วันพุธ, ธันวาคม 24, 2568

"กิ่งแก้ว ลอสูงเนิน" นักโทษหญิง ยิงเป้าไม่ตาย กลายเป็นเรื่องเล่าผี (คลิป)

by Trust News, 24 ธันวาคม 2568

จากคดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญ สู่จุดจบด้วยโทษสูงสุด...แต่ไม่ยอมตาย ย้อนรอยคดี “กิ่งแก้ว ลอสูงเนิน”....

ตอนนี้มีหนังไทยปล่อย “ทีเซอร์” ออกมาให้ชม โดยเป็นหนังผี ที่มีแบคกราว ที่เป็นคดีอาชญากรรม ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งตัวหนัง จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในช่วงกลางเดือนมกราคมนี้ นำแสดงโดย “ทราย เจริญปุระ” ที่มารับบทเป็น “นักโทษประหารหญิง” ที่ชื่อ “กิ่งแก้ว” ซึ่งตัวตนจริงของหญิงคนนี้ ชื่อ “กิ่งแก้ว ลอสูงเนิน”

จากแฟ้มข้อมูลในคดีอาญชญากรรม “กิ่งแก้ว” คือ นักโทษประหารหญิง คนที่ 2 ของไทย ที่ถูกประหารด้วยวิธียิงเป้า แต่ประเด็นคือ เมื่อลั่นไกไปชุดหนึ่งแล้ว กลับไม่ตาย… ทำให้ เจ้าหน้าเรือนจำต้องลากร่างเธอขึ้นมายิงซ้ำ

โดยตามกฎหมายในสมัยนั้น ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น “ฉีดยาเสียให้ตาย” นั้น เคยเขียนว่า ต้องเอามายิงเป้าตายเสียให้ตาย

“กิ่งแก้ว” จึงกลายเป็นคดีที่ถูกจดจำว่า เธอถูกยิงเป้าไม่ตาย และมีเสียงร่ำลือถึงความเฮี้ยนในหมู่ผู้คุมเรือนจำบางขวาง

บ้างก็ได้ยินเสียงพูดว่า “ฉันไม่ผิด…ฉันไม่ผิด”

คดี “กิ่งแก้ว” เป็นคดีดังเมื่อกว่า 40 ปีก่อน

จุดเริ่มต้นของคดี “กิ่งแก้ว” นั้น มาจากคดี “เรียกค่าไถ่ และฆาตกรรมเด็กน้อยวัย 6 ขวบ” ซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของร้านอาหารชื่อดังย่านปทุมวัน

“กิ่งแก้ว” เคยทำงานเป็นสาวใช้ รับใช้เจ้านายคนนี้ ซึ่งหนึ่งในหน้าที่การงานของเธอ คือ การไปรับส่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเศรษฐีคนดังกล่าวด้วย

วันหนึ่ง เธอก็ถูกไล่ออกจากงาน จะด้วยสาเหตุใดก็ตาม มันก็สร้างความเจ็บแค้นให้กับ “กิ่งแก้ว”

กิ่งแก้ว จึงออกอุบายกับพวก โดยเป็นชาย 2 คน วางแผนจับตัวเรียกค่าไถ่

กิ่งแก้ว แอบไปรับลูกชายเศรษฐี จากนั้น ก็ส่งจดหมายเรียกค่าไถ่ โดยระบุในจดหมายด้วยว่า ขอ “ค่าไถ่” เป็นเงิน 2 แสนบาท โดยมีคำข่มขู่ด้วยว่า “หากไม่ให้…จะฆ่าทิ้งทันที”

แน่นอนว่า เคยทำงานเป็น “สาวใช้” ให้เศรษฐีเจ้าของร้านอาหาร จึงคิดว่าทางเจ้าของร้านนั้นมีเงินแน่ๆ

นอกจากนี้ ในรายละเอียดของจดหมาย ยังบอกด้วยว่า ให้นำเงิน 2 แสนบาท หิ้วขึ้นรถไฟสายกรุงเทพ-ปากช่อง เที่ยว 6 โมงเช้าวันที่ 17 ตุลาคม 2521

และระหว่างทาง ปากช่อง-จันทึก ทางซ้ายมือจะปักธงสีขาวไว้เป็นสัญญาณ ให้โยนเงินค่าไถ่ทิ้งไว้ตรงนั้น

