ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น
by Trust News, 15 ธันวาคม 2568
ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น
“เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้จัดการทีมไม่มีอำนาจ ก็ไม่มีสโมสร ปล่อยนักเตะเมื่อไหร่ ก็เป็นเรื่องเมื่อนั้น ผมไม่สงสัยเลยว่า เดวิด เบ็คแฮม คงคิดว่าเขาใหญ่กว่า อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่สำคัญหรอกว่าจะเป็น อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หรือ นายพีท ช่างประปาที่ไหน มันไม่เกี่ยวกับชื่อ อำนาจควบคุมต่างหากที่สำคัญ คุณปล่อยให้นักเตะมาเป็นใหญ่ในห้องแต่งตัวไม่ได้ มีคนเคยลองมาแล้วหลายราย แต่ศูนย์รวมอำนาจการควบคุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องอยู่ที่ออฟฟิศของผู้จัดการทีม”
อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวถึง การตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในหนังสืออัตชีวประวัติ ถึงเหตุผลในการขาย “สตาร์อันดับหนึ่งของทีม” ในเวลานั้น อย่าง “เดวิด เบ็คแฮม” พ้นชายคาโอลด์ แทรฟฟอร์ด จากเหตุการณ์ “สตั๊ดเหินเวหา”
ซึ่งมาจากชนวนเหตุเล็กๆ ที่ว่า… “เดวิด เบ็คแฮม ไม่แสดงอาการแยแส ต่อเสียงตำหนิของผู้เป็นกุนซือที่ว่า…ทำไมจึงไม่ยอมลงมาช่วยแบ็คขวาเล่นเกมรับ”
ตัดภาพมาในเมษายนปี 2025 ท่ามกลางการฉลองแชมป์ลีกอย่างยิ่งใหญ่ ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อ “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” สตาร์อันดับหนึ่งของทีมลิเวอร์พูล บอกเล่าถึงการสนทนาส่วนตัวครั้งหนึ่งกับ “อาร์เนอ สล็อต” ผู้เป็นกุนซือ โดยระบุว่า “ผมบอกกับเขาว่า ตราบใดที่คุณให้ผมพักเรื่องการเล่นเกมรับ ผมจะทำเกมรุกให้คุณเอง ซึ่งเขาก็ฟังในสิ่งที่ผมพูด และคุณ (ซึ่งหมายถึงผู้สื่อข่าว) ก็คงเห็นได้จากตัวเลขที่เกิดขึ้นแล้ว”
ซึ่งในฤดูกาลแห่งความสำเร็จที่ว่านั้น “ราชันย์แห่งอียิปต์” ผู้นี้ ทำสถิติยิงประตูได้รวมกันถึง 34 ประตูกับอีก 23 แอสซิสต์ในทุกรายการ และคว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี ของสมาคมผู้สื่อข่าว และ สมาคมนักเตะอาชีพ รวมถึงได้สัญญาค่าเหนื่อยมูลค่าแพงลิบลิ่วเป็นการ “ตอบแทน” จากสโมสรลิเวอร์พูล ด้วย
แล้วเพราะอะไร “เรา” จึงต้องเริ่มต้นการสนทนาด้วยเรื่องราวเหล่านี้ น่ะหรือ?
นั่นเป็นเพราะ.... เรื่องราวทั้งหมดที่ว่าไปนั้น “บางที อาจเป็น “ต้นทาง” ของ เค้าลางความขัดแย้งขั้นแตกหักที่กำลังปรากฏตัวเหนือถิ่นแอนฟิลด์ ซึ่งเคยอุดมไปด้วย “ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน” มาโดยตลอด
“ผู้ที่หยิ่งทะนง จะดูถูกสิ่งต่างๆ และผู้คนที่อยู่รอบตัวเสมอ และแน่นอนว่า เมื่อเอาแต่มองสิ่งที่อยู่ต่ำกว่า คุณก็จะมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่เหนือกว่าตัวเอง” ซี เอส ลิวอิส (CS Lewis) หนึ่งในนักประพันธ์ ผู้ทรงอิทธิพลแห่งศตวรรษที่ 20
ระเบิดเวลาชื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ :
การให้สัมภาษณ์อย่างสุดเซอร์ไพรส์ รวม 1,160 คำ ของ ราชันย์แห่งอียิปต์ หลังเกมที่ลิเวอร์พูล เสมอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งกำลังทำให้ แอนฟิลด์ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกแห่งความขัดแย้ง นั้น มีประโยคไหนที่น่าสนใจและควรนำไปสู่การตีความกันบ้าง?
