วันศุกร์, พฤษภาคม 2, 2568

VF-124 กันไฟท์เตอร์ส ฝูงฝึกนักบิน "แมวประจัญบาน" F-14 Tomcat

by Trust News, 3 กุมภาพันธ์ 2568

ทำความรู้จักฝูงบิน VF-124 Gunfighters แห่งกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ที่รับบทบาทฝึกนักบินรบในทศวรรษที่ 70-80 ให้เปลี่ยนผ่านแบบเครื่องบินรบจาก เอฟ-4 แฟนธอม ทู มาสู่ เอฟ-14 เอ ทอมแคท (F-14 Tomcat)

สำหรับผู้ที่สนใจด้านการบินและชื่นชอบเครื่องบินรบและประวัติศาสตร์สงคราม หลายคนคงรู้จักสงครามเวียดนามเป็นอย่างดี เรื่องเล่าเครื่องบินรบตอนนี้ ขอพาไปทำความรู้จักฝูงบินรบของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ที่รับบทบาทในการปิดทองหลังพระ ในการฝึกนักบินรบในทศวรรษที่ 70-80 ที่อยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านแบบเครื่องบินรบหลัก จาก เอฟ-4 เอ็น/เจ แฟนทอม ทู ในช่วงปลายสงครามเวียดนาม ไปสู่เครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ ที่พัฒนามาในโครงการ VFX ของกองทัพเรือสหรัฐนั่น คือ เอฟ-14 เอ ทอมแคท (F-14 Tomcat) บับฝูงบินขับไล่ที่ 124 (VF-124 Gunfighters) ตำนานฝูงบิน Fleet Replacement Squadron : FRS

ต้นกำเนิดฝูงบิน VF-124

ฝูงบินกันไฟท์เตอร์ส เริ่มต้นขึ้นมาในช่วงปี 1948 ภายใต้ชื่อฝูงบิน VF-53 ฝึกนักบินในการบินกับเครื่องบินขับไล่ใบพัดแบบ F-4U4B คอร์แซร์ จนถึงปี 1953 หลังเกิดสงครามเกาหลี ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนเลขมาเป็น VF-124 ในปี 1958 มีฐานปฏิบัติการอยู่ที่สถานีการบินทหารเรือ ม็อฟแฟตส์ ฟิลด์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ต่อมาเมื่อปี 1961 จากการเข้าประจำการของเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่เป็นแบบปีกลู่หลังมากขึ้น อาทิ เครื่องบินขับไล่ไอพ่นแบบ เอฟ-8 ครูเซเดอร์ ที่เป็นเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ ความเร็วเหนือเสียงที่ติดปืนกล 20 มม.และอาวุธปล่อยนำวิถีไซด์วายเดอร์ และ F-7U คัทลัส เครื่องบินขับไล่ไอพ่นประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน ที่มีดีไซน์ล้ำสมัย มีปีกลู่หลังและไม่มีแพนหางระดับ ทำให้การฝึกนักบินเพื่อบินกับเครื่องบินรุ่นใหม่ๆ มีมากขึ้น จึงได้ย้ายฐานการบินมาอยู่ที่ สถานีการบินทหารเรือมิรามา ที่เมืองซาน ดิเอโก และกลายเป็นฐานบินหลักที่ใช้ฝึกนักบินนาวีของ ทร.สหรัฐสำหรับกำลังฝั่งแปซิฟิก

