิดทีละเส้นจากรายงานการสอบสวน ระบุว่า ยางระเบิดไปหลายเส้นจนเกิดเพลิงไหม้ที่ฐานล้อหลัง (Main Gear) ควันสีดำและเปลวไฟพวยพุ่งออกมาอย่างน่ากลัวในขณะที่เครื่องกำลังวิ่งไปตามรันเวย์
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทางวิ่ง หรือ รันเวย์ที่ฐานทัพอากาศ ไรต์-แพตเทอร์สันไม่ได้ยาวเหยียดเท่ากับลานทะเลเกลือที่ฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ดส ที่ออกแบบมาเเพื่อการทดสอบอากาศยาน การที่ยางระเบิดและเบรกมีปัญหาทำให้ XB-70 เเกือบจะวิ่งเลยรันเวย์ (Overrun) นักบินต้องใช้ความสามารถอย่างมากในการควบคุมประคองเครื่องบินยักษ์ที่ "พิการล้อ" ให้หยุดลงได้ก่อนจะสุดทาง
ในที่สุด Fitz Fulton ก็สามารถหยุดเครื่องบินได้สำเร็จท่ามกลางรถดับเพลิงที่รุดเข้ามาระงับเหตุทันที แม้จะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่ตัวเครื่อง XB-70 ก็อยู่ในสภาพที่ "เคลื่อนที่เองไม่ได้" เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง ในการเปลี่ยนยางที่ระเบิด และซ่อมแซมระบบฐานล้อเบื้องต้น เพียงเพื่อจะ "ลาก" มันเข้าสู่พื้นที่จอดที่เป็นลานกลางแจ้งบริเวณใกล้ๆ สนามบิน ภาพถ่ายในวันนั้นแสดงให้เห็นเศษยางที่กระจัดกระจายอยู่เต็มรันเวย์ และรอยไหม้ที่บริเวณฐานล้อขาวโพลนของมัน
แต่หลังจากการทดสอบสิ้นสุดลง วีรบุรุษแห่งความเร็วลำนี้กลับต้องเผชิญกับศัตรูที่น่ากลัวกว่าข้าศึกใด ๆ นั่นคือ "กาลเวลาและสภาพอากาศ"
ศัตรูที่มองไม่เห็นภายใต้ท้องฟ้าโอไฮโอ
หลังจากการลงจอดครั้งสุดท้ายในปี 1969 เครื่องบิน XB-70 ถูกจัดแสดงไว้กลางแจ้งที่ลานจอดของพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ ฐานทัพอากาศไรต์-แพตเทอร์สัน เป็นเวลานานเกือบ 20 ปีที่มันต้องยืนหยัดท้าลมหนาวของรัฐโอไฮโอ แสงแดดที่แผดเผา และหิมะที่กัดกร่อน
โครงสร้างของ XB-70 ทำจากสแตนเลสสตีลน้ำหนักเบาและไทเทเนียม ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง แต่อากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยเริ่มส่งผลกระทบ สีขาว "Anti-flash white" ที่เคยสะท้อนความร้อนเริ่มหลุดล่อน เผยให้เห็นเนื้อโลหะที่เสี่ยงต่อการกัดกร่อน หากปล่อยไว้เช่นนี้ "นกยักษ์สีขาว" ลำสุดท้ายของโลกอาจกลายเป็นเพียงซากโลหะที่ผุพังไปตามกาลเวลา ภารกิจ "พาวัลคีรีเข้าบ้าน" จึงเริ่มต้นขึ้น
มหากาพย์การเดินทาง 7 ไมล์ที่โลกต้องจารึก
ภาพที่น่าเหลือเชื่อที่สุดเกิดขึ้นในปี 1971 เมื่อพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่สร้างเสร็จ การย้ายเครื่องบินที่มีความยาวกว่า 56 เมตร และปีกกว้างถึง 32 เมตร ไม่ใช่เรื่องง่าย มันไม่ใช่การบินไป แต่เป็นการ "ลาก" ไปบนถนนสาธารณะ
เราลองจินตนาการถึงเช้าวันหนึ่งที่ชาวเมืองเดย์ตันต้องหยุดรถเพื่อให้เครื่องบินที่บินได้เร็วกว่ากระสุนปืนเคลื่อนที่ผ่านหน้าไปด้วยความเร็วเท่าคนเดิน เจ้าหน้าที่ต้องรื้อถอนเสาไฟ ป้ายจราจร และสายไฟฟ้าตามถนนหลวงสาย 444 ตลอดทั้งเส้นเป้นระยะทางกว่า 7 ไมล์ เพราะปีกทรงเดลต้าและส่วนหางที่สูงตระหง่านของมันขวางกั้นทุกอย่าง