แผนการณ์ทุกอย่างถูกกำหนดไว้ แต่รายละเอียดกลับไม่ค่อยชัดเจนนัก

ด้วยความรักลูก พ่อเหยื่อไม่มีทางเลือก จึงเลือกทำตามที่จดหมายเขียนข่มขู่ไว้

แต่ทุกอย่างเกิดผิดแผน เพราะ เมื่อไปถึงจุดนัด พ่อเด็กที่หิ้วเงินมา กลับ ไม่เห็นธงขาว ที่เป็นธงสัญญาณ เขาจึงนั่งรถเลยออกไป

ด้วยที่ว่า “การสื่อสาร” สมัยนั้น ไม่สะดวกสบายแบบสมัยนี้ ทำให้กลุ่มคนร้ายเกิดเข้าใจผิด คิดว่าถูกเบี้ยว...

จากคำขู่ในจดหมาย กลายเป็นเรื่องจริง กลุ่มคนร้ายลงมือฆ่าเด็ก...

เวลานั้น ครอบครัวเหยื่อ พยายามให้ตำรวจท้องที่ ก็คือ ตำรวจสีคิ้่วมาช่วยตามหา แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะสายเกินไป

ในเวลาต่อมา ตำรวจสามารถตามจับกุมตัวกลุ่มคนร้ายไว้ได้... และจากการสอบปากคำ “กิ่งแก้ว” เธอก็บอกว่า เด็กถูกฆ่าตายไปแล้ว

สิ่งที่พูดจากปากของเธอ เราไม่รู้ว่าพูดอะไร สารภาพจริงไหม เป็นคนฆ่าเด็กจริงหรือเปล่า แต่จาการข่าวของตำรวจ และ หนังสือพิมพ์สมัยนั้น ก็บันทึกไว้ว่า กิ่งแก้ว ให้การรับสารภาพ ว่ามีความแค้นกับนายจ้าง

“หลังโดนไล่ออกจาก จึงลักพาตัวลูกชายคนที่ 5 ของเจ้าของร้านอาหาร จากนั้นได้พาตัวมาขึ้นรถไฟ มาลงที่สถานี “จันทึก” โดยพามาเจอกับ 2 ชายโฉด ซึ่งเป็นญาติกัน”

เมื่อแผนเรียกค่าไถ่ ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ จึงได้เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น

หลังจากได้ตัวเด็กแล้ว ฉันก็พาขึ้นรถไฟมาลงที่สถานี “จันทึก” จากนั้นพามาพักที่บ้านญาติ โดยมีชายโฉดร่วมขบวนการอีก 2 คน

แต่เมื่อถึงเวลานัดส่งเงิน รถไฟกลับผ่านไปเฉยๆ จึงวานแผนฆ่าเหยื่อทันที

นางกิ่งแก้ว ยังเล่าถึงนาทีสังหารไว้ว่า

ช่วง 1 ทุ่มของวันที่ 17 ตุลาคม 2521 หลังจากนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาให้เด็กกิน แล้วยังให้ไอติม และกล้วยด้วย

“เด็กหลับบนตักฉัน”
“ให้ฆ่าเด็กซะ”นายปิ่น และ นายเสริม เดินขึ้นมาบอก
“หากไม่ฆ่า…เด็กจะเป็นพยานแล้ว เราจะหนีกันไม่รอด”

นาทีนั้น กิ่งแก้ว คงจะกลัว และทำอะไรไม่ถูก นายปิ่น จึงพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร เคยฆ่าคนมาแล้ว จะฆ่าอีกสักคนจะเป็นอะไร”

จากนั้น ได้เอายาพิษมาให้กิ่งแก้ว เพื่อให้กิ่งแก้ว ป้อนให้เด็ก แต่เธอไม่ยอม
“ถ้าจะให้เด็กกิน ขอกินเองดีกว่า”

กิ่งแก้ว อุ้มเด็กชายออกไปที่บริเวณหลุมดินที่ขุดไว้ก่อนหน้านี้
ซึ่งห่างจากตัวบ้านประมาณ 50 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ไร่ข้าวโพด

นายปิ่นเดินตามออกมา จากนั้นเอาเหล็กแหลมที่ใช้แทงปลาส่งให้กิ่งแก้ว...
“ฉันไม่กล้าแทง”
นายปิ่นจึงบีบบังคับให้ทำ
นางกิ่งแก้วจึงหลับตาแล้วลงมือจ้วงแทงเด็ก ขณะที่นอนหลับ
เมื่อแทงแล้วเด็กยังไม่เสียชีวิตทันที จึงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด
นายปิ่นจึงจับมือกิ่งแก้วแทงซ้ำอีกจนตาย...

