แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (6พ.ค.68) รอซื้อที่แนวรับ
by Trust News, 6 พฤษภาคม 2568
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (6พ.ค.68) รอซื้อที่แนวรับ
การสร้างจุดสูงใหม่เป็นการยืนยันแนวโน้มขาขึ้นอีกระลอก แต่เริ่มมีสัญญาณอ่อนตัวในเช้าวันนี้ จึงมีโอกาสลงมาทดสอบตามแนวรับ
นักลงทุนพิจารณาแบ่งเงินเป็นหลายส่วนเข้าซื้อที่แนวรับเท่านั้นแล้วจึงขายทํากําไรเมื่อราคาดีดตัวประมาณ 10 ดอลลาร์สหรัฐ จากจุดซื้อหรือเข้าใกล้แนวต้านในกรอบนี้ อย่างไรก็ตามควรตัดขาดทุน หากราคาปรับฐานลงต่ำกว่า 3,300 ดอลลาร์สหรัฐ
แนวรับ : $3,320 $3,310 $3,300
แนวต้าน : $3,340 $3,350 $3,360
ปัจจัยพื้นฐานตลาดทองคำ :
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศจะเรียกเก็บภาษีในอัตรา 100% กับภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ผลิตในต่างประเทศ
พร้อมระบุว่าได้มอบอำนาจให้กระทรวงพาณิชย์และผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ เริ่มบังคับใช้ภาษีศุลกากรดังกล่าวในทันที
นักลงทุนพิจารณาแบ่งเงินเข้าเก็งกำไร ระยะสั้นตามแนวรับ ด้านทองคำแท่งในประเทศ ถูกกดดันจากจากค่าเงินที่แข็งค่า พิจารณาขาย ทำกำไรที่ 52,000 - 52,100 บาท
ตารางเศรษฐกิจ :
19.30 น. US : ดุลการค้า (+)
ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 5-9 พ.ค.68 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ
13 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 2 ราย หรือเทียบเป็น 15% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น
ส่วนจำนวน 7 ราย หรือเทียบเป็น 54% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 4 ราย หรือเทียบเป็น 31% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 348 ราย ในจำนวนนี้มี 108 ราย หรือเทียบเป็น 31% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น
ส่วนจำนวน 200 ราย หรือเทียบเป็น 57% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 40 ราย หรือเทียบเป็น 12% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สถานการณ์ราคาทองคำ :
ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 50,850 ถึง 52,550 บาท ต่อบาททองคำ
โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 50,850 บาท ต่อบาททองคำ ลดลง 1,850 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 52,700 บาท)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม :
1. การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ระหว่างวันที่ 6-7 พฤษภาคม 2568 โดยคาดว่า FED จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในรอบการประชุมนี้ แม้จะมีแรงกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้เร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคาดการณ์ว่า FED อาจลดดอกเบี้ย 4 ครั้ง ได้แก่เดือน มิถุนายน, กรกฎาคม, ตุลาคม และธันวาคม 2568
2. การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 โดยคาดว่า BOE จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 4.25% หลังจากที่ยืนนโยบายดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.5% ตั้งแต่เดือน มกราคม 2568
โดยมีแนวโน้มจะปรับลดอีกในช่วงเดือน สิงหาคม และพฤศจิกายน 2568 ซึ่งเป็นไปตามทิศทางการผ่อนคลายนโยบายการเงินของหลายธนาคารกลางหลักทั่วโลก
3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค CPI และดัชนีชี้วัดสภาวะทางเศรษฐกิจภาคการบริการ PMI/ISM เดือน เมษายน 2568 รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
หมายเหตุ : การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
อ้างอิง : สมาคมค้าทองคำ , บทวิเคราะห์ บริษัท ออโรร่า เทรดดิ้ง จำกัด
You might be intertested in this news.
Mostview
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (2ก.ค.68) เริ่มแกว่งออกข้าง
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (2ก.ค.68) เริ่มแกว่งออกข้าง
มติศาลรธน.7ต่อ2 สั่งอุ๊งอิ๊งยุติปฏิบัติหน้าที่
มติศาลรธน.7ต่อ2 สั่งอุ๊งอิ๊งยุติปฏิบัติหน้าที่
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (2ก.ค.2025)
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (2ก.ค.2025)
ความทันสมัย ของ โคตะ ทาคาอิ กองหลังสัตว์ประหลาดแห่งเจลีก (ชมคลิป)
ความทันสมัย ของ โคตะ ทาคาอิ กองหลังสัตว์ประหลาดแห่งเจลีก (ชมคลิป)
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ก.ค.2025)
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ก.ค.2025)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
