สรุปประเด็นโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณแข็งกร้าวในเวทีดาวอส
by Trust News, 27 มกราคม 2568
สรุปประเด็นโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณแข็งกร้าวในเวทีดาวอส
1. ทรัมป์ส่งสัญญาณแข็งกร้าวในเวทีดาวอส กดดัน OPEC-เฟด
ทรัมป์ ปราศรัยผ่านวิดีโอในเวทีประชุมเศรษฐกิจโลก (WEF) ส่งสัญญาณกดดันหลายฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน OPEC ให้เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อลดราคาน้ำมัน
อ้างว่าจะช่วยยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เงินเฟ้อลดลง และทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารกลางอื่น ๆ สามารถลดดอกเบี้ยได้
เรามองว่า การประกาศนโยบายพลังงานของทรัมป์ในเวทีดาวอสสะท้อนวิสัยทัศน์ที่จะใช้อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อเนื่องจากยุคไบเดน โดยเฉพาะการส่งออก LNG ไปยุโรปที่ทำให้การส่งออกสุทธิเป็นบวกและผลักดัน GDP โตถึง 3%
ประเด็นสำคัญอยู่ที่ การกดดันซาอุดีอาระเบียและ OPEC ให้เพิ่มกำลังการผลิต 1-2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลตลาดน้ำมันโลก
หากราคาน้ำมันลดลง 5-10 ดอลลาร์จากปัจจุบัน จะทำให้เงินเฟ้อลดลง 0.2-0.5% จาก 2.9% เหลือ 2.4-2.7%
หากแผนนี้สำเร็จ จะเปิดทางให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ลดดอกเบี้ยได้เร็วขึ้น
สรุปสงครามการค้า สหรัฐ-จีน-ยุโรป :
(1) สหรัฐ-จีน ข้อตกลงการค้าเฟส 1 ระหว่างสหรัฐฯ-จีน ปี 2020 ระบุว่า : จีนตกลงเพิ่มการซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯ อย่างน้อย 2 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี ภายใน 2 ปี (เป้ารวมเกือบ 4 แสนล้านดอลลาร์)
อย่างไรก็ตาม การระบาดของโควิด-19 ทำให้เป้าหมายการซื้อขายไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ทำให้การประเมินผลข้อตกลงเฟส 1 อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองในการเจรจาการค้าครั้งใหม่ หรือใช้เป็นเหตุผลสนับสนุนการขึ้นภาษี
(2) มาตรการภาษีระหว่างสหรัฐ-ยุโรป สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปยังคงดำเนินต่อไป
ฝั่งสหรัฐฯ ใช้มาตรา 301 เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 7.5-25% และมาตรา 232 เก็บภาษีเหล็ก 25% และอลูมิเนียม 10% โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง
(3) ในสมัย ทรัมป์ 2.0 ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษี 3 ประเทศ โดยจะเก็บภาษี 25% กับแคนาดาและเม็กซิโก และ 10% กับจีน ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ หดตัว 0.4%
เรามองว่า ในระยะสั้น ทรัมป์ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นภาษีแต่ยังคงใช้เป็นเครื่องมือกดดันการเจรจาการค้า โดยเฉพาะกับจีนและยุโรป ขณะที่มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ พร้อมผลักดันลดภาษีนิติบุคคลจาก 21% เหลือ 15% ในช่วงครึ่งปีแรก
อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งขึ้นจากการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานและการลดภาษีนิติบุคคล
อาจเปิดทางให้ทรัมป์กลับมาใช้มาตรการกีดกันการค้าอย่างเต็มรูปแบบในระยะต่อไป ซึ่งจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลกและการค้าระหว่างประเทศ
BOJ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อ :
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 สะท้อนถึงความมั่นใจต่อแนวโน้มเงินเฟ้อและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
เราคาดว่า BOJ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 1 ครั้งในปี 2025 สู่ระดับ 0.75% โดยมีโอกาสที่จะปรับขึ้นครั้งที่ 3 หากเงินเฟ้อยังคงอยู่เหนือเป้าหมาย 2% และค่าเงินเยนไม่แข็งค่าขึ้นมากเกินไป
ทั้งนี้ การสื่อสารนโยบายที่ชัดเจนของ BOJ แม้จะช่วยลดความผันผวนในตลาด แต่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของกลไกตลาดในระยะยาว รวมถึงอาจผูกมัด BOJ ไม่ให้ทำนโยบายการเงินเพื่อตอบสนองต่อความผันผวนต่อเศรษฐกิจเท่าที่ควร
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX)
You might be intertested in this news.
Mostview
จับ กริพเพน เทียบ F-35 และแนวคิดพึ่งตัวเองของสวีเดน (ชมคลิป)
จับ กริพเพน เทียบ F-35 และแนวคิดพึ่งตัวเองของสวีเดน (ชมคลิป)
สำรวจวีรเวร ที่ไม่ ใช่วีรกรรม BHQ องค์รักษ์ประจำตัว ฮุนเซน (ชมคลิป)
สำรวจวีรเวร ที่ไม่ ใช่วีรกรรม BHQ องค์รักษ์ประจำตัว ฮุนเซน (ชมคลิป)
เปิดใจผู้กำกับหนัง “Weapons” ทำไมเด็กๆ ลุกจากเตียง แล้วหายไป?
ผู้กำกับหนัง “Weapons” กับที่มาของบทภาพยนตร์ ว่า ทำไมเด็กๆ ลุกจากเตียง แล้วหายไป?
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (7ส.ค.68) ขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (7ส.ค.68) ขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (4ส.ค.68) มีโอกาสดีดตัวระยะสั้น
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (4ส.ค.68) มีโอกาสดีดตัวระยะสั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
