วันศุกร์, ธันวาคม 19, 2568

Trump 2.0 ไทยเสี่ยงถูกกีดกันเทคโนโลยี ชี้ต้องหาตลาดใหม่ ดึงดูดต่างชาติลงทุน

by Trust News, 1 มีนาคม 2568

เก็บตกประเด็นเสวนาพิเศษ Trump 2.0 กับระบบ ววน.ไทย: มิติด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นักวิชาการชี้ ไทยเสี่ยงถูกกัดกันการเข้าถึงเอไอใหม่ๆ ขณะที่ อนาคตต้องมองหาตลาดเทคโนโลยีใหม่ เพื่อดึงดูดต่างประเทศลงทุน ส่วนสาธารณสุขกระทบการแบ่งปันข้อมูลโรคใหม่ๆ

จากประเด็นเสวนาพิเศษ Trump 2.0 กับระบบ ววน.ไทย: มิติด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จัดขึ้น เพื่อร่วมกัน กำหนดทิศทางการขับเคลื่อนและจัดลำดับความสำคัญของการลงทุน ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายของประเทศ และตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม จากการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์โลก ที่อาจทำให้ไทยต้องเจอผลกระทบจากการแข่งขันของ 2 มหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐอเมริกา

ดร.ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ ViaLink และ Siametrics Consulting กล่าวว่า ผลกระทบของทรัมป์ 2.0 เป็นเรื่องหน้ามือเป็นหลังมือของการใช้เทคโนโลยี เพราะมันแข่งขันดุเดือด ในทุคภาคอุตสาหกรรม อเมริกากำลังมีขุมพลังที่สนับสนุนธุรกิจที่พลังสูงมาก กับการก้าวหน้าของเอไอ นี่กำลังจะเป็นแรงงานที่ทำงานแทนคน ที่ช่วยทำงาน เป็นกำลังการผลิตใหม่ กลายเป็นสิ่งท้าทาย ที่สหรัฐ และจีน เอาเจนเนอเรทีฟ เอ.ไอ.มาใช้ขับเคลื่อนการพัฒนา

จากยุคที่แต่ละประเทศมีการรีชอว์ริ่ง ก็เข้าสู่การแข่งขันที่มหาอำนาจลงมาเจาะทุกชั้นการตลาด เป็นขุมพลังการผลิตใหม่ แม้ต้นทุนการผลิตสูง แต่เขามีเงินมากพอจะทุ่มลงไป จะเก็บดอกออกผล เมื่อเอไอฉลาดขึ้น จะมาทดแทนแรงงาน ที่สนับสนุนนโยบายทรัมป์ 2.0 สุดท้ายการใช้เอไอสหรัฐจะได้ทั้งเงินและดาต้าของเราอยู่ดี การใช้งานอาจมีข้อจำกัด แต่เป็นเรื่องราคามากกว่า สังเกตว่า Chat GPT Pro ฉลาดล้ำเกิดกว่าที่เราคาด มันมีพลังการตอบที่ทำให้บางอาชีพตกงานได้ เช่น ที่ปรึกษาธุรกิจ เป็นต้น

"การที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย เป็นโอกาสของเทคโนโลยีเอไอ เป็นการเร่งสปีดของการใช้งาน ไทยเราไม่มีแรงงานด้านเทคโนโลยี เราขาดแรงงานใหม่ๆ มาทดแทน เพราะบางงานไม่มีคนมาทำแล้ว ภาคอุตสาหกรรม เด็กจบใหม่ไม่อยากไป ดังนั้นเราต้องเลือกทิศทางว่าเราจะเอาเอไอไปในทิศทางไหน หากคิดว่าทุกคนบนโลกแข่งกัน มันก็จะมีบางด้านที่เขากีดกันเราลำบาก นั่นคือ การท่องเที่ยวและอาหาร หากเราเอาเทคโนโลยีมาทำให้ประเด็นแหลมคม มันก็จะเกิดผลดี" ดร.ณภัทร กล่าว

