วันจันทร์, มิถุนายน 16, 2568

รำลึกจิตวิญญาณฮอนด้า

by Trust News, 3 กุมภาพันธ์ 2568

“การลงมือทำที่ปราศจากทฤษฏี ถือเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนทฤษฏีที่ปราศจากการลงมือทำ นั้นช่างไร้ค่า”

คำกล่าวของ "ฮอนดะ โซอิจิโร่” (Honda Soichiro) บิดาผู้ก่อตั้งฮอนด้าผู้ล่วงลับ และปัจจุบัน คำกล่าวนี้ถือเป็นปรัชญาประจำบริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นแห่งนี้ด้วย!

เพราะอะไร “เรา” จึงต้องหยิบยกปรัชญาดังว่านี้ ขึ้นมาเป็น “หัวข้อการสนทนา” ในวันนี้ กันน่ะหรือ? ก่อนจะไปกันตรงนั้น “เรา” ขอสรุป “ปฏิบัติการรวมกันเราอยู่” ระหว่าง “ฮอนด้า” (Honda) และ “นิสสัน” (Nissan) ซึ่งจะเป็นเรื่องราวที่เชื่อมโยงไปถึง “ประโยคอันอุดมไปด้วยความจริง” ในบรรทัดแรกสุดนั้นกันเสียก่อน…

สำหรับ “ปฏิบัติการรวมกันเราอยู่” ระหว่าง “ฮอนด้าและนิสสัน” ได้คืบหน้าไปอีกขั้น หลังทั้ง 2 แบรนด์ยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ได้ร่วมกันลงนามใน “บันทึกความเข้าใจ” ซึ่งมีเนื้อหาระบุถึงการก่อตั้ง Holding Company ขึ้นมาดูแลเรื่องการผนึกกำลังทางธุรกิจในครั้งนี้ โดยที่ฝ่ายฮอนด้า จะรับบทบาทหน้าที่ในการเป็นผู้นำทีมบริหารชุดใหม่

โดยเบื้องต้นมีการกำหนดกรอบระยะเวลา เรื่องการกำหนดข้อตกลงการควบรวมกิจการอย่างเป็นทางการ ภายในเดือนมิถุนายน ปี 2025 และจะมีการลงนามในข้อตกลงดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ภายในเดือนสิงหาคม ปี 2026 และนําหุ้นบริษัทใหม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนบริษัทเดิม Honda และ Nisson จะออกจากตลาดหุ้นต่อไป

นอกจากนี้ บันทีกความเข้าใจดังกล่าว ยังมีการระบุถึง “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป” พันธมิตรของ “นิสสัน” ซึ่งจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการควบรวมกิจการครั้งประวัติศาสตร์แห่งวงการรถยนต์โลกนี้ด้วย

ทั้งนี้ จากการประเมินมูลค่าตลาดของผู้ผลิตรถยนต์ทั้ง 3 แบรนด์ ในเบื้องต้นคาดว่า จะทำให้เกิด ยักษ์ตัวใหม่แห่งวงการอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ที่มีมูลค่ามหาศาลถึงประมาณ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.7ล้านล้านบาท)

โดยปัจจุบันทั้ง 3 บริษัทกำลังอยู่ในขั้นตอน การพิจารณาใช้ทรัพยากรหลายด้านร่วมกัน อาทิ การวิจัยและพัฒนา การจัดหาชิ้นส่วน สายพานการผลิต และแน่นอน สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับตลาดยานยนต์ในยุคนี้ คือ เทคโนโลยีในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า…

เพราะอะไรจึงต้องรวมกันเราอยู่?

สถานการณ์ของ นิสสัน (Nissan) :

ธุรกิจของ “นิสสัน” เริ่มเลวร้ายลงตามลำดับ นับตั้งแต่เกิดเรื่องอื้อฉาวต่างๆนานาจากฝีมือของ “คาร์ลอส กอส์น” (Carlos Ghosn) อดีตประธานบริษัท ซึ่งนำไปสู่การจับกุมในข้อหาฉ้อโกงและใช้ทรัพย์สินของบริษัทในทางที่ผิด ก่อนที่เจ้าตัวจะหลบหนีประกัน ไปยังประเทศเลบานอนด้วยกลยุทธ์ที่ชวนอึ้ง! เมื่อปี 2018

และล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัทจำเป็นต้องประกาศลดพนักงานลงมากถึง 9,000 ตำแหน่ง หรือคิดเป็น 6% ของจำนวนพนักงานทั่วโลก อีกทั้งยังต้องลดกำลังการผลิตทั่วโลกลงมากถึง 20% หลังผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ขาดทุนเป็นตัวเลขสูงถึง 9,300 ล้านเยน! (2,018ล้านบาท)

จากปัญหายอดขายที่ร่วงลงอย่างหนักในตลาดอเมริกาเหนือและประเทศจีน จนถึงขั้นต้องปรับลดราคารถยนต์ลงอย่างมากมาย เพื่อดิ้นรนต่อสู้กับการไหลบ่าของรถยนต์จากประเทศจีน รวมถึงยังมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่ล่าช้ากว่ากำหนดอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเร็วๆนี้ “Fitch Ratings” สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ยังได้ปรับแนวโน้มความน่าเชื่อถือ ของ “นิสสัน” ให้เป็น “ลบ” (Negative) จากความสามารถในการทำกำไรที่ย่ำแย่ลง จากการปรับลดราคาครั้งใหญ่ในตลาดอเมริกาเหนือ รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับโครงสร้างทางการเงินของบริษัทด้วย

และด้วยสถานการณ์อันย่ำแย่นี่เอง จึงมีกระแสข่าวแพร่สะพัดที่ว่า “เรโนลต์ เอสเอ” (Renault SA) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของยุโรป ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนที่สูงถึง 35% แสดงออกถึงความตั้งใจที่ต้องการจะ “ขายหุ้นนิสสัน” ออกไปด้วย!

สถานการณ์ของ ฮอนด้า (Honda) :

แม้ว่ายอดขายรถยนต์ไฮบริดของ “ฮอนด้า” ในตลาดอเมริกาเหนือยังคงเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจ จนเป็นผลให้บริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถรักษาระดับ “ผลกำไร” ในปีงบประมาณ สิ้นสุดเดือนมีนาคม ปี 2025 ได้เท่ากับปีก่อน

หากแต่สิ่งที่น่าเป็นกังวล คือ ในตลาดรถยนต์ประเทศจีนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “ฮอนด้า” กลับสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศจีน โดยเฉพาะ BYD อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของฮอนด้า ยังตามหลังบรรดาแบรนด์จีนอยู่มากด้วยเช่นกัน

และไม่เพียงเท่านั้น “กลยุทธพันธมิตร” ระหว่างฮอนด้าและเจนเนอรัลมอเตอร์ส (GM) เพื่อร่วมมือกันในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าก่อนหน้านี้ ก็เพิ่งประสบปัญหา หลัง GM ยุติความร่วมมือในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและถอนตัวจากธุรกิจแท็กซี่ไร้คนขับ

จากสถานการณ์ดังกล่าว เมื่อประกอบกับการที่ “ฮอนด้า” มีพันธมิตรซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปที่มีศักยภาพจำกัดในการ “แชร์ส่วนแบ่งต้นทุนการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า” ด้วยเหตุนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเพราะอะไร “ฮอนด้าจึงต้องมองมาที่นิสสัน” เพื่อเป็นพันธมิตรคนสำคัญในการต่อสู้ธุรกิจยานยนต์ในอนาคตต่อไป

เอาล่ะ..... “ทุกท่าน” ขอจบการบรรยายสรุป “การควบรวมกิจการฮอนด้าและนิสสัน” เอาไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อน!

และจากบรรทัดนี้ไป คือ หัวข้อสำคัญดังที่ “เรา” ได้ พาดหัวเรียกร้องความสนใจจาก “คุณ” ไปในบรรทัดแรกสุดนั่นคือ… อะไรคือสิ่งที่น่าลองมองย้อนกลับไป และอาจเป็นผลให้ทั้งสองบริษัทไม่จำเป็นต้อง “ควบรวมกิจการ” ในลักษณะ “รวมกันเราอยู่” เช่นนี้ก็เป็นได้!

ทฤษฏีที่ปราศจากการลงมือทำนั้นไร้ค่า (Philosophy Without Action Is Worthless) :

“พวกคุณทุกคนมาทำอะไรที่นี่? ดูเหมือนจะมาศึกษาเรื่องบริหารสินะ ถ้าว่างทำเรื่องอย่างนั้นล่ะก็ รีบกลับไปทำงานต่อที่บริษัทให้เร็วที่สุดเถอะ คิดว่ามาเข้าออนเซ็น กินดื่มแบบนี้แล้ว คิดว่าจะศึกษาเรื่องบริหารได้รึไง

หลักฐานอยู่ที่นี่ ผมไม่เคยให้ใครสอนเรื่องบริหารเลย ขนาดผู้ชายแบบผมยังบริหารบริษัทได้เลย สิ่งที่ต้องทำมีเรื่องเดียวคือ รีบกลับไปบริษัทแล้วทุ่มเททำงานซะ!” “ฮอนดะ โซอิจิโร่” (Honda Soichiro) บิดาผู้ก่อตั้งฮอนด้า

“อินาโมริ คาซึโอะ” (Inamori Kazuo) ผู้ก่อตั้ง-ผู้บริหารบริษัทเคียวเซร่า (Kyocera) และเป็นผู้กอบกู้สายการบินแห่งชาติญี่ปุ่น JAL ที่ใกล้ล่มสลายให้กลับมาพลิกฟื้นมีกำไรได้อย่างมหัศจรรย์ ได้บอกเล่าเอาไว้ในหนังสือ A Fighting Spirit ถึงเจ้าของประโยคข้างต้น

หลัง “ฮอนดะ โซอิจิโร่” ซึ่งมาในชุดเปื้อนคราบน้ำมัน ได้พูดประโยคดังกล่าวขึ้นในทันทีที่ปรากฏตัวในฐานะผู้บรรยายงานสัมมนาการบริหาร ที่มีราคาเข้ารับฟังการบรรยายที่สุดแสนแพง!

และไม่ใช่เพียงแค่นี้ ยังมีอีกหนึ่งประโยคสำคัญซึ่ง “บิดาแห่งฮอนด้า” ได้เคยกล่าวถึงปรัชญาการบริหารงานที่ว่า “เน้นประสบการณ์ในสถานการณ์จริง ไม่ใช่เน้นเพียงแค่ทฤษฏี” เอาไว้อย่างน่าสนใจและสอดคล้องกับประโยคข้างต้นนั่นก็คือ….

“คนที่จะทำการวิจัยตลาดได้ดี ต้องเป็นคนที่คิดอะไรได้หลายแง่มุม เข้าใจสถานการณ์ได้หลากหลาย และมองเห็นภาพรวมของปัญหาได้ชัดเจน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่สำคัญด้วย!”

และ... “การทำวิจัยตลาดเป็นเพียงวิธีการส่งเสริมภาพลักษณ์ของผม แต่จะไม่สามารถเป็นปัจจัยในการกำหนดนโยบายของผมได้”

เพราะอะไร “เรา” จึงต้องยกปรัชญาของ “ฮอนดะ โซอิจิโร่” ขึ้นมาทบทวนกันในกรณี “รวมกันเราอยู่” ที่ว่านี้ นั่นก็เป็นเพราะ…. มีบทวิเคราะห์จากมุมมองของสื่อด้านเศรษฐกิจญี่ปุ่น ต่อการควบรวมกิจการครั้งนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจที่ว่า…

“ความล้มเหลว” ในตลาดจีนของทั้งฮอนด้าและนิสสัน เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของแบรนด์ญี่ปุ่น ที่ตกเป็นเหยื่อหลุมพรางในการทำวิจัยตลาด ภายใต้ทัศนคติเดิมๆที่ว่า…

“ตราบใดที่ยังขายได้ดี ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงใดๆ”

ทั้งๆที่สภาพตลาดในปัจจุบัน นั้น มีลูกค้าเพียงไม่กี่คน ที่ซื้อเพราะชื่นชอบนิสสัน หรือ มีความผูกพันธ์กับฮอนด้าอีกแล้ว หลายๆคนซื้อรถยนต์ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ เช่น รถยนต์นิสสันมีสมรรถนะดี หรือ รถยนต์ของฮอนด้ามีราคาที่เหมาะสมและใช้ได้ดี และเมื่อใดก็ตามที่มีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มีจุดเด่นเรื่องนวัตกรรมที่ล้ำหน้า หรือ มีสมรรถนะเท่าเดิมแต่ราคาถูกลงออกสู่ตลาด ลูกค้าก็มักจะเปลี่ยนใจไปซื้อได้โดยไม่ลังเล!

