ทำไมต้องราคาแค่ 1,000 เยน ทัศนคติที่ทำให้ร้านราเมงล่มสลาย
by Trust News, 3 กุมภาพันธ์ 2568
เพราะอะไร? ราเมง (Ramen) จึงกลายเป็นอาหารที่ไม่ต่างอะไรกับ “ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจญี่ปุ่น”
คำตอบ : ราเมง คือ อาหารที่เข้าถึงชาวญี่ปุ่นได้ทุกเพศ ทุกวัย เนื่องจากมันคืออาหารจานเดียวที่สามารถทำให้อิ่มท้องได้ในราคาที่ไม่สูงนัก สำหรับการใช้ชีวิตในประเทศที่ค่าครองชีพสูงลิบลิ่ว โดยเฉพาะในกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นเมืองที่ติดอันดับต้นๆเรื่องค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก มาอย่างยาวนาน
ด้วยเหตุนี้ มันจึงเกิดทัศนคติที่ตรึงแน่นอยู่ในใจชาวญี่ปุ่นมาโดยตลอดว่า “ราเมง 1 ชาม ควรมีราคาไม่เกิน 1,000 เยน”
หากแต่...ตัดภาพมา ณ ปี 2024 ทัศนคติที่มีต่อ “ราคาราเมง 1 ชาม” สำหรับชาวอาทิตย์อุทัยควรเปลี่ยนแปลงไปแล้วหรือยัง?
วันนี้ “เรา” ค่อยๆ ไปตรวจสอบข้อมูลต่างๆ เพื่อประกอบการ คิด วิเคราะห์ และ แยกแยะ ไปด้วยกัน!
1. ร้านราเมงล้มละลายสูงเป็นประวัติการณ์ :
อ้างอิง จาก รายงานของ บริษัทวิจัยสินเชื่อเทย์โคกุ ดาต้าแบงก์ (Teikoku Databank) หรือ TDB ระบุว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนกันยายน ปี 2024 มี ร้านราเมงในประเทศญี่ปุ่น รวมถึง 47 แห่ง “ต้องประสบภาวะล้มละลาย” ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปี 2566 ถึง 42.4%!
อีกทั้งยังเป็นการทำลายสถิติ จำนวนร้านราเมงที่ประสบภาวะล้มละลายสูงสุดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งๆที่ ยังไม่ทันถึงสิ้นปีดีก็ตาม! (สถิติร้านราเมงล้มละลายสูงสุด คือ 45 แห่ง ณ สิ้นปี 2023) ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงดำเนินต่อไปเช่นนี้ คาดว่า ณ สิ้นปี 2024 อาจมีจำนวนร้านราเมงต้องประสบภาวะล้มลายรวม มากเกินกว่า 60 แห่งก็เป็นได้!
โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร้านราเมงในประเทศญี่ปุ่น ต้องถึงกาลล่มสลาย อันดับแรกเลยคือ “ยอดขายตกต่ำ” ซึ่งคิดเป็นถึง 74.4% ของจำนวนร้านราเมงที่ต้องล้มละลายทั้งหมด (35แห่ง จากทั้งหมด 47แห่ง)
และในจำนวนร้านราเมงที่ต้องล้มละลายนี้ มากถึง 60% (28แห่ง) เป็นร้านที่เปิดดำเนินการมาไม่ถึง 10 ปี และอีก 89.3% (42แห่ง) มียอดหนี้สินต่ำกว่า 100 ล้านเยน และมีจำนวนพนักงานในร้านน้อยกว่า 5 คน
2. แล้วเพราะอะไร “ยอดขาย” ร้านราเมงในญี่ปุ่นจึงตกต่ำดำดิ่ง?