1. ผมคือแพะรับบาป? :
“ผมนั่งเป็นตัวสำรองทั้ง 90 นาที! และนี่เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ผมคิดว่าเป็นครั้งแรกในอาชีพของผม พูดตามตรง ผมผิดหวังมากๆ ผมทำอะไรตั้งมากมายให้กับสโมสรแห่งนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ ผมกลับต้องมานั่งเป็นตัวสำรอง และผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร มันดูเหมือนสโมสร จะโยนความผิดทั้งหมดให้กับผม ผมรู้สึกแบบนั้น ผมคิดว่ามันชัดเจนมากว่า มีคนต้องการให้ผมรับผิดชอบทั้งหมด สโมสรให้คำมั่นสัญญากับผมมากมาย เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา แต่จนถึงตอนนี้ ผมกลับต้องนั่งเป็นตัวสำรอง มา 3 เกมแล้ว”
2. มีคนไม่ต้องการผม? :
“ผมเคยพูดมาแล้วหลายครั้งก่อนหน้านี้ว่า ผมมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้จัดการทีม แต่แล้วจู่ๆ เราก็ไม่มีความสัมพันธ์กันอีกแล้ว ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่สำหรับผมตอนนี้ ดูเหมือนว่า มีคนไม่ต้องการผมที่สโมสรแห่งนี้”
3. ผมต้องได้ลงเล่นเป็นตัวจริง? :
“นี่คือสิ่งที่ผมยอมรับไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้นกับผมเสมอ ผมไม่เข้าใจ ผมคิดว่าถ้าเป็นสโมสรอื่นๆ ทุกสโมสรจะปกป้องผู้เล่นของตัวเอง ผมไม่รู้ว่า ทำไมผมถึงต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่สิ่งที่ผมเห็นได้ตอนนี้คือ เหมือนกับว่า ผมคือปัญหาของทีม แต่ผมไม่คิดว่าผมคือปัญหา ผมทำอะไรมากมายให้กับสโมสรแห่งนี้
ดังนั้น ผมควรต้องได้รับความเคารพ ผมไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อตำแหน่งของผม เพราะผมสมควรได้รับมัน ผู้คนอาจพูดว่า ผมไม่ได้ยิ่งใหญ่... ผมไม่ได้ยิ่งใหญ่กว่าใคร แต่ผมควรได้รับตำแหน่งของผม มันคือฟุตบอล มันก็เป็นแบบนี้”
จริงหรือ? ซาลาห์ คือ แพะรับบาป และมีคนไม่ต้องการผม :
มาร์ก คูคูเรญ่า แบ็กซ้ายเชลซี ให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังเกมที่เอาชนะลิเวอร์พูล เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วว่า...
“เรารู้ว่าซาลาห์ จะอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมจะโจมตี เมื่อลิเวอร์พูลเล่นโต้กลับ ดังนั้น ผู้จัดการทีมจึงบอกพวกเราว่า มีพื้นที่ว่างมากพอ ที่เราจะใช้โจมตีลิเวอร์พูลได้ ซึ่งมันก็ได้ผล และทำให้เราสามารถเอาชนะได้ ด้วยวิธีการนี้"
แล้วคำพูดของ มาร์ก คูคูเรญ่า เป็นจริงแค่ไหน?
