สรุปคดีฉาววงการผ้าเหลือง เจ้าคุณแย้ม เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง กับ ปมยักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้าน ไปเล่นพนันออนไลน์ ตร.แฝงตัว 8 เดือนรวบรวมหลักฐาน ด้าน สำนักพุทธ จ่อปลดจากทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าอาวาสและเจ้าคณะ  ขณะที่เจ้าตัวยอมสึก และให้ปากคำ 

เรียกว่าเป็นข่าวฉาว ในวงการผ้าเหลืองอีกครั้ง วันนี้ 15 พ.ค.68 ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พระธรรมวชิรานุวัตร หรือ เจ้าคุณแย้ม กิตตินัธโร อายุ 70 ปี เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม เจ้าคณะภาค 14

ที่วันนี้ ช่วงเช้า ได้เดินทางพร้อมด้วยทนายความ เข้าพบพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผู้บังคับการกองปราบปราม และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการ ป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. เพื่อเข้ามอบตัวแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังทราบเรื่องว่า กำลังจะถูกดำเนินคดีในความผิดฐานทุจริตยักยอกเงินวัดจำนวน 300 ล้านบาท

คดีนี้ สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ กองกำกับการ 5 กองปราบ ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ เป็นเจ้าคณะภาค 14 แต่กลับมีพฤติกรรมยักยอกเงินของวัดไปเอาเงินเล่นพนันออนไลน์ ตำรรวจ จึงตามหาเบาะแส และแฝงตัวอยู่ในวัดถึง 8 เดือน จนพิสูจน์ทราบแน่ชัดแล้วว่า พระธรรมวชิรานุวัตร มีพฤติกรรมตามที่ถูกร้องเรียนจริง

สำหรับ แผนประทุษกรรมของ เจ้าคุณแย้ม นั้น จะเริ่มจากการให้คณะกรรมการวัด ทำการโอนเงินจากบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง มายังบัญชีธนาคารส่วนตัว ก่อนจะโอนไปให้ หญิงสาวรายหนึ่ง ที่เป็นนายหน้าเครือข่ายเว็บพนัน นำไปโอนต่อเข้าบัญชีเว็บพนันออนไลน์ เพื่อเติมเครดิตสำหรับใช้เล่นพนันออนไลน์ จำพวก บาคาร่า

เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินบัญชีธนาคารของวัดไร่ขิง พบว่า ช่วงเวลาปี 2564 จนถึงปัจจุบัน มียอดเงินจากบัญชีวัด ถูกโอนออกไปยังบัญชีส่วนตัวของพระธรรมวชิรานุวัตรจำนวนหลายครั้ง รวมกว่า 300 ล้านบาท

ได้มีการตรวจสอบความเส้นทางการเงินเพื่อสืบหาความเชื่อมโยงหรือความสัมพันธ์ ระหว่าง บัญชีธนาคารของพระธรรมวชิรานุวัตร กับ บัญชีเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ต่างๆ พบว่ามีการยอดเงินทั้งได้และเสีย จากการเล่นพนันหมุนเวียนเข้าออกรวมกันไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังสืบทราบข้อมูลอีกว่า ภายหลังยอดเงินในบัญชีธนาคารของวัดไร่ขิง เริ่มมีจำนวนน้อยลง
พระธรรมวชิรานุวัตร จึงเริ่มหันไปยืมเงินพระผู้ใหญ่วัดอื่น ๆ ที่สนิทสนมกัน เพื่อนำมาเล่นพนัน
โดยยอดเงินที่ขอยืมนั้นมีตั้งแต่หลักแสนบาทไปจนถึงหลักล้านบาทต่อครั้ง

ส่วนของ หญิงสาว ที่เป็นนายหน้ารับแทงพนัน จากเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงนั้น จากข้อมูลสืบสวน พบว่ามีส่วนสำคัญและเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินวัดไร่ขิง ของพระธรรมวชิรานุวัตร เป็นอย่างมาก เพราะคล้ายทำหน้าที่นายหน้า หรือ ตัวแทนเว็บพนันออนไลน์ คอยรับเดิมพันเล่นพนัน จากเจ้าอาวาสวัดวัย 70

มีรายงานด้วยว่า หญิงคนดังกล่าว ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญ ในแวดวงเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ทำหน้าที่เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารและดูแลเส้นทางการเงินให้กับเว็บพนันออนไลน์ต่าง ๆ

โดยช่วงปลายปี 2567 เพิ่งจะถูกตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จับกุมดำเนินคดี
หลังเข้าไปมีส่วนพัวพันกับเครือข่ายเว็บพนันแห่งหนึ่ง ก่อนจะได้ประกันตัวออกมาสู้คดี ขณะที่ล่าสุด ตำรวจได้ควบคุมตัวไว้แล้ว 

ต่อมา ศาลอนุมัติหมายจับแล้ว ในข้อหา ““เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ชื้อ หรือ จัดการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบัง หรือ ทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน , เป็นเจ้าพนักงาปฏิบัติหรือละเว้นการปติหน้าที่โดยมิชอบ และ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต” กรณีทุจริตยักยอกเงินจากบัญชีธนาคารของวัดโอนเข้าบัญขีธนาคารส่วนตัว เพื่อนำไปเล่นพนันบาคาร่าออนไลน์ กว่า 300 ล้านบาท”

และวันนี้ยังไม่ได้รับการประกันตัว

ขณะที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เนื่องจากพระที่ถูกกล่าวหาคือ พระธรรมวชิรานุวัตร หรือ เจ้าคุณแย้ม เป็นเจ้าอาวาสและมีตำแหน่งทางปกครองเป็นเจ้าคณะภาค 14 ทางวินัยสงฆ์การดำเนินการทางปกครองต้องให้พระที่มีสมณะหรือตำแหน่งทางบริหารสูงขึ้นไป จะต้องกราบนิมนต์สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ซึ่งเป็นเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ซึ่งท่านรับดำเนินการแล้ว

โดยสำนักงานพุทธได้ดำเนินการเสนอท่านไปใน 2 ประเด็น คือต้องมีคำสั่งให้พ้นจากเจ้าคณะภาค 14 และต้องมีคำสั่งให้พ้นจากเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง โดยให้รองเจ้าอาวาสมารักษาการแทน เพื่อให้หมดอำนาจทางการปกครอง เมื่อดำเนินการ 2 เรื่องนี้แล้วก็ให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงควบคู่กันไปกับการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวน 
 แม้เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงจะพ้นสภาพความเป็นพระ แต่ความผิดทางอาญายังมีอยู่ ถ้ามีการกระทำผิดตามที่มีการกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์สินของวัด แต่ต้องรอให้คดีสิ้นสุดก่อน เพราะในขณะนี้ยังเป็นเพียงการกล่าวหา ซึ่งการสอบข้อเท็จจริงจะนำไปสู่เรื่องของวินัยสงฆ์ทั้งหลายด้วย

ด้าน บิ๊กก้อง พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ชี้ว่า ได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินต่างๆ ที่พบความผิดปกติ จนเป็นเหตุให้มีการออกหมายจับ ซึ่งเราเห็นว่ามีการนำเงินของวัดออกไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ถือเป็นการยักยอกทรัพย์ของวัด

ส่วนกรณีนี้เป็นพระผู้ใหญ่จะต้องสึกเลยหรือไม่ เพราะคดีนี้เป็นคดีอาญา ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการว่าท่านให้ความร่วมมือมากน้อยแค่ไหน อยู่ระหว่างการสอบสวน เรื่องการสึกของสงฆ์ เป็นไปสองทาง คือทางวินัยสงฆ์และตามกฏหมาย ส่วนที่ไม่ถึงขั้นปาราชิก ต้องให้ท่านยินยอมสึกเองถูกต้องหรือไม่นั้น เรื่องนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับมหาเถระสมาคม 

ขณะที่ช่วงค่ำ พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม ได้ตัดสินใจสึก ต่อหน้าพระพุทธรูป และออกมาสู้คดีในฐานะผู้ต้องหา โดยยอมให้ปากคำกับทางตำรวจ