คาด ตลาดยานยนต์ ฟื้นตัวครึ่งหลังปี68
by Trust News, 3 กุมภาพันธ์ 2568
สถานการณ์ยานยนต์ไทย :
อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเผชิญแรงกดดันจากความต้องการในประเทศที่ยังไม่มั่นคง ทำให้ตลาดรถยนต์และจักรยานยนต์มีแนวโน้มฟื้นตัวช้า ส่วนกลุ่มยานยนต์เชิงพาณิชย์ คาดว่าจะกลับมาคึกคักขึ้นได้ เพราะอานิสงส์จากการค้าชายแดนและข้ามพรมแดน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักอย่างต่อเนื่อง
ยอดขายรถยนต์ในประเทศคาดว่าจะทยอยฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เป็นต้นไป
ยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2568 คาดว่าจะทรงตัวในระดับต่ำที่ 5.5 แสนคัน ขณะที่ในระยะปานกลาง มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้าและยังไม่สามารถกลับสู่ช่วง Pre-Covid ได้ในภายในปี 2571
เนื่องจากเผชิญกับผลพวงจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งประกอบด้วย
1. สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ
2. กำลังซื้อในภาพรวมค่อนข้างเปราะบาง
3. พฤติกรรมการใช้รถของคนไทยยาวนานขึ้น
4. การแข่งขันด้านราคาที่ทวีความรุนแรง
ส่งผลให้ผู้บริโภคบางส่วนชะลอการตัดสินใจซื้อรถออกไป นอกจากนี้ ยังคงต้องติดตาม Vicious cycle ในตลาดยานยนต์ไทย
อันเกิดจากการที่สถาบันการเงินมีแนวโน้มตรึงความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ เนื่องจากมีความกังวลต่อทิศทางราคารถยนต์มือ 2 ที่คาดว่าจะปรับลดลงอีก
เพราะปัญหาอุปทานส่วนเกินจากกลุ่มรถยึด ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวจะกดดันยอดขายรถยนต์ใหม่ให้ซบเซาต่อเนื่อง และทำให้เหล่าตัวแทนจำหน่ายต้องหันมาเน้นแข่งขันกันด้วยราคา ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมมูลค่าของหลักประกันหมวดยานยนต์ให้มีอัตราการเสื่อมค่าที่เร่งขึ้น ผันผวน และประเมินได้ยาก
อุตสาหกรรมยานยนต์เชิงพาณิชย์มีแนวโน้มกลับมาขยายตัว :
อุตสาหกรรมยานยนต์เชิงพาณิชย์ปี 2568 มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวได้ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศและภาคส่งออกฟื้นตัวดีขึ้น
โดยตลาดรถบรรทุกได้รับแรงหนุนจากกิจกรรมขนส่งตามแนวชายแดนและการค้าผ่านแดนเติบโตได้ต่อเนื่อง
ขณะที่ตลาดรถโดยสารได้รับอานิสงส์จากภาคท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก และมีส่วนช่วยให้ปัญหา Overcapacity ในกลุ่มรถบัสนำเที่ยวบรรเทาลง ทั้งนี้ในระยะปานกลาง จำเป็นต้องจับตาทิศทางการนำเข้ายานยนต์เชิงพาณิชย์ที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
โดยเฉพาะจากกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ซึ่งแม้จะตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม แต่ก็นำมาซึ่งความเสี่ยงต่อผู้ผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนภายในประเทศให้สูญเสียความสามารถทางการแข่งขัน
ยอดขายรถจักรยานยนต์ยังคงมีแนวโน้มซบเซา :
ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศปี 2568 มีแนวโน้มซบเซาต่อเนื่อง ขณะที่ในระยะปานกลางจะทยอยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เนื่องจากอุปสงค์ยังคงเผชิญแรงกดดันจากกำลังซื้อกลุ่มฐานรากที่เปราะบาง ทั้งจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รายได้ภาคเกษตรผันผวน รวมถึงความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน
อย่างไรก็ดี ต้องติดตามความคืบหน้าของมาตรการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำซึ่งจะมีส่วนช่วยเพิ่มกำลังซื้อและหนุนให้ความต้องการซื้อรถจักรยานยนต์จากกลุ่มแรงงานนอกภาคเกษตรฟื้นตัวได้เข้มแข็งมากขึ้น
ทั้งนี้สำหรับภาคการส่งออกรถจักรยานยนต์ในปี 2568 คาดว่าจะสามารถกลับมาขยายตัวได้ เพราะอุปสงค์จากคู่ค้าสำคัญทยอยปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งในญี่ปุ่น ยุโรป และจีน
คาดยอดขายรถ Hybrid และ BEV ครองส่วนแบ่งตลาดราว 30% ในปี 2568 :
ตลาดรถยนต์นั่งไฟฟ้า (Hybrid และ BEV) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2568 ยอดขายรถกลุ่มนี้จะอยู่ที่ราว 2.1 แสนคัน หรือคิดเป็น 30% ของยอดขายรถยนต์ในประเทศทั้งหมด
โดยตลาดรถไฮบริดนับเป็นแรงส่งสำคัญเพราะผู้บริโภคมีการเปิดรับรถกลุ่มนี้มากขึ้น ทั้งในรถระดับกลาง (ราคา 5 แสน – 1 ล้านบาท)
รวมถึงตลาดรถหรู ขณะที่ยอดขายรถ BEV มีแนวโน้มขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และคาดว่าส่วนแบ่งตลาดในระยะปานกลางจะทรงตัวอยู่ที่ 10% ของยอดขายรถยนต์ในประเทศ
ทั้งนี้หากพิจารณาปัจจัยฉุดรั้งการเปิดรับรถ BEV จากฝั่งผู้บริโภค พบว่าเกิดขึ้นจากความกังวลใน 4 ประเด็นสำคัญ คือ
1. ความไม่เพียงพอของสถานีชาร์จสาธารณะ
2. ปัญหาอุปทานอะไหล่ยนต์ในประเทศและตัวเลือกอู่ซ่อมบำรุงรายย่อยยังมีค่อนข้างจำกัด
3. ผลพวงจากสงครามราคารถ BEV ที่ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทยอยปรับลดลง
4. ต้นทุนการถือครองบางส่วนยังอยู่ในระดับสูง อาทิ เบี้ยประกันและอัตราการเสื่อมมูลค่า
สำหรับพัฒนาการห่วงโซ่อุปทาน EV ในประเทศไทยพบว่า กำลังการผลิตรถยนต์ BEV ภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
โดยภายในปี 2568 - 2571 จะขยายตัวสู่ระดับ 6 แสนคัน/ปี นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องก็เติบโตควบคู่ไปกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน โดยเฉพาะการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า สถานีอัดประจุ/สลับแบตเตอรี่ และธุรกิจผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ EV ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากภาคธุรกิจสัญชาติไทย
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC
You might be intertested in this news.
Mostview
โบอิ้ง 787 แอร์อินเดียแจ้ง "MAYDAY" ก่อนเครื่องตกใส่เขตชุมชนพร้อม 242 ชีวิต
เครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ส ของแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 171 เส้นทางอาเมดาบัด-ลอนดอน แกตวิค ตกกระแทกพื้นกลางย่านชุมชน หลังเพิ่งออกจากสนามบินพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 242 คนบนเครื่อง ทั้งนี้ มีรายงานว่านักบินแจ้งฉุกเฉิน เมย์เดย์ ก่อนร่วงพื้น
พร้อมตั้งแต่เมื่อวาน ทอ.โชว์ติดระเบิดนำวิถี KGGB เขี้ยวเล็บ เอฟ-16 ฝูง 103 โคราช
กองทัพอากาศไทย เผย วิดีโอคลิปบนเฟซบุ๊ก โชว์การติดตั้งอาวุธให้กับเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ฝูงบิน 103 นครราชสีมา ทั้งการโหลดกระสุนขนาด 20 มม.การติดตั้งมิสไซล์นำวิถีไซด์วายเดอร์ และ อาวุธใหม่ ระเบิดร่อนนำวิถีด้วย GPS แบบ KGGB ที่ซื้อจากเกาหลีใต้
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (10มิ.ย.68) เก็งทําไรในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (10มิ.ย.68) เก็งทําไรในกรอบ
เครื่องบิน 787 แอร์อินเดียตกทับหอพักแพทย์ พบร่างแล้ว 204 ศพ มีรอดชีวิต 1 ราย
ความคืบหน้าเหตุ โบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์สของแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 171 เส้นทางอาเมดาบัด-ลอนดอน แกตวิค พร้อมคนบนเครื่อง 242 ชีวิตตกที่เมืองอาเมดาบัด โดยซากเครื่องทับหอพัก นศ.แพทย์ ล่าสุด พบผู้โดยสารรอดชีวิต 1 รายเป็นชายวัย 38 ปี ขณะที่พบศพแล้ว 204 ศพ
ปิดตำนาน “บิ๊กสุ” พล.อ.สุจินดา คราประยูร ถึงแก่อสัญกรรม วัย 91 ปี
ปิดตำนาน “บิ๊กสุ” พล.อ. สุจินดา คราประยูร อดีตนายกฯ คนที่ 19 ถึงแก่อสัญกรรม ในวัย 91 ปี ...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