สิ่งแรกที่ “เรา” ต้องรู้เป็นลำดับแรกๆ เลยคือ ธุรกิจร้านราเมงในประเทศญี่ปุ่นแม้จะเต็มไปด้วยผู้บริโภคจำนวนมหาศาล แต่ก็เต็มไปด้วยการแข่งขันที่เข้มข้นมากๆ เนื่องจากในอดีตใช้ทั้งเงินทุนและแรงงานไม่สูงมากนัก อีกทั้งยังสามารถเปิดร้านได้ง่ายด้วย
อย่างไรก็ดี สิ่งแรกที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในธุรกิจนี้ ก็คือ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งก็รวมไปถึง “ร้านราเมง” ต้องได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยอดขาย , ความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ รวมไปจนกระทั่งถึง การปล่อยสินเชื่อ
และแม้ว่าจะมีร้านราเมงส่วนหนึ่ง สามารถรอดพ้นจาก “มรสุมลูกแรก” อันเกิดจากโควิด-19 ไปได้ แต่แล้ว…มรสุมลูกที่ 2 ที่เกิดจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ต่อเนื่องและยาวนาน กลับส่งผลกระทบต่อธุรกิจด้วยน้ำหนักความรุนแรงที่ แทบไม่แตกต่างกัน เพราะมันได้ทำให้ “ราคาวัตถุดิบสำคัญต่างๆ” สำหรับการทำราเมง โดยเฉพาะ “ข้าวสาลี” ซึ่งยูเครนเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก ได้พุ่งทะยานขึ้นไปถึง 40% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวเมื่อปี 2023!
หนำซ้ำ เมื่อประกอบเข้ากับ “ค่าเงินเยน” ที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง (ล่าสุดแตะระดับต่ำสุดในรอบ 34 ปี เมื่อเปรียบเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ) ก็ยิ่งเป็นการเร่งเร้าให้ “ต้นทุน” สำหรับ “ราเมง 1 ชาม” ยิ่งสูงขึ้นไปอีก จากอุปสรรคในเรื่องการนำเข้าวัตถุดิบต่างๆ โดยเฉพาะ “ราคาพลังงาน” เนื่องจากร้านราเมงชื่อดังส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการ “ปรุงซุปที่มีรสชาติเลื่องลือ” ที่อาจกินระยะเวลายาวนานเกือบตลอด 24 ชั่วโมง
หากแต่ประเด็นปัญหาที่น่าสนใจสำหรับเรื่องนี้ คือ แม้ว่า “ราคาวัตถุดิบ” จะพุ่งทะยานขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง แต่บรรดาร้านราเมงในญี่ปุ่นส่วนใหญ่ กลับไปสามารถ “ปรับราคา” ให้ “สมน้ำสมเนื้อ” กับ “ต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นได้”
นั่นเป็นเพราะ “กำแพงทัศนคติ” ในหมู่ชาวญี่ปุ่นที่ว่า “ราเมงควรมีราคาไม่เกิน 1,000 เยน” ยังคงขวางกั้นเอาไว้ได้อย่างมิดชิด!
3. กำแพงราคา 1,000 เยน :
ปัจจุบันราคาเฉลี่ยสำหรับราเมงในประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ราคาประมาณ 600 - 1,200 เยน แต่หากเป็นในพื้นที่กรุงโตเกียวจะมีราคาขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 1,000 เยน
สำหรับปัจจัยที่ทำให้บรรดาร้านราเมงไม่กล้าปรับราคาให้เหมาะสมกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น จากการสำรวจของ เทย์โคกุ ดาต้าแบงก์ พบว่า ร้านราเมงส่วนหนึ่งโดยเฉพาะบรรดาร้านใหม่ๆ สูญเสียลูกค้าไปจำนวนหนึ่งทันที ที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น!
ในขณะที่บรรดาร้านราเมงที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานเอง ก็มีความวิตกว่าหากตัดสินใจ “ปรับราคาเพิ่มขึ้น” อาจเป็นการทำลายชื่อเสียงและฐานลูกค้าที่สั่งสมมาอย่างยาวนานก็เป็นได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้ในปัจจุบัน จึงมีความพยายามเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้ “ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น” ปรับทัศนคติที่มีต่อ “ราเมง” จาก “อาหารที่ต้องถูกและอร่อย” ไปเป็น “อาหารที่มีราคาเหมาะสมและยุติธรรม” มากขึ้นเรื่อยๆ
4. ทางรอดสำหรับร้านราเมง :
สื่อในประเทศญี่ปุ่น ได้รายงานข่าวถึงกลยุทธที่ร้านราเมงในกรุงโตเกียวส่วนหนึ่ง ที่สามารถเอาตัวรอดจากวิกฤตที่เกิดขึ้นนี้ เอาไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า.... แม้ว่าจะต้องปรับราคาราเมงมาแล้วถึง 3 ครั้ง เพื่อต่อสู้กับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น แต่บรรดาลูกค้าก็ยังคงต่อแถวเพื่อรอกินราเมงที่ร้านอาหารแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง
โดยเคล็บลับสำคัญที่สามารถเอาชนะ “กำแพง 1000 เยน” ได้อย่างสวยงาม คือ การรักษาคุณภาพของรสชาติซุปราเมงเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น พร้อมกับ เสนอเมนูที่มีความหลากหลายในแง่ของปริมาณและราคาที่แตกต่างกัน เพื่อให้ผู้บริโภคเป็นฝ่าย “เลือกด้วยตัวเอง”
ซึ่งกลยุทธดังกล่าว นอกจากจะไม่ทำให้ “สูญเสียลูกค้า” แล้ว ยังทำให้สามารถ “ขายราเมงในราคาที่สูงขึ้นได้อีกด้วย”
ดังจะเห็นได้จากเมนูที่ได้รับความนิยมสูงสุดของทางร้าน คือ “สเปเชียลราเมง” ซึ่งมีราคา 1,250 เยน นั้น เป็นราคาที่ปรับสูงขึ้นจากราคาเดิมถึง 47%
ขณะเดียวกัน ยังมีการปรับใช้พื้นที่ภายในร้านให้มีความเหมาะสมกับ ลูกค้าที่มานั่งเคาน์เตอร์ , ลูกค้าที่เข้ามาเพื่อดื่ม และลูกค้าที่มาเป็นครอบครัว เพื่อปรับปรุงอัตราหมุนเวียนลูกค้าที่เข้ามาในร้าน เพื่อให้เกิดการสร้างยอดขายที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
อ่านมาถึงบรรทัดนี้ “คุณ” มีความคิดเห็นอย่างไร? สามารถฝากความคิดเห็นต่างๆ เอาไว้ใต้คอมเมนท์นี้กันได้เลย

You might be intertested in this news.
Mostview
ทหารเตือน ระวังอันตราย ขีปนาวุธ PHL-03 ระยะยิงกว่า 130 กม.จากแนวชายแดน
กองทัพภาคที่ 2 เตือนพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระวังอันตรายจาก PHL-03 ขีปนาวุธ พื้นสู่พื้นหลายท่อยิงของฝ่ายกัมพูชา ชี้พิสัยไกล 130 กม. อาจตกใส่เขตชุมชนแบบไม่พึงประสงค์ ทั้งนี้ พยายามอยู่ห่างจากที่ตั้งหน่วยงานราชการไว้ก่อน
ทหารไทยยึด "ภูมะเขือ" ได้ นาวิกโยธิน เข้าขับไล่ทหารกัมพูชาพ้น "บ้านชำราก"
กองทัพไทย รายงานการปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยกองทัพภาคที่ 2 แจ้งทหารไทยตรึงกำลังเข้ายึด "ภูมะเขือ" ไล่ทหารกัมพูชาลงเขา ขณะที่ กองทัพเรือ เปิดยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี 1” ส่ง นาวิกโยธินไล่ตะเพิดทหารกัมพูชาที่บุก "บ้านชำราก" พ้นแผ่นดินไทย
รีวิวหนัง “อ่านชะตาวันสิ้นโลก” CG อลังก์ หนังมันส์แบบ nonstop
ดูมาแล้ว สำหรับ หนังฟอร์มยักของเกาหลี “อ่านชะตาวันสิ้นโลก” หรือ Omniscient Reader: The Prophecy หนังที่ใช้ทุนสร้างมหาศาล โดยดัดแปลงเนื้อหามาจาก “มังฮวา” ชื่อดัง ที่มีการเขียนลงในเว็บโนเวล
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ส.ค.2025)
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ส.ค.2025)
กองทัพอากาศ แจงข่าวสวีเดนปฏิเสธขาย Gripen ให้ไทย เป็นเฟคนิวส์ฝั่งกัมพูชา
กองทัพอากาศ ยืนยัน ข่าวกรณี สื่อของกัมพูชารายงานอ้างว่า สวีเดนระงับการขายเครื่องบินขับไล่ Gripen เพิ่มเติม ให้กับไทยทั้งหมด “ข่าวบิดเบือนความจริง” โครงการดังกล่าว ยังคงอยู่ในระหว่างกระบวนการจัดซื้อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
