กลุ่มเซ็นทรัล คัดสรรสินค้าสีเขียว รักษาสมดุลทั้งเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
by Trust News, 12 มีนาคม 2568
กลุ่มเซ็นทรัล และบริษัทในเครือ คัดสรรสินค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อผู้บริโภค ตามโครงการ "ฉลากฮักโลก" พร้อมมุ่งรักษาสมดุลของการเติบโตทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อความยั่งยืน
นายพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า ในยุคที่ผู้บริโภคทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น กลุ่มเซ็นทรัล และบริษัทในเครือ ในฐานะองค์กรผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกและบริการระดับโลก จึงมุ่งปรับตัวและดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคม เราเน้นกระบวนการจัดหาสินค้าอย่างรับผิดชอบ โดยเลือกใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืน ลดการสร้างของเสียจากการผลิต และนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงส่งเสริมการบริโภคที่ตระหนักถึงผลกระทบต่อธรรมชาติและชุมชน โดยเป้าหมายของเราคือการสร้างคุณค่าทางธุรกิจที่เป็นมิตรต่อโลก พร้อมผลักดันการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้บริษัทในเครือได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN และบริษัท เซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL/เซ็นทารา ได้มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบการจัดหาอย่างมีประสิทธิภาพและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มีการคัดเลือกสินค้าอย่างเข้มงวด ครอบคลุมทั้งคุณภาพ ความปลอดภัย และผลกระทบต่อระบบนิเวศ โดยคำนึงถึง ความปลอดภัยต่อผู้บริโภค กระบวนการผลิตที่ยั่งยืน บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก การรับรองมาตรฐานสิ่งแวดล้อม ตลอดจนส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ผู้นำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งชั้นนำของไทยในเครือกลุ่มเซ็นทรัล มีปรัชญาในการดำเนินธุรกิจที่เรียกว่า “CRC Care” ซึ่งเป็น Commitment ที่จะดูแลและยกระดับทุกภาคส่วนให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนทั้งอีโคซิสเต็ม และนับเป็นองค์กร ค้าปลีกรายแรกของประเทศไทยที่เข้าร่วม โครงการฮักโลก กับหอการค้าไทย โดยผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าที่มีฉลากรักษ์โลกได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพียงแค่สังเกต สัญลักษณ์โครงการ “ฮักโลก” (Hug The Earth) ซึ่งเป็นรูปมือกำลังโอบกอดโลก สื่อถึงความใส่ใจต่อโลกอย่างยั่งยืน ถูกรวบรวมไว้ในพื้นที่จำหน่ายหรือจุดแสดงสินค้าของห้างสรรพสินค้าและร้านค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล โรบินสัน ซูเปอร์สปอร์ต ซีเอ็มจี ท็อปส์ โก โฮลเซลล์ ไทวัสดุ เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เป็นต้น

โครงการเด่นของ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ได้แก่

*ร้าน เฮลธิฟูล “Healthiful” โซนสนับสนุนสินค้าอินทรีย์และสินค้าเพื่อสุขภาพ ที่ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล โดยมีการจัดหมวดสินค้าภายใต้ชื่อ “Healthiful” สาขาแรกที่เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ตั้งแต่ปี 2563 เพื่อสนับสนุนผลิตภัณฑ์อินทรีย์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอื่น ๆ โดยสินค้าในหมวด Healthiful ได้ผ่านการประเมินตามเกณฑ์ ได้แก่ ใบรับรองคุณภาพโดยองค์การอาหารและยา ซึ่งช่วยรับรองคุณภาพการผลิต, มีประโยชน์ต่อสุขภาพและสร้างเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค, เป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ, เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้มีข้อจำกัดทางสุขภาพ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้บริโภคที่ต้องการบริโภคอาหารที่ปราศจากกลูเตน ผงชูรส วัตถุุกันเสีย คอเลสเตอรอล นมเนย หรือแล็กโทส รวมถึงผู้บริโภคที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีระดับโซเดียม ไขมัน หรือนํ้าตาลน้อยด้วย, เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่อยากส่งเสริมสุขภาพโดยองค์รวม อันประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์เสริมสร้างสารอาหาร และผลิตภัณฑ์แคลอรี่ต่ำ เป็นต้น

*จริงใจ ฟาร์มเมอร์ มาร์เก็ต ตลาดรูปแบบใหม่ที่ กลุ่มเซ็นทรัล นำโดย บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ริเริ่มขึ้น และเปิดดำเนินการครั้งแรกเมื่อปี 2561 ที่ท็อปส์ มาร์เก็ต เซ็นทรัล อุดรธานี โดยมีความตั้งใจสร้างให้เป็นแหล่งรวม ผัก ผลไม้ปลอดภัย ปลอดสารพิษ และของดีประจำจังหวัด ซึ่งได้รวบรวมผลผลิตคุณภาพดีจากเกษตรกรท้องถิ่น ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบให้ได้มาตรฐานจนได้สินค้าคุณภาพดีพร้อมวางจำหน่ายให้ทุกคนได้เลือกซื้อ อีกทั้ง ยังเป็นเสมือนแหล่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชน ที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน ปัจจุบัน จริงใจ ฟาร์มเมอร์ มาร์เก็ต เปิดให้บริการที่ท็อปส์ จำนวน 32 แห่ง ทั่วประเทศ รวมกว่า 5,000 รายการ ให้การสนับสนุนเกษตรกรกว่า 11,000 ครัวเรือน และสร้างรายได้ให้แก่เกษตกรรวมกว่า 250 ล้านบาท

ด้าน บริษัทเซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเดินหน้าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน และผู้พัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัล, โครงการที่พักอาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศ พัฒนาธุรกิจด้วยโมเดลการขับเคลื่อนองค์กรธุรกิจโดยกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน (Purpose-Driven Business Model) ในการสร้างคุณค่าและความหมายต่อลูกค้า สังคม และโลก ตอบสนองต่อเป้าหมายขององค์กร “Imagining better futures for all” เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีให้กับสังคม และยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโต ผ่านการสร้างอาชีพ สนับสนุนสินค้า และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ผู้ประกอบการร้านค้าทั้งรายใหญ่ และรายเล็ก ตลอดจนนักลงทุนทั้งไทย และต่างชาติ สู่การสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับผู้คน

ไม่ว่าจะเป็นให้การสนับสนุนผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยและท้องถิ่น ให้ยังคงสามารถเปิดร้านค้าปลีกแบบโมเดิร์นเทรดได้จํานวน 5,886 ร้านค้า ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่ร้อยละ 2 เมื่อเทียบขนาดพื้นที่พบว่ามีการจัดสรรให้เพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 4 จากปี 2566 เป็นไปตามกลยุทธ์ความยั่งยืนในการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยและท้องถิ่น มอบพื้นที่ค้าขาย ทั้งแบบถาวร และชั่วคราวในรูปแบบของตลาด อาทิ การส่งเสริมสินค้าวิถีไทย สไตล์ใหม่ และสินค้าท้องถิ่น ผ่านโซน Hug Thai ที่เซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัล เชียงใหม่, ตลาดจริงใจ ฟาร์มเมอร์มาร์เก็ตในหลายสาขา ซึ่งช่วยเหลือเกษตรกรได้กว่า 40,000 ราย 10,200ครัวเรือน และสร้างรายได้หมุนเวียนสู่ชุมชนท้องถิ่นกว่า 300 ล้านบาท
เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในศูนย์การค้าทั่วประเทศ เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกไร้สารเคมี จากปฐม ออร์แกนิก ลิฟวิ่ง ที่ใส่ใจต่อสุขภาวะที่ดีของลูกค้าทุกเพศทุกวัย พร้อมส่งต่อผ่านการบริจาค 3 % จากยอดขายตลอดทั้งปี ให้มูลนิธิสังคมสุขใจ เพื่อขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ต่อไป

