รูเบน อโมริม จะต้องพบอะไรที่โอลด์แทรฟฟอร์ด?
by Trust News, 3 กุมภาพันธ์ 2568
ความเปลี่ยนแปลงเดินทางเยือน “โรงละครแห่งความฝัน” ณ ท้องทุ่งโอลด์แทรฟฟอร์ดอีกครั้ง หลัง “ชายแห่งความหวัง” ไม่อาจทำให้ภาระกิจ “พุ่งชนความสำเร็จ” ให้สมใจชาว Red Devil ได้
หนำซ้ำ มันดูช่างห่างไกลจาก “ความหวังและความฝัน” ที่ตั้งใจไว้เสียไกลมากโข จากแทคติกที่ชายผู้นั้นนำมาติดตั้งให้กับทีมที่พวกเขาหลงรัก!
แล้วใครกันล่ะ? ที่จะเข้ามารับมรดกตกทอด “ขุมกำลังนักเตะจำนวนมากมาย” ที่อดีตบอสคนเก่า ละลายฟ่อนธนบัตรมากกว่า 616.8 ล้านปอนด์ หรือ ประมาณ 26,978 ล้านบาท ซื้อมาเข้าร่วมทีมเพื่อหวังให้ ตอบโจทย์แทกติกที่ตัวเองต้องการ!
และถึงแม้ว่า... สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะยังไม่มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แต่การรายงานข่าวอย่างอึกทึกครึกโครมของสื่อในประเทศอังกฤษส่วนใหญ่ ต่างชี้นิ้วมาที่ชายชื่อ “รูเบน อโมริม” (Ruben Amorim) กุนซือหนุ่มวัย 39 ปี ของสโมสรสปอร์ติ้ง ลิสบอน กันเป็นทิวแถว!
ฉะนั้น คำถามสำคัญ ณ เวลานี้ คือ “รูเบน อโมริม” คือคนที่ใช่สำหรับ “ความหวังที่ชาว Red Devil ใฝ่ฝันถึงหรือไม่?
วันนี้ “เรา” ลองไปพยายามค้นหา “คำตอบ” ที่ว่านี้ด้วยกันดีกว่า!
“รูเบน อโมริม” คือใคร?
Profile : รูเบน อโมริม
เกิด 27ม.ค.1985 ปัจจุบัน อายุ39ปี
อดีตนักเตะในตำแหน่งมิดฟิลด์ของสโมสรเบนฟิก้า เคยพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ 3 สมัย และเคยติดทีมชาติโปรตุเกส ไปเล่นฟุตบอลโลก 2010 อย่างไรก็ดีอาการบาดเจ็บทำให้เขาต้องแขวนสตั๊ดเมื่ออายุได้เพียง 32 ปี
ประสบการณ์ การทำหน้าที่ผู้จัดการทีม :
เริ่มงานต้นอาชีพผู้จัดการทีม กับสโมสรคาซ่า เปีย (Casa Pie) ซึ่งในเวลานั้นอยู่ในดิวิชั่น 3 ของโปรตุเกส เมื่อปี 2018 แต่ต่อมาถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากยังไม่มีใบอนุญาติ
จากนั้นในเดือนกันยายนปี 2019 ได้เข้ารับงานเป็นผู้จัดการทีมสำรองกับสโมสร สปอร์ติ้ง บราก้า (Sporting Braga) แต่เพียงสามเดือนต่อมา เมื่อ ริคาร์โด้ ซา ปินโต ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง
รูเบน อโมริม จึงได้รับโอกาสให้เข้าคุมทีม และพาทีมระดับกลางๆทีมนี้ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการคว้าอันดับที่ 3 ในลีก พร้อมกับคว้าแชมป์ลีกคัพของโปรตุเกสได้สำเร็จ ด้วยอายุเพียง 34 ปีเท่านั้น
และจากผลงานดังกล่าวนี้เอง ในเดือนมีนาคม ปี 2020 สโมสรสปอร์ติ้ง ลิสบอน จึงตัดสินใจทุ่มเงินก้อนมหาศาลถึง 10 ล้านยูโร ดึงตัวกุนซือหนุ่มรายนี้มาร่วมงาน และเขาก็สามารถตอบแทนสโมสรด้วยการพาทีมยักษ์หลับอย่าง สปอร์ติ้ง ลิสบอน กลับมาคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จในรอบ 19 ปี ! พร้อมทำสถิติแพ้เพียงนัดเดียวในลีกเสียด้วย!