จากนั้นรถลากจูงขนาดมหึมาค่อยๆ เคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้า พาลำตัวสีขาวที่ยาวเหยียดเลี้ยวไปตามทางโค้งของถนนแคบ ๆ ปีกของมันแผ่กว้างจนล้ำเข้าไปในสวนหน้าบ้านของประชาชน สัดส่วนที่ดูผิดที่ผิดทางสร้างภาพลักษณ์ที่ดูราวกับหลุดออกมาจากภาพยนตร์ไซไฟ
วินาที "วัลคีรี" เข้าสู่ "วิหาร" แห่งความทรงจำ
เมื่อถึงที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ปัจจุบัน ความท้าทายสุดท้ายคือการนำมันเข้าสู่โรงเก็บเครื่องบิน (Hangar)
ขั้นตอนการย้ายเข้าที่จัดแสดง ทั้งหมดทั้งปวงเป็นการใช้คณิตศาสตร์ และการคำนวณวัดพื้นที่อย่างละเอียด แม้กระทั่งช่องประตูโรงเก็บเครื่องบินถูกออกแบบมาให้พอดีกับ XB-70 ที่เหลือช่องว่างให้ผ่านได้เพียงไม่กี่นิ้ว เจ้าหน้าที่ต้องใช้เลเซอร์และแรงงานคนคอยประคองทุกมุมปีก
ในวันที่มันถูกลากเข้าสู่อาคารจัดแสดง เสียงล้อที่บดไปกับพื้นปูนดังก้องไปทั่วโรงเก็บที่ว่างเปล่า ทันทีที่ส่วนจมูกยาวเรียวพ้นประตูเข้าไป แสงแดดภายนอกก็ค่อย ๆ ลับหายไปจากลำตัวของมันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี หลังจากนั้น เมื่อประตูโรงเก็บยักษ์เลื่อนปิดลง ความชื้นและความร้อนถูกตัดขาดด้วยระบบควบคุมสภาพอากาศ วัลคีรีได้รับการปกป้องอย่างสมบูรณ์แบบ
สู่การพักผ่อนอันนิรันดร์
ปัจจุบัน XB-70 วัลคีรี จอดสงบนิ่งอยู่ภายใน Fourth Building ของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติกองทัพอากาศสหรัฐฯ ภายใต้แสงไฟที่จัดวางอย่างงดงาม มันไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเครื่องบินวิจัยอีกต่อไป แต่ทำหน้าที่เป็น "ประจักษ์พยาน" ถึงยุคสมัยที่มนุษย์กล้าที่จะฝันถึงขีดสุดของเทคโนโลยี
การย้ายจากลานกลางแจ้งเข้าสู่ในอาคาร ไม่ได้เป็นเพียงการย้ายที่จอด แต่มันคือการ "ต่อลมหายใจ" ให้กับตำนานที่ยังมีชีวิตลำนี้ เพื่อให้คนรุ่นหลังยังคงได้แหงนหน้ามองดู "นกยักษ์สีขาว" ลำนี้ด้วยความทึ่ง... ตลอดไป
10 เกร็ดข้อมูลน่ารู้ของ XB-70
การขี่คลื่นกระแทก (Compression Lift): XB-70 เป็นเครื่องบินลำแรกที่ใช้เทคนิค "Compression Lift" โดยการพับปลายปีกลงขณะบินด้วยความเร็วสูง เพื่อ "ดัก" คลื่นกระแทก (Shockwave) ไว้ใต้ปีก ช่วยเพิ่มแรงยกได้ถึง 30% โดยไม่ต้องใช้กำลังเครื่องยนต์เพิ่ม
วัสดุสแตนเลสสตีล: ในความเร็วเหนือเสียง 3 เท่า ผิวเครื่องจะร้อนถึง 330 องศาเซลเซียส อลูมิเนียมจะละลาย วิศวกรจึงต้องสร้างเครื่องบินทั้งลำด้วย สแตนเลสสตีลแบบรังผึ้ง (Honeycomb) เชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยีบราซิ่ง (Brazing) ที่ซับซ้อน