กระบวนการจัดซื้อ และจัดหาเชิงกลยุทธ์ คือ การปรับเปลี่ยนใช้กระดาษทิชชู่แบบ Center Pull ซึ่งช่วยควบคุมปริมาณการใช้งานต่อครั้งอย่างเหมาะสม โดยมีการให้ข้อมูลป้อนกลับผู้ผลิตเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของลูกค้าในการช่วยลดขยะกระดาษทิชชู่ และติดตั้งเครื่องเป่ามือคุณภาพสูง Dyson Airblade ซึ่งมีตัวกรอง HEPA ดักจับ 99.95% ของอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอน ทำให้มือแห้งด้วยลมสะอาด อย่างรวดเร็วและประหยัดพลังงาน

ขณะที่ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL/เซ็นทารา ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการใช้สินค้าและบริการจากผู้ผลิตท้องถิ่น สนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากรับรองด้านสิ่งแวดล้อม และดำเนินงานด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น โครงการฟาร์มผักออร์แกนิก CGCW Organic Farm ซึ่งผลผลิตผักออร์แกนิคจากฟาร์มผักลอยฟ้าในปี 2567 ที่ผ่านมา มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 3,777 กิโลกรัม ปริมาณขยะอาหาร เศษผักผลไม้นำมาทำปุ๋ยในฟาร์ม 9,729 กิโลกรัม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1.6 tCo2e

หรือ สลัดแฟคทอรี่ (Salad Factory) ภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท กรีนฟู้ด แฟคทอรี่ และ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) ร้านสลัดที่เสิร์ฟความอร่อยจากเมนูเพื่อสุขภาพที่หลากหลาย ให้ผู้บริโภคได้รับประทานผักจากแหล่งผลิตอาหารที่ดี โดยมุ่งเน้นการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูง สดใหม่ ปลอดสารพิษ

นอกจากนี้ ไม่เพียงแค่ธุรกิจในประเทศไทย ห้างสรรพสินค้าในเครือกลุ่มเซ็นทรัลในยุโรป ก็ให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมเช่นกัน มุ่งมั่นคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาจำหน่าย เพื่อส่งเสริมการบริโภคที่ยั่งยืน

ห้างสรรพสินค้าบราวน์ โทมัส (Brown Thomas) The Sustainable Edit คือการคัดสรรผลิตภัณฑ์ในหมวดแฟชั่น, ความงาม, ของใช้ในบ้าน และอาหาร ซึ่งผ่านเกณฑ์ความยั่งยืนที่เข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นได้รับการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด และมีหลักฐานประกอบก่อนที่จะถูกคัดเลือกเข้าสู่ The Sustainable Edit กระบวนการนี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างมั่นใจ โดยรู้ว่าผลิตภัณฑ์ใน The Sustainable Edit ได้รับการตรวจสอบและผ่านมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับ การคัดเลือกผลิตภัณฑ์มีจำหน่ายทั้งในร้านค้า รวมถึงบนเว็บไซต์และแอปสะสมแต้มของ Brown Thomas และ Arnotts

ห้างสรรพสินค้า ดี แบนคอร์ฟ (de Bijenkorf) เป็นสมาชิกของ Sustainable Apparel Coalition (SAC) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มุ่งส่งเสริมความเท่าเทียมและความยั่งยืนในอุตสาหกรรมแฟชั่น และยังใช้ Worldly Brand & Retail Module (BRM) ซึ่งเป็นแบบประเมินด้านความยั่งยืนสำหรับแบรนด์และผู้ประกอบการค้าปลีก เพื่อวัดผลและติดตามความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ดี แบนคอร์ฟ ดำเนินการประเมิน BRM เป็นประจำทุกปี เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสและมุ่งพัฒนาให้ได้คะแนนที่ดีขึ้น สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในทุกมิติ
ห้างสรรพสินค้า คาเดเว (KaDeWe) คัดสรรแบรนด์สินค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน B Corp ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลที่มอบให้กับองค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง การรับรองนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างผลกระทบเชิงบวกในทุกมิติ ทั้ง การกำกับดูแลกิจการ การดูแล พนักงาน การพัฒนา ชุมชน การรักษา สิ่งแวดล้อม และการให้ความสำคัญกับลูกค้า
กลุ่มเซ็นทรัล และบริษัทในเครือ เชื่อมั่นว่า การดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจและรับผิดชอบต่อโลกคือหัวใจสำคัญที่จะนำพาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต เราจึงตั้งใจสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกผ่านสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าสร้างสังคมที่ทุกฝ่ายเติบโตร่วมกันอย่างแท้จริง โดยมีผู้บริโภคและชุมชนเป็นส่วนสำคัญในการร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน.
You might be intertested in this news.
Mostview
โบอิ้ง 787 แอร์อินเดียแจ้ง "MAYDAY" ก่อนเครื่องตกใส่เขตชุมชนพร้อม 242 ชีวิต
เครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ส ของแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 171 เส้นทางอาเมดาบัด-ลอนดอน แกตวิค ตกกระแทกพื้นกลางย่านชุมชน หลังเพิ่งออกจากสนามบินพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 242 คนบนเครื่อง ทั้งนี้ มีรายงานว่านักบินแจ้งฉุกเฉิน เมย์เดย์ ก่อนร่วงพื้น
พร้อมตั้งแต่เมื่อวาน ทอ.โชว์ติดระเบิดนำวิถี KGGB เขี้ยวเล็บ เอฟ-16 ฝูง 103 โคราช
กองทัพอากาศไทย เผย วิดีโอคลิปบนเฟซบุ๊ก โชว์การติดตั้งอาวุธให้กับเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ฝูงบิน 103 นครราชสีมา ทั้งการโหลดกระสุนขนาด 20 มม.การติดตั้งมิสไซล์นำวิถีไซด์วายเดอร์ และ อาวุธใหม่ ระเบิดร่อนนำวิถีด้วย GPS แบบ KGGB ที่ซื้อจากเกาหลีใต้
ย้อนรอย จลาจลเผาสถานทูตไทย บทเรียนข่าวเท็จ กัมพูชา (2546)
ย้อนรอยเหตุเผาสถานทูตไทยในกัมพูชา จากน้ำผึ้งหยดเดียว ปล่อยข่าวคลั่งชาติ กล่าวหา “กบ สุวนันท์” หมิ่นกัมพูชา ลุกลามลามบานปลาย ก่อเหตุจลาจล คนไทยถูกล่า เอาชีวิต ผู้หญิงถูกล่า ลากจะขืนใจ สุดท้าย หาคนเบื้องหลังไม่ได้ ลงโทษผู้ก่อเหตุเบาหวิว แต่ต้องชดใช้มากกว่า
เครื่องบิน 787 แอร์อินเดียตกทับหอพักแพทย์ พบร่างแล้ว 204 ศพ มีรอดชีวิต 1 ราย
ความคืบหน้าเหตุ โบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์สของแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 171 เส้นทางอาเมดาบัด-ลอนดอน แกตวิค พร้อมคนบนเครื่อง 242 ชีวิตตกที่เมืองอาเมดาบัด โดยซากเครื่องทับหอพัก นศ.แพทย์ ล่าสุด พบผู้โดยสารรอดชีวิต 1 รายเป็นชายวัย 38 ปี ขณะที่พบศพแล้ว 204 ศพ
เพราะอะไรลิเวอร์พูลจึงยอมจ่ายแพง กับเบอร์10 ที่ชื่อ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ (ชมคลิป)
เพราะอะไรลิเวอร์พูลจึงยอมจ่ายแพง กับเบอร์10 ที่ชื่อ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ (ชมคลิป)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
