วันเสาร์, พฤษภาคม 3, 2568

สภาเดือด “วิโรจน์”แฉนายกฯ ใช้ตั๋ว PN เลี่ยงภาษี 218 ล้าน

by Trust News, 24 มีนาคม 2568

สภาเดือด “วิโรจน์” อภิปราย แฉ “อิ๊ง-แพทองธาร” ใช้ตั๋ว PN เลี่ยงภาษี แถมยังลอยหน้าลอยตาเป็นนายกฯ ทำ สส.รัฐบาล ประท้วงวุ่น เจออัดซ้ำให้ร้องกีกี้ …

วันนี้ (24 มี.ค.2568) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระการพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ลุกอภิปรายว่า คุณสมบัตินายกรัฐมนตรี ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง นอกจากนี้ หน้าที่ของปวงชนชาวไทย ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า บุคคลมีหน้าที่เสียภาษีอากรตามที่กฎหมายบัญญัติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้รับการยกเว้น โดยสำนึกแล้วคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีควรจะเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องการเสียภาษีด้วยซ้ำ ถ้าตัวนายกรัฐมนตรียังทำตัวหนีภาษี ความเป็นธรรมในเรื่องภาษีจะเกิดขึ้นกับประชาชนได้อย่างไร

นายวิโรจน์ กล่าวว่า การที่คนรวยบางกลุ่มบางก้อนใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการหลบเลี่ยงภาษี ซ้ำร้ายในหลายกรณีเป็นการกระทำที่เข้าข่ายการหลีกเลี่ยง หรือการหนีภาษีด้วยซ้ำ จึงทำให้ภาระทางภาษีตกอยู่กับมนุษย์เงินเดือน คนชั้นกลางประชาชนชาวรากหญ้า

ดังนั้น พฤติกรรมการใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการหลีกเลี่ยง หรือเรียกง่ายๆ ว่าหนีภาษี จึงเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ เป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชน ตนนึกไม่ถึงว่าพฤติกรรมที่น่าอดสูแบบนี้ จะเกิดขึ้นกับคนที่ชื่อว่าแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

นายวิโรจน์ ย้ำว่า การอภิปรายในวันนี้ จึงไม่ใช่แค่ไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีที่ชื่อแพทองธาร แต่เป็นการอภิปรายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของเงินแผ่นดิน ว่านายกรัฐมนตรีใช้ช่องว่างทางกฎหมาย ทำนิติกรรมอำพราง หนีภาษี หนึ่งในคนที่อยู่บนห่วงโซ่อาหารก็คือแพทองธาร ชินวัตร

นายวิโรจน์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีโอนหุ้นบริษัท 19 บริษัท มูลค่า 9,330.5 ล้านบาท แต่มี 2 บริษัท มูลค่า 393.5 ล้านบาท โอนไปให้แม่และพี่สาว จึงถามว่าเป็นการโอนไปด้วยวิธีการใด เป็นการให้ หรือเป็นการขายหุ้น หุ้นตัวแรก คือ บริษัทอัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ 224.1 ล้านบาท โอนไปให้คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ผู้เป็นแม่ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2567 และหุ้นตัวที่สอง บริษัทประไหมสุหรี พรอพเพอร์ตี้จำกัด จำนวน 169.4 ล้านบาท โอนให้ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2567 ถ้าการโอนหุ้นของนายกรัฐมนตรีไปให้แม่และพี่สาว ก็ต้องมีภาระในการจ่ายภาษี กรณีของแม่ต้องเสียภาษีรับให้ 10.2 ล้านบาท ในขณะที่พี่สาว 8 ล้านบาท รวมแล้วรัฐต้องได้ 18.2 ล้านบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีทำนิติกรรมอำพรางในการหนีภาษีรับให้มาตั้งแต่ปี 2559 อ้างว่าให้โดยเสน่หา ภาษีซักสลึงก็ไม่ต้องเสีย

เมื่อถึงตรงนี้ นางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส. ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วง ว่านายวิโรจน์ไม่รู้สี่รู้แปด ทำให้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ที่ทำหน้าที่ประธานในการประชุมตักเตือนว่าอย่าใช้คำพูดประเด็นนี้ เขายังพูดอยู่ในประเด็น

นายวิโรจน์ จึงถามว่า นางนุชนาถประท้วงตามสัญญาว่าจ้างข้อไหน ทำให้นางนุชนารถ ไม่พอใจ ขอให้ถอนคำพูด นายวิโรจน์ จึงยอมถอน ก่อนกล่าวว่า “ก่อนจะประท้วง ขอให้ท่านผู้ประท้วงร้อง กี้ๆ” (ลูกกระจ๊อกในการ์ตูน) จึงยิ่งทำให้นางนุชนารถไม่พอใจ ขอให้ถอนคำพูดคำว่ากี้ๆด้วย นายวิโรจน์ จึงยอมถอน ก่อนจะอภิปรายต่อ

นายวิโรจน์ กล่าวว่า มนุษย์ที่ร่ำรวย ถ้าเขาไม่อยากจ่ายภาษีรับให้ พ่อแม่ส่วนใหญ่จะทยอยให้ ปีละไม่เกิน 20 ล้านบาท เพื่อไม่ต้องเข้าเกณฑ์เสียภาษี แทนที่นายกรัฐมนตรีจะทำเหมือนกับมนุษย์ทั่วไปที่เขาทำกัน กลับมีพฤติกรรมใช้ช่องว่างทางกฎหมายหลีกเลี่ยงภาษีรับให้มาตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา

นายวิโรจน์ ชี้ว่า เมื่อไปดูบัญชีทรัพย์สิน พบว่านายกรัฐมนตรีมีหนี้ 9 รายการ เป็นเอกสาร 9 แผ่นกระดาษ วิธีการที่นายกรัฐมนตรีใช้ แวดวงธุรกิจเรียกกันว่า ตั๋ว PN ซึ่งเป็นหนี้สินเชื่อ โดยนายกรัฐมนตรีซื้อหุ้นกับพี่สาว พี่ชาย ลุง ป้าสะใภ้ และแม่ เป็นการซื้อเชื่อ แล้วออกตั๋ว PN เพียงเท่านั้น ไม่ได้ซื้อขายจริง

นายวิโรจน์ ย้ำ ซื้อหุ้นกันภาษาอะไร ไม่มีกำหนดว่าจะจ่ายเงินค่าซื้อหุ้นกันเมื่อไหร่ ถ้าชาตินี้ไม่มีใครทวง แพทองธารก็ไม่ต้องจ่าย ลืมไปได้เลยว่าเคยเป็นหนี้ เพราะดอกเบี้ยก็ไม่มีใครคิด แพทองธารไม่ต้องกังวลเลยว่าจะต้องมีภาระในการจ่าย พี่ชาย พี่สาว ลุง ป้าสะใภ้ และแม่ เป็นเจ้าหนี้ที่แสนดี มีความกรุณามากๆ นอนกอดกระดาษ 9 ใบ โดยที่ไม่รู้ว่าเงิน 4,434.5 ล้านบาท จะได้เมื่อไหร่ โอ้โฮ ถ้าตั๋ว PN ทั้ง 9 ใบนี้ เป็นจริงตามที่ผมว่า ก็แสดงว่าการซื้อหุ้นของแพทองธาร ทำนิติกรรมบังหน้า เอาเปรียบประชาชน เป็นการบ่อนทำลายประเทศ”

ทำให้ ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วงว่า ประธานต้องควบคุมเตือนและตักเตือนนายวิโรจน์ เรื่องมาตรฐานจริยธรรม นายวิโรจน์ต้องรับผิดชอบในการเอาเอกสารต่างๆ ที่นำมาบรรยาย ถ้าไม่ใช่ความจริง ทำให้นายวิโรจน์ ตอบโต้ว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารในการชี้แจง ฝ่ายบริวารอย่ามายุ่ง

แต่ ทพญ. ศรีดาดา ไม่ยอม ระบุว่า ช่วยกรุณาถอนคำพูดด้วย การส่อเสียดกันมันไม่ควรเกิดขึ้น แต่นายวิโรจน์ไม่จบ กล่าวเล่นมุกต่อว่า ถ้าเป็นหมอฟัน ก็ถอนอยู่แล้ว

นายวิโรจน์ ลงรายะเอียดการออกตั๋ว PN เป็นการซื้อเชื่อรายคนให้กับญาติ โดยตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการซื้อปลอม ทำให้คนในครอบครัว คนในกงสี ไม่ต้องเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาเลยแม้แต่บาทเดียว นายกรัฐมนตรีและญาติติโกโหติกาก็ไม่ต้องจ่ายภาษีอะไร แม้แต่เศษเนื้อเศษกระดูกก็ไม่ให้ตกถึงท้องสรรพากร

