Air Force One และ โดนัลด์ ทรัมป์
by Trust News, 11 พฤศจิกายน 2567
ประวัติ การเดินทางทางอากาศของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
การเดินทางทางอากาศของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1944 เมื่อเครื่องบิน VC-54 ชื่อเล่น “Sacred Cow” ถูกนำมาใช้โดยประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ ผู้สืบทอดตำแหน่งอย่างประธานาธิบดีแฮร์รี เอส. ทรูแมน ได้ใช้เครื่องบินลำนี้เป็นอย่างมากในช่วง 27 เดือนแรกของการบริหารของเขา
และในวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 ประธานาธิบดีทรูแมนได้ลงนามในพระราชบัญญัติความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2490 บนเครื่องบิน Sacred Cow ซึ่งก่อตั้งกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาขึ้นเป็นกองทัพอิสระ ทำให้ Sacred Cow กลายเป็น “สถานที่เกิด” ของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา
ต่อมาคือเครื่องบิน VC-118 ชื่อเล่น “Independence” ซึ่งใช้โดยประธานาธิบดีแฮร์รี เอส. ทรูแมน ในช่วงปี ค.ศ. 1947 ถึง 1953 ได้รับการตั้งชื่อตามเมืองบ้านเกิดของประธานาธิบดีทรูแมน
นั่นคือ อินดิเพนเดนซ์ รัฐมิสซูรี ประธานาธิบดีดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ เดินทางโดยเครื่องบิน VC-121A และ VC-121E ชื่อเล่น “Columbine II” และ “Columbine III” ในช่วงปี ค.ศ. 1953 ถึง 1961 เครื่องบินทั้งสองลำได้รับการตั้งชื่อตามดอกไม้ประจำรัฐโคโลราโด
เพื่อเป็นเกียรติแก่รัฐบ้านเกิดของภรรยาของประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ แม้ว่ารหัสเรียกขาน “Air Force One” จะเริ่มใช้ในยุค 50 แต่เครื่องบิน VC-137 ของประธานาธิบดีเคนเนดี้เป็นเครื่องบินลำแรกที่ได้รับการรู้จักกันในนาม “Air Force One”
ในปี ค.ศ. 1962 เครื่องบิน VC-137C ซึ่งซื้อมาโดยเฉพาะเพื่อใช้เป็น Air Force One ได้เข้าประจำการด้วยหมายเลขลำดับ 26000 ซึ่งอาจเป็นเครื่องบินประธานาธิบดีที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุด
เครื่องบินหมายเลขลำดับ 26000 เป็นเครื่องบินที่นำพาประธานาธิบดีเคนเนดี้ไปยังดัลลัสในวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1963 และนำร่างของท่านกลับมายังวอชิงตัน ดี.ซี. หลังจากการลอบสังหาร ลินดอน บี. จอห์นสัน ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 36 บนเครื่องบินที่สนามบินเลิฟฟิลด์ ในดัลลัส ในปี ค.ศ. 1972 ประธานาธิบดีริชาร์ด เอ็ม. นิกสัน ได้เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนและสหภาพโซเวียตบนเครื่องบิน 26000
เครื่องบินหมายเลขลำดับ 27000 ได้เข้ามาแทนที่ 26000 และสร้างประวัติศาสตร์ของตัวเองเมื่อถูกนำไปใช้โดยประธานาธิบดีนิกสัน ฟอร์ด และคาร์เตอร์ เดินทางไปยังไคโร ประเทศอียิปต์ ในวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 1981 เพื่อเป็นตัวแทนสหรัฐอเมริกาในการเข้าร่วมงานศพของประธานาธิบดีอันวาร์ ซาดัต แห่งอียิปต์
เครื่องบิน VC-25A ลำแรก หมายเลขลำดับ 28000 บินในฐานะ “Air Force One” ในวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 1990 เมื่อนำพาประธานาธิบดีจอร์จ เอช.ดับเบิลยู. บุช เดินทางไปยังรัฐแคนซัส รัฐฟลอริดา และกลับมายังวอชิงตัน ดี.ซี. เครื่องบิน VC-25A ลำที่สอง หมายเลขลำดับ 29000 นำพาประธานาธิบดีคลินตัน คาร์เตอร์ และบุช เดินทางไปยังอิสราเอลเพื่อเข้าร่วมงานศพของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล อิทซ์ฮัก ราบิน
เครื่องบินหมายเลขลำดับ 29000 ยังสร้างชื่อเสียงในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 เมื่อประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช กำลังกล่าวสุนทรพจน์ที่โรงเรียนประถม Emma E. Booker ในซาราโซตา รัฐฟลอริดา ได้รับแจ้งเหตุการณ์โจมตีตึกแฝด เวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์ ในนครนิวยอร์ก เจ้าหน้าที่ลูกเรือได้นำพาประธานาธิบดีและคณะกลับมายังวอชิงตัน ดี.ซี. อย่างปลอดภัย แม้จะมีภัยคุกคามความปลอดภัยเพิ่มขึ้น
ในวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 2016 เครื่องบินหมายเลขลำดับ 28000 ได้มีเกียรติในการนำพาประธานาธิบดีบารัค โอบามา เดินทางไปยังคิวบา ซึ่งเป็นการเยือนครั้งแรกของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีแคลวิน คูลิดจ์ ในปี ค.ศ. 1928
ปัจจุบัน เครื่องบินเหล่านี้ถูกใช้งานและบำรุงรักษาโดยกลุ่มการขนส่งทางอากาศของประธานาธิบดี และถูกมอบหมายให้กับปีกที่ 89 กองบินขนส่งทางอากาศของกองบัญชาการการเคลื่อนย้ายทางอากาศ ตั้งอยู่ที่ฐานทัพร่วมแอนดรูว์ รัฐแมริแลนด์ เครื่องบิน VC-25A ยังคงทำภารกิจการเดินทางของประธานาธิบดีอย่างต่อเนื่อง และรักษาประเพณีอันน่าภาคภูมิใจและความโดดเด่นในการเป็นที่รู้จักในนาม “Air Force One”
ประวัติความเป็นมาของ Air Force One VC-25A จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
ในปี 1985 เครื่องบิน Boeing 707 สองลำที่ทำหน้าที่เป็น Air Force One ได้มีอายุการใช้งาน 23 และ 13 ปี ตามลำดับ กองทัพอากาศสหรัฐฯ จึงเริ่มมองหาเครื่องบินรุ่นใหม่มาทดแทน โดยกำหนดเงื่อนไขว่าเครื่องบินที่จะเลือกต้องมีเครื่องยนต์อย่างน้อย 3 เครื่อง และมีระยะทำการอย่างน้อย 6,000 ไมล์ (9,700 กิโลเมตร) โดยมีสองบริษัทเข้าแข่งขัน ได้แก่ Boeing กับ 747 และ McDonnell Douglas กับ DC-10 ในที่สุด Boeing 747 ก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะ
การผลิตเครื่องบิน 747 รุ่นใหม่เริ่มขึ้นในสมัยของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน (1981-1989) เครื่องบิน VC-25A ทั้งสองลำเสร็จสมบูรณ์ในปี 1986 และบินครั้งแรกในปี 1987 โดยสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง แนนซี่ เรแกน เป็นผู้ออกแบบตกแต่งภายในด้วยสไตล์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ปัญหาเกี่ยวกับระบบสายไฟภายในเครื่องบินสำหรับระบบสื่อสาร ทำให้การส่งมอบเครื่องบินทั้งสองลำล่าช้าไปจนถึงปี 1990 ในสมัยของประธานาธิบดีจอร์จ เอช.ดับเบิลยู. บุช
VC-25A: เครื่องบินประธานาธิบดีรุ่นใหม่
VC-25A เข้ามาแทนที่ VC-137C (รุ่นทหารของ Boeing 707) เป็นแกนหลักของฝูงบิน Air Force One ในบางโอกาส VC-25 อาจถูกใช้เป็นเครื่องบินลำเลียงรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งในกรณีนี้จะใช้รหัสเรียกขาน Air Force Two
เครื่องบิน VC-25A อยู่ภายใต้การดูแลและใช้งานของกลุ่มการขนส่งทางอากาศของประธานาธิบดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปีกที่ 89 กองบินขนส่งทางอากาศของกองบัญชาการการเคลื่อนย้ายทางอากาศ ตั้งอยู่ที่ฐานทัพอากาศร่วมแอนดรูว์ ในแคมป์สปริงส์ รัฐแมริแลนด์
ความสามารถและการออกแบบ
VC-25A สามารถบินได้ไกลถึง 7,800 ไมล์ (12,600 กิโลเมตร) โดยไม่ต้องเติมน้ำมัน และสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 70 คน แต่ละลำมีราคาประมาณ 325 ล้านดอลลาร์ แม้ว่า VC-25 จะมีสองชั้นหลักและพื้นที่เก็บสัมภาระเหมือนกับ Boeing 747 ทั่วไป
แต่พื้นที่ 4,000 ตารางฟุต (370 ตารางเมตร) ถูกปรับปรุงใหม่เพื่อรองรับภารกิจของประธานาธิบดี ชั้นล่างสุดส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เก็บสัมภาระและอาหาร ส่วนพื้นที่ผู้โดยสารหลักอยู่บนชั้นที่สอง หรือชั้นหลัก ชั้นบนสุดประกอบด้วยห้องนักบินและศูนย์การสื่อสาร
โดยปกติแล้ว ประธานาธิบดีจะขึ้นและลงจากเครื่องบินทางประตูหน้าของชั้นหลักโดยใช้บันไดเคลื่อนที่ ขณะที่นักข่าวและผู้โดยสารคนอื่น ๆ จะเข้าทางประตูหลังของชั้นหลัก อย่างไรก็ตาม เครื่องบินยังมีบันไดในตัวที่นำไปยังชั้นล่าง ซึ่งมักใช้เมื่อความกังวลด้านความปลอดภัยทำให้การใช้บันไดเคลื่อนที่ไม่เหมาะสม
ห้องทำงานส่วนตัวของประธานาธิบดี
ส่วนหน้าของเครื่องบินเรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า "ทำเนียบขาว" ซึ่งอ้างอิงถึงที่พักอาศัยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีในวอชิงตัน ดี.ซี. ห้องทำงานส่วนตัวของประธานาธิบดีประกอบด้วยห้องนอนพร้อมโซฟาสองตัวที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียง ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ โต๊ะเครื่องแป้ง อ่างล้างหน้าคู่ และห้องทำงานส่วนตัว หรือ "ห้องทำงานรูปไข่บน Air Force One" ของประธานาธิบดี
หากจำเป็น ประธานาธิบดีสามารถกล่าวสุนทรพจน์ต่อชาติจากห้องทำงานนี้ได้ ความสามารถนี้ถูกเพิ่มเข้ามาหลังจากเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งเครื่องบินต้องลงจอดที่ฐานทัพอากาศ Barksdale เพื่อให้ประธานาธิบดี George W. Bush กล่าวสุนทรพจน์ต่อชาติ นอกจากนี้ยังมีห้องประชุม ห้องพยาบาล และพื้นที่สำหรับแขก คณะทำงานระดับสูง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และสื่อมวลชน อุปกรณ์สื่อสารและห้องนักบินอยู่บนชั้นบนสุด
สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ
มีห้องครัวสองห้อง สามารถจัดเตรียมอาหารได้มากถึง 100 ที่นั่งต่อครั้ง ห้องน้ำผู้โดยสาร 6 ห้อง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ และห้องพักผ่อนพร้อมมินิครัวสำหรับลูกเรือ VC-25 ยังมีห้องหนึ่งที่ติดตั้งอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์เล็กน้อย
แม้ว่าความจุของสัมภาระของเครื่องบินจะเพียงพอที่จะบรรทุกสิ่งของของผู้โดยสาร แต่การเดินทางของประธานาธิบดีนั้นต้องมีการขนส่งทางอากาศหลายลำเพื่อขนส่งเฮลิคอปเตอร์ รถยนต์ในขบวนรถ และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับคณะของประธานาธิบดี
ทอ.สหรัฐเลือก 747-8 เป็นแอร์ฟฟอร์ซวัน ลำใหม่
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2015 หรือ พ.ศ.2558 กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน ได้ประกาศผลการคัดเลือกให้ โบอิ้ง 747-8 ได้เป็นเครื่องบินโดยสารลำใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพื่อทดแทนในฝูงบินประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปัจจุบัน ที่มีเครื่องบิน VC-25A ประจำการ 2 ลำ โดยเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 747-200 ที่ดัดแปลงมาเป็นพิเศษ
และมีชื่อรหัสที่รู้จักกันดีนั่นคือ 'แอร์ฟอร์ซวัน' (Air Force One) แต่บางครั้งก็มีลำอื่นที่ถูกเรียกว่า แอร์ฟอร์ซวัน ตามการโดยสารของ ปธน.โดยกองทัพอากาศสหรัฐฯ มีแผนจะปลดประจำการ VC-25 ในปี 2017 และจะมีการคัดสรรเครื่องบินรุ่นใหม่มาทดแทนเครื่องเก่าที่ใช้งานมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 90
ทำไมเลือก โบอิ้ง 747-8
เดโบร่าห์ ลี เจมส์ เลขาธิการกองทัพอากาศสหรัฐฯ กล่าวว่า เครื่องบินของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คือ 1 ในเอกลักษณ์เห็นแล้วคือสัญลักษณ์ของสหรัฐอเมริกา และยังเป็นที่ทำงานของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โบอิ้ง 747-8 เป็นเครื่องบินรุ่นเดียวที่สร้างและประกอบในแผ่นดินสหรัฐอเมริกา ที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการ
เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจ ปธน.สหรัฐฯ ในฐานที่ทำงานของประธานาธิบดี สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชนในระดับชาติ ทั้งนี้ โบอิ้ง 747-8 แอร์ฟอร์ซวัน จะมีความแตกต่างไปจากเครื่องบิน 747-8 เดิมที่ใช้ในสายการบินพาณิชย์อย่างมาก ถึงเวลาแล้วที่เครื่องบินของปธน.สหรัฐฯ จะถูกอัพเกรด
ทำไมต้องเปลี่ยน แอร์ฟอร์ซ วัน
ความล้าสมัยทำให้แหล่งหาอะไหล่เหลือน้อย และยังต้องการการบำรุงรักษามากขึ้น กลายเป็นความท้าทายการเตรียมความพร้อมปฏิบัติงานที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าที่เครื่องบินลำใหม่จะเข้าประจำการ เมื่อกองทัพอากาศต้องให้บริการประธานาธิบดี การเดินทางอากาศที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ในระดับสูง รวมทั้งมีขีดความสามารถในการสื่อสาร ที่สามารถทำงานได้เหมือนทำเนียบขาว
เครื่องบินลำใหม่จะมีอายุการใช้งานราวๆ 30 ปี โดยทางรัฐบาลจะทำสัญญาสั่งซื้อและให้โบอิ้งสร้างเครื่องบินและดัดแปลงให้กลายเป็นแอร์ฟอร์ซวัน ภายใต้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2015-2019 สำหรับเครื่องบิน 2 ลำ ราวๆ 1.65 พันล้าน ทั้งนี้ แม้ว่ากองทัพอากาศสหรัฐฯ จะพิจารณาแอร์บัส เอ380 เป็นตัวเลือก แต่การที่เครื่องบินที่ใช้อยู่เป็นโบอิ้ง ผลที่ออกมาจึงไม่น่าแปลกใจ
ทายาทรุ่นสุดท้ายของตระกูล 747 สู๋การเป็น แอร์ฟอร์ซวัน
อะไรที่ทำให้โบอิ้ง 747-8 ทายาทรุ่นสุดท้ายของตระกูล 747 ได้เป็น เครื่องบินประจำตำแหน่ง ปธน.สหรัฐฯ หรือ แอร์ฟอร์ซวัน ทั้งที่ก็เป็นโบอิ้ง 747 เหมือนกัน เว็บไซต์โบอิ้งจึงนำเอาข้อมูลของทั้ง 2 มาเทียบให้ดูว่าของใหม่ดีกว่าแค่ไหน...
เป็นที่ทราบกันดีว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังจะได้นั่งเครื่องบินประจำตำแหน่งลำใหม่ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ "แอร์ฟอร์ซวัน" (Air Force One) ทดแทนลำเก่า คือ VC-25A ที่ดัดแปลงจากเครื่องบินโดยสารแบบโบอิ้ง 747-200 โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกโดยกองทัพอากาศสหรัฐฯ ไว้วางใจให้สร้าง คือ เจ้าเก่าหน้าเดิม อย่าง บริษัทโบอิ้ง ผู้ผลิตอากาศยานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ
สานต่อตำนานเครื่องบินประจำตำแหน่งลำนี้ด้วย เครื่องบินโดยสารแบบ โบอิ้ง 747-8 นั่นทำให้โบอิ้งถูกไว้วางใจให้เป็นผู้สร้างเครื่องบินสำหรับประธานาธิบดีสหรัฐฯ มายาวนานกว่า 50 ปี นับตั้งแต่เข้าสู่ยุคไอพ่นเลยทีเดียว
หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าทำไมเป็นโบอิ้ง 747 เหมือนเดิมล่ะ แล้ว 747-8 มันมีอะไรที่ดีกว่า เครื่องบินโดยสารพิสัยไกลที่ขายดีอย่าง โบอิ้ง 777-300ER หรือคู่แข่งอย่าง แอร์บัส เอ-380 มันมีเหตุผลเดียวง่ายๆ ที่อธิบายความเป็นอเมริกัน นั่นคือ โบอิ้ง 747 เป็นเครื่องบินที่ผลิตและประกอบในสหรัฐฯ ที่ตรงความต้องการมากที่สุด
โดยมีจุดเด่น 3 อย่าง ได้แก่ พิสัยบินไกลรองรับภารกิจของประธานาธิบดีได้ สามารถเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศได้ และพึ่งพาตัวเองได้ในสนามบินทั่วโลก
รายละเอียดสำคัญที่อยู่บนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน
ห้องทำงานรูปไข่ที่บินได้ของ ปธน.สหรัฐฯ ขนาดพื้นที่ 4,000 ตารางฟุต ที่มีทุกอย่างที่ควรจะมี ได้แก่
- ห้องประชุม/ห้องอาหาร
- ห้องพักสำหรับ ปธน.และสุภาพสตรีหมายเลข 1
- ออฟฟิศสำหรับเจ้าหน้าที่
- ห้องทำงานที่เปลี่ยนเป็นห้องพยาบาลได้
- พื้นที่ทำงานและพักผ่อนสำหรับ เจ้าหน้าที่ สื่อผู้ติดตาม และเจ้าหน้าที่ ทอ.สหรัฐฯ
- ครัว 2 แกลเลอรี่ ที่ใช้จัดเตรียมอาหารได้ครั้งละ 100 ที่
- ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม และวิทยุสื่อสารแบบหลายความถี่
- ระบบอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์สื่อสาร และระบบนำร่อง อุปกรณ์โหลดสัมภาระด้วยตัวเอง รวมทั้งการตกแต่งภายในที่แตกต่างไปจาก โบอิ้ง 747 ที่ใช้ตามสายการบินทั่วๆ ไป
รายละเอียดสำคัญของ โบอิ้ง 747-8
โบอิ้ง 747-8 เป็นแบบล่าสุดของ บ.โดยสารในตระกูล 747 ที่โบอิ้งผลิตขึ้น มีการปรับปรุงลำตัวให้ยาวขึ้น ปีกที่ดีไซน์ใหม่ ลดแรงต้นของอากาศ ใช้เครื่องยนต์ GEnx-2B ถึง 4 เครื่อง อันเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ส ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง เสียงรบกวนลดลง และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่ารุ่นก่อนหน้า
เมื่อเทียบในเรื่องการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โบอิ้ง 747-8 จะปล่อยออกมา 18 ตันต่อ 1 เที่ยวบิน น้อยกว่าโบอิ้ง 747-200 รุ่นเก่า และเมื่อวัดที่พิสัยการบิน โบอิ้ง 747-200 สามารถบินไกลสุดจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.- กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ด้วยระยะทาง 6,735 ไมล์
ขณะที่ โบอิ้ง 747-8 ที่มีระยะการบินไกล 7,730 ไมล์สามารถบินจาก กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.- ฮ่องกง ได้แบบไม่ต้องหยุดพัก แถมยังทำความเร็วได้ถึง 0.855 มัค จึงทำให้ โบอิ้ง 747-8 เป็นเครื่องบินโดยสารที่บินได้เร็วที่สุดในโลก
เมื่อมาเทียบน้ำหนักขึ้นชก เอ๊ย ไม่ใช่ น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด โบอิ้ง 747-8 ก็บรรทุกได้ถึง 987,000 ปอนด์ มากกว่า โบอิ้ง 747-200 ที่บรรทุกได้สูงสุด 833,000 ปอนด์
เทียบความกว้างของปีก โบอิ้ง 747-8 มีขนาดปีกที่ยาวกว่า โบอิ้ง 747-200 อยู่ 29 ฟุต หรือเกือบจะเท่าสถิติกระโดดไกลของโลกที่ทำไว้คือ 29 ฟุต 4 นิ้ว
เมื่อวัดความยาวของลำตัวเครื่องบินเทียบกันหัวจดหาง โบอิ้ง 747-200 อยู่ที่ 231 ฟุต 10 นิ้ว ส่วน โบอิ้ง 747-8 ยาว 250 ฟุต 2 นิ้ว ระยะห่างที่ต่างกัน 25 ฟุตนี้ ทำให้ โบอิ้ง 747-8 ก็เป็นเครื่องบินโดยสารที่ยาวที่สุดในโลกเช่นกัน
สีของแอร์ฟอร์ซวัน คนซื้อไม่ได้เลือก คนเลือกก็ไม่ได้นั่ง
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังคงเลือกใช้สีฟ้าและสีขาวแบบคลาสสิกสำหรับเครื่องบิน ที่ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างจัดสร้าง ในขณะที่ลวดลายยังคงใช้แบบเดิมที่ใช้ตั้งแต่ในสมัยของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี เมื่อ 6 ทศวรรษก่อน
อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม 2021 ต้องการลวดลายสีฉูดฉาดเป็นสีแดง ขาวและน้ำเงินเข้ม และยังมีโมเดลจำลองของเครื่องบินที่ใช้สามสีนี้ไว้ที่โต๊ะกาแฟในห้องทำงานรูปไข่ที่ทำเนียบขาว โดยเครื่องบินลำใหม่มีกำหนดจะส่งมอบในปี 2027 หรือ 2028 ดังนั้น ผู้ที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 จะเป็นผู้ที่ได้ใช้เครื่องบินประจำตำแหน่งลำใหม่
ความสามารถทางทหารแอร์ฟฟอร์ซวันก็มี
นอกจากนี้ เครื่องบินยังสามารถทำงานเป็นศูนย์บัญชาการทางทหารในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น การโจมตีด้วยนิวเคลียร์ การปรับเปลี่ยนเพื่อการใช้งานด้านปฏิบัติการ ได้แก่ ความสามารถในการเติมน้ำมันกลางอากาศ และระบบป้องกันภัยทางอากาศจากขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนเครื่องบินเชื่อมต่อกันด้วยสายไฟยาวประมาณ 238 ไมล์ (383 กิโลเมตร) ซึ่งยาวเป็นสองเท่าของ 747 ทั่วไป สายไฟทั้งหมดถูกหุ้มด้วยการป้องกันหนาเพื่อป้องกันจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากการระเบิดนิวเคลียร์ เครื่องบินยังมีระบบป้องกันทางอิเล็กทรอนิกส์ (ECM) เพื่อรบกวนเรดาร์ของศัตรู ไฟแฟลร์เพื่อหลีกเลี่ยงขีปนาวุธนำความร้อน และชาฟท์ แผ่นโลหะสะท้อนเรดดาร์