จากประวัติของ นางกิ่งแก้ว พบว่า เคยรักษาอาการจิตเวช เคยมีอาการคลุ้มคลั่ง บางทีก็แก้ผ้าอาลาวาด

หลังโดนจับ นางกิ่งแก้ว ถูกส่งตัวมาคุมขังที่ สน.บางรัก

มีรายงานว่า ตำรวจคนหนึ่ง แกล้งพูดกับ “กิ่งแก้ว” คดีแบบนี้…ไม่รอดโทษประหารหรอก”

กิ่งแก้ว ได้ยิน ถึงสติแตก อาละวาด พยายามฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่ช่วยกันห้ามปรามไว้

คดีนี้ ที่สุดแล้ว ศาลได้ตัดสินประหารชีวิต ทุกคน ได้แก่ “กิ่งแก้ว” นายเสริม และนายปิ่น ในวันที่ 13 มกราคม 2522

จากคดีนี้ ถือว่าเป็นการ “ประหาร” ที่ค่อนข้างรวดเร็วมาก ก่อเหตุ 17 ตุลาคม 2521 และ ถูกประหารในวันที่ 13 มกราคม 2522  เพชฌฆาตที่เป็นคนลั่นไก ปืน คือ นายประถม เครือเพ่ง

นางกิ่งแก้ว คือคนแรก ที่ถูกประหาร ในเวลา 17.40 นาที อีก 15 นาที คือ เวลา 17.55 น. เป็นคิว ปิ่น และ เวลา 18.20 นาที เป็นคิวของนายเสริม

เรื่องเล่าจากอดีตผู้คุม นาทีประหารกิ่งแก้ว และ ตำนาน “ผีกิ่งแก้ว”

ตอนประหารนั้น ขั้นตอน ก็จะให้นักโทษได้กินอาหารมื้อสุดท้าย มีการฟังเทศน์ ถึงการใช้ชีวิต

นักโทษบางคนที่รู้ว่าตัวเองจะโดนประหาร บางคนก็เดินมาเอง บางคนก็ไม่ยอมเดิน ด้วยเพราะรู้ว่าตัวเองจะตายหรือเปล่า จึงไม่มีแรงเดิน เขาจึงให้ขึ้นรถมาก็มี

เรื่องเล่าจากอดีตผู้คุม นาทีประหารกิ่งแก้ว และ ตำนาน “ผีกิ่งแก้ว”

ตอนนั้น ผมเคยไปสัมภาษณ์อดีตผู้คุมเรือนจำ ซึ่งก็หลายปีมาแล้วนะครับ

อดีตผู้คุมนั้นก็น่าจะเกษียณแล้ว เขาเล่าให้ฟังว่า เสียงลือเรื่อง “ผีกิ่งแก้ว” สำหรับ ผู้คุมเรือนจำ นั้นไม่เป็นความจริงเลย เพราะที่ผ่านมา ก็อยู่เวร นอนในเรือนจำนั้นก็ไม่เห็นอะไร ไม่เคยได้ยินเสียงร้อง หรือ เสียงพูดที่บอกว่า “ฉันไม่ผิดๆ”

เรียกว่า ไม่เคยได้ยินสักครั้ง

อดีตผู้คุมเรือนจำ บอกว่า น่าจะเป็นกลุ่ม สามล้อ ใกล้เรือนจำบางขวางมากกว่า ที่เอาไปพูดกัน

พูดกันไปมา กลายเป็นเรื่องที่โก่งค่าสามล้อ อ้างเรื่องผี เพราะไม่อยากมาส่ง อะไรแบบนี้

ขณะที่ นาที ประหาร “กิ่งแก้ว” นั้น ตอนนั้นเขาเป็นหนึ่้งคนที่ยืนดูอยู่ คนที่อยู่ในเรือนจำ ใครๆ ก็อยากเห็นนักโทษประหารทั้งนั้น เขาก็ไปยืนดู

กