วันศุกร์, มิถุนายน 27, 2568

แนวโน้มSETวันนี้ (27มิ.ย.68) พักตัว ติดตามประเด็นการเมือง

by Trust News, 27 มิถุนายน 2568

แนวโน้มSETวันนี้ (27มิ.ย.68) พักตัว ติดตามประเด็นการเมือง

คาดตลาดพักตัวหลังจากขึ้นต่อเนื่อง มีแนวต้านที่ 1115/1120 ส่วนการอ่อนตัวลงมีแนวรับที่ 1095/1085 และการลงหลุดต่ำกว่า 1085 จะเปิดความเสี่ยงของการปรับตัวลงรอบใหม่

ปัจจัยในประเทศ ตลาดติดตามความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา รวมถึงเสถียรภาพรัฐบาล และโค้งสุดท้ายของการสลับเปลี่ยน LTF มากองทุน ThaiESGX ที่ใกล้จะสิ้นสุดลงมีโอกาสหนุนตลาดได้น้อยลง

ประเด็นสำคัญ :

1. คืนนี้จับตาดัชนี PCE ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ หลังวานนี้ GDP 1Q68 (ครั้งสุดท้าย) ของสหรัฐฯ -0.5%QoQ หดตัวสูงกว่าประมาณการครั้งก่อนที่ -0.2%QoQ จากการชะลอตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภคและการนำเข้าที่ขยายตัวสูงจากการเร่งนำเข้าเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีศุลกากรของ ปธน. ทรัมป์


2. ปธน. ทรัมป์ เผยกำลังวางแผนคัดเลือกและประกาศชื่อผู้ที่จะมารับตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ ก่อนที่เจอโรม พาวเวล จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดในเดือน พ.ค. 2569 


3. เฟดเผยข้อเสนอเพื่อผ่อนคลายกฎเกณฑ์เกี่ยวกับอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์ (SLR) สำหรับธนาคารขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารที่มีความสำคัญต่อระบบการเงินโลก (GSIBs) มีโอกาสส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดเพิ่มขึ้น หนุนจิตวิทยาตลาดหุ้นรวม


4. ม. หอการค้าไทยลดประมาณการ GDP ปี 2568 ลงสู่ 1.7% จาก 3.0% โดยยังมีโอกาสผันผวนในกรอบ 0.9-2.3% ขึ้นกับความรุนแรงของความเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ที่การเจรจายังไม่ยุติ และอื่นๆ เช่น ความตึงเครียดบริเวณชายแดนกัมพูชา, ประสิทธิผลของโครงการกระตุ้น ศก., เสถียรภาพรัฐบาล เป็นต้น


5. รมว. คลังปฏิเสธกระแสข่าวสหรัฐฯ มีมติเก็บภาษีศุลกากรจากไทย 18% ไม่เป็นความจริง โดยอัตราดังกล่าวนั้นเป็นเพียงคาดการณ์ของ ธปท. ขณะที่การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ยังไม่ได้ข้อสรุป


6. ก.ล.ต.ร่วมกับ บจ. ไทยสร้างโอกาสเติบโตผ่าน 2 โครงการ “Corporate Value Up” ควบคู่กับ “JUMP+” เพื่อสนับสนุนการเติบโต, สร้างมูลค่าต่อ บจ. โดยเปิดให้ บจ. สมัครเข้าร่วมโครงการได้ระหว่างวันที่ 26 มิ.ย. – 30 ธ.ค. 68
 
กลยุทธ์การลงทุน :

ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวผันผวนต่อ หลังเผชิญปัจจัยลบทั้งภายนอกและภายในประเทศ ปัจจัยภายนอกติดตามสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง, ข้อตกลงการค้าเพิ่มเติมและการการแจ้งอัตราภาษีแบบฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ต่อประเทศคู่ค้าอื่นๆ

ส่วนปัจจัยภายในติดตามความไม่แน่นอนทางการเมืองและปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ดีเราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แต่เป็นลักษณะของการทยอยสะสม กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”
 
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :

มอง SET แกว่งตัวผันผวนต่อ หลังเผชิญปัจจัยลบทั้งภายนอกและภายในประเทศ ทั้งประเด็นตะวันออกกลาง, การค้าสหรัฐฯ, การเมืองในประเทศ และมาตรการกระตุ้น ศก. กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 1 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...


1. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำ โดยคาดผลการดำเนินงานจะสามารถต้านทานความผันผวนจากปัจจัยภายนอกได้ แนะนำ DIF BDMS BCH

2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรในช่วง 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT

3. หุ้น Earning Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ แนะนำ ADVANC CPALL BTG

Trading Idea :

สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไรภายใต้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น เลือก PTT PTTEP
 
Daily top picks :

BCPG : มองน่าสนใจในฐานะหุ้น Undervalued ซึ่งปัจจุบันซื้อขายที่ PER และ PBV 68F เพียง 10.9 เท่า (-1SD) และ 0.5 เท่า (-2SD) ซึ่งยังไม่สะท้อนกำไรปกติที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในปี 2568 คาดกำไรจะเติบโตสูง 32% และเติบโตต่อ 24% ในปี 2569 หนุนโดย 2 ปัจจัยหลัก คือ...

1) รายได้จาก Capacity Payment ในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นมาก

2) การเปิดโครงการใหม่ในครึ่งหลังของปี และคาดให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงปีละ 4.2%
 
CPALL : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากการไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาด กำไร 2Q68 คาดจะเติบโต YoY และปี 2568 จะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มที่ 19%YoY (กลุ่ม 5%YoY) และซื้อขาย PER 2568F ที่ 16 เท่า (กลุ่ม 17 เท่า) ส่วนการประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน (ไม่เกิน 1.67% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด) ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.-14 พ.ย. 68 จะช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้น

กรอบค่าเงินบาทวันนี้ :

ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.65 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่าเร็ววานนี้ตามการอ่อนค่าของดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐและ US Treasury yields หลังนักลงทุนมองว่ามีโอกาสมากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้

การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯ ไตรมาสแรกขยายตัวชะลอลงแรงตามการใช้จ่ายในภาคบริการหลากหลายประเภทที่อ่อนแอ

สหรัฐฯ และจีนได้สรุปข้อตกลงด้านการค้าตามที่ได้บรรลุเบื้องต้นเมื่อเดือนที่แล้ว โดยสหรัฐฯ มีแผนจะเร่งบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มประเทศคู่ค้ารายใหญ่ 10 ประเทศเร็ว ๆ นี้

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน :

Economic release :

JP – Tokyo CPI มิ.ย., ยอดค้าปลีก พ.ค.
CN – กําไรภาคอุตสาหกรรม พ.ค.
EU – ดัชนี CPI EU Harmonized มิ.ย. (เบื้องต้น)
US – รายได้ส่วนบุคคล, รายจ่ายส่วนบุคคล, ดัชนี PCE และ Core PCE พ.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมหาวิทยาลัยมิชิแกน มิ.ย. (ประมาณการครั้งสุดท้าย)

อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์


You might be intertested in this news.

Mostview

กกล.บูรพา เปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวให้ประชาชนกลับภูมิลำเนาภายใน 24 มิ.ย.นี้

กองกำลังบูรพา ประกาศอนุโลมให้ประชาชนชาวกัมพูชา และชาวไทย ที่ต้องการกลับภูมิลำเนา สามารถข้ามแดนได้ภายในวันนี้เท่านั้นก่อน 20.00 น.ที่ด่านฯ บ้านคลองลึก และด่านฯ บ้านเขาดิน ส่วนจุดผ่อนปรนฯ บ้านหนองปรือ และบ้านตาพระยา ผ่านผ่านก่อน 18.00 น.

เรียนรู้ถึงตัวตนของฮุนเซน ผ่านการดิ้นรนเพื่อไปสู่อำนาจ (ชมคลิป)

เรียนรู้ถึงตัวตนของฮุนเซน ผ่านการดิ้นรนเพื่อไปสู่อำนาจ (ชมคลิป)

5 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (25มิ.ย.2025)

5 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (25มิ.ย.2025)

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (27มิ.ย.68) ทยอยชื้อสะสม

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (27มิ.ย.68) ทยอยชื้อสะสม

แนวโน้มSETวันนี้ (25มิ.ย.68) ลุ้น กนง. ลดดอกเบี้ย

แนวโน้มSETวันนี้ (25มิ.ย.68) ลุ้น กนง. ลดดอกเบี้ย

TrustNEws Line