เอ.ไอ.ราคาจะถูกลง ต้นทุนการใช้ต่ำจากเดิม เมื่อทุกคนใช้งานแล้ว ผลิตได้เหมือนกันหมด ดังนั้นสิ่งที่จะสร้างความแตกต่างจะขึ้นกับทักษะว่าเราจะนำเอาไปใช้งานอย่างไร นี่เป็นสูตรลับที่เราเก่งในเรื่องนี้ ขณะที่ ส่วนตัวมองว่า ในอนาคตเมื่อมีการใช้เอ.ไอ. กรรมกรออฟฟิศจะหายไป และทดแทนด้วยเอไอแน่ๆ แต่คนไทยเราเก่งด้านจิตวิญญาณ การดูแล และอาหาร เราอาจต้องมาโฟกัสแล้วว่า มันจะพาแรงงานจริงๆ ไปอยู่ที่ไหน

ด้าน ดร.แบ๊งค์ งามอรุณโชติ สถาบันนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า ประเทศจีนก้ามข้ามพ้นสหรัฐอเมริกาไปแล้ว แล้วเป็นอเมริกาก็ต้องมองจีนว่า ไอ้นี่ศัตรูชัดๆ เนื่องจากการสร้างขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีที่นำงานวิจัยพัฒนามาผลิตขายจีนทำได้มากกว่าสหรัฐ เมื่อเราดูจากตลาดของเทคโนโลยี ขณะนี้ ตลาดโดรนจีนเป็นผู้นำ นั่นคือ DJI ตลาดรถอีวีจีนก็ลดต้นทุนได้ดีกว่าสหรัฐจนขายดีกว่า

ในด้านเทคโนโลยี เอ.ไอ. จีนมีชิ้นงานวิจัยที่เมื่อดูแล้วช่องว่างกับสหรัฐอเมริกาใกล้ชิดมาก ส่วนสิทธิบัตรมากกว่าอเมริกา นี่ชี้ว่าจีนจริงจังด้านการทำเชิงพาณิชย์ เป็นเบอร์สองของโลก และมากกว่ายุโรปหลายเท่า โดย DeepSeek คือสิ่งสำคัญที่เป็นสัญญาณว่าจีนเป็นคู่แข่งสหรัฐในเศรษฐกิจโลก

ที่ผ่านมา อดีต ปธน.โจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ เห็นตรงกัน คือ ทำให้การจ้างงานกลับมาแข็งแกร่งด้วยการดึงการลงทุนกลับมาที่ผ่านมา ต้องสร้างตำแหน่งงาน และอธิปไตยทางเทคโนโลยี มีความสำคัญมากขึ้น กล่าวคือ เทคโนโลยีทางยุทธศาศตร์สำคัญ ต้องผลิตในอเมริกา หรือ พันธมิตร แบบควบคุมได้ เช่นเดียวกับยุโรปก็ทำ เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นที่หนึ่ง ขอแค่ดีเพียงพอ และพันธมิตรไม่รู้สึกเป็นภัยคุกคาม

มาตรการควบคุมการถ่ายทอดเทคโนโลยีและข้อจำกัดในการเข้าถึงฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ อาจทำให้ไทยเผชิญความท้าทายในการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง ในขณะเดียวกัน การแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่าง จีน - สหรัฐอเมริกา กำลังเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมโลก ทำให้บริษัทเทคโนโลยีต้องมองหาตลาดใหม่ ไทยจึงมีโอกาสดึงดูดการลงทุนและสร้างฐานเทคโนโลยีของตนเอง ดังนั้นไทยควรเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี เพิ่มแรงจูงใจด้านภาษี และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของภาคนวัตกรรม

ส่วน ดร.นพ.วิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร ที่ปรึกษามูลนิธิเพื่อการพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กล่าวว่า การถอนตัวของสหรัฐอเมริกาจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และการลดงบสนับสนุนด้านยาและวัคซีน การยุติการดำเนินงานของหน่วยงานอย่าง USAID จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงกระทบต่อความร่วมมือด้านการวิจัยสุขภาพระดับโลก แม้ไทยอาจไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงเท่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่าและเวียดนาม แต่ก็อาจเผชิญความท้าทายในการแบ่งปันข้อมูลทางยา เชื้อโรค และการผลิตวัคซีน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ นอกจากนี้ นโยบายของสหรัฐอเมริกาที่มุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพภายในประเทศ อาจทำให้การวิจัยร่วมกับไทยลดลง โดยเฉพาะโครงการที่ได้รับทุนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา.


You might be intertested in this news.

Mostview

ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น

ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

TrustNEws Line