สีขาวเพื่อสะท้อนความร้อน: สีขาวนวลที่ทาทั่วทั้งลำไม่ใช่เพื่อความสวยงาม แต่เป็นสีพิเศษที่ช่วยสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์และช่วยกระจายความร้อนที่เกิดจากการเสียดสีของอากาศ
จมูกที่ปรับเปลี่ยนได้: เพื่อทัศนวิสัยที่ดีตอนลงจอด ส่วน "สัน" ด้านหน้ากระจกห้องนักบินสามารถปรับลดระดับลงได้ แต่เมื่อบินเร็วจะถูกยกขึ้นเพื่อลดแรงต้านอากาศ (คล้ายกับเครื่องบิน Concorde)
แคปซูลชูชีพส่วนตัว: เนื่องจากบินสูงและเร็วเกินกว่าจะใช้เก้าอี้ดีดตัวปกติ นักบินแต่ละคนจึงมี "แคปซูลชูชีพ" ของตัวเอง เมื่อดีดตัว แคปซูลจะปิดล้อมนักบินและปรับความดันอากาศข้างในก่อนจะพุ่งออกจากเครื่อง
เครื่องยนต์พละกำลังมหาศาล: มันใช้เครื่องยนต์ต้นแบบ รุ่น General Electric YJ93 ถึง 6 เครื่อง วางเรียงแถวกันใต้ท้องเครื่อง ให้แรงขับรวมกันมากกว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดทั่วไปในยุคนั้นหลายเท่า
โศกนาฏกรรม AV-2: เครื่องลำที่สอง (AV-2) ซึ่งทันสมัยที่สุดและเป็นลำที่ทำความเร็วได้เเกิน 3 มัค ประสบอุบัติเหตุชนกลางอากาศกับเครื่อง F-104 Starfighter ระหว่างการถ่ายทำโฆษณาให้กับ General Electric ในปี 1966 ทำให้นักบินเสียชีวิต 2 นาย และเสียเครื่องบิน XB-70 หมายเลข 2 และ เอฟ-104 ไป 1 ลำ
ยางที่ระเบิดเกือบทุกครั้ง: ด้วยน้ำหนักมหาศาลและความเร็วในการลงจอดที่สูงมาก ยางของ XB-70 มักจะระเบิดหรือไหม้เกือบทุกครั้งที่ลงจอด จนทีมงานต้องเตรียมรถดับเพลิงและยางอะไหล่ไว้รอที่รันเวย์เสมอ
ความยาวเกือบเท่าตึก 20 ชั้น: ด้วยความยาวกว่า 56 เมตร หากคุณจับมันตั้งตรง มันจะสูงเกือบเท่าอาคารสำนักงานขนาดใหญ่
ต้นแบบของเครื่องบิน SST: ข้อมูลการบินวิจัยของ XB-70 เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้โลกสามารถสร้างเครื่องบินโดยสารเหนือเสียงอย่าง Concorde และ Tupolev Tu-144 ได้สำเร็จ.
เครดิตภาพถ่าย : National Museum of the U.S. Air Force
You might be intertested in this news.
Mostview
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (23ธ.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (23ธ.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น
โดรน อาวุธเปลี่ยนเกมสงคราม? ขีดความสามารถและข้อจำกัด
โดรน อาวุธเปลี่ยนเกมสงคราม? ขีดความสามารถและข้อจำกัด
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (24ธ.ค.68) ยังคงเป็นขาขึ้น เก็งกำไรระยะสั้น
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (24ธ.ค.68) ยังคงเป็นขาขึ้น เก็งกำไรระยะสั้น
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (23ธ.ค.68)
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (23ธ.ค.68)
6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (24ธ.ค.68)
6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (24ธ.ค.68)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง