iRAP Robot ทีมหุ่นกู้ภัยแชมป์โลกจาก ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เข้าพื้นที่ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหวที่ย่านจตุจักร เพื่อนำหุ่นยนต์ สำรวจแล้วสแกนโครงสร้างอาคาร ทำแผนที่ 3 มิติ ไว้ใช้วางแผนช่วยผู้ประสบภัยที่ติดใต้ซากอาคาร

จากกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ศูนย์กลางอยู่ที่รอยเลื่อนสะกายใกล้เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา ส่งผลให้เกิดคลื่นสั่นสะเทือนมาไกลจนถึงประเทศไทยทั้งภาคเหนือ กลาง และกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รับรู้แรงสั่นสะเทือนที่รุนแรง ส่งผลให้อาคารของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ซึ่งอยู่ในระหว่างก่อสร้าง บริเวณ ถ.กำแพงเพชร เขตจตุจักร กทม. เกิดถล่มลงมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บและสูญหายเป็นจำนวนมากเมื่อวันที่ 28 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา

ต่อมา น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สั่งการให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) นำทีมหุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot มจพ. แชมป์โลก 10 สมัย เข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ เหตุอาคารของ สตง.ถล่ม โดยทีมหุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot ควบคุมโดย รศ.ดร.กิตติชัย ธนทรัพย์สิน คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ. จะนำหุ่นยนต์ฯ สำรวจภารกิจในพื้นที่อาคารถล่มร่วมกับเจ้าหน้าที่จากภาครัฐและภาคเอกชน โดยนำหุ่นยนต์สำรวจ จำนวน 3 ตัว เข้าร่วมภารกิจในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากภัยพิบัติซ้ำซ้อน

ทีมหุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot มีเป้าหมายในการสนับสนุนทีมหน่วยกู้ภัย และเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงผู้ประสบภัยในสถานการณ์วิกฤติ ด้วยหุ่นยนต์สำรวจในหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ หุ่นยนต์สำรวจเพื่อการกู้ภัยและหุ่นยนต์สำรวจขนาดเล็ก ซึ่งถูกออกแบบมาให้สามารถสร้างแผนที่สามมิติของพื้นที่ และเคลื่อนที่ผ่านสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน เช่น อาคารที่ถล่มหรือพื้นที่จำกัดการเข้าถึง ข้อมูลที่หุ่นยนต์เก็บรวบรวมได้จะช่วยให้หน่วยกู้ภัยสามารถประเมินสถานการณ์และวางแผนการช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หุ่นยนต์สำรวจขนาดเล็ก มีจุดเด่นที่ความคล่องตัวสูง เหมาะสำหรับการเข้าถึงพื้นที่แคบหรือซอกมุมต่างๆ พร้อมติดตั้งเซนเซอร์สำหรับตรวจวัดระดับออกซิเจนและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการประเมินความปลอดภัยของสภาพแวดล้อมก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปปฏิบัติงาน

ในขณะที่ หุ่นยนต์สำรวจเพื่อการกู้ภัย มาพร้อมแขนกลสำหรับหยิบจับหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของ และมีความสามารถในการเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่ต่างระดับ รวมถึงการขึ้นบันไดได้อย่างมีเสถียรภาพ พร้อมทั้งติดตั้งเซนเซอร์วัดอุณหภูมิเพื่อใช้ประเมินสภาวะความร้อนในพื้นที่ปฏิบัติงาน ซึ่งมีความสำคัญต่อการวางแผนและตัดสินใจของเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ร่วมปฏิบัติงาน

นอกจากนี้ กระทรวง อว.สนับสนุนนำอากาศยานไร้คนขับ 2 ตัว ช่วยภารกิจการสำรวจในครั้งนี้ด้วย โดยอากาศยานไร้คนขับ DJI Mavic 3 Enterprise ซึ่งเป็นโดรนที่มีศักยภาพสูง มีกล้องที่ให้ความละเอียดสูงและฟังก์ชันการซูมระยะไกล เพื่อใช้ในการสำรวจขอบเขตของความเสียหาย ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจจะถูกนำไปใช้วิเคราะห์เพื่อค้นหาผู้ประสบภัย และสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าถึงพื้นที่ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว

จากนั้น ทีมหุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot เข้าพื้นที่ทันที หลังเกิดเหตุเพื่อนำหุ่นยนต์เข้าสำรวจและสแกนตรวจสอบโครงสร้างตึกถล่ม ประเมินความปลอดภัย ก่อนให้กู้ภัยเข้าช่วยเหลือผู้รอดชีวิต โดยเข้าดำเนินการสแกนพื้นที่ในวันแรก 28 มี.ค.2568 เข้าออกพื้นที่ 2 รอบ พร้อมนำข้อมูลทั้งหมดมาทำการวิเคราะห์ข้อมูล แล้วสร้างเป็นแผนที่สามมิติเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

ต่อมา เวลา 02:45น. วันที่ 29 มี.ค.2568 ทีมงาน iRAP ได้เดินทางกลับมาจากพื้นที่อุบัติภัยหลังจากได้ส่งมอบแผนที่สามมิติให้กับทีมกู้ภัย เพื่อใช้ร่วมในการประเมินสถาณการณ์เบื้องต้น และรออัปเดตภาพถ่ายสามมิติด้วยโดรนจากทีมกู้ภัยอีกที เพื่อนำมารวมกันแล้วนำไปคำนวนปริมาตรของซากปรักหักพัง ในประมานค่าน้ำหนักของซากตึกดังกล่าว ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่ช่วยในการดำเนินการในขั้นต่อๆไปของพี่ๆทีมกู้ภัยได้ ทั้งนี้ แผนที่สามมิติ ตอนนี้มาจาก นักศึกษาเดินถืออุปกรณ์ scan แผนที่ ร่วมกับหุ่นยนต์ที่สำรวจภายในสร้างขึ้นที่ได้ระยะกว้าง เพราะตัวเซนเซอร์ lidar ที่ทีมใช้มีระยะสแกนที่ 400 เมตร

13.34 น.วันที่ 29 มี.ค.68 ทีมหุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot จากมหาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สนับสนุนกล้องโดรนรุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับงานกู้ภัย DJI Zenmuse H30T ให้กับสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ D.R.A.T กำลังปฎิบัติหน้าที่ค้นหาและสำรวจทางอากาศครับ

ต่อมา 18.00 น.อัพเดตข้อมูลการดำเนินการของวันนี้ครับ วันนี้ทางทีมได้เข้าสำรวจอาคารบริเวรทางเชื่อมซึ่งถูกซากอาคารปิดบังเส้นทาง และจากการส่งหุ่นยนต์เข้าไปสำรวจได้พบว่าเสาอาคารมีการร้าวและเสี่ยงอันตราย ขณะนี้ทางทีมได้ออกจากพื้นที่และกำลังประมวลผลข้อมูลแผนที่ทั้งหมดที่ได้ทำการสแกนเพื่อส่งมอบให้กับพี่เจ้าหน้าที่ครับ

เมื่อเวลา 21.26น.วันที่ 29 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา ทีมได้ส่งมอบแผนที่ 3D ของตึกทั้งหมด ทั้งภายนอกและภายในของตึก ตอนนี้สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่มีในตอนนี้ เพื่อมอบให้ทีมกู้ภัยใช้ประเมินและวางแผนการดำเนินงานต่อไป โดยทางทีม iRAP Robot ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่และสุดความสามารถแล้วครับ หวังว่าข้อมูลแผนที่ของเราจะทำให้การวางแผนค้นหาผู้รอดชีวิตที่เหลือมีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งนี้ ต้องขอบคุณข้อมูลแผนที่ภายนอกอาคารจากทีมโดรน สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ (D.R.A.T) ตัวอย่างการนำแผนที่ 3 มิติตัวนี้ไปใช้งาน คือ การประเมินปริมาตร หากนำค่าประมาณ ความหนาแน่นของคอนกรีตมาคำนวณ ก็จะได้เป็นน้ำหนักออกมา ตัวปริมาตรนี้เอามาประเมินเวลาการทำงานในการขนย้ายซากอาคารออกจากพื้นที่ได้

ต่อมาในค่ำคืนที่ 29 มี.ค.2568 ผ่านมายังไม่สามารถบินโดรนเพื่อภาพถ่ายสามมิติได้ เพราะภารกิจหลักตอนนี้คือบินโดรนเพื่อสำรวจหาสัญญาณชีพ ซึ่งถือเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุด ทางทีม iRAP เลยใช้การเดินสำรวจบริเวณรอบอาคารและใช้หุ่นยนต์สำรวจเพื่อสร้างแผนที่ในพื้นที่โซนกู้ภัย B นอกจากนี้ทางชุมนุมหุ่นยนต์ได้ให้พี่ๆทีมกู้ภัยยืม payload ที่มีอุปกรณ์ตรวจจับเวอร์ชั่นล่าสุดของ dji ใช้ในการสำรวจต่อไป

เมื่อวันที่ 13.00 น.วันที่ 30 มี.ค.2568 ทางเจ้าหน้าที่ให้ทีม iRAP Robot ดำเนินการสแกนพื้นที่เพิ่มเติมเนื่องจากพบว่าพื้น A ที่ได้สแกนไว้มีการเปลี่ยนแปลง ซากอาคารมีการทรุดตัวเพิ่ม

จากนั้น ประมาณ 15:00 น.ทางเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการประเมินความคืบหน้าการรื้อถอนจากทีมขุด โดยการเทียบความลึกของแผนที่ที่ได้ทำการสแกนเทียบกันเป็นระยะๆ

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 20:00 น.ทีมงานสรุปข้อมูลทั้งหมดส่งต่อให้กับทีมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่เราได้รับความช่วยเหลือจากทางประเทศอิสราเอล โดยการสั่งการจากนายกรัฐมนตรีประเทศอิสราเอล นายเบนจามิน เนทันยาฮู  เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและต่อเนื่องของการดำเนินการ ขณะนี้ ทางทีมงานยังอยู่ที่หน้างานเพื่อเตรียมพร้อมดำเนินการต่อไป.