วันเสาร์, สิงหาคม 2, 2568

ผ่ามุมคิดรัฐบาลสิงคโปร์ แม้โดนภาษีทรัมป์แค่10%

by Trust News, 7 เมษายน 2568

ผ่ามุมคิดรัฐบาลสิงคโปร์ แม้โดนภาษีทรัมป์แค่10%

"ความสงบสุขและเสถียรภาพโลก ที่เราเคยรู้จัก จะไม่หวนกลับมาในเร็ววันนี้”

นายลอว์เรนซ์ หว่อง (Lawrence Wong) นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์  

บรรทัดด้านบนนั้น คือ “คำเตือน” ของผู้นำสิงคโปร์ ที่ส่งตรงถึงพลเมืองของตนเอง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศใช้ภาษีแบบต่างตอบแทน (Reciprocal Tariff) กับ นานาชาติ จนทำให้นักวิเคราะห์ต่างหวั่นเกรงว่า มาตรการดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มต้นสู่สิ่งที่เรียกว่า “ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่” (Great Depression) เช่นในอดีต

ถึงแม้ว่าในกรณีของ สิงคโปร์ นั้น จะได้รับแรงกระแทกจากภาษีทรัมป์ในระดับ “เบาบาง” เพียง 10% ซึ่งต่ำที่สุดในบรรดาชาติอาเซียนก็ตามที!

แล้วเพราะเหตุใด จากมุมมองของ นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ “ภาษีทรัมป์” จึงน่าหวั่งเกรงสำหรับประเทศที่ได้ชื่อว่าเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดชาติหนึ่งในอาเซียนกันนะ?

วันนี้ “เรา” ลองไปผ่ามุมคิดสำหรับการรับแรงกระแทกวิกฤตเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น จากผู้นำท่านนี้ และเหล่าผู้คนในรัฐบาลสิงค์โปร์กันดู!

มุมมองผู้นำสิงคโปร์ที่มีต่อภาษีทรัมป์ :

มุมคิดของผู้นำสิงคโปร์ นั้น มองความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯในครั้งนี้เอาไว้ว่า เป็นที่ชัดเจนว่ามันคือความมุ่งหวังสำหรับการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลกครั้งใหญ่ ซึ่งจะเป็นผลทำให้หลักการพื้นฐานของโลกาภิวัฒน์และการค้าเสรีสิ้นสุดลง เพื่อเปลี่ยนไปสู่ระบบการทำอะไรตามอำเภอใจ การกีดกันทางการค้า ซึ่งจะเป็นอันตรายมากขึ้น  

ที่ผ่านมาระบบขององค์กรการค้าโลก หรือ  WTO นำมาซึ่งความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน สู่ทั้งโลกและสหรัฐเอง และแม้ว่าระบบดังกล่าวอาจไม่สมบูรณ์แบบ จนทำให้ทั้งสิงคโปร์และอีกหลายๆประเทศ เรียกร้องให้มีการปฏิรูปเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์ต่างๆเพื่อไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น

หากแต่สิ่งที่สหรัฐกำลังทำในเวลานี้ ไม่ใช่การปฏิรูป แต่มันคือการละทิ้งระบบทั้งหมดที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อไปสู่แนวทางใหม่ของการใช้มาตรการภาษีตอบโต้แบบประเทศต่อประเทศ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการปฏิเสธกติกาของ WTO อย่างสมบูรณ์

กำแพงภาษีเพียง 10% เหตุใดสิงคโปร์จึงต้องกังวล :

แม้ว่าสิงคโปร์ อาจได้รับผลกระทบโดยตรงในกรอบที่จำกัด จากการถูกตั้งกำแพงภาษีเพียง 10% ในเวลานี้ แต่ชาวสิงคโปร์ จำเป็นต้องมองอันตรายที่กำลังก่อตัวขึ้นในโลกอย่างชัดเจน อันเป็นผลจากองค์กรนานาชาติอ่อนแอลง รวมถึงกฎเกณฑ์ระหว่างประชาคมโลกเริ่มเสื่อมถอย

สิ่งเหล่านี้ จะส่งผลให้ประเทศต่างๆ เริ่มดำเนินมาตรการเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงใช้กำลังและแรงกดดันต่างๆ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ

ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ไม่เพียงแต่ประเทศขนาดเล็กแบบสิงคโปร์ จะมีความเสี่ยงสูง ที่จะถูกกดดัน บีบคั้น จนกระทั่งถูกทิ้งไว้ข้างหลังเท่านั้น หากแต่สงครามการค้าที่จะเกิดขึ้น อาจลุกลามบานปลายจนกระทั่งเปลี่ยนไปเป็นการสู้รบกันด้วยอาวุธ และกลายเป็นสงคราม เช่นเดียวกับที่โลกเคยประสบพบเจอมาแล้วในช่วงปี 1930  

ดังนั้น สิงคโปร์จึงต้องเฝ้าระวัง และสร้างขีดความสามารถของตัวเอง รวมถึงเสริมการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับประเทศพันธมิตรที่มีแนวคิดเช่นเดียวกัน

แล้วนอกจาก นายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง เหล่าบุคคลสำคัญในรัฐบาลสิงคโปร์ มีมุมมองต่อความเสี่ยงที่เกิดขึ้นอย่างไรกันบ้าง?

“เรา” ไปเริ่มกันที่มุมคิดของ นายกัน คิมยอง (Gan Kim Yong) รองนายกรัฐมนตรีสิงค์โปร์ ต่อประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นกันดีกว่า…

แม้ว่าสิงคโปร์ จะถูกตั้งกำแพงภาษีในระดับต่ำที่สุด แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะรุนแรง ด้วยเหตุนี้ สิงคโปร์จึงต้องประเมินการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งเดิมมีการประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ในปีนี้ เอาไว้ที่ 1-3% นั้น อาจจำเป็นที่จะต้องมีการทบทวนใหม่ในเวลาที่เหมาะสม

ขณะเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรีสิงค์โปร์ ยังได้ “เตือน” พลเมืองของตัวเองด้วยว่า ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจในประเทศ จะต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการรับมือ “ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น” และรัฐบาลสิงคโปร์พร้อมออกมาตรการช่วยเหลือต่างๆหากมีความจำเป็น

ขณะที่ นายวิเวียน บาลากริชนัน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสิงคโปร์ มองผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสิงคโปร์จากภาษีทรัมป์ว่า จำทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น เงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

หากแต่ที่ร้ายที่สุดที่น่ากังวล คือ แรงกดดันอย่างมหาศาลสำหรับมาตรการต่างๆที่แต่ละประเทศจะนำมาใช้ในการทำข้อตกลงทางการค้าระหว่างกัน ซึ่งประเด็นนี้ อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของแต่ละประเทศในการทำงานร่วมกันสำหรับการแก้ไขปัญหาในระดับโลก เช่น ปัญหาการแพร่ระบาดโรค การเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ และความร่วมมือในการพัฒนา AI ในอนาคต

ด้าน นายลี เซียน ลุง อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุถึงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นว่า “การเติบโตทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์จะได้รับผลกระทบ” แม้ว่าจะยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่า จะมากหรือน้อยเพียงใด

อย่างไรก็ดี รัฐบาลสิงคโปร์ “ไม่ควร” ตอบโต้ด้วยการ “ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ” แม้ว่าหลายๆประเทศอาจดำเนินการในลักษณะดังกล่าวก็ตาม เพราะการทำเช่นนั้นอาจเป็นการจุดชนวนวงจรอุบาทว์ของการขึ้นภาษีที่ทวีความรุนแรงขึ้น

ทั้งนี้ สหรัฐฯมียอดเกินดุลการค้าสินค้ากับสิงคโปร์ ถึง 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (96,683ล้านบาท) ในปี 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 84.8% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2023 (อ้างอิงจากเว็บไซต์ของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ) ด้วยเหตุนี้ สิงคโปร์ จึงถูกตั้งคำแพงภาษีในระดับต่ำที่สุดในบรรดาชาติอาเซียน (10%)

โดยอันดับที่ 1 คือ กัมพูชา 49% อันดับที่ 2 คือ ลาว 48% อันดับที่ 3 คือ เวียดนาม 46% อันดับที่ 4 คือ เมียนมา 44% อันดับที่ 5 คือ ไทย 36% อันดับที่ 6 คือ อินโดนีเซีย 32% อันดับที่ 7 คือ บรูไน 24% อันดับที่ 8 คือ มาเลเซีย 24% อันดับที่ 9 คือ ฟิลิปปินส์ 17%

อ่านมาถึงบรรทัดนี้ จากบทความอันแสนยาวยืด “คุณ” มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง?

เริ่มมีขอบตาร้อนผ่าว เพราะรู้สึกริษยาชาวสิงคโปร์ ที่มีรัฐบาลซึ่งมองโลกด้วยความระมัดระวังและเตรียมพร้อมอยู่เสมอเพื่อรับมือสารพัดปัญหาที่เกิดขึ้นเหมือนกันแล้วใช่ไหม?


You might be intertested in this news.

Mostview

ทหารเตือน ระวังอันตราย ขีปนาวุธ PHL-03 ระยะยิงกว่า 130 กม.จากแนวชายแดน

กองทัพภาคที่ 2 เตือนพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระวังอันตรายจาก PHL-03 ขีปนาวุธ พื้นสู่พื้นหลายท่อยิงของฝ่ายกัมพูชา ชี้พิสัยไกล 130 กม. อาจตกใส่เขตชุมชนแบบไม่พึงประสงค์ ทั้งนี้ พยายามอยู่ห่างจากที่ตั้งหน่วยงานราชการไว้ก่อน

ทหารไทยยึด "ภูมะเขือ" ได้ นาวิกโยธิน เข้าขับไล่ทหารกัมพูชาพ้น "บ้านชำราก"

กองทัพไทย รายงานการปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยกองทัพภาคที่ 2 แจ้งทหารไทยตรึงกำลังเข้ายึด "ภูมะเขือ" ไล่ทหารกัมพูชาลงเขา ขณะที่ กองทัพเรือ เปิดยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี 1” ส่ง นาวิกโยธินไล่ตะเพิดทหารกัมพูชาที่บุก "บ้านชำราก" พ้นแผ่นดินไทย

รีวิวหนัง “อ่านชะตาวันสิ้นโลก” CG อลังก์ หนังมันส์แบบ nonstop

ดูมาแล้ว สำหรับ หนังฟอร์มยักของเกาหลี “อ่านชะตาวันสิ้นโลก” หรือ Omniscient Reader: The Prophecy หนังที่ใช้ทุนสร้างมหาศาล โดยดัดแปลงเนื้อหามาจาก “มังฮวา” ชื่อดัง ที่มีการเขียนลงในเว็บโนเวล

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ส.ค.2025)

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ส.ค.2025)

กองทัพอากาศ แจงข่าวสวีเดนปฏิเสธขาย Gripen ให้ไทย เป็นเฟคนิวส์ฝั่งกัมพูชา

กองทัพอากาศ ยืนยัน ข่าวกรณี สื่อของกัมพูชารายงานอ้างว่า สวีเดนระงับการขายเครื่องบินขับไล่ Gripen เพิ่มเติม ให้กับไทยทั้งหมด “ข่าวบิดเบือนความจริง” โครงการดังกล่าว ยังคงอยู่ในระหว่างกระบวนการจัดซื้อ

TrustNEws Line