สรุปสงคราม 1 ปี One Year War
by Trust News, 3 กุมภาพันธ์ 2568
สวัสดีครับ Trust News Podcast สัปดาห์นี้พบกับเรื่องราวของมหากาพย์ต้นกำเกิดเรื่องราวในจักรวาล UCของ GUNDAM กับปฐมบทเรื่องราวของสงคราม 1 ปี หรือ (One Year War)
สงคราม 1 ปี (One Year War) จาก GUNDAM 0079 เป็นเหตุการณ์สำคัญในจักรวาลของ Gundam ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างสหพันธ์โลก (Earth Federation) และ สหภาพ Zeon (Principality of Zeon) สงครามใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติ
จุดเริ่มต้นคือ “การประกาศเอกราชของกลุ่มโคโลนี่ไซด์ 3 (Side 3)” หรือในชื่อ “จักรวรรดิซีออน” (Principality of Zeon) ภายใต้การนำโดย “ตระกูลซาบี้” (Zabi family) ขึ้นสู่อำนาจสูงสุดในปี U.C. 0068 หลังจากที่ “ซีออน แซม ไดคุน” (Zeon Zum Deikun) ผู้นำซีออนคนก่อนถึงแก่กรรมจากการถูกปฏิวัติรัฐประหาร
คู่กรณีคือฝ่ายสหพันธ์โลก (Earth Federation Space Force = E.F.S.F) กับจักรวรรดิซีออน สงครามเริ่มต้นในวันที่ 1 มกราคมปี U.C. 0079 และสิ้นสุดลงในวันที่ 1 มกราคม ปี U.C. 0080
- จักรวรรดิซีออนยกกองทัพเข้าโจมตีโคโลนี่ Side 1, Side 2 และ Side 4 ในวันที่ 3 มกราคมปี UC 0079
- ยุทธการบริทิส (Operation British) แผนทิ้งโคโลนี่ลงมาที่โลก เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ร้ายแรงที่จักรวรรดิซีออนเลือกใช้เพื่อปิดสงคราม (ภาพจากภาค Mobile Suit Gundam Unicorn) เป็นชื่อแผนยุทธการสู้รบของฝ่ายจักรวรรดิซีออน
ซึ่งเริ่มขึ้นในช่วงของสัปดาห์แรกของช่วงเริ่มต้นสงครามหนึ่งปี โดยแผนนี้ได้ใช้โคโลนี่ร้างจาก Side 2 ทิ้งลงพื้นโลก มีจุดตกที่กำหนดอยู่ที่ “ฐานจาโบร” (Jaburo Base) ของสหพันธ์โลก
แต่ด้วยความคาดเคลื่อนทำให้โคโลนี่ไปตกลงที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย มีผลกระทบทำให้เกิดหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ หากแผนยุทธการบริทิสสำเร็จและตกลงไปที่ฐานจาโบร จะเท่ากับปิดฉากสงครามได้ทันที เพราะฐานจาโบรคือฐานบัญชาการใหญ่ที่สุดของฝ่ายสหพันธ์โลก
สมรภูมิลูม (The Battle of Loum) :
เป็นสงครามทางภาคพื้นอวกาศครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มกราคม ปี UC 0079 ภายหลังจากที่แผนยุทธการบริทิสล้มเหลว ฝ่ายจักรวรรดิซีออนได้ยกกองกำลังเข้าบุกตีโคโลนี่ Side 5 หรือในชื่อ “ลูม” (Loum) ในสงครามครั้งนี้ “จอมพลเรวิล” (General Revil) ได้บัญชาการสู้รบด้วยตัวเอง จนถูกจับเป็นตัวประกัน
ในศึกครั้งนี้ทางฝ่ายสหพันธ์โลกได้พ่ายแพ้สงครามอย่างหมดรูป ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของโมบิลสูทในสงครามที่น่ากลัวของฝ่ายจักรวรรดิซีออน
หลังจากสิ้นสุดสงครามลูม (The Battle of Loum) ทางสหพันธ์โลกได้เปิดโต๊ะเจรจายอมสงบศึกกับฝ่ายจักรวรรดิซีออนที่ฐานในทวีปแอนตาร์กติก โดยฝ่ายจักรวรรดิซีออนได้ใช้ความได้เปรียบที่สามารถจับตัวจอมพลเรวิลผู้นำสำคัญของฝ่ายสหพันธ์โลกเอาไว้ได้ บีบให้ทางสหพันธ์โลกยกเลิกการคว่ำบาตรทุกๆ อย่างและคืนเอกราชให้แก่ชาวสเปซนอยด์
