วันอังคาร, กันยายน 23, 2568

แนวโน้มSETวันนี้ (19มิ.ย.68) รอความชัดเจนทางการเมือง

by Trust News, 19 มิถุนายน 2568

แนวโน้มSETวันนี้ (19มิ.ย.68) รอความชัดเจนทางการเมือง

คาดตลาดแกว่งตัวลง มีแนวรับที่ 1094 หากรับไม่อยู่จะมีแนวรับถัดไปที่ 1080/1056 ได้

ส่วนการขึ้นมีแนวต้านที่ 1100/1108 คาดยังติดแนวต้าน ติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง การเมืองในประเทศ หากยังไม่มีความชัดเจนทางการเมืองยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น

ประเด็นสำคัญ :

1. FOMC มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ตามตลาดคาด แต่มีการปรับลดประมาณการ GDP ปีนี้ลงจาก 1.7% เหลือ 1.4% และเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อ PCE ขึ้นจาก 2.7% เป็น 3% ส่วน DotPlot มีกรรมการ 7 ท่านที่คาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากเดิม 4 ท่าน 


2. วันนี้ติดตามการเมืองไทย ซึ่งมีความไม่แน่นอนมากขึ้น หลังมีการเผยแพร่เสียงสนทนาระหว่างนายกฯและสมเด็จฮุนเซน จนทำให้หลายฝ่ายเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกหรือยุบสภา

ซึ่งจะกดดันต่อตลาดหุ้นไทย โดยในอดีต หากมีการยุบสภา จะพบวันแรก SET ปรับขึ้นเฉลี่ยราว 0.8%DoD แต่ถัดจากนั้น จะแกว่งตัวลง จากกังวลนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไม่คืบหน้า และรอดูนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่

โดยดัชนี จะใช้เวลาราว 3 เดือน จึงพลิกเป็นบวกได้อีกครั้งหลังตั้งรัฐบาลใหม่ได้ ส่วนการลาออกคาดดัชนีจะแกว่งไซด์เวย์ระยะสั้นเพื่อรอดูชื่อนายกฯ คนใหม่

3. ปลัดพาณิชย์เผยหลัง Video Conference กับ USTR ได้รับ 5 ข้อเสนอจากฝั่งสหรัฐฯ คือ มาตรการภาษีและโควตา, มาตรการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษี, การจัดการการค้าดิจิทัล, กฎเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดสินค้า และมาตรการด้านความมั่นคง ทางไทยจะพิจารณาร่วมกับหลายฝ่ายและเสนอต่อฝั่งสหรัฐฯ ภายใน 20 มิ.ย.


4. มูลค่าส่งออกไทย พ.ค. 2568 ขยายตัว 18.4% เติบโต 11 เดือนต่อเนื่อง สูงสุดนับตั้งแต่ มี.ค. 2565 และทำระดับสูงสุดที่ 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์ หนุนจากการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กฯ สินค้าเกษตรกลับมาฟื้นตัวครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยตลาดส่งออกสู่สหรัฐฯ และจีนเติบโตสูงสุด 35% และ 28% ตามลำดับ

กลยุทธ์การลงทุน :

ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวผันผวน อยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าเพิ่มเติม (ญี่ปุ่น อินเดีย) หลังมีข้อสรุปเบื้องต้นกับจีนแล้ว รวมถึงการแจ้งอัตราภาษีแบบฝ่ายเดียวกับประเทศอื่นๆ ใน 1-2 สัปดาห์นี้

ขณะที่ปัจจัยภายในยังติดตามความไม่แน่นอนทางการเมือง (การปรับ ครม.) และการออกมาตรการกระตุ้น ศก. (เที่ยวไทยคนละครึ่ง และโครงการกระตุ้น ศก. 1.57 แสนลบ.)

อย่างไรก็ดี เชื่อว่า ช่วงต้น เม.ย. SET ได้ปรับลงสะท้อนวิกฤติจากนโยบายเก็บภาษีนำเข้า ของสหรัฐฯ ไปแล้ว (มอง SET ผ่านจุดแย่ที่สุดไปแล้วที่ Downside 1,032 จุด)

และยังคงมุมมองว่าหากดัชนีปรับตัวลงมาบริเวณ 1100 ยังเป็นโอกาสทยอยซื้อสะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”
 
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :

มอง SET ผันผวน รอติดตามความชัดเจนจากหลายปัจจัย อาทิ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง, ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าเพิ่มเติม, อัตราภาษีฝ่ายเดียวจากสหรัฐฯ และปัจจัยการเมืองไทย กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 4 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...

1. หุ้น Earning Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ แนะนำ ADVANC TRUE CPALL BTG CPF

2. หุ้น SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป พร้อมคาดให้ Div. Yield ตั้งแต่ 5% ขึ้นไป แนะนำ PTT KTB BBL HMPRO

3. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย

1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY  

2) ฐานะการเงินแกร่ง

3) จ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ ADVANC BDMS CPALL PTT BCH BTG AP


4. หุ้นตั้งรับที่มีรายได้ในประเทศเป็นหลัก สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำและต้องการรอดูความชัดเจนของการดำเนินมาตรการภาษีของ ปธน. ทรัมป์ แนะนำ BCH CPALL GULF MTC OR TRUE

Trading Idea :

นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ

1) หุ้นที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันปรับขึ้นหลังเกิดความตึงเครียดในตะวันออกกลาง แนะนำ PTT PTTEP BCP

2) หุ้นที่ได้ประโยชน์หากรัฐออกมาตรการะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม แนะนำ SCC SCCC STECON CK

3) หุ้นที่ได้อานิสงส์จากภาวะดอกเบี้ยขาลง แนะนำ กลุ่ม REITs (DIF), กลุ่มเช่าซื้อ (MTC TIDLOR) และกลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF GPSC)
 
Daily top picks :

DIF : มองมีปัจจัยระยะสั้น จากการไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาด แนวโน้มใน 2Q68 คาดว่ากำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีสูงถึง 11% ในปี 2568 และการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกใน 2H68 จะเป็นปัจจัยกระตุ้นได้ 
 
KTB : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้น มีโอกาสมีแรงซื้อเข้ามาหากมีความชัดเจนการเมือง เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร มี Upside จากการเพิ่มอัตราการจ่ายปันผลเพิ่ม และ Credit Cost สูงสุดใน1Q68 แล้วมีโอกาสลดลงในช่วงที่เหลือของปี ในขณะที่ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ และมี LLR Coverage สูง

กรอบค่าเงินบาทวันนี้ : 

ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.65-32.90 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทอ่อนค่าขึ้นตามความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น หลังมีข่าวเรื่องการปรับ ครม. และคลิปเสียงนายกฯ คุยกับสมเด็จฮุน เซน ของกัมพูชา ทำให้ตลาดกังวลต่อโอกาสในการยุบสภา

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงดอกเบี้ยที่ 4.25-4.50% ตามคาด และคง Dot plot ส่งสัญญาณว่าจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้

ขณะที่ปรับประมาณการ GDP ปีนี้ลงเหลือ 1.4% และมองเงินเฟ้อสูงขึ้น ส่งออกไทยเดือนพฤษภาคมออกมาที่ 18.4%YOY สูงกว่าตลาดคาด โดยมาจากส่งออกไปสหรัฐฯ ที่เร่งตัวแรง

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน : 

Economic release :

US – ผลการประชุม FOMC

UK – ผลการประชุม BoE

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา

เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา (PART1)

อีนางคำดวง อาชีพ “นายฮ้อย” กับเรื่องจริงการค้าควาย สมัย ร.5

จากละคร สู่เรื่องจริง อาชีพ "นายฮ้อย" และการค้าขายควาย ในสมัย ร.5 สาเหตุที่เฟื่องฟู กับปัญหาการขโมยและปล้นควาย...

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากําไร

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(22ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากําไร

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(17ก.ย.68) เก็งกําไรในกรอบ

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(17ก.ย.68) เก็งกําไรในกรอบ

TrustNEws Line