จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย หลังทรัมป์ ขึ้นภาษี36%
by Trust News, 3 เมษายน 2568
จะเกิดอะไรขึ้นประเทศไทย หลังทรัมป์ ขึ้นภาษี36%
ณ 16.00 น. วันที่ 2 เม.ย. (เวลาสหรัฐ) ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศใช้ภาษีแบบต่างตอบแทน (Reciprocal Tariff) ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าหลายฝ่ายรวมถึงเราคาดการณ์ โดยภาษีแบ่งเป็น 2 ขั้น คือ...
(1) ภาษี Broadbase ทั่วโลก 10%
(2) ภาษีรายประเทศ แล้วแต่ที่ประกาศ (ซึ่งประเทศที่ถูกเก็บภาษีรายประเทศ จะไม่ถูกเก็บภาษี Broadbase อีก โดยตามตารางที่ทรัมป์แสดง ไทยจะถูกเก็บในอัตรา 36% (น้อยกว่าอัตราที่ทรัมป์อ้างว่าไทยเก็บภาษีกับสหรัฐที่ 72% แต่ก็สูงกว่าอัตราขั้นสูงของเราที่ 16%)
ตามการวิเคราะห์แบบ Sensitivity Analysis อัตราภาษีที่ 36% อาจทำให้เศรษฐกิจไทยหดตัวลง -3.6% และโดยการส่งออกจะหดตัวประมาณ -7% หากไม่มีการเจรจาต่อรองและการลดดอกเบี้ยจากธนาคารแห่งประเทศไทย เศรษฐกิจไทยอาจหดตัว -1.1% ในปีนี้ ลดลงจากการคาดการณ์พื้นฐานที่ 2.5%
สถานการณ์หลังจากนี้ จะเกิดอะไรขึ้น :
เชื่อว่าภายในสองถึงสามเดือนหลังจากนี้ ทุกประเทศที่โดนอัตราภาษี reciprocal tariff จะเร่งไปเจรจากับสหรัฐ ทำให้ภาษีลดทอนลง โดยอาจ...
(1) ลดทอนภาษีนำเข้าจากสหรัฐในประเทศของตนเอง
(2) เจรจานำเข้าสินค้าสหรัฐมากขึ้น
(3) ตั้งกำแพงภาษีตอบโต้ โดยในกรณีไทย หากตอบโต้ ไทยจะต้องประกาศภาษีนำเข้า (อากรขาเข้า) จากสหรัฐที่อัตรา 36% จากที่เฉลี่ย 8% ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามการเก็บในอัตราที่สูงเช่นนี้บ่งชี้ว่าทรัมป์ ตั้งใจจะทำให้ การค้าโลก เปลี่ยนจากการค้าเสรี เป็นการค้าที่ ทุกประเทศมีการเก็บอากรขาเข้า ซึ่งจะลดทอนการค้าโลกในระดับหนึ่ง
สิ่งที่ต้องติดตาม :
1. ทางการไทยจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านเศรษฐกิจรวมถึงมีมาตรการมาช่วย สนับสนุน เศรษฐกิจหรือไม่อย่างไร โดยเฉพาะ
(1) กระทรวงพาณิชย์ที่จะต้องเร่งเจรจา
(2) กระทรวงการคลังที่จะต้องมีมาตรการช่วยเหลือผู้ส่งออก
(3) ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ควรจะต้องลดดอกเบี้ยฉุกเฉิน
2. ผลของการเก็บภาษีนี้ อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวในระดับ 1.5% ตามโมเดล ดังนั้น ในเบื้องต้นเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว เหลือ ประมาณ 0.4% จากที่เคยคาดว่าจะขยายตัว 1.9% เงินเฟ้ออาจขึ้นไปประมาณ 4% จากที่เคยคาดว่าที่จะ 2.7%
และมีโอกาสสูงที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด จะไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้ในปีนี้ และมีโอกาสประมาณ 40% ที่ต้องขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่กรณีเลวร้ายที่ไทยไม่สามาจรถเจรจาต่อรองได้ เศรษฐกิจไทยจะหดตัว -1.1% ธปท. อาจลดดอกเบี้ยอีก 6 ครั้ง สู่ 0.5% ขณะที่เงินเฟ้อ (CPI) อาจปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 1.5% ด้านการส่งออก -5.0%
ขณะที่กรณีฝันร้าย (Nightmare scenario) เศรษฐกิจโลกอาจตกไปสู่ภาวะเช่นเดียวกับ The great depression ในช่วงปี 1930 ได้
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
ทำไมทีมไหนๆจึงเลือกใช้ บอล Direct โจมตี ลิเวอร์พูล (ชมคลิป)
ทำไมทีมไหนๆจึงเลือกใช้ บอล Direct โจมตี ลิเวอร์พูล (ชมคลิป)
เล่นเร็ว เน้นบอลยาวและฟรีคิก แท็กติกที่ทำให้แมนยูฯเริ่มดีขึ้น (ชมคลิป)
เล่นเร็ว เน้นบอลยาวและฟรีคิก แท็กติกที่ทำให้แมนยูฯเริ่มดีขึ้น (ชมคลิป)
“พระปรุหนัง” ของขลังมหาอุตม์ของ “เสือฝ้าย” และจุดจบที่แสนอดสู
เรื่องเล่า "ของขลัง" ขุนโจรฉายา "จอมพลฝ้าย" ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน 4 เสือสุพรรณ โดยมีของดี เป็น "พระเครื่องปรุหนัง" พระระดับตำนานที่สร้างในสมัยอยุธยา ขึ้นชื่อเรื่อง มหาอุตม์ แต่จุดจบของเสือฝ้ายกลับตายอย่างน่าอดสู....
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (7พ.ย.68) Sideway ดีดตัวขึ้นกรอบบน
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (7พ.ย.68) Sideway ดีดตัวขึ้นกรอบบน
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (5พ.ย.68) ยังคงเป็น Sideway
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (5พ.ย.68) ยังคงเป็น Sideway
ข่าวที่เกี่ยวข้อง