วันศุกร์, ธันวาคม 19, 2568

สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม 25% คาดจะกระทบตรงต่อเหล็กส่งออกไทย

by Trust News, 18 กุมภาพันธ์ 2568

Krungthai COMPASS ชี้ สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม 25% จะกระทบทางตรงต่อเหล็กส่งออกไทยที่ส่งออกไปสหรัฐฯถึง 33.3% ส่วนทางอ้อมอาจจะมีของจากจีน ไต้หวันและเวียดนามทะลักเข้าตลาดไทย

จากกรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ลงนามคำสั่งปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม 25% เมื่อ 10 ก.พ.2568 ที่ผ๋านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการปกป้องอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ มาตรการทางภาษีดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 4 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป โดยไม่มีข้อยกเว้นสำหรับประเทศใด ๆ ทั้งสิ้น

นายกณิศ อ่ำสกุล นักวิเคราะห์ Krungthai COMPASS ได้วิเคราะห์เป็นการเบื้องต้น (Initial Assessment) ว่าประเทศใดมีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าในครั้งนี้ รวมถึงไทยเองจะได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อมจากมาตรการนี้อย่างไร?

การส่งออกเหล็กของไทยมีแนวโน้มได้รับ “ผลกระทบทางตรง” (ความเสี่ยงที่จะส่งออกไปสหรัฐฯ ได้ลดลง) มากกว่าอะลูมิเนียม

ในรอบปี 2565-67 สหรัฐฯ มีการนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจาก แคนาดา จีน และเม็กซิโกสูงสุดเป็น 3 อันดับแรก ซึ่งมีมูลค่ารวมปีละ 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 48.1% ของการนำเข้าทั้งหมด แบ่งเป็นแคนาดา 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (20.9%) จีน 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (15.9%) และเม็กซิโก 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (11.2%) ตามลำดับ

ส่วนการนำเข้าจากไทย อยู่ในอันดับที่ 11 โดยมีมูลค่าปีละ 2.3 พันดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 2% จากมูลค่านำเข้าทั้งหมด ซึ่งแม้จะเป็นตัวเลขที่อาจไม่ได้สูงนักหากเทียบกับประเทศอื่น แต่อย่างไรก็ดี เป็นข้อสังเกตว่าการส่งออกเหล็กของไทยมีการส่งออกไปยังสหรัฐฯ สูงถึง 33.3% หรือราว 1 ใน 3 สูงกว่าการในกรณีของอะลูมิเนียมที่ 13.8% อย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นจึงอาจสรุปเบื้องต้นได้ว่าการส่งออกเหล็กของไทยมีแนวโน้มได้รับผลกระทบทางตรงจากมาตรการขึ้นภาษีในครั้งนี้มากกว่ากลุ่มอะลูมิเนียม

จับตา “ผลกระทบทางอ้อม” (การทะลักเข้ามาของเหล็กและอะลูมิเนียม) จากจีน ไต้หวัน และเวียดนามที่อาจมาแย่งส่วนแบ่งตลาดของผู้ประกอบการไทย

หากการขึ้นภาษีนำเข้าส่งผลให้ประเทศผู้ส่งออกต่างๆ ต้องเร่งหาตลาดอื่นเพื่อทดแทนสหรัฐฯ (Trade Diversion) ในกรณีนี้ คาดว่าเหล็กและอะลูมิเนียมจากจีน ไต้หวัน และเวียดนามมีโอกาสจะทะลักเข้าไทยมากที่สุด เนื่องจากทั้ง 3 ประเทศอยู่ในทำเลที่ไม่ไกลจากไทย อีกทั้งยังมีประสบการณ์การทำตลาดในไทยอยู่ก่อนแล้ว สะท้อนจากสัดส่วนการส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียมมายังไทยที่อยู่ในสัดส่วนราว 3.3% (เวียดนาม) 3.6% (ไต้หวัน) และ 4.1% (จีน) เราจึงมองว่าไทยมีโอกาสเป็น 1 ในตลาดส่งออกที่ทั้ง 3 ประเทศ อาจเลือกทำการดัมพ์สินค้าเข้ามาเพื่อทดแทนตลาดสหรัฐฯ ก็เป็นได้
นอกจากสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในไทยแล้ว ผู้ประกอบการยังต้องระวังการแข่งขันในตลาดส่งออกอื่นๆ ที่อาจรุนแรงขึ้นจากการดัมพ์ราคาเพื่อระบายสินค้าของประเทศผู้ส่งออกอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดส่งออกหลักของผู้ประกอบการไทยอย่างกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งไทยมีสัดส่วนการส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียมที่อยู่ราว 10%

เปิดมุมมองผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการไทย

อัตราการใช้กำลังการผลิต (CAP-U) โดยเฉพาะในกลุ่มเหล็ก จะถูกกดดันให้อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง จากการผลิตเพื่อส่งออกไปสหรัฐฯ ที่มีโอกาสทำได้ยากขึ้น ประกอบกับความเสี่ยงที่อาจถูกแย่งส่วนแบ่งตลาดทั้งในไทยและตลาดส่งออกอื่นๆ จากเหล็กนำเข้าราคาถูก โดยเฉพาะจากจีนที่มีโอกาสหันมาตีตลาด Non-US เพื่อระบายสินค้ากันมากขึ้น โดย ในปัจจุบัน CAP-U ของผู้ผลิตเหล็กไทยนั้นถือว่าอยู่ในระดับต่ำที่ราว 40-45% ต่อปี ลดลงจากในอดีตที่เคยอยู่ในกรอบ 50-60% อย่างเห็นได้ชัด

ความเสี่ยงด้านการขาดทุนจากราคา หรือ Stock Loss อาจสูงขึ้น จากราคาเหล็กในปี 2568 ที่คาดว่าจะอยู่ในขาลง ตามแรงกดดันหลักจาก

1) แนวโน้มการดัมพ์ราคาเพื่อระบายสินค้าของผู้ส่งออกจากประเทศต่างๆ ที่จำเป็นต้องหาตลาดส่งออกอื่นเพื่อทดแทนสหรัฐฯ ประกอบกับ
2) ปัญหาในภาคอสังหาฯ ของจีนซึ่งมีการใช้เหล็กถึง 1 ใน 3 ของทั้งประเทศยังมีแนวโน้มดำเนินต่อไป ปัจจัยเหล่านี้จะคอยกดดันราคาเหล็กตลอดปี 2568 ผู้ประกอบการไทยจึงควรมีการบริหารจัดการสต็อกเหล็กให้ดีเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้าน Stock Loss

ผลการดำเนินงานของธุรกิจเหล็กไทยทั้งด้านรายได้ ความสามารถในการทำกำไร รวมถึงสภาพคล่องอาจถูกซ้ำเติมให้แย่ลง

จากใน 9M/67 ที่พบว่าเกิน 1 ใน 2 ของธุรกิจเหล็กไทยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กำลังเผชิญหน้ากับรายได้ที่หดตัวลง การมีผลประกอบการที่ขาดทุนสุทธิ ตลอดจนการส่งสัญญาณว่าอาจมีปัญหาด้านสภาพคล่องจากการมีวงจรเงินสดที่นานขึ้น.


You might be intertested in this news.

Mostview

ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น

ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

TrustNEws Line