แนวโน้มSETวันนี้ (18มิ.ย.68) ผันผวนลง แนวรับ 1100-1094
by Trust News, 18 มิถุนายน 2568
แนวโน้มSETวันนี้ (18มิ.ย.68) ผันผวนลง แนวรับ 1100-1094
คาดตลาดแกว่งตัวผันผวนทางลง มีแนวรับที่ 1100–1094 แต่การลงทดสอบมีโอกาสรีบาวด์ได้ ส่วนการขึ้นมีแนวต้านที่ 1120/1125 คาดการรีบาวด์ยังติดที่แนวต้านต่อ
ติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง การเมืองในประเทศ การประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณาวงเงิน 1.57 แสนลบ. รวมถึงผลประชุมเฟดในคืนนี้
ประเด็นสำคัญ :
1. คืนนี้ติดตามการประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งตลาดคาดจะคงดอกเบี้ยที่ 4.25-4.50% ขณะที่ประเด็นสำคัญ คือ ถ้อยแถลงของประธานเฟด รวมทั้ง Dot Plot และตัวเลขประมาณการ GDP เพื่อรอดูสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยและเศรษฐกิจ
2. วันนี้ติดตามการประชุมของบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีวาระสำคัญพิจารณาการใช้งบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ก่อนจะนำเสนอ ครม. เห็นชอบในวันที่ 24 มิ.ย. ซึ่งคาดในแผนจะมีโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งและโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
3. กระทรวงการคลังออกมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลของโลก โดยยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับ Capital Gains จากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลตั้งแต่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 72 หวังดันเศรษฐกิจไทยเติบโต
4. รมว.ท่องเที่ยวฯ เผย ททท. เปิดให้ผู้ประกอบการเริ่มลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งแล้วตั้งแต่ 17 มิ.ย. 68 และในสัปดาห์หน้าจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนต่อไป ซึ่งคาดจะเริ่มโครงการได้ตั้งแต่ 1 ก.ค. 68 มองเป็นผลบวกระยะสั้นต่อหุ้นท่องเที่ยว (ERW CENTEL)
5. ททท. เผยความขัดแย้งอิหร่าน-อิสราเอลคาดส่งผลกระทบนักท่องเที่ยวหลักจาก 5 ประเทศ ได้แก่ อิหร่าน อิรัก จอร์แดน เลบานอน และซีเรีย จะลดลง 30-50% ใน มิ.ย. 68 แต่ถ้าเหตุการณ์ไม่ยืดเยื้อน่าจะกระทบเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ไม่มาก
6. บอร์ดค่าจ้างมีมติปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาทในพื้นที่ กทม. และบางกลุ่มอาชีพทั่วประเทศ เช่น ท่องเที่ยว, พักแรม, สถานบันเทิง เป็นต้น มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 68 โดยจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ต่อ
กลยุทธ์การลงทุน :
ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวผันผวน อยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าเพิ่มเติม (ญี่ปุ่น อินเดีย) หลังมีข้อสรุปเบื้องต้นกับจีนแล้ว รวมถึงการแจ้งอัตราภาษีแบบฝ่ายเดียวกับประเทศอื่นๆ ใน 1-2 สัปดาห์นี้
ขณะที่ปัจจัยภายในยังติดตามความไม่แน่นอนทางการเมือง (การปรับ ครม.) และการออกมาตรการกระตุ้น ศก. (เที่ยวไทยคนละครึ่ง และโครงการกระตุ้น ศก. 1.57 แสนลบ.)
อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่า ช่วงต้น เม.ย. SET ได้ปรับลงสะท้อนวิกฤติจากนโยบายเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ไปแล้ว (มอง SET ผ่านจุดแย่ที่สุดไปแล้วที่ Downside 1,032 จุด) และยังคงมุมมองว่าหากดัชนีปรับตัวลงมาบริเวณ 1100 ยังเป็นโอกาสทยอยซื้อสะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :
มอง SET ผันผวน รอติดตามความชัดเจนจากหลายปัจจัย อาทิ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง, ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าเพิ่มเติม, อัตราภาษีฝ่ายเดียวจากสหรัฐฯ และปัจจัยการเมืองไทย กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 4 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...
1. หุ้น Earning Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ แนะนำ ADVANC TRUE CPALL BTG CPF
2. หุ้น SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป พร้อมคาดให้ Div. Yield ตั้งแต่ 5% ขึ้นไป แนะนำ PTT KTB BBL HMPRO
3. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย...
1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY
2) ฐานะการเงินแกร่ง
3) จ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ ADVANC BDMS CPALL PTT BCH BTG AP
4. หุ้นตั้งรับที่มีรายได้ในประเทศเป็นหลัก สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำและต้องการรอดูความชัดเจนของการดำเนินมาตรการภาษีของ ปธน. ทรัมป์ แนะนำ BCH CPALL GULF MTC OR TRUE
Trading Idea :
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ...
1) หุ้นที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันปรับขึ้นหลังเกิดความตึงเครียดในตะวันออกกลาง แนะนำ PTT PTTEP BCP
2) หุ้นที่ได้ประโยชน์หากรัฐออกมาตรการะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม แนะนำ SCC SCCC STECON CK และ
3) หุ้นที่ได้อานิสงส์จากภาวะดอกเบี้ยขาลง แนะนำ กลุ่ม REITs (DIF), กลุ่มเช่าซื้อ (MTC TIDLOR) และกลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF GPSC)
Daily top picks :
DIF : มองมีปัจจัยระยะสั้น จากการไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาด แนวโน้มใน 2Q68 คาดว่ากำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีสูงถึง 11% ในปี 2568 และการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกใน 2H68 จะเป็นปัจจัยกระตุ้นได้
BCP : มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ใน 2Q68 ค่าการกลั่นเฉลี่ยใน 2Q68TD ปรับตัวดีขึ้น 29%QoQ โดยได้แรงหนุนจากส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินและคาดว่าค่าการตลาด จะปรับตัวขึ้นอีกใน 2Q68 เป็นปัจจัยหนุนให้กำไรปกติปรับตัวเพิ่มขึ้นใน 2Q68 ได้ วันนี้แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรที่ไม่เกิน 36 บาท/หุ้น
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน :
Economic release :
JP – ดุลการค้า พ.ค., คําสั่งซื้อเครื่องจักรหลัก เม.ย., การส่งออก พ.ค.,การ นําเข้า พ.ค.
EU – ดัชนี CPI พ.ค. (ตัวเลขสุดท้าย)
US – คําขอสินเชื่อบ้าน ณ 13 มิ.ย., การเริ่มก่อสร้างบ้านใหม่ พ.ค.,ใบอนุญาตก่อสร้าง พ.ค., จํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
Event : การประชุมเฟด
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
ทำไมทีมไหนๆจึงเลือกใช้ บอล Direct โจมตี ลิเวอร์พูล (ชมคลิป)
ทำไมทีมไหนๆจึงเลือกใช้ บอล Direct โจมตี ลิเวอร์พูล (ชมคลิป)
เล่นเร็ว เน้นบอลยาวและฟรีคิก แท็กติกที่ทำให้แมนยูฯเริ่มดีขึ้น (ชมคลิป)
เล่นเร็ว เน้นบอลยาวและฟรีคิก แท็กติกที่ทำให้แมนยูฯเริ่มดีขึ้น (ชมคลิป)
“พระปรุหนัง” ของขลังมหาอุตม์ของ “เสือฝ้าย” และจุดจบที่แสนอดสู
เรื่องเล่า "ของขลัง" ขุนโจรฉายา "จอมพลฝ้าย" ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน 4 เสือสุพรรณ โดยมีของดี เป็น "พระเครื่องปรุหนัง" พระระดับตำนานที่สร้างในสมัยอยุธยา ขึ้นชื่อเรื่อง มหาอุตม์ แต่จุดจบของเสือฝ้ายกลับตายอย่างน่าอดสู....
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (7พ.ย.68) Sideway ดีดตัวขึ้นกรอบบน
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (7พ.ย.68) Sideway ดีดตัวขึ้นกรอบบน
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (5พ.ย.68) ยังคงเป็น Sideway
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (5พ.ย.68) ยังคงเป็น Sideway
ข่าวที่เกี่ยวข้อง