แนะกลยุทธ์การลงทุน หลังอิสราเอลปะทะอิหร่าน
by Trust News, 16 มิถุนายน 2568
แนะกลยุทธ์การลงทุน หลังอิสราเอลปะทะอิหร่าน
ภายใต้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ที่อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทยไม่มากนัก เนื่องจากไม่ใช่คู่ค้าหลักของไทย แต่อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์ยืดเยื้อจะทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกผันผวนสูงขึ้น
โดยกลยุทธ์ลงทุนที่น่าสนใจจะแบ่งเป็น...
1) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไรหากสถานการณ์ยืดเยื้อและรุนแรงขึ้น แนะนำหุ้นพลังงานและโรงกลั่นซึ่งได้ประโยชน์จากทางตรงหรือทางอ้อมจากราคาพลังงานที่ปรับขึ้น ได้แก่ PTTEP BCP PTT
2) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำและต้องการป้องกันความเสี่ยงจากสงครามในตะวันออกกลาง แนะนำ หุ้น Defensive ซึ่งมีรายได้มั่นคงไม่ผันผวนไปตามเศรษฐกิจ หรือได้รับผลกระทบจำกัด ได้แก่ ADVANC BCH DIF GULF CPALL
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13มิ.ย.68 ที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอล ได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ต่อโครงการนิวเคลียร์และฐานยิงขีปนาวุธของอิหร่านก่อน และล่าสุด อิหร่านได้เริ่มต้นเปิดฉากตอบโต้การโจมตีของอิสราเอลแล้ว
และได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก เมื่อวันที่ 13มิ.ย.68 ไปแล้ว (ปิดเช้าตลาดหุ้นเอเชียและตลาดฟิวเจอร์ปรับตัวลงเฉลี่ย 0.5%DoD และ 1.2%DoD ขณะที่ราคาน้ำมันและทองคำปรับขึ้น 7%DoD และ 1.3%DoD ตามลำดับ)
ทั้งนี้ INVX มองว่า แม้ระยะสั้นจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทยไม่มากนัก เนื่องจากไม่ใช่คู่ค้าหลักของไทย แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อจะทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกผันผวนสูงขึ้น โดย
1) ราคาน้ำมันดิบโลกจะปรับขึ้น จากกังวลอุปทานน้ำมัน เนื่องจากอิหร่านเป็นผู้ส่งออกน้ำมันอันดับ 9-10 ของโลกและอันดับ 4 ของ OPEC
2) ตลาดหุ้นอาจเกิดแรงขายลดความเสี่ยงจากกังวลเงินเฟ้อสูงขึ้น
3) เกิดการโยกเงินสดจากสินทรัพย์เสี่ยงไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) อาทิ ราคาทองคำจะปรับขึ้น, เงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) จะแข็งค่า และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) จะปรับลง
ทั้งนี้ แม้ในอดีตกรณีเกิดสงครามในตะวันออกกลางซึ่งสถานการณ์ไม่ยืดเยื้อพบ SET จะปรับลงแรงวันแรกราว 1.4%DoD และจะพลิกมีผลตอบแทนเป็นบวกได้ ในวันทำการที่ 5
แต่ขณะนี้ยังเร็วเกินไป ที่จะประเมินสถานการณ์ข้างต้นว่าจะยืดเยื้อหรือจบเร็ว โดยมองยังเป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตาม อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านยืดเยื้อและรุนแรงขึ้น คาดจะกระทบต่อการดำเนินงานของแต่ละอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ดังนี้...
1) กลุ่มที่ได้ผลกระทบเชิงบวก ได้แก่ กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น
2) กลุ่มที่ได้ผลกระทบเชิงลบ ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยวและกลุ่ม รพ. ระดับบน ซึ่งจะได้รับผลลบจากการชะลอการเดินทางท่องเที่ยวและการเข้ารักษาโรคไม่เร่งด่วน, กลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ที่จะมีต้นทุนก๊าซสูงขึ้น ส่งผลทำให้ SPP margin ลดลด และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ จากต้นทุนวัตถุดิบ อาทิ ทองคำ และทองแดง อาจสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา (PART1)
อีนางคำดวง อาชีพ “นายฮ้อย” กับเรื่องจริงการค้าควาย สมัย ร.5
จากละคร สู่เรื่องจริง อาชีพ "นายฮ้อย" และการค้าขายควาย ในสมัย ร.5 สาเหตุที่เฟื่องฟู กับปัญหาการขโมยและปล้นควาย...
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(17ก.ย.68) เก็งกําไรในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(17ก.ย.68) เก็งกําไรในกรอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