ทว่าในช่วงของการเจรจาสนธิสัญญานั้น จอมพลเรวิลถูกช่วยเหลือออกมาได้ พร้อมทั้งประกาศให้ยกระดับการต่อสู้ด้วยเทคโนโลยีด้านโมบิลสูทขึ้น
อย่างไรก็ดี สมรภูมินี้ สร้างเอซไพลอคในสงครามที่เป็นตัวละครสำคัญในจักรวาลกันดัม ได้แก่
1. "ชาร์ อัสนาเบิล" ดาวหางสีแดง เจ้าของ Zaku II Type S สีแดงแรงสามเท่า
2. "ชิน มาชินากะ" ฉายา หมาป่าสีขาว ยอดขุนพลขของแม่ทัพ พลโทโดเซิล ซาบี้ ขับซากุ รุ่น MS06 R-1A สีขาว
3. "จอห์นนี่ ริดเด็น" สายฟ้าสีแดง เป็นนักบินในสังกัดของ คิซิเรีย ซาบี้ ที่สร้างชื่อเสียงจากสมรภูมิ รูม เจ้าของซากุ R-2 สีแดงเข้ม อาวุธหลัก คือ ไจแอนท์บาซูก้า แบบที่ MS-09 โดมใช้
4. "สามดาวดำซีออน" ไกอา ออลเดก้า และ มาร์ช ขับโมบิลสูท MS06 R-1A สีดำม่วง
และแม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะยังทำสงครามกันได้ต่อไป แต่ต้องอยู่ในกรอบข้อตกลงที่วางเอาไว้ร่วมกัน เช่นการห้ามใช้อาวุธนิวเคลียร์และแก๊สพิษต่างๆ (NBC), ไม่ล่วงละเมิดต่อเขตโคโลนี่ที่ไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับสงครามสิทธิของเชลยศึก และการปฏิบัติในระหว่างการถูกควบคุมตัว ฯลฯ
- จักรวรรดิซีออนยกกำลังบุกลงมาที่โลกเป็นครั้งแรก ปะทะกับกองทัพฝ่ายสหพนธ์โลกตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ทั้งภาคพื้นเอเชีย, โอเชียเนีย ฐานโอเดสซ่า แบ่งออกเป็นสามช่วงคือ
1st Drop การยกกำลังบุกลงมาที่โลกเป็นครั้งแรก ในวันที่ 1 มีนาคม ที่ทวีปเอเชีย กองกำลังซีออนสามารถเข้าบุกสนามบินอวกาศ “ไบโคเนอร์” (Baikonur) เป็นที่แรก
ก่อนจะบุกรุกคืบเพื่อมุ่งไปยังทวีปยุโรปทางด้านตะวันตกของทะเลสาบแคสเปี้ยน และฟากชายฝั่งตะวันออกของกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง
2nd Drop การยกกำลังบุกลงมาที่โลกเป็นครั้งที่สอง ในวันที่ 11 มีนาคม กองกำลังซีออนสามารถเข้าบุกทวีปอเมริกาเหนือ ทั้งฟากด้านตะวันออกและตะวันตก จากการสนธิกำลังของกองกำลังซีออนที่ 2 และ 3
ซึ่งในสองวันจากนั้นจักรวรรดิซีออนสามารถเข้ายึดฐานของฝ่ายสหพันธ์โลกที่อยู่ในแคลิฟอร์เนียได้สำเร็จ ก่อนที่ฝ่ายจักรวรรดิซีออนจะใช้ที่แห่งนี้เป็นฐานบัญชาการภาคพื้นดิน
3rd Drop การยกกำลังบุกลงมาที่โลกเป็นครั้งที่สาม ในวันที่ 18 มีนาคม กองกำลังซีออนที่ 4 สามารถเข้าบุกเข้ายึดพื้นที่ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทวีปออสเตรเลียได้ทั้งหมด
ก่อนที่กองกำลังซีออนที่ 5 จะส่งกำลังเสริมเข้ามาในทวีปอเมริกาเหนือและตะวันออกกลาง ในอีกสองอาทิตย์ถัดมา
โปรเจ็คท์ V (The Project V) :
ภายหลังจากที่สหพันธ์โลกเสียเปรียบจากการสู้รบกับฝ่ายจักรวรรดิซีออนที่ได้นำกองทัพโมบิลสูทเข้ามาใช้ในสงคราม ทางฝ่ายสหพันธ์โลกจึงได้มีการคิดค้นโมบิลสูทขึ้นมาเพื่อตอบโต้ฝ่ายจักรวรรดิซีออน