ด้วยเหตุนี้ การควบรวมกิจการระหว่างฮอนด้าและนิสสัน จึงถือเป็น “ความท้าทายครั้งสำคัญ” สำหรับทั้งสองบริษัทในแง่ที่ว่า…จะสามารถฟื้นฟูวิสัยทัศน์ของ “บิดาแห่งฮอนด้า” ซึ่งเน้นย้ำมาโดยตลอดว่า…

“ความคิดของมนุษย์นั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น ความหาญกล้าในการปฏิรูปใดๆ ย่อมต้องไม่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีต”

นอกจากนี้ ในมุมมองของสื่อญี่ปุ่น ยังมีการพูดถึงความจำเป็นเร่งด่วนลำดับต้นๆ ที่ทั้งฮอนด้าและนิสสัน ควรจะต้องรีบทำหลังจากนี้ คือ ต้องมองหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านแบตเตอร์รี่รถยนต์ และ ซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยในการขับขี่ เพื่อนำไปสู่การพัฒนากลยุทธ์แบรนด์ใหม่ ที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากแข็งเดิมเรื่อง “คุณภาพและความน่าเชื่อถือ” ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วย

อ่านมาถึงบรรทัดนี้ จากบทความอันแสนยาวยืด “คุณ” มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้างกับ “ปฏิบัติการรวมกันเราอยู่ของฮอนด้าและนิสสัน”


You might be intertested in this news.

Mostview

โบอิ้ง 787 แอร์อินเดียแจ้ง "MAYDAY" ก่อนเครื่องตกใส่เขตชุมชนพร้อม 242 ชีวิต

เครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ส ของแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI 171 เส้นทางอาเมดาบัด-ลอนดอน แกตวิค ตกกระแทกพื้นกลางย่านชุมชน หลังเพิ่งออกจากสนามบินพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 242 คนบนเครื่อง ทั้งนี้ มีรายงานว่านักบินแจ้งฉุกเฉิน เมย์เดย์ ก่อนร่วงพื้น

พร้อมตั้งแต่เมื่อวาน ทอ.โชว์ติดระเบิดนำวิถี KGGB เขี้ยวเล็บ เอฟ-16 ฝูง 103 โคราช

กองทัพอากาศไทย เผย วิดีโอคลิปบนเฟซบุ๊ก โชว์การติดตั้งอาวุธให้กับเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ฝูงบิน 103 นครราชสีมา ทั้งการโหลดกระสุนขนาด 20 มม.การติดตั้งมิสไซล์นำวิถีไซด์วายเดอร์ และ อาวุธใหม่ ระเบิดร่อนนำวิถีด้วย GPS แบบ KGGB ที่ซื้อจากเกาหลีใต้

"ตั๊ก - สุนารี - ฮาย” 3 เพื่อนซี้พร้อมฟาด! ใน “สามตัวบน คอนเสิร์ต”

ตั๊ก - สุนารี - ฮาย” 3 เพื่อนซี้พร้อมฟาด! ใน “สามตัวบน คอนเสิร์ต” จองบัตร 14 มิถุนายนนี้ ....

เป็นโค้ช กับ ว่ายน้ำเองไม่เหมือนกัน มุมคิด คนจับปลา ชื่อ ตี๋ เว่ยเจี๋ย (ชมคลิป)

เป็นโค้ช กับ ว่ายน้ำเองไม่เหมือนกัน มุมคิด คนจับปลา ชื่อ ตี๋ เว่ยเจี๋ย (ชมคลิป)

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (10มิ.ย.68) เก็งทําไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (10มิ.ย.68) เก็งทําไรในกรอบ

TrustNEws Line