การมาของ เอฟ-14 ทอมแคท

หลังจาก เอฟ-14 ทอมแคท เข้าประจำการในกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ในปี 1972 โดยมีบทบาทหลักในด้านการป้องกันทางอากาศและการทำงานร่วมกับเรือบรรทุกเครื่องบินยุคใหม่ โดยเริ่มปฏิบัติการในช่วงท้ายของสงครามเวียดนามกับ USS.Enterprise CVN65 ในฝูงบินขับไล่ VF-1 WolfPack และ VF-2 Bounty Hunters ในเวลาไล่เลี่ยกันไม่กี่วัน ฝูงบิน VF-124 ก็รับหน้าที่ฝึกนักบิน และนายทหารระบบเรดาร์ที่นั่งหลัง สำหรับ เอฟ-14 ในวันที่ 8 ต.ค.ปี 1972 ต่อมา ในเดือน ธ.ค.ปี 1974 นักบินเปลี่ยนแบบเครื่องบิน นายทหารระบบเรดาร์ และ เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินฝึกซ่อมบำรุง จากฝูงบิน VF-124 ได้ลงเรือบรรทุกเครื่องบิน เพื่อฝึกทางทะเลในการบินขึ้น/ลง เรือบรรทุกเครื่องบินกับ USS คิตตี้ฮอว์ก ยอกจากนี้ ในช่วงปี 1976 นักบินจาก กองทัพอากาศอิหร่าน เดินทางมาที่สถานีทหารเรือ มิราม่า เพื่อร่วมฝึกบินเอฟ-14 ทอมแคท หลังจากอิหร่านซื้อ เอฟ-14 จากสหรัฐฯ 80 ลำ ในสมัยกษัตริย์ชาห์ ปาลาวี เป็นเวลา 3 ปี ก่อนที่จะเกิดการปฏิวัติอิหร่านในปี 1979 ที่ต่อมาสหรัฐฯ ได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตลง พร้อมระงับการขายอาวุธให้ทั้งหมด

นาวิกโยธินสหรัฐฯ รวมฝึกบินประเมินค่ากับ เอฟ-14 แต่สุดท้ายไม่เอาด้วย

ในเดือน ธ.ค.ปี 1973 นาวิกโยธินสหรัฐฯ ร่วมส่งนักบินมาฝึกที่ฝูง VF-124 เพื่อบินกับเอฟ-14 ในการประเมินค่าเพื่อเลือกเข้าประจำการ กับฝูงบินขับไล่ และขับไล่โจมตีของนาวิกโยธิน การฝึกบินเพื่อประเมินค่าดำเนินไปถึงปี 1976 จน กองการบินนาวิกโยธินสหรัฐฯ สรุปว่า เอฟฟ-14 มีราคาค่าปฏิบัติการแพงเกินไปสำหรับ นย.สหรัฐ และตัดสินใจขอใช้งาน เอฟ-4 เอส แฟนทอมทู ต่อไปจนกระทั้งเครื่องบินขับไล่ เอฟ-18 เอ ฮอร์เน็ตเข้าประจำการในปี 1982

ทอมแคทในภารกิจลาดตระเวนถ่ายภาพด้วย TARPS ในทศวรรษที่ 80

เมื่อเข้าทศวรรษที่ 80 กองทัพเรือสหรัฐปลดประจำการเครื่องบินลาดตระเวน RA-5C วิจิแลนด์ และ RF-8 ครูเซเดอร์ ทำให้ในช่วงปี 1988 เครื่องบินที่ทำไหน้าที่ลาดตระเวนถ่ายภาพ ตกมาอยู่กับ เอฟ-14 โดยใช้อุปกรณ์กระเปาะ Tactical Air Reconnaissance Pod (TARPS) และ ฝูงบิน VF-124 เริ่มฝึกสอน จนท.ภาคพื้นดินให้ทำงานและใช้งานกระเปาะ TARPS