เพื่อหลีกเลี่ยงขีปนาวุธนำวิถีเรดาร์ อาวุธขนาดเล็กและเครื่องกระสุนทั้งหมดที่ไม่อยู่ในความครอบครองทางกายภาพของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหน่วยงานลับและกองทัพอากาศบนเครื่องบิน VC-25 จะถูกเก็บและล็อคไว้ในช่องแยกต่างหาก
โดยแต่ละช่องจะมีกลไกการล็อคที่แตกต่างกันเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ความสามารถอื่นๆ อีกมากมายของ VC-25 ยังคงเป็นความลับเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย
ทำหน้าที่ส่งอดีตประธานาธิบดีกลับบบ้านหลังหมดวาระ
หลังจากการเปิดตำแหน่งประธานาธิบดีที่ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่ง ประธานาธิบดีคนก่อนจะได้รับการขนส่งบนเครื่องบิน VC-25 ไปยังจุดหมายปลายทางของตนเอง เครื่องบินสำหรับเที่ยวบินนี้จะไม่ใช้รหัสเรียกขาน Air Force One
เนื่องจากไม่ได้บรรทุกประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่ง สำหรับทั้งประธานาธิบดีบิล คลินตัน และจอร์จ ดับเบิลยู. บุช เที่ยวบินนี้เรียกว่า Special Air Mission 28000 โดยตัวเลขแทนหมายเลขลำดับของเครื่องบิน
การใช้ VC-25A ในพิธีศพของอดีตประธานาธิบดี
เครื่องบิน VC-25A ยังถูกใช้เพื่อขนส่งร่างของอดีตประธานาธิบดีที่เสียชีวิต โดยพื้นที่ผู้โดยสารด้านท้ายของ "ทำเนียบขาว" สามารถปรับเปลี่ยนได้ โดยถอดเก้าอี้และโต๊ะออกเพื่อวางโลงศพ ร่างของโรนัลด์ เรแกน เจอรัลด์ ฟอร์ด และจอร์จ เอช.ดับเบิลยู. บุช ได้ถูกขนส่งมายังวอชิงตันเพื่อพิธีศพของรัฐ และจากนั้นไปยังสถานที่พักผ่อนสุดท้าย
พันเอกมาร์ค ทิลแมน นักบินประจำตัวของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช กล่าวว่า "เราจะดูแลประธานาธิบดีตั้งแต่เริ่มดำรงตำแหน่งจนถึงขณะที่ท่านถูกวางนอนบนหีบศพ" สำหรับงานศพของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ในปี 2004 ทิลแมนกล่าวว่าลูกเรือได้ปรับปรุงส่วนหน้าของเครื่องบินให้ดูเหมือนกับสมัยที่เรแกนยังเป็นประธานาธิบดี โดยวางเสื้อแจ็คเก็ต Air Force One ของประธานาธิบดีและแนนซี่ เรแกน ไว้บนเก้าอี้เพื่อ "ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนอยู่บ้าน"
มีการออกแบบลิฟต์ไฮดรอลิกพิเศษ (คล้ายกับประเภทที่สายการบินใช้ขนส่งอาหาร) พร้อมตราประทับประธานาธิบดีติดอยู่ด้านข้าง เพื่อยกโลงศพขึ้นไปยังประตูท้ายด้านท่าเรือเพื่อนำเข้า VC-25A ประเพณีการวางโลงศพไว้ในห้องโดยสารผู้โดยสารย้อนกลับไปถึงการลอบสังหารจอห์น เอฟ. เคนเนดี้
เมื่อลูกเรือไม่ต้องการวางร่างของประธานาธิบดีไว้ในห้องเก็บสัมภาระ และอีกครั้งในงานศพของลินดอน บี. จอห์นสัน
ทั้งสองลำของ VC-25A กำลังจะถูกปลดประจำการ โดยลำแรกในปี 2027 และลำที่สองในปี 2028...
เรียบเรียงเรื่อง : จุลดิส รัตนคำแปง สำนักข่าวทรัสต์นิวส์ Trustnews
ที่มาข้อมูล :
บริษัทโบอิ้ง Boeing Company
พิพิธภัณฑ์การบิน กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา
กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา USAF
You might be intertested in this news.
Mostview
โบอิ้ง 787 แอร์อินเดียแจ้ง "MAYDAY" ก่อนเครื่องตกใส่เขตชุมชนพร้อม 242 ชีวิต
เครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ส ของแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 171 เส้นทางอาเมดาบัด-ลอนดอน แกตวิค ตกกระแทกพื้นกลางย่านชุมชน หลังเพิ่งออกจากสนามบินพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 242 คนบนเครื่อง ทั้งนี้ มีรายงานว่านักบินแจ้งฉุกเฉิน เมย์เดย์ ก่อนร่วงพื้น
พร้อมตั้งแต่เมื่อวาน ทอ.โชว์ติดระเบิดนำวิถี KGGB เขี้ยวเล็บ เอฟ-16 ฝูง 103 โคราช
กองทัพอากาศไทย เผย วิดีโอคลิปบนเฟซบุ๊ก โชว์การติดตั้งอาวุธให้กับเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ฝูงบิน 103 นครราชสีมา ทั้งการโหลดกระสุนขนาด 20 มม.การติดตั้งมิสไซล์นำวิถีไซด์วายเดอร์ และ อาวุธใหม่ ระเบิดร่อนนำวิถีด้วย GPS แบบ KGGB ที่ซื้อจากเกาหลีใต้
เครื่องบิน 787 แอร์อินเดียตกทับหอพักแพทย์ พบร่างแล้ว 204 ศพ มีรอดชีวิต 1 ราย
ความคืบหน้าเหตุ โบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์สของแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 171 เส้นทางอาเมดาบัด-ลอนดอน แกตวิค พร้อมคนบนเครื่อง 242 ชีวิตตกที่เมืองอาเมดาบัด โดยซากเครื่องทับหอพัก นศ.แพทย์ ล่าสุด พบผู้โดยสารรอดชีวิต 1 รายเป็นชายวัย 38 ปี ขณะที่พบศพแล้ว 204 ศพ
ย้อนรอย จลาจลเผาสถานทูตไทย บทเรียนข่าวเท็จ กัมพูชา (2546)
ย้อนรอยเหตุเผาสถานทูตไทยในกัมพูชา จากน้ำผึ้งหยดเดียว ปล่อยข่าวคลั่งชาติ กล่าวหา “กบ สุวนันท์” หมิ่นกัมพูชา ลุกลามลามบานปลาย ก่อเหตุจลาจล คนไทยถูกล่า เอาชีวิต ผู้หญิงถูกล่า ลากจะขืนใจ สุดท้าย หาคนเบื้องหลังไม่ได้ ลงโทษผู้ก่อเหตุเบาหวิว แต่ต้องชดใช้มากกว่า
เมื่อวิกฤตหนี้สิน47,000ล้านเยน ถูกแก้ไขด้วยใจนักสู้ของเราทุกคน (ชมคลิป)
เมื่อวิกฤตหนี้สิน47,000ล้านเยน ถูกแก้ไขด้วยใจนักสู้ของเราทุกคน (ชมคลิป)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