ซึ่งได้เริ่ม “โปรเจ็คท์ V” ขึ้น โดยคำว่า V นั้นย่อมาจาก “Victory” โดยในโปรเจ็คท์ V ได้ดำเนินการในทางลับสุดยอด ภายใต้การคุมงานและดูแลโดย “ทิม เรย์” (Tim Ray) (คุณพ่อของอามุโร่ เรย์) หัวหน้าทีมวิศวกรของฝ่ายสหพันธ์โลก พัฒนาโมบิลสูทขึ้นมาเป็นจำนวน 3 รุ่นได้แก่
- RX-75 Guntank
- RX-77 Guncannon
- RX-78 Gundam
และรวมไปถึงยานรบประจัญบานในรุ่นของ SCV-70 White Base Pegasus-class ที่ชื่อ “ไวท์เบส” หรือม้าไม้ ในฝั่งซีออน
- ยุทธการโอเดสซ่า (Operation Odessa)
สงครามบนภาคพื้นโลกที่ทั้งสองฝ่ายเริ่มใช้โมบิลสูทเข้าปะทะกัน ฝ่ายสหพันธ์โลกเป็นฝ่ายบุกเข้าตีและใช้เวลาถึงสามวันจึงจะสิ้นสุด ก่อนจะได้รับใช้ชัยชนะเป็นครั้งแรก
โดยพื้นที่โอเดสซ่าที่ติดกับทะเลดำ (Black Sea) นี้มีความสำคัญทางด้านสินแร่ ที่เป็นส่วนประกอบในการผลิตอาวุธให้กับทางจักรวรรดซีออนสำหรับสงครามบนพื้นโลกอย่างมาก ถือเป็นจุดเปลี่ยนทิศของสงครามหนึ่งปีก็ว่าได้และในสงครามครั้งนี้
ฝ่ายสหพันธ์โลกสูญเสียกำลังพลไปถึง 3,700,000 นาย หน่วยโมบิลสูทจำนวน 30 หน่วย ส่วนด้านจักรวรรดซีออน “พันเอกการ์ม่า ซาบี้” (Garma Zabi) บุตรชายคนสุดท้องของตระกูลซาบี้ได้เสียชีวิตลงที่นี่
ทำให้ฝ่ายจักรวรรดซีออนสูญเสียกำลังใจในการทำสงครามอย่างมาก เหตุนี้เองทำให้ “กิเรน ซาบี้” ได้ประกาศการงานศพของน้องชายที่ถุกถ่ายทอดสดไปทั่วโลกว่าจะตอบโต้ฝ่ายสหพันธ์โลกให้ถึงที่สุด
สมรภูมิจาโบร (Battle of Jaburo) :
สงครามบนภาคพื้นโลก กองกำลังซีออนจากฐานในแคลิฟอร์เนีย ที่นำโดย “พันเอกชาร์ อัสนาเบิ้ล” ที่ได้บุกเข้าตีโรงงานผลิตอาวุธและโมบิลสูทของฝ่ายสหพันธ์โลก โดยร่วมมือกับหน่วยรบพิเศษสะเทินน้ำทสะเทินบก แมดอังกลา พร้อมโมบิลสูทที่ทำการรบในน้ำได้บุกเข้าโจมตี อาทิ MSM-03 ก๊อก ที่เป็นหุ่นมีกรงเล็บแหลมคม พร้อมอาวุธบีม
ในส่วนหน่วยแมดอังเกลอ เป็นหน่วยสอดแนมลอบเร้นใช้โมบิลสูท MSM-04 อักไก ที่ออกแบบมาให้ตรวจจับได้ยาก
มีอาวุธ คือ ปืนลำแสง กรงเล็บและกระเปาะยิงมิสไซล์ และหุ่นรบหัวหน้าหน่วย MSM-07 Z'Gok สก็อก เป็นโมบิลสูทที่สามารถใช้ในน้ำได้ มีการออกแบบที่เน้นความคล่องตัวในน้ำ มีขาเล็กๆ ที่ช่วยให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว อาวุธหลักคือปืนลำแสงที่แขน และกรงเล็บแหลมคม ที่ใช้กระซวกพุงหุ่นจิมจนทะลุ
ขับโดยชาร์ อัสนาเบิล และได้เข้าปะทะกับ “กันดั้ม” ที่บังคับโดย “อามุโร่ เรย์” เอสไพล๊อตของฝ่ายสหพันธฺโลก ประจำยานไวท์เบส
ในสงครามนี้ฝ่ายกองกำลังซีออนล้มเหลงลงอย่างสิ้นเชิง โดยภายหลังจากที่สงครามใหญ่บนภาคพื้นโลกล้มเหลวและพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ฝ่ายจักรวรรดิซีออนเริ่มเสียขวัญลงไปมาก
อีกทั้งฝ่ายสหพันธ์โลกได้เริ่มตีโต้อย่างหนักทั้งในทวีปอเมริกา รวมไปถึงทวีปแอฟริกา จนต้องหลบหนีไปยังอวกาศ แต่กองกำลังซีออนส่วนหนึ่งยังคงต่อสู้ต่อไปในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สมรภูมิโซโลมอน (Battle of Solomon) :
ป้อมปราการอวกาศของทางฝ่ายจักรวรรดิซีออนที่สร้างจากดาวเคราะห์น้อย ถือเป็นฐานที่มั่นทางทหารที่สำคัญทางอวกาศอย่างมาก ทางฝ่ายสหพันธ์โลกได้ตัดสินใจยกกองกำลังเข้าบุกตีอย่างหนัก
ก่อนที่กิเรน ซาบี้จะสั่งให้ใช้อาวุธมหาประลัยอย่างโคโลนี่เลเซอร์ “โซล่าห์ ซิสเต็ม” (Solar System) หรือ “โซล่าห์ เรย์” (SolarRay) ยิงใส่กองกำลังฝ่ายสหพันธ์โลก ซึ่งรวมถึงฝ่ายเดียวกัน
จนต้องสูญเสียกองกำลังรบไปเป็นจำนวนมาก ในศึกนี้จอมพลเรวินแห่งฝ่ายสหพันธ์โลกและ “นายพลโดเซิ่ล ซาบี้” ผู้นำแห่งจักรวรรดิซีออนได้เสียชีวิตลงในสงครามครั้งนี้ หลังจากนำโมบิลอาเมอร์ อย่างบิ๊กแซมเข้าต่อสู้กับกองยานของสหพันธ์โลก แล้วไปพลาดท่าให้กันดั้มของอามุโร เรย์
สมรภูมิ อา บาว คู (Battle of A Baoa Qu) :
เป็นสงครามชี้ขาดระหว่างฝ่ายสหพันธ์และจักรวรรดิซีออนที่เกิดขึ้นที่ป้อมปราการ “อา บาวอา คู” โดยหลัง การเข้าปฏิวัติยึดอำนาจภายในของจักรวรรดิซีออน
ที่ "กิเรน ซาบี้" (Giren Zabi) ได้ก่อกบฎต่อ “เดกวิ้น ซาบี้” (Degwin Sodo Zabi) ผู้นำตระกูลซาบี้ผู้เป็นบิดา ในระหว่างที่กำลังทำการเจรจาของสงบศึกต่อฝ่ายสหพันธ์
โดยได้สั่งการให้โคโลนีเลเซอร์ยิงลำแสงทำลายกองยานของทั้ง 2 ฝ่าย และตั้งตนเป็นผู้นำซีออนคนต่อไป ก่อนจะเปิดศึกทางอวกาศกับฝ่ายสหพันธ์เต็มรูปแบบ
สมรภูมินี้เป็นการต่อสู้กันครั้งสุดท้ายในสงคราม 1 ปี ระหว่างกันดัมของอามุโร และชาร์ ที่ได้โมบิลสูทรุ่นใหม่ MSN-02 Zeong ซีอองก์ มาพร้อมอาวุธไซคอมมิว โดยแขนทั้งสองข้างของซีอองก์สามารถแยกออกไปจากตัวได้
โดยมีสายเคเบิลโยงไว้ ซึ่งนักบินที่เป็นนิวไทป์สามารถใช้พลังจิตควบคุมแขนผ่านระบบไซคอมมิวให้โจมตีศัตรูด้วยปืนมหาอนุภาคที่ติดอยู่กับนิ้วมือทั้งห้าได้ นอกจากที่มือทั้งสองแล้วซีอองก์ยังมีปืนมหาอนุภาคอยู่ที่ท้องและปากรวมสามกระบอก
ซีอองก์ ยังมีห้องควบคุมอยู่ที่ส่วนหัวซึ่งสามารถแยกออกมาและสู้ต่อได้เมื่อส่วนลำตัวถูกทำลาย ชาร์ได้ใช้ซีอองก์ในการต่อสู้กับกันดั้มของอามุโร่ เรย์ที่ปราการอวกาศอาบาวคูและถูกทำลายไปพร้อมกับกันดัม
ทว่าในระหว่างสงครามนั้น กิเลน ซาบี้ (Gihren Zabi) ได้ถูก “พลตรีกิซิเรีย ซาบี้” (Kycilia Zabi) ผู้เป็นน้องสาวทำการปฏิวัติซ้อนและฆ่าตาย
อำนาจภายในจักรวรรดิซีออนเกิดความสันคลอนอย่างหนัก ในท้ายที่สุดชาร์ ที่รอดตายจากการสู่กับอามุโร่ ก็มาส่งคิริเซีย ไปหาน้องชายในปรโลก ยิงบาซูก้าอัดหัวกิซิเรีย ซาบี้จนตาย
เมื่อผู้นำสูงสุดคนสุดท้ายของซีออนตายในสงคราม แล้วทำให้ฝ่ายสหพันธ์ปิดฉากสงครามหนึ่งปีด้วยชัยชนะลงได้ในที่สุด....
เรียบเรียง : ดาวหางสีขาว สำนักข่าวทรัสต์นิวส์
You might be intertested in this news.
Mostview
ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น
ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ
6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)
6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง