วันศุกร์, ตุลาคม 10, 2568

แนวโน้มSETวันนี้ (25มิ.ย.68) ลุ้น กนง. ลดดอกเบี้ย

by Trust News, 25 มิถุนายน 2568

แนวโน้มSETวันนี้ (25มิ.ย.68) ลุ้น กนง. ลดดอกเบี้ย 

คาดตลาดแกว่งตัวขึ้น แต่มีโอกาสชะลอตัวที่แนวต้าน 1112/1120 ส่วนการอ่อนตัวลงมีแนวรับที่ 1095/1066 ความหวังในการหยุดยิงอิสราเอล-อิหร่านยังหนุนตลาดหุ้นโลก

แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่สามารถหยุดยิงได้เด็ดขาดทันที ปัจจัยในประเทศ ติดตามการประชุม กนง. ในวันนี้ INVX คาดลดดอกเบี้ย รวมถึงการสลับเปลี่ยนกองทุน ThaiESGX โค้งสุดท้ายสิ้นเดือน

ประเด็นสำคัญ :

1. ปธน. ทรัมป์ เรียกร้องอิสราเอลให้หยุดทิ้งระเบิดในอิหร่านทันที โดยทั้งอิสราเอลและอิหร่านต่างกล่าวหากันและกันว่ามีการละเมิดข้อตกลง มองความเสี่ยงในตะวันออกกลางยังไม่อาจวางใจได้


2. บ่ายวันนี้ติดตามการประชุมนโยบายการเงินของ กนง. ครั้งที่ 3/2568 ซึ่งตลาดคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% ส่วนเราคาด กนง. จะลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ 25bps และจะลดอีกครั้งในปีนี้


3. ตลท. ประกาศยกเลิกมาตรการชั่วคราวเพื่อลดความผันผวนในตลาด SET, mai และ TFEX โดยจะปรับ Floor และ Ceiling กลับมาสู่กรอบ 30% และ Dynamic Price Band รายหลักทรัพย์กลับมาสู่กรอบ 10% มีผลตั้งแต่วันนี้ (25 มิ.ย. 68) เป็นต้นไป


4. ครม. เห็นชอบมาตรการกระตุ้น ศก. วงเงิน 1.15 แสนล้านบาท โดยเน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกว่า 80% ตามด้วยกระตุ้นท่องเที่ยว (อนุมัติโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งวงเงิน 1,750 ลบ. คาดเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนและจองสิทธิ 1 ก.ค. และใช้สิทธิได้ 4 ก.ค. – 31 ต.ค. 68) คาดดัน GDP ขยายตัว 0.4% ทั้งนี้เรามองหุ้นที่ได้ประโยชน์ระยะสั้น แนะนำ SCC SCCC STECON CK ERW AAV


5. ส.อ.ท. เผยยอดส่งออกรถยนต์ พ.ค. 68 ที่ 81,071 คัน ลดลง 9.2%YoY ส่วนยอดขายในประเทศอยู่ที่ 52,229 คัน เพิ่มขึ้น 4.7%YoY จาก EV ที่ราคาจับต้องได้ คงแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มยานยนต์ (AH SAT STANLY รวมทั้ง NYT)


6. TRIS ปรับลดมุมมองการเติบโตสินเชื่อกลุ่มจำนำทะเบียนรถในปี 2568 ลงเหลือ 5-10% จากเดิมที่เคยคาดไว้ 10-15% เนื่องจากผู้ประกอบการระมัดระวังเพื่อรักษาคุณภาพสินเชื่อ ท่ามกลาง ศก. ที่อ่อนไหว  ขณะที่ความสามารถการชำระหนี้ยังคงเปราะบาง
 
กลยุทธ์การลงทุน :

ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวผันผวนต่อ หลังเผชิญปัจจัยลบทั้งภายนอกและภายในประเทศ ปัจจัยภายนอกติดตามสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง, ข้อตกลงการค้าเพิ่มเติมและการการแจ้งอัตราภาษีแบบฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ต่อประเทศคู่ค้าอื่นๆ

ส่วนปัจจัยภายในติดตามความไม่แน่นอนทางการเมืองและปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ดีเราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสม สำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แต่เป็นลักษณะของการทยอยสะสม กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”
 
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :

มอง SET แกว่งตัวผันผวนต่อ หลังเผชิญปัจจัยลบทั้งภายนอกและภายในประเทศ ทั้งประเด็นตะวันออกกลาง, การค้าสหรัฐฯ, การเมืองในประเทศ และมาตรการกระตุ้น ศก. กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 1 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...

1. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำ โดยคาดผลการดำเนินงานจะสามารถต้านทานความผันผวนจากปัจจัยภายนอกได้ แนะนำ DIF BDMS BCH

2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรในช่วง 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT

3. หุ้น Earning Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ แนะนำ ADVANC CPALL BTG

Trading Idea :

สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร ภายใต้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์ จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น เลือก PTT PTTEP
 
Daily top picks :

ERW : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากโครงการเที่ยวคนละครึ่ง คาดว่าผู้ประกอบการที่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวไทยและจีนจะได้อานิสงส์มากที่สุด โดย ERW มีสัดส่วนรายได้ 28% ของรายได้โรงแรมมาจากนักท่องเที่ยวไทยและ 10% จากจีน คาดว่าครึ่งปีหลังการดำเนินงานจะฟื้น บริษัทยังคงเป้าการเติบโตสูงของกลุ่มโรงแรมบัดเจ็ท HOP INN ไว้ที่ 23% จากการขยายโรงแรมอย่างต่อเนื่อง
 
CPALL : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากการฟื้นตัวตามภาพรวมของตลาด กำไร 2Q68 คาดจะเติบโต YoY และปี 2568 จะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มที่ 19%YoY (กลุ่ม 5%YoY) และซื้อขาย PER 2568F ที่ 16 เท่า (กลุ่ม 17 เท่า) ส่วนการประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน (ไม่เกิน 1.67% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด) ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.-14 พ.ย. 68 จะช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้น

กรอบค่าเงินบาทวันนี้ : 

ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.45-32.70 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง จากดอลลาร์อ่อนค่าหลังเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐออกมาที่ 93 ลดลงจากเดือนก่อนและต่ำกว่าคาด

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า จะรอประเมินผลกระทบจากเงินเฟ้อ และยังไม่จำเป็นต้องรีบลดดอกเบี้ย ส่งผลให้ Treasury yields ลดลง

ราคาน้ำมันเคลื่อนไหว Sideways หลังอิหร่านและอิสราเอลกล่าวว่าจะทำตามข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social เตือนอิสราเอลและอิหร่านว่าอย่าโจมตีใส่กันโดยเด็ดขาด

ด้านน้ำมันคงคลังในสหรัฐฯ ปรับลดลง จึงเป็นแรงกดดันเพิ่มเติมต่อราคาน้ำมันเมื่อวาน

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน :

Economic release : JP – ดัชนี PPI ภาคบริการ พ.ค., คําสั่งซื้อเครื่องจักรกล พ.ค. (ประมาณการครั้งสุดท้าย)

EU – ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ พ.ค.

US – คําขอสินเชื่อบ้าน (ณ 20 มิ.ย.), ยอดขายบ้านใหม่ พ.ค., ใบอนุญาต

ก่อสร้าง พ.ค. (ประมาณการครั้งสุดท้าย)

Event: การประชุมกนง.

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

เคล็ดลับความสำเร็จกัปตันซึบาสะ ความคิดของคนเลือกอยู่หัวแถว

เคล็ดลับความสำเร็จกัปตันซึบาสะ ความคิดของคนเลือกอยู่หัวแถว ตอนที่ 1

แนวโน้มราคาทองวันนี้(10ต.ค.68) ฟื้นตัวขึ้นระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองวันนี้(10ต.ค.68) ฟื้นตัวขึ้นระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองวันนี้(8ต.ค.68) ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองวันนี้(8ต.ค.68) ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น

5 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (10ต.ค.2025)

5 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (10ต.ค.2025)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (8ต.ค.2025)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (8ต.ค.2025)

TrustNEws Line