สถิติการคุมทีมสปอร์ติ้ง ลิสบอน :
สถิติการคุมทีมรวม 214 นัด ค่าเฉลี่ยพาทีมคว้าชัยชนะ 70.56% (ชนะ151นัดจาก214นัด)
สถิติการคุมทีมในฤดูกาลนี้ (2024/25) แข่งทุกถ้วยรวม 15 นัด ชนะ 13 นัด เสมอ 1 นัด แพ้ 1 นัด ค่าเฉลี่ยพาทีมคว้าชัยชนะ 86.67% ค่าเฉลี่ยการยิงประตูต่อนัด 2.87 ประตู และค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อนัด 0.6 ประตู
หมายเหตุ : สถิติสิ้นสุดวันที่ 30ต.ค.24
ปรัชญาลูกหนังของ รูเบน อโมริม :
ระบบการเล่น 3-4-3
แท็กติก : เกมรับแข็งแกร่ง แดนกลางเพรซซิ่งหนักหน่วง ครอบครองบอลเหนียวแน่น จ่ายบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายด้วยความระมัดระวัง และมักเน้นการโจมตีด้วยผู้เล่นริมเส้นจากทางด้านกว้าง
ใครคือต้นแบบของ รูเบน อโมริม :
คำตอบคือ “โชเซ่ มูรินโญ่” โดยมีรายงาน รูเบน อโมริม ชื่นชอบในวิถีการทำงานของจ่ามูเป็นอย่างสูง และเคยบินไปเรียนรู้วิทยายุทธ์กับ “กุนซือจอมอหังการ” ในระหว่างที่คุมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเวลาถึง 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2018 มาแล้ว
บุคคลิกภาพของ รูเบน อโมริม :
จากรายงานของ BBC ที่ได้ไปสัมภาษณ์บรรดาผู้ใกล้ชิดของกุนซือหนุ่มรายนี้ ระบุตรงกันว่า รูเบน อโมริม เป็นคนเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความจริงจังและมักจะสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา กับ บรรดานักเตะในทีมรวมถึงสื่อมวลชนเสมอๆ
ขณะที่ทีมของจะมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน ในเรื่องของความเป็นระเบียบและมีจิตใจนักสู้อันเข้มข้น (แบบนี้ไดร์เป่าผมต้องมา)
หากแต่สิ่งที่จุดเด่นมากๆ ของ รูเบน อโมริม คือ “การพัฒนานักเตะดาวรุ่ง” ดังจะเห็นได้จากบรรดา Wonder Kids ที่ถูกดึงขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน และเคยผ่านมือของเขามาแล้ว ถูกบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป ทุ่มเงินก้อนโตคว้าตัวไปร่วมทีมอยู่เสมอๆ เช่น กรณีของ นูโน่ เมนเดส (Nuno Mendes) 38 ล้านยูโร และ มัทเธอุส นูเนส (Matheus Nunes) 42 ล้านปอนด์
รูเบน อโมริม จะต้องพบปัญหาอะไรที่ ยูไนเต็ด :
งบประมาณ :
เอริก เทน ฮาก ใช้เงินไปแล้วมากกว่า 600 ล้านปอนด์ ฉะนั้น หากตัดสินใจมาที่โอลด์ ฟอร์ด จริง มีความเป็นไปได้สูงที่เขาอาจได้รับการสนับสนุนทางการเงินไม่มากนัก
ขวัญกำลังใจนักเตะ :
สิ่งที่ทุกคนเห็น มีความชัดเจนอยู่แล้วว่า ขวัญกำลังใจนักเตะยูไนเต็ดยุคนี้ กำลังตกต่ำดำดิ่งแล้วมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะจิตใจนักสู้แบบ Never Say Die แทบไม่เคยพบเห็นมานานนักหนามาแล้ว
แรงกดดัน :
สโมสรยักษ์ใหญ่ที่กระหายความสำเร็จ และร้างราจากจุดที่เคยอยู่มาเนิ่นนาน ย่อมสร้างแรงกดดันมากกว่าปกติกับบรรดากุนซืออยู่แล้ว และจากตัวอย่างก่อนหน้านี้ก็เห็นแล้วว่า “กุนซือหนุ่มที่ยังขาดประสบการณ์” การถูกบีบคั้นอย่างหนักหน่วง หากไม่สามารถรับมือกับแรงกดดันที่ว่านี้ได้ จะส่งผลกระทบต่อการทำงานมากแค่ไหน?
Pressing :
เอริก เทน ฮาก ล้มเหลวมาแล้ว กับความพยายามให้นักเตะยูไนเต็ด ยอมวิ่งแบบยอมตายเพื่อเพรซซิ่งกดดันคู่แข่งอย่างสม่ำเสมอ ฉะนั้น หาก รูเบน อโมริม คิดจะใช้แทกติกนี้ เขาจะใช้วิธีการอย่างไรเพื่อจูงใจให้ (ว่าที่) ลูกทีมยอมทำตามวิธีการเล่นที่ตัวเองต้องการ
อย่างไรก็ดีล่าสุด “รูเบน อโมริม” ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องการรับงานที่ยูไนเต็ด ถึงแม้จะยอมรับว่าได้รับการติดต่อจากสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งอังกฤษจริง
ฉะนั้น ในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้ เหล่า Red Devil ก็ยังคงต้องลุ้นกันอย่างหนักต่อไปว่า Boss คนใหม่จะเป็นใครกันแน่?

You might be intertested in this news.
Mostview
5 ก.ค.2025 ผวาแผ่นดินไหว สึนามิ ต้นตอการ์ตูนมังงะ ที่ไม่มีมูลทางวิทยาศาสตร์
เมื่อมังงะญี่ปุ่น ปลุกความตื่นกลัว “แผ่นดินไหว” 5 กรกฎาคม 2025 จะเกิดสึนามิใหญ่กว่า ปี 2011 กว่า 3เท่า ขณะที่ รัฐบาลญี่ปุ่นยัน ไม่มีมูลความจริงทางวิทยาศาสตร์ แผ่นดินไหว ถี่ ช่วงที่ผ่านมา คือ เรื่องดี คือ การปลดปล่อยพลังงานสะสม…
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (2ก.ค.68) เริ่มแกว่งออกข้าง
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (2ก.ค.68) เริ่มแกว่งออกข้าง
กลยุทธ์การลงทุน เมื่อไทยโดนภาษีทรัมป์36%
กลยุทธ์การลงทุน เมื่อไทยโดนภาษีทรัมป์36%
รำลึกถึงความมุ่งมั่น ดีโอโก้ โชต้า นายจะอยู่กับเดอะค็อปตลอดไป (ชมคลิป)
รำลึกถึงความมุ่งมั่น ดีโอโก้ โชต้า นายจะอยู่กับเดอะค็อปตลอดไป (ชมคลิป)
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (2ก.ค.2025)
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (2ก.ค.2025)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
