แนวโน้มSETวันนี้(9ก.ย.68) มาตรการเศรษฐกิจยังชี้นำตลาด
by Trust News, 9 กันยายน 2568
แนวโน้มSETวันนี้(9ก.ย.68) มาตรการเศรษฐกิจยังชี้นำตลาด
คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์/พักฐาน นักลงทุนยังติดตามนโยบายเศรษฐกิจ แม้รัฐบาลมีเวลาเพียง 4 เดือน แต่หากมีมาตรการที่ดีอาจเป็นปัจจัยชี้นำการเลือกตั้งครั้งหน้า หนุนให้รัฐบาลใหม่มีโอกาสออกมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม
ส่วนการที่ คุณศุภจี รับตำแหน่ง รมว. พาณิชย์ หนุนความเชื่อมั่น อย่างไรก็ดี ค่าเงินบาทแข็งค่าเร็ว แต่ยังไม่มีเงินไหลเข้าตลาดหุ้นไทยอาจไม่ได้เป็นสัญญาณที่ดีนัก ด้านเทคนิคคาดพักฐานสั้น หากไม่หลุด 1260/1250 ยังไม่เสียแนวโน้ม แนวต้านประเมินที่ 1275/1280
ประเด็นสำคัญ :
1. ปลัดคลังเผยโครงการ “คนละครึ่ง” จะพร้อมดำเนินการได้เร็วที่สุดใน ต.ค. 2568 หากรัฐบาลใหม่ตัดสินใจเดินหน้าโครงการ เนื่องจากระบบมีความพร้อมอยู่แล้ว ส่วนงบประมาณที่นำมาใช้จะสามารถใช้งบปี 2569 ได้ทันที และยังมีงบกระตุ้น ศก. ที่โยกกลับสู่งบกลางอีกราว 2.5 หมื่นลบ. เราประเมินจะมีผลต่อ GDP ราว 0.1% เป็นบวกต่อ TNP, CBG, OSP, HTC, ICHI, TVO และบวกทางอ้อมต่อ CPAXT, BJC และ CPALL
2. ธปท. เผยตั้งแต่ต้นปี 2568 เงินบาทแข็งค่าขึ้นราว 7% นำสกุลเงินในภูมิภาค เป็นผลจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์, นโยบายการเงินสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้นเป็นบวกต่อหุ้นที่มีหนี้หรือรายจ่ายในรูปของดอลลาร์ เช่น โรงไฟฟ้า (GPSC และ BGRIM) และสายการบิน (AAV และ THAI) และหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กฯ (KCE, HANA และ DELTA) และอาหาร (TU, CPF และ GFPT) ซึ่งมีรายได้ในรูปดอลลาร์
3. สหรัฐฯ เริ่มบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้ต่อการนำเข้าเม็ดพลาสติก PET มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. ทำให้อัตราภาษีนำเข้าดังกล่าวพุ่งขึ้นเป็น 27-28% จากเดิมที่ 6.5% มองเป็นบวกต่อ IVL ซึ่งมีฐานการผลิตรายใหญ่ในสหรัฐฯ ขณะที่สหรัฐฯ มีความต้องการเม็ดพลาสติก PET สูง
4. IEA ประเมินตลาด LNG จะเข้าสู่ภาวะล้นตลาดนับตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป จากความต้องการจากตลาดหลักอย่างจีนที่ชะลอลง ขณะที่กำลังการผลิตใหม่ในสหรัฐฯ เริ่มต้นเร็วกว่าแผนและการ์ตาเตรียมกลับมาส่งออกอีกครั้งในช่วงปลายปี 2569 มองเป็นบวกในระยะยาวต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลง ได้แก่ GPSC, GULF และ BGRIM
5. มูลค่าการส่งออกของจีนใน ส.ค. 2568 ขยายตัวเพียง 4.4%YoY ชะลอลงจากเดือนก่อนและต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ กดดันจากการส่งออกสู่สหรัฐฯ ที่หดตัวมากถึง 33%YoY เป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ส่วนนำเข้าขยายตัว 1.3%YoY ชะลอลงจากเดือนก่อนและต่ำกว่าคาด
กลยุทธ์การลงทุน :
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสแกว่งตัวขึ้น หลังสถานการณ์การเมืองไทยมีความชัดเจนขึ้น รอติดตามการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นการลงทุนฟื้นตัว โดยคาด Fund Flow จะทยอยไหลเข้าและประเมินแนวต้านที่ 1280/1300
ส่วนคำวินิจฉัยของศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองคดีชั้น 14 ในวันที่ 9 ก.ย. นี้ คาดจะสร้างความผันผวนต่อตลาดน้อยลงจากที่คาดไว้เดิม
ส่วนปัจจัยต่างประเทศสำคัญติดตาม ได้แก่ CPI ส.ค. ของสหรัฐฯ โดยตลาดคาดเพิ่มขึ้น 2.9%YoY เร่งตัวขึ้นจาก 2.7%YoY ใน ก.ค. ซึ่งหากเป็นไปตามคาดหรือไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยต่อใน ก.ย. นี้ ขณะที่การประชุมนโยบายการเงินของ ECB ในวันที่ 11 ก.ย. นี้คาดยังคงดอกเบี้ยไว้ที่เดิม กลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ :
ช่วงสั้นมอง SET มีแนวโน้มจะปรับขึ้น หลังสถานการณ์การเมืองไทยมีความชัดเจน คาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้...
1. หุ้น Earning Play ซึ่งคาด 2H68 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและจากปัจจัยบวกที่มีเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC BCPG GULF SCC
2. หุ้นปันผลคุณภาพดี (SET100 ที่มี SETESG Rating A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตในระยะสั้น คาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ PTT TTB HMPRO (XD 10 ก.ย.) และ KKP (XD 10 ก.ย.)
Trading Idea :
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ...
1) หุ้น Laggard Play คาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อ โดยเลือกหุ้น SET50 ราคาหุ้นปรับขึ้น QTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก มี PBV และ PER 2568F < -1SD มีพื้นฐานดี (กำไรเติบโต ฐานะการเงินแข็งแกร่งและมี ESG Rating A-AAA) แนะนำ BDMS CPALL CRC MTC PTT WHA
2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลงและ/หรือดอลลาร์อ่อนค่า(บาทแข็ง) แนะนำ กลุ่ม REITs (DIF) กลุ่มอสังหาฯ (AP SIRI) กลุ่มเช่าซื้อ (MTC) และกลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC BCPG GULF)
3) หุ้นที่ได้อานิสงส์การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล กลุ่มค้าปลีก (CPALL GLOBAL) กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL) กลุ่มนิคม (AMATA) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC)
Daily top picks :
DIF : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากดอกเบี้ยขาลง สถิติชี้ว่าราคาหุ้นมักจะปรับตัวขึ้นล่วงหน้าหนึ่งเดือนก่อนการประชุม กนง. ที่มีการลดดอกเบี้ย โดย INVX คาดว่า กนง. จะลดดอกเบี้ย 25bps ในการประชุมวันที่ 8 ต.ค. นอกจากนี้คาดกำไรหลัก 3Q68 โต YoY และ QoQ จากดอกเบี้ยที่ทยอยลด ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้นไว้ที่ 8.80 บาท
HMPRO : มองราคาหุ้นมีแรงหนุนระยะสั้นจากความต้องการซ่อมแซมที่เพิ่มขึ้นหลังน้ำท่วมในบางพื้นที่ SSS โฮมโปรหดตัวลงในอัตราที่ช้าลง จากยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กลับสู่ระดับปกติ ในขณะที่ฐานต่ำของ SSS จะช่วยหนุนให้ SSS ใน 2H68 ปรับตัวดีขึ้นจาก 1H68 ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้นไว้ที่ 8.10 บาท
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน :
Economic release :
JP – คําสั่งซื้อเครื่องจักรกล YoY ส.ค. (ตัวเลขเบื้องต้น)
อ้างอิง : บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) , กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์
You might be intertested in this news.
Mostview
ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น
ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ
6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)
6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง