วันอังคาร, มิถุนายน 17, 2568

ทำไมโจไบเดน จึงอภัยโทษลูกชาย?

by Trust News, 3 ธันวาคม 2567

มิถุนายน 2024 :

“ผมภูมิใจในตัวฮันเตอร์ ลูกชายของผม เขาสามารถเอาชนะเรื่องยาเสพติดได้แล้ว และเขาเป็นหนึ่งในผู้ชายที่สมาร์ทที่สุดคนหนึ่งที่ผมรู้จัก ผมขอบอกว่าผมจะปฏิบัติตามคำตัดสินของคณะลูกขุน ผมจะทำแบบนั้น ผมจะไม่อภัยโทษให้กับเขา”

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน

“โจและดิฉัน เราทั้งคู่เคารพต่อกระบวนการยุติธรรม และนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”

จิลล์ ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง

บรรทัดด้านบนทั้งหมดที่ “คุณ” เพิ่งผ่านสายตาไป คือ การกล่าวยืนกรานอย่างหนักแน่นของ 2 บุคคลที่ทรงอำนาจมากที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อกรณีที่ “นายฮันเตอร์ ไบเดน” บุตรชาย ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา และถูกคณะลูกขุน รัฐเดลาแวร์ ตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาญา โทษฐานให้การเท็จในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารเสพติดในเอกสารขอซื้ออาวุธปืน (รวม3กระทง) เมื่อปี 2018

รวมถึงในคดีที่ยอมรับสารภาพต่อศาลรัฐแคลิฟอร์เนีย ในคดีอาญาฐานหลีกเลี่ยงภาษี (รวม9กระทง โดยในจำนวนนี้เป็นความผิดลหุโทษ 3 กระทง) เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ซึ่งในคดีโทษฐานให้การเท็จในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารเสพติดในเอกสารขอซื้ออาวุธปืน นั้น มีกำหนดพิพากษาถึงบทลงโทษในวันที่ 12ธ.ค.24 ส่วนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการหลีกเลี่ยงภาษีซึ่งเขาได้รับสารภาพนั้น มีกำหนดพิพากษาถึงบทลงโทษในวันที่ 16ธ.ค.24

แต่แล้ว... เมื่อวันที่ 2ธ.ค.24 หรือก่อนถึงกำหนดการตัดสินบทลงโทษ เพียง 10 วัน จู่ๆ ท่านประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 ซึ่งกำลังจะก้าวลงจากตำแหน่งในเดือนมกราคมปี 2025 กลับออกแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษรผ่านทำเนียบขาว ด้วยการใช้อำนาจของประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศอภัยโทษ เพื่อ “ล้างมลทินทั้งหมด” ให้กับบุตรชายจอมอื้อฉาวเสียอย่างนั้น!

อะไรคือเหตุผลของ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน :

“Full and Unconditional Pardon หรือ การอภัยโทษแบบไร้เงื่อนไข….”

“การอภัยโทษครั้งนี้ เป็นการอภัยโทษแบบไร้เงื่อนไข ให้กับ นายฮันเตอร์ ไบเดน สำหรับการกระทำผิดใดที่ได้กระทำหรืออาจจะกระทำ หรือมีส่วนร่วมใดๆ ในช่วงระหว่างวันที่ 1ม.ค.2014 ถึง 1ธ.ค.2024” ถ้อยแถลงของทำเนียบขาว ต่อกรณีดังกล่าวในวันที่ 2ธ.ค.2024

แล้วการล้างมลทินทั้งหมดให้กับลูกชายของท่านประธานาธิบดีสหรัฐ มีเหตุผลอะไรรองรับบ้าง?

“ขาดไร้ซึ่งวิญญูชน ที่คอยทำหน้าที่พิจารณาข้อเท็จจริงต่างๆในคดีของฮันเตอร์ ที่อาจนำไปสู่ข้อสรุปอื่นใดได้ และสาเหตุสำคัญที่ทำให้คดีของฮันเตอร์ ถูกหยิบยกขึ้นมาให้กลายเป็นประเด็น ก็เป็นเพราะเขาเป็นลูกชายของผม ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

ผมเชื่อในกระบวนการยุติธรรม แต่ในขณะที่ผมต่อสู้กับเรื่องนี้ ผมเชื่อว่ามีการเมืองเข้ามาแทรกแซงกระบวนการที่เกิดขึ้น และมันนำไปสู่ความผิดพลาดในกระบวนการยุติธรรม

มีความพยายามที่จะทำลายฮันเตอร์ ซึ่งเก็บตัวและไม่ตอบโต้ใดๆมานานถึง 5 ปีครึ่ง แต่เขาก็ยังคงต้องเผชิญกับการถูกโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง รวมถึงมีการดำเนินการแบบเลือกปฏิบัติ เพื่อพยายามทำลายทั้งฮันเตอร์และผมอย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งยังมุ่งนำสิ่งที่เขาทำผิดพลาด ไปใช้เพื่อสร้างความอับอายต่อสาธารณชน รวมถึงทำให้เกิดภาพลบทางการเมืองต่อตัวของผมเองด้วย” เอกสารการแถลงอภัยโทษของ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุ

เพราะอะไร ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จึงตระบัดสัตย์ :

นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่ง ตั้งข้อสังเกตเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า การตัดสินใจ “ทำเพื่อลูก” ของ “โจ ไบเดน” ในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากพรรคเดโมแครตเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ต่อ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันอย่างชนิดหมดรูป

ซึ่งนั่นย่อมเท่ากับว่า “โอกาส” ที่จะใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อชาวเหลือบุตรชาย ย่อมต้องริบหรี่ลงอย่างแน่นอน หลังก้าวพ้นทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคมปีหน้า

ในขณะที่ “การยืนกราน” ของทั้งท่านประธานาธิบดีและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ก่อนหน้านี้ ก็น่าจะเป็นเพียงเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อ “ภาพลักษณ์ทางการเมือง” ของพรรคเดโมแครต หลังการประกาศถอนตัวเพื่อเปิดทางให้ “นางกมลา แฮร์ริส” เข้าสู่ศึกเลือกตั้งผู้นำสหรัฐก่อนหน้านี้เท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น การตัดสินใจที่ท่านผู้นำโจไบเดน ร้องขอต่อชาวอเมริกันเอาไว้ว่า...

“ชาวอเมริกันคงจะเข้าใจว่า ทำไมพ่อและประธานาธิบดีสหรัฐถึงได้ตัดสินใจแบบนี้”

มันยังเกิดขึ้นหลังจาก “อนาคตทางการเมือง” ของเจ้าตัวปิดประตูลั่นดาลลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากปัญหาด้านสุขภาพ และอายุอานาม จนถึงขั้นต้องยอมประกาศถอนตัว จากผู้แทนพรรคเดโมแครตในช่วงแทบจะถึงโค้งสุดท้าย ของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างสุดขมขื่นด้วย!

ความผูกพันธ์ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐและลูกชาย :

หากถามว่าเพราะอะไร “โจ ไบเดน” จึงผูกพันธ์กับลูกชายจอมอื้อฉาว จนนำไปสู่การตัดสินใจดังกล่าว ก็คงต้องย้อนหลังไปเมื่อครั้ง ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภารัฐเดลาแวร์ เมื่อปี 1972

แต่แล้วเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังความสำเร็จ ผู้นำสหรัฐคนปัจจุบัน ได้สูญเสียภรรยาคนแรกและลูกน้อยวัย 13 เดือน ไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขณะพากันออกไปซื้อต้นคริสต์มาส

แต่ก็ยังโชคดีอยู่บ้างที่ “ฮันเตอร์” และ “โบ” ซึ่งเป็นพี่ชาย ที่ขณะนั้นอายุเพียง 3 และ 4 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส รอดชีวิตมาได้ราวกับปาฏิหารย์

และด้วยความที่ลูกชายทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะ “ฮันเตอร์” นั้นถึงกับกะโหลกศีรษะร้าว ทำให้ผู้เป็นพ่อต้องพยายามเดินทางไปกลับ เพื่อพบกับลูกให้ได้ในทุกๆวัน ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อ “โบ” เสียชีวิตด้วยโรคเนื้องอกในสมองเมื่อปี 2015 ก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์พ่อลูกระหว่าง “โจ ไบเดน” และ “ฮันเตอร์ ไบเดน” ในฐานะทายาทคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ มีความสนิทแนบแน่นมากยิ่งขึ้นไปอีก

หากไม่ได้รับการอภัยโทษ “ฮันเตอร์ ไบเดน” จะได้รับโทษหนักแค่ไหน? :

จากความผิดทั้งหมด 12 กระทง หากฮันเตอร์ ไบเดน ถูกตัดสินว่ามีความผิดหรือรับสารภาพทั้งหมด เขาอาจได้รับโทษจำคุกสูงสุดรวมกันถึง 42 ปี ส่วนโทษปรับอยู่ที่ประมาณ 1.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (46ล้านบาท)

อย่างไรก็ดี กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เคยให้ความเห็นเอาไว้ว่า แม้ว่าในกรณีคดีที่เกี่ยวข้องกับภาษีอาจมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 17 ปี แต่โดยทั่วไปแล้ว ในความเป็นจริงผู้ต้องหามักได้รับโทษจำคุกน้อยกว่านั้น

แรงกระแทกหลังการตัดสินใจของพ่อและประธานาธิบดีสหรัฐ :

“จาเร็ต โพลิส” (Jared Polis) ผู้ว่าการรัฐโคโลราโด จาก พรรคเดโมแครต ออกมาแสดงความเห็นทันทีหลังประกาศอภัยโทษดังกล่าว โดยระบุว่า “น่าผิดหวัง” และการกระทำดังกล่าวจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียง ของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ

ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามอย่าง “พรรครีพับลิกัน” ออกมาแสดงท่าทีทันทีว่า “ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” ซึ่งหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาใช้ในการโจมตี “โจ ไบเดน” อย่างต่อเนื่องในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง จะเข้าไป “ฟื้นฟูกระบวนการยุติธรรมสหรัฐทันที” ที่ได้ก้าวเข้าไปทำงานในทำเนียบขาวเป็นสมัยที่ 2 ในเดือนมกราคมปีหน้า

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ในสหรัฐฯ ส่วนหนึ่งเชื่อว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ “พ่อช่วยลูก” ในครั้งนี้ขึ้น เมื่อใดก็ตามที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง มีความเป็นไปได้สูงมากที่ ท่านผู้นำคนใหม่ อาจใช้อำนาจของประธานาธิบดีสหรัฐ “อภัยโทษ” ให้กับบรรดาผู้สนับสนุน ที่ร่วมกันก่อเหตุจราจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6ม.ค.2021 ซึ่งขณะนี้ส่วนใหญ่ถูกตัดสินว่า “มีความผิด” และกำลังรับโทษอยู่ในเรือนจำก็เป็นได้!


You might be intertested in this news.

Mostview

โบอิ้ง 787 แอร์อินเดียแจ้ง "MAYDAY" ก่อนเครื่องตกใส่เขตชุมชนพร้อม 242 ชีวิต

เครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ส ของแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 171 เส้นทางอาเมดาบัด-ลอนดอน แกตวิค ตกกระแทกพื้นกลางย่านชุมชน หลังเพิ่งออกจากสนามบินพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 242 คนบนเครื่อง ทั้งนี้ มีรายงานว่านักบินแจ้งฉุกเฉิน เมย์เดย์ ก่อนร่วงพื้น

พร้อมตั้งแต่เมื่อวาน ทอ.โชว์ติดระเบิดนำวิถี KGGB เขี้ยวเล็บ เอฟ-16 ฝูง 103 โคราช

กองทัพอากาศไทย เผย วิดีโอคลิปบนเฟซบุ๊ก โชว์การติดตั้งอาวุธให้กับเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ฝูงบิน 103 นครราชสีมา ทั้งการโหลดกระสุนขนาด 20 มม.การติดตั้งมิสไซล์นำวิถีไซด์วายเดอร์ และ อาวุธใหม่ ระเบิดร่อนนำวิถีด้วย GPS แบบ KGGB ที่ซื้อจากเกาหลีใต้

ย้อนรอย จลาจลเผาสถานทูตไทย บทเรียนข่าวเท็จ กัมพูชา (2546)

ย้อนรอยเหตุเผาสถานทูตไทยในกัมพูชา จากน้ำผึ้งหยดเดียว ปล่อยข่าวคลั่งชาติ กล่าวหา “กบ สุวนันท์” หมิ่นกัมพูชา ลุกลามลามบานปลาย ก่อเหตุจลาจล คนไทยถูกล่า เอาชีวิต ผู้หญิงถูกล่า ลากจะขืนใจ สุดท้าย หาคนเบื้องหลังไม่ได้ ลงโทษผู้ก่อเหตุเบาหวิว แต่ต้องชดใช้มากกว่า

เครื่องบิน 787 แอร์อินเดียตกทับหอพักแพทย์ พบร่างแล้ว 204 ศพ มีรอดชีวิต 1 ราย

ความคืบหน้าเหตุ โบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์สของแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 171 เส้นทางอาเมดาบัด-ลอนดอน แกตวิค พร้อมคนบนเครื่อง 242 ชีวิตตกที่เมืองอาเมดาบัด โดยซากเครื่องทับหอพัก นศ.แพทย์ ล่าสุด พบผู้โดยสารรอดชีวิต 1 รายเป็นชายวัย 38 ปี ขณะที่พบศพแล้ว 204 ศพ

เพราะอะไรลิเวอร์พูลจึงยอมจ่ายแพง กับเบอร์10 ที่ชื่อ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ (ชมคลิป)

เพราะอะไรลิเวอร์พูลจึงยอมจ่ายแพง กับเบอร์10 ที่ชื่อ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ (ชมคลิป)

TrustNEws Line