“วันนี้หมดเวลาที่แพทองธารจะทำกงสี เตรียมกระดาษเงินกระดาษทองทำกงเต็กได้เลย…ผมไม่ได้รังเกียจคนรวย เพราะคนรวยคนอื่น เวลาที่เขาจะให้หุ้นลูก ให้เงินหลาน เขาก็เสียภาษีอย่างถูกต้อง แพทองธาร เขาเป็นคนแบบไหน เสียภาษีแบบมนุษย์มนาตรงไปตรงมาไม่ได้หรืออย่างไร คนหนีภาษีแบบนี้เรายังสมควรให้ลอยหน้าลอยตาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ต่อไปได้อย่างไร หน้าที่ของคนทั่วไปยังทำไม่ได้แล้วยังลอยหน้าลอยตาเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำของคนไทยทั้งประเทศได้อย่างไร” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีใช้ตั๋ว PN สร้างหนี้ปลอม หลีกเลี่ยงภาษีจำนวนสูงถึง 218.7ล้านบาท ตนอยากรู้จริงๆ ว่าชีวิตที่เป็นปลวกเป็นเพลี้ย คอยเอาเปรียบประชาชน ฉ้อฉลประเทศแบบนี้ เวลาที่คนอย่างแพทองธาร ชินวัตร เดินเฉิดฉายอยู่กลางแจ้ง เขาไม่เคยรู้สึกสำนึกสำเหนียกอายฟ้าอายดินบ้างหรือ...

จังหวะนี้ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ เตือนว่า ให้ระวังฉันการใช้คำส่อเสียด แต่นายวิโรจน์แย้งว่า เวลาพูดถึงคนหนีภาษีมันเดือด.. นายกรัฐมนตรีหนีภาษีถึงเกือบ 15% ของภาษีมรดกที่จัดเก็บได้ในปี 2567 ซึ่งถ้าพิจารณาถึงกระบวนท่ากันจริงๆ ถือเป็นกระบวนท่าที่ใช้ภายในจักรวาลชินวัตร ถ้าติดตามนวนิยายจีน จะทราบดีว่าเป็นเทคนิคการเคลื่อนย้ายจักรวาลที่เคยสั่นสะเทือนมาแล้วเมื่อปี 2544 หรือเมื่อ 20 ปีก่อน ตอนนั้นเจ้าสำนักไม่ใช่ใครยักย้ายถ่ายเท หรือซุกหุ้นกันในเฉพาะเครือญาติ แต่ถึงกับเอาไปซุกไว้กับคนรับใช้ เอาไปให้คนขับรถ ล้ำลึกมากๆ ตนประเด็นที่อภิปรายในวันนี้ไปยื่นให้อธิบดีกรมสรรพากร เพื่อตรวจสอบต่อ

จากนั้น จึงเกิดการประท้วง โดย นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อเพื่อไทย ท้วงติงว่า ออกทะเล นางนุชนาถ กล่าวว่า นายวิโรจน์จินตาการกว้างไกลมาก

ประธานสภาวันมูหะมัดนอร์ จึงเตือนนายวิโรจน์อีกครั้ง ว่าอย่าใช้คำเสียดสี ใส่ร้าย

อย่างไรก็ตาม สภาเริ่มกลับมาดุเดือดอีกครั้ง หลัง นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่หนึ่ง ขึ้นทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม

นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนทนฟัง มีแต่เสียดสี ฝ่ายค้านตระบัดสัตย์หรือไม่เพราะมีลุงไม่มีเรา และตอนนี้อยู่บำรุงแล้ว ทำให้นายวิโรจน์ สวนว่า อยู่ดีๆ ก็ด่าตัวเอง ร้องกี้ๆ สัก 2-3 ครั้งได้หรือไม่

แต่นายไชวัฒนา ยังตอบโต้ด้วยว่าตนคงไม่ไปต่อล้อต่อเถียง ทำให้นายพิเชษฐ์ ตัดบทว่า ไม่เป็นไรครับ และถามนายวิโรจน์ว่า กี้ๆ แปลว่าอะไร

“ท่านวิโรจน์ลองแปลซิ บางทีก็เป็นคำที่ไม่ควรใช้ในสภา แปลว่าอะไรครับ” นายพิเชษฐ์ กล่าว

นายวิโรจน์ จึงชี้แจงว่าเป็นคำปกติ ไม่ได้หยาบคายอะไร แต่เดี๋ยวเล่าแล้วยาว ทำให้นายพิเชษฐ์กล่าวว่า ถ้าไม่มีความหมายก็ไม่ควรนำมาใช้

นายวิโรจน์ กล่าวหาว่า คนอย่างนายกรัฐมนตรี มีความทุจริตเป็นที่ประจักษ์ ประชาชนเขาหวังฝากความหวังไว้กับผู้นำ แต่สุดท้ายเรากลับได้โจรใส่อาภรณ์ ขุนนางสวมรองเท้าไข่มุก แล้วพูดว่ามีกินมีใช้ ไปพร้อมพร้อมกัน ทำให้ ทพญ. ศรีญาดาลุกขึ้นมาอีกรอบ ประท้วงว่า อย่าเสียดสี โดยเฉพาะเมื่อพูดกับผู้หญิง

จากนั้น นายพิเชษฐ์ ได้กล่าวตักเตือน นายวิโรจน์จึงโต้แย้งว่าคำว่าทุจริต ถ้าพูดไม่ได้ก็อภิปรายไม่ได้แล้ว ก่อนกล่าวต่อว่า “คำว่ามีกินมีใช้ไปพร้อมพร้อมกัน แท้ที่จริงแล้วคือการหาช่องว่างทางกฎหมาย เพื่อให้มีกินกันเฉพาะกงสี ให้ได้อิ่มหมีเฉพาะตระกูลของตัวเอง แพทองธาร ชินวัตร นายกฯหนีภาษี ไม่มีศักดิ์ศรีที่จะดำรงตำแหน่งอีกต่อไปแล้ว ได้เวลาออกไปจากตึกไทยคู่ฟ้า กลับกรงสีที่บ้านจันทร์ส่องหล้าไปได้แล้ว จบนะครับ กี้”

จากนั้นนางนุชนาถ ประท้วงทันทีว่า นายวิโรจน์พูดเสียดสี เหมือนคนที่จะไม่ได้อยู่ในสภาอีกแล้ว แต่นายวิโรจน์ ใช้สิทธิ์พาดพิงว่า ถ้าอยู่ในสภา แล้วต้องอยู่ในฐานะเป็นลิ่วล้อ เป็นบริวารที่ไม่มีศักดิ์ศรี แต่ยังพูดไม่ทันจบ นายพิเชษฐ์ปิดไมค์ แล้วกล่าวว่า จบแล้ว

ต่อมา นายครูมานิตย์ ลุกกล่าวว่า ตั้งแต่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านฯ อภิปรายตนก็บอกกับทีมว่าอย่าประท้วงนะ ให้เกียรติหัวหน้าพรรคเขา แต่นายวิโรจน์อภิปรายด้วยความทุจริต มีการข่มขู่ว่าถ้าโหวตให้นายกรัฐมนตรีจะผิดข้อบังคับ ถือเป็นการกรรโชก

“วันนี้ขอให้พี่วิโรจน์ใจเย็นลงนิดหนึ่งน้อง หรือคุณพี่ที่เคารพครับ ใจเย็นนิดหนึ่ง เพราะเหมือนกับคนสติแตก” นายครูมานิตย์ กล่าว

นายพิเชษฐ์ จึงวินิจฉัยว่า การอยู่ในสภาเป็นตัวตนของแต่ละบุคคล ท่านจะสุภาพหรือไม่เป็นเรื่องของท่าน แต่ถ้าเกินไปก็ต้องประท้วง ประชาชนเขาตัดสิน

จากนั้น นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วงนายวิโรจน์ว่า อภิปรายเสียดสีมาโดยตลอด ต่อไปถ้าจะพูดจาอะไร ขอให้พยายามใช้สมอง แต่นี่เขาใช้สมองแค่ 2 ซีกเท่านั้น ได้แก่ 1.ยกตนข่มท่าน ด้อยค่าคนอื่น เสียดสีคนอื่น 2.ยกย่องพวกตัวเองเท่านั้น คนแบบนี้เหมาะสมเป็นหัวหน้าม็อบ ดังนั้น ประธานต้องวินิจฉัยอย่างเอาจริงเอาจัง เดี๋ยวมันจะได้ใจ ไอ้เหลือก!

ทำให้นายพิเชษฐ์วินิจฉัยว่า ตั้งแต่นายวันมูหะมัดนอร์มาถึงตน ตนพยายาม ตักเตือนนายวิโรจน์ว่าสุภาพหน่อย และให้เกียรตินายกรัฐมนตรีด้วย เพราะออกไปข้างนอก ประชาชนจะมองนายกรัฐมนตรีอย่างไร

นายวิโรจน์ จึงลุกขึ้นใช้สิทธิ์พาดพิงว่าไปถึงนายครูมานิตย์ ว่าตนคิดว่าการพูดถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ สส.ทุกคนเข้าใจถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ส่วน สส.อีกคน ตนไม่อยากเอ่ยชื่อ มาบอกว่าใช้สมองซีกซ้ายซีกขวา 2 ซีกอะไร ตนก็ยังดีใจที่ใช้สมอง แต่เมื่อกี้คำพูดของท่านชัดเจนว่าไม่มีสมอง

ทำให้นายธีระชัย ลุกขึ้นโต้ว่า “ถ้าจะต่อล้อต่อเถียง เขาประสบความสำเร็จอะไรบ้าง ผมอยากรู้ นอกจากใช้ปากเป็นอาวุธ ระวังปากด้วยครับ เดี๋ยวนี้ผมแก่แล้ว ไม่กลัวด้วยไอ้พวกปาก…” ซึ่งนายธีระชัยยังไม่ทันพูดจบ นายพิเชษฐ์ปิดไมค์ จนทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายโต้กันอย่างดุเดือดนอกไมค์


You might be intertested in this news.

Mostview

โทโฮคุ ชินคันเซ็น E5 ฮายาบุสะ 60 ตัวจริง จากหนังดัง "Bullet Train Explosion"

จากหนังแอ็คชั่นญี่ปุ่น "Bullet Train Explosion : ระเบิดรถด่วนขบวนระห่ำ" เรื่องราวชินคันเซ็น ขบวนฮายาบุสะ 6050B ถูกคนร้ายขู่วางระเบิด ห้ามรถวิ่งต่ำกว่า 100 กม./ชม. กับข้อมูลที่จะพาไปตามรอยเส้นทางรถไฟที่วิ่งเร็วสุดที่ 320 กม./ชม.จากชิน อาโอโมริตรงสู่โตเกียว

แนะนำหนังสือ-อีบุ๊ก นิยายน่าอ่าน ประจำเดือนพฤษภาคม

แนะนำหนังสือ-อีบุ๊ก นิยายน่าอ่าน ประจำเดือนพฤษภาคม...

ไฟฟ้าดับยุโรปคลี่คลาย สเปนกู้คืนได้ 50% โปรตุเกสไม่พบการโจมตีทางไซเบอร์

สเปน กู้คืนไฟฟ้ากลับเข้าระบบแล้ว 50% หลังไฟฟ้าดับวงกว้างกว่า 10 ชั่วโมง ด้านโปรตุเกสเจอรับผลกระทบไม่ต่างกัน จนต้องประชุมฉุกเฉิน 2 ประเทศ เร่งหาสาเหตุ-แก้ปัญหา ขณะที่ ยังไม่พบหลักฐานชี้ว่าเป็นการโจมตีทางไซเบอร์ ต่อโครงสร้างสาธารณูปโภค

ลิเวอร์พูลแชมป์ลีก20สมัย ความยืดหยุ่นสู่ความสำเร็จ (ชมคลิป)

ลิเวอร์พูลแชมป์ลีก20สมัย ความยืดหยุ่นสู่ความสำเร็จ

การบินไทย ตั้ง บ.ร่วมทุนกับ KMC ดัดแปลงโบอิ้ง 777-300ER เป็นเครื่องบินขนสินค้า

การบินไทยทำ MOU กับ KMC ผู้เชี่ยวชาญในการดัดแปลงอากาศยาน ในการนำเครื่องบินโดยสาร โบอิ้ง 777-300ER ทำเป็นเครื่องคาร์โกส่งสินค้าพิสัยไกลแบบมีประตูขนสินค้าที่ลำตัวส่วนหน้า ที่ฝ่ายช่างดอนเมือง-อู่ตะเภา อันจะสร้างการจ้างงานยกระดับอุตสาหกรรมซ่อมบำรุงอากาศยานไทย

TrustNEws Line