เมื่อถึงเดือน ธ.ค. 1998 ฝูงบิน VF-124ได้ฝึกอบรมลูกเรือให้บินกับเอฟ -14 ไปแล้ว 1,502 นาย เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินอีกว่า 14,400 นาย โดยการฝึกบินภาคอากาศรวมมีกว่า 153,193 ชั่วโมงบิน อีกทั้งฝูงบิน VF-124 สามารถบรรลุเป้าหมายไม่มีวัตถุแปลกปลอมปลิวเข้ามาทำให้เครื่องบินเสียหายถึง 124 วัน ในห้วงเวลานี้ฝูงบิน VF-124 ยังคงใช้งาน F-14A ในขณะที่ ฝูงบิน VF-101 Grim Reapers ได้เริ่มต้นฝึกนักบินและนายทหารระบบเรดาร์ ที่ปฏิบัติการในฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก บินกับ เอฟ-14 บี ที่เป็นรุ่นปรับปรุงระบบเครื่องยนต์ใหม่

มาถึงยุค 90 เปิดตัว "F-14D ซุปเปอร์ทอมแคท "

หลังจากบริษัทกรัมแมน พัฒนาเอฟ-14 รุ่นใหม่ให้มีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นเป็น F-14D ซุปเปอร์ทอมแคท และนำเสนอให้กองทัพเรือจนได้รับเลือกให้เข้าประจำการ ฝูงบิน VF-124 ได้รับมอบหมายให้ฝึกอบรม ทั้งในภาคอากาศและภาคพื้นดินให้กับเหล่านักบิน และทีม จนท.ภาคพื้นดินในการปฏิบัติการกับอากาศยานแบบใหม่ เมื่อวันที่ 6 พ.ย.1990 กับเครื่องบิน F-14D ใหม่ 4 ลำที่เป็นส่วนหนึ่งในฝูงบินทดสอบการปฏิบัติการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน USS นิมิตซ์ เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ปี1991 ทำให้ในช่วงนี้ ฝูงบิน VF-124 เป็นฝูงเดียวที่มี F-14A ทอมแคท และ F-14D ซุปเปอร์ ทอมแคท ส่วนเครื่องบิน F-14A ที่ปรับปรุงเครื่องยนต์ใหม่เป็น F-14A Plus ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นรุ่น F-14B ก็ถูกเลือกให้บินกับฝูงบินที่สังกัดกองเรือฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกแทน

เข้าสู่ยุค 90 จบสงครามอ่าวเปอร์เซีย ฝูงบิน 124 ถึงเวลาปิดฉาก "กันไฟท์เตอร์"

เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ปี 1993 เครื่องบิน F-14 ของฝูงบิน VF-124 ได้ทำการร่อนลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบินครั้งสุดท้ายกับ เรือ USS Ranger (CV-60) ก่อนที่เรือจะปลดประจำการ รวมการลงจอดบนเรือทั้งหมด 330,683 ครั้ง ในขณะเดียวกันสถานการณ์ของโลกเริ่มเปลี่ยนไปในหลังยุคสงครามเย็น ภัยคุกคามจากโซเวียดหายไป เกิดการลดกำลังฝูงบิน F-14 A ลงในช่วงต้นทศวรรษ 90 ทำให้ฝูงบิน VF-124 ต้องได้รับผลจากการลดกำลัง ทำให้ต้องยุบฝูงบินลงใน เดือน ก.ย.ปี 1994 เครื่องบิน F-14D ยังคงปฏิบัติการกับพื้นที่เดิมของฝูงบิน VF-124 อีกราวๆ 1 ปี ที่สถานีการบินนาวีมิราม่า ก่อนจะกลายเป็นฝูงบินใหม่ VF-101 Grim Reapers หลังจากนั้นไม่นาน "ไฟท์เตอร์ทาวน์" สถานีการบินมิราม่า ก็ได้ย้ายไปอยู่กับหน่วยนาวิกโยธิน หลังจากทาง นย.สหรัฐฯ ปิดสถานีการบิน เอล โทโร่ และ สถานีการบินทัสตินในแคลิฟอร์เนีย

ยกเว้นฝูงบิน F-14 ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในญี่ปุ่น ในฐานะส่วนหนึ่งของกองกำลังทหารเรือประจำการล่วงหน้า (Forward Deployed Naval Force - FDNF) และเครื่องบิน F-14 ที่ถูกส่งมอบให้กับฝูงบินทดสอบ VX-4 (ต่อมาคือ VX-9) ที่ฐานทัพเรือพอยต์ มูเก รัฐแคลิฟอร์เนีย, VX-23 ที่ฐานทัพเรือแพทูเซนต์ ริเวอร์ รัฐแมริแลนด์, ศูนย์วิจัยดรายเดนของนาซา ที่ฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ดส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย, และกองบิน VF-201 และ VF-202 ของกองกำลังสำรองทางอากาศของกองทัพเรือ ที่ฐานทัพเรือร่วมฟอร์ต เวิร์ธ รัฐเท็กซัส กองบิน F-14 ทุกลำที่อดีตสถานีการบินทหารเรือมิรามาเดิม ที่ไม่ได้ถูกปลดประจำการ ถูกย้ายไปยังสถานีการบินทหารเรือเรือโอเชียนา รัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งฐานทัพแห่งนี้กลายเป็นที่ตั้งหลักของกองบิน F-14 ส่วนใหญ่ของกองทัพเรือสหรัฐฯ พร้อมกับการย้ายครั้งนี้ ความรับผิดชอบในการฝึกอบรม F-14 ทั้งหมดถูกโอนไปยัง VF-101 จนกระทั่งเครื่องบินทอมแคทถูกปลดประจำการในปี 2006.

 


You might be intertested in this news.

Mostview

โทโฮคุ ชินคันเซ็น E5 ฮายาบุสะ 60 ตัวจริง จากหนังดัง "Bullet Train Explosion"

จากหนังแอ็คชั่นญี่ปุ่น "Bullet Train Explosion : ระเบิดรถด่วนขบวนระห่ำ" เรื่องราวชินคันเซ็น ขบวนฮายาบุสะ 6050B ถูกคนร้ายขู่วางระเบิด ห้ามรถวิ่งต่ำกว่า 100 กม./ชม. กับข้อมูลที่จะพาไปตามรอยเส้นทางรถไฟที่วิ่งเร็วสุดที่ 320 กม./ชม.จากชิน อาโอโมริตรงสู่โตเกียว

แนะนำหนังสือ-อีบุ๊ก นิยายน่าอ่าน ประจำเดือนพฤษภาคม

แนะนำหนังสือ-อีบุ๊ก นิยายน่าอ่าน ประจำเดือนพฤษภาคม...

ไฟฟ้าดับยุโรปคลี่คลาย สเปนกู้คืนได้ 50% โปรตุเกสไม่พบการโจมตีทางไซเบอร์

สเปน กู้คืนไฟฟ้ากลับเข้าระบบแล้ว 50% หลังไฟฟ้าดับวงกว้างกว่า 10 ชั่วโมง ด้านโปรตุเกสเจอรับผลกระทบไม่ต่างกัน จนต้องประชุมฉุกเฉิน 2 ประเทศ เร่งหาสาเหตุ-แก้ปัญหา ขณะที่ ยังไม่พบหลักฐานชี้ว่าเป็นการโจมตีทางไซเบอร์ ต่อโครงสร้างสาธารณูปโภค

ไขคดีใหม่ “ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน” เดอะ มูฟวี่ ภาค 28 : ปริศนาภาพติดตามรณะ

นาครั้งใหม่ ของภาพยนตร์อะนิเมะสืบสวนสุดเดือด “ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เดอะ มูฟวี่ ภาค 28 : ปริศนาภาพติดตามรณะ 2” จาก ค่ายยักษ์ใหญ่ บริษัท เดกซ์ (ดรีม เอกซ์เพรส) จำกัด

ลิเวอร์พูลแชมป์ลีก20สมัย ความยืดหยุ่นสู่ความสำเร็จ (ชมคลิป)

ลิเวอร์พูลแชมป์ลีก20สมัย ความยืดหยุ่นสู่ความสำเร็จ

TrustNEws Line