ในเกมที่ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ในลีก 4 นัดติดต่อกัน กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , เบรนท์ฟอร์ด , แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ก่อนที่ “ราชันย์แห่งอียิปต์” จะเริ่มถูกดร็อปเป็นตัวสำรองนั้น สถิติการเน้นโจมตีทางด้านขวาใส่ “ลิเวอร์พูล” มีค่าเฉลี่ยดังต่อไปนี้…
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลือกเน้นโจมตีทางด้านขวาใส่ ลิเวอร์พูล ที่มี “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” ประจำการอยู่ คิดเป็นสัดส่วน 53% , เบรนท์ฟอร์ด 41% , แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 47% และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 44% และทั้ง 4 ทีมนี้ เลือกใช้การวิธีการโจมตีทีมหงส์แดง ทางด้านขวามากที่สุด ทั้ง 4 เกม
แล้ว “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” วิ่งลงไปช่วยแบ็กขวาเล่นเกมรับ มากน้อยแค่ไหน?
7 ฤดูกาลหลังสุด นับตั้งแต่ฤดูกาล 2019/20 จนถึง ฤดูกาลล่าสุด 2025/26 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีสถิติวิ่งลงไปช่วยแบ็กขวา เล่นเกมรับเมื่อถูกคู่ต่อสู้บุกโจมตี ดังต่อไปนี้...
ฤดูกาล 2019/20 : 91%
ฤดูกาล 2020/21 : 92%
ฤดูกาล 2021/22 : 95%
ฤดูกาล 2022/23 : 92%
ฤดูกาล 2023/24 : 95%
ฤดูกาล 2024/25 : 84%
15 นัดแรกในลีก ฤดูกาล 2025/26 : 79%
แล้วเพราะอะไร ซาลาห์ จึงวิ่งลงไปช่วยเกมรับน้อยลง? :
ปัจจุบัน “สตาร์อันดับหนึ่งของทีมลิเวอร์พูล” อายุ 33 ย่าง 34 ปี แล้ว ความถดถอยทางร่างกายเริ่มแสดงออกให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ดังจะเห็นได้จาก สถิติค่าเฉลี่ยการวิ่งลงมาช่วยเกมรับต่อนาที ขณะลิเวอร์พูลกำลังเปลี่ยนจากเกมรุกมาเป็นเกมรับ
โดยในฤดูกาล 2020/21 “ซาลาห์” สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด ทำค่าเฉลี่ยระยะทางได้ถึง 11.97 เมตรต่อนาที หากแต่ในฤดูกาลนี้ ลดลงมาเหลือเพียง 7.65 เมตรต่อนาที เท่านั้น และไม่เพียงแต่ระยะการวิ่งจะลดลง หากแต่ความเร็วก็ลดลงด้วยเช่นกัน ดังจะเห็นได้จาก สถิติความเร็วเฉลี่ยสูงสุดที่เคยทำได้เฉลี่ย 9.25 กิโลเมตรต่อ 90 นาที เมื่อฤดูกาล 2020/21 หากแต่ในฤดูกาลปัจจุบัน ลดลงมาเหลือเพียงเฉลี่ย 8.71 กิโลเมตรต่อ 90 นาที เท่านั้น!
การแก้ปัญหา ของ อาร์เนอ สล็อต :
ความถดถอยทางร่างกายของ “ซาลาห์” ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดปัญหาพื้นที่ว่างทางด้านขวา ที่กว้างใหญ่ขึ้นกว่าเดิมแล้ว การเล่นเพรซซิ่งแดนบนที่เคยดุดันของ “ลิเวอร์พูล” ยังมี “ประสิทธิภาพลดลง” อีกด้วย
แล้ว “อาร์เนอ สล็อต” พยายามแก้ไขปัญหาเรื่องการเล่นเกมรับ และความถดถอยทางร่างกาย ของ “ราชันย์แห่งอียิปต์” อย่างไร?
สิ่งหนึ่งที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อ “กุนซือหงส์แดง” หาญกล้าดร็อปสตาร์อันดับหนึ่งของทีม คือ “สถิติเปรียบเทียบความเข้มข้นในการเล่นเพรซซิ่งแดนบน” สำหรับการพุ่งเข้าโจมตีทางฝั่งซ้ายคู่ต่อสู้ ในลีกฤดูกาลล่าสุด นั้น เมื่อมี ซาลาห์ลงสนาม ลดลงมาเหลือเพียง 84.6% จากสถิติ 91.3% เมื่อไม่มีเจ้าตัวอยู่ในสนาม ถึง -6.7%
ซึ่งประเด็นนี้ “สอดคล้อง” กับ สถิติการวิ่งกลับไปครึ่งสนามฝ่ายตัวเองเพื่อเล่นเกมรับต่อ 90 นาที ของ “ผู้เล่นตำแหน่งปีก” ที่ลงเล่น 270 นาทีในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ขึ้นไป ซึ่ง “ราชันย์แห่งอียิปต์” อยู่ในอันดับรั้งท้าย คือ ลำดับที่ 45 จากการที่ทำค่าเฉลี่ยเพียง 1.37 ครั้งต่อ 90 นาทีเท่านั้น! ซึ่ง “น้อยกว่า” อีกหนึ่งนักเตะลิเวอร์พูลที่ตกเป็นเป้าโจมตีอย่างหนักไม่แพ้กันอย่าง “โกดี้ กัคโป” ที่ทำได้ 3.24 ครั้งต่อ 90 นาที ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 20 เสียอีก
จริงหรือที่ ซาลาห์ ต้องเป็นตัวจริงเท่านั้น? :
คุณรู้หรือไม่? 33 นัดหลังสุด (สิ้นสุดวันที่ 9ธ.ค.68) ของ “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” หากไม่นับลูกยิงจุดโทษ สตาร์อันดับหนึ่งของทีมหงส์แดง ทำได้เพียง 6 ประตูเท่านั้น! และล่าสุดลงเล่นในลีกรวม 1,119 นาที ทำได้ 4 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ และมีสถิติการยิงเข้ากรอบต่อ 90 นาที เพียง 0.8 ครั้ง
นอกจากนี้ สถิติสัมผัสบอลในพื้นที่กรอบเขตโทษฝ่ายตรงข้ามต่อ 90 นาที ในฤดูกาลล่าสุดอยู่ที่ 7.32 ครั้ง ซึ่ง “ต่ำที่สุด” นับตั้งแต่ “ซาลาห์” ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ฤดูกาล 2017/18 เป็นต้นมา ที่มักจะอยู่ที่ เกินกว่า 8.5 ครั้ง ต่อ 90 นาทีขึ้นไป
ในขณะที่ ค่าเฉลี่ยความสำเร็จในการเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ในฤดูกาลนี้ “ลดลง” มาเหลือเพียง 23.4% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 56% ซึ่งถือเป็นค่าเฉลี่ยสูงสุด ที่เคยทำได้เมื่อฤดูกาล 2017/18 ถึงมากกว่าครึ่งต่อครึ่ง!
คำเตือนจาก เจมี คาร์ราเกอร์ :
เจมี คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังของลิเวอร์พูล ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์ให้กับสกายสปอร์ต ซึ่ง “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” ระบุในการให้สัมภาษณ์ว่า เป็นหนึ่งในคนที่มุ่งโจมตีเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เตือนสตินักเตะรุ่นน้องเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า…
“ผมไม่เคยวิจารณ์ซาลาห์ เมื่อไม่ยอมวิ่งกลับมาเล่นเกมรับ ผมไม่เคยวิจารณ์เขา ที่ได้ลงเล่นหลายเกมแม้จะยังยิงประตูไม่ได้ ผมไม่เคยวิจารณ์เขา เมื่อเขาไม่ยอมส่งบอลให้ใครบางคนในเวลาที่ควรส่ง นั่นเป็นเพราะเขาคือ ตำนานที่แท้จริงของลิเวอร์พูล และสิ่งที่เราได้รับจากเขา ทำให้ต้องอดทนกับอะไรบางอย่าง
แต่ผมต้องขอวิพากวิจารณ์ถึงกรณีที่ ซาลาห์ พยายามโยนความผิดให้กับลิเวอร์พูลต่อสาธารณชน เพราะนั่นเป็นการกระทำที่ คิดถึงแต่ตัวเอง สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะเตือน ซาลาห์และเอเยนต์ส่วนตัว คือ ก่อนที่จะมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เขาเคยล้มเหลวกับ เชลซี และไม่เคยได้รับรางวัลสำคัญใดๆ รวมถึง ยังไม่เคยแม้แต่จะพาทีมชาติอียิปต์ คว้าแชมป์แอฟริกันเนชั่นคัพ มาก่อน นั่นคือ ข้อเท็จจริง!
สิ่งที่ผมพูดไม่ได้ต้องการด้อยค่า ซาลาห์ เพราะเขาคือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกเขา คือ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเตะที่ดีแค่ไหน คุณก็ยังต้องการความช่วยเหลือ จากเพื่อนร่วมทีม , ผู้จัดการทีม และบรรดาแฟนๆ ที่ให้การสนับสนุน
ดังนั้น ซาลาห์ จึงไม่ควรหมกหมุ่นอยู่แต่กับสถิติของตัวเอง เพราะในฐานะนักเตะรุ่นพี่ สิ่งที่ควรทำ คือ ช่วยเพื่อนร่วมทีมอย่าง ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ที่กำลังเริ่มต้นกับทีม ได้อย่างยากลำบากมากกว่า” หนึ่งในตำนานหงส์แดงกล่าวทิ้งท้าย
และก่อนจะจบคลิปนี้ เรา อยากฝากคำคมของ วิลเลียม เชกสเปียร์ สุดยอดกวีเอกของโลก ที่น่าจะเตือนสติใครต่อใครหลายๆคนในเรื่องราวที่เกิดขึ้น คือ...
“ข้อเท็จจริงที่พบเห็นได้ทั่วไป คือ ความเจียมตัวนั้นเป็นบันได สำหรับความทะเยอทะยานที่เพิ่งถือกำเนิด”
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม
ทำไมทีมไหนๆจึงเลือกใช้ บอล Direct โจมตี ลิเวอร์พูล (ชมคลิป)
เล่นเร็ว เน้นบอลยาวและฟรีคิก แท็กติกที่ทำให้แมนยูฯเริ่มดีขึ้น (ชมคลิป)
เคล็ดลับความสำเร็จกัปตันซึบาสะ ความคิดของคนเลือกอยู่หัวแถว (ชมคลิป)
ความแค้นและชีวิตแบบรถไฟเหาะ ของหญิงสาวผู้เป็นศัตรู Tinder (ชมคลิป)
ความพรีเมียม และพนักงานขาย วิธีเอาชนะการรีวิว ของ สตีฟ จ็อบส์ (ชมคลิป)
You might be intertested in this news.
Mostview
รีวิวหนัง Eternity สามรัก หนึ่งนิรันดร์
ถ้าโลกหน้ามีจริง คุณจะเลือกอยู่กับใคร เมื่อต้องเลือกระหว่าง อดีตสามีที่ตายไปก่อนหลายสิบปี กับสามีที่อยู่ด้วยกันมานานจนตายไปด้วยกัน...?
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (11ธ.ค.68) Sideway Up ลุ้นสร้างจุดสูงใหม่
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (11ธ.ค.68) Sideway Up ลุ้นสร้างจุดสูงใหม่
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (9ธ.ค.68) Sideway แกว่งในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (9ธ.ค.68) Sideway แกว่งในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (15ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อเมื่ออ่อนตัว
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (15ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อเมื่ออ่อนตัว
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (11ธ.ค.68)
7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (11ธ.ค.68)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง