แนวโน้มSETวันนี้ (30มิ.ย.68) ประกาศหยุดยิงหนุนรีบาวด์
by Trust News, 30 มิถุนายน 2568
แนวโน้มSETวันนี้ (30มิ.ย.68) ประกาศหยุดยิงหนุนรีบาวด์
คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์ แต่ยังอิงการพักตัวต่อ มีแนวต้านที่ 1086/1090 ส่วนการอ่อนตัวลงมีแนวรับที่ 1075/1068 การลงทดสอบมีโอกาสดีดกลับได้
ปัจจัยในประเทศเรื่องการเมือง ติดตามการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันพรุ่งนี้ 1 ก.ค. ว่าจะรับคำร้องเรื่องคลิปเสียง และมีผลต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
ประเด็นสำคัญ :
1. ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุม 1 ก.ค. 2568 เพื่อพิจารณากรณีคลิปเสียงว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่ หากรับอาจมีคำสั่งให้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวหรือไม่ก็ได้ ระหว่างรอคำวินิจฉัย
ส่วนผลตอบแทน SET Index ในอดีต ยุคพล.อ. ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้เป็นลบนัก SET -0.12% ในวันที่มีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่กรณีเลวร้าย การชุมนุมยืดเยื้อ จนเกิดการการยุบสภาก่อน ผ่านร่างพรบ. งบประมาณปี 69 คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อ GDP ที่ 0.3%-0.5%
2. กสทช. เผยการประมูลคลื่นความถี่เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. AIS คว้า 1 คลื่น (2100MHz) และทรูคว้า 2 คลื่น (2300 และ 1500MHz) มูลค่ารวม 41,274 ลบ. ส่วนคลื่น 850MHz ไม่มีผู้ร่วมประมูล ขั้นตอนต่อไปเตรียมเสนอบอร์ด กสทช. ให้ลงมติในวันที่ 2 ก.ค. นี้
3. รมว. คลังส่งสัญญาณพร้อมเจรจาการค้าและภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ หลังเผยมีกำหนดการเดินทางในสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่สามารถเผยในรายละเอียดได้ ส่วนการเดินทางจะไม่กระทบต่อการแต่งตั้งผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
4. ททท. ประเมินโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” วงเงิน 1,760 ลบ. จำนวน 5 แสนสิทธิ์และมีผู้ประกอบการลงทะเบียนแล้ว 34,005 ราย จะช่วยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวช่วงวันที่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค. 2568 ได้ราว 35,033 ลบ.
5. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ โดย ม.มิชิแกน ปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนสู่ 60.7 สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ มองว่าได้แรงหนุนจากความคลายกังวลต่อสงครามการค้าหลัง ปธน. ได้ผ่อนผันออกไป 90 วัน ส่วนดัชนี Core PCE สหรัฐฯ พ.ค. ขยายตัว 2.7%YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดและสูงขึ้นจากเดือนก่อนที่ +2.6%YoY
กลยุทธ์การลงทุน :
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์และผันผวนต่อ หลังยังรอความชัดเจนของปัจจัยทั้งในและนอกประเทศ โดยปัจจัยภายนอกติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และความคืบหน้าการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ หลังใกล้เส้นตาย 9 ก.ค.
ขณะที่ ปัจจัยภายใน ติดตามเสถียรภาพทางการเมือง (การปรับ ครม., ศาลรัฐธรรมนูญจะรับพิจารณารับคำร้องคดีคลิปเสียงนายกฯ หรือไม่ในวันที่ 1 กค. และพรรคฝ่ายค้านอาจยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ทันทีที่เปิดสมัยประชุมสภาวันที่ 3 ก.ค.),
และปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ดี เราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว โดยกลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :
มอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์และยังผันผวนต่อ เนื่องจากยังรอความชัดเจนทั้งปัจจัยภายนอก (ความคืบหน้าการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐหลังใกล้เส้นตาย 9 ก.ค.) และภายในประเทศ (เสถียรภาพทางการเมือง และปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา) กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 2 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้...
1. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำและผลการดำเนินงานต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้ (ผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายในและภายนอก) อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ ADVANC BCH DIF
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
3. หุ้น Earning Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ แนะนำ ADVANC CPALL BTG
Trading Idea :
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Undervalue (PER PBV < -1SD) และเราแนะนำ Outperform อีกทั้งคาดให้ Yield ไม่ต่ำกว่าปีละ 3% แนะนำ BBL BDMS CPALL DIF PTT SIRI TIDLOR
2) หุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐอย่างกลุ่มปูนซีเมนต์และท่องเที่ยว แนะนำ SCC SCCC ERW CENTEL AAV
Daily top picks :
ADVANC : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจาก ADVANC ได้คลื่น 2100MHz ในราคา 5 พันล้านบาท สูงกว่าราคาตั้งต้นที่ 4.5 พันล้านบาท เราประเมินว่าจะได้ประโยชน์จากการลดต้นทุนที่มีนัยสำคัญ โดยประเมินว่า ADVANC จะลดต้นทุนได้ราว 2.3 พันล้านบาทต่อปี เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ ADVANC ปี 2025 ขึ้นอีก 2.4% เป็น 40.7 พันล้านบาท (+16.9%YoY) วันนี้แนะนำซื้อที่ราคาไม่เกิน 276 บาท
ERW : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากโครงการเที่ยวคนละครึ่งที่จะมีการลงทะเบียนวันพรุ่งนี้ คาดว่าผู้ประกอบการที่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวไทยจะได้อานิสงส์มากที่สุด โดย ERW มีสัดส่วนรายได้ 28% ของรายได้โรงแรมมาจากนักท่องเที่ยวไทยและ 10% จากจีน คาดว่าครึ่งปีหลังการดำเนินงานจะฟื้น บริษัทยังคงเป้าการเติบโตสูงของกลุ่มโรงแรมบัดเจ็ท HOP INN ไว้ที่ 23% จากการขยายโรงแรมอย่างต่อเนื่อง
กรอบค่าเงินบาทวันนี้ :
ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.75 บาท/ดอลลาร์
ค่าเงินบาทอ่อนค่าจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ หลังมีกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงนายกฯ และผลโพลคะแนนความนิยมต่อนายกฯ ปรับลดลงเร็ว
ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐปรับแข็งค่า และ Treasury yields สูงขึ้นเล็กน้อย หลังตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐาน Core PCE ออกมาที่ 0.2%MOM สูงกว่าคาดเล็กน้อย แต่รายจ่ายและรายรับผู้บริโภคออกมาต่ำกว่าคาด
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่ว่าเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าประเทศที่ยังไม่มีข้อตกลงการค้าด้วยหรือมีการเจรจาช้า โดยอาจขึ้นภาษีถึง 25%
Economic release :
JP – การผลิตภาคอุตสาหกรรมเบื้องต้น พ.ค.
CN – ดัชนี PMI ภาคการผลิต และภาคบริการ มิ.ย.
TH – ดุลบัญชีเดินสะพัด พ.ค., การส่งออก พ.ค., การนําเข้า พ.ค., ดุลการค้า พ.ค.
US – ดัชนี MNI Chicago PMI มิ.ย., ดัชนีกิจกรรมภาคการผลิต Dallas Fed มิ.ย.
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
สำรวจวงจรเชื่อมผลประโยชน์ สายใยที่ยึดโยงตระกูลฮุน (ชมคลิป)
สำรวจวงจรเชื่อมผลประโยชน์ สายใยที่ยึดโยงตระกูลฮุน (ชมคลิป)
ประวัติน้องตู้เย็น และความตั้งใจ ที่ใช้สยบดรามาโชเชียลมีเดีย (ชมคลิป)
ประวัติน้องตู้เย็น และความตั้งใจ ที่ใช้สยบดรามาโชเชียลมีเดีย (ชมคลิป)
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(20ส.ค.68) รอสัญญาณกลับตัว
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(20ส.ค.68) รอสัญญาณกลับตัว
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (14ส.ค.68) ดีดตัวระยะสั้น
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (14ส.ค.68) ดีดตัวระยะสั้น
ภาษีทรัมป์ความเสี่ยงเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2
ภาษีทรัมป์ความเสี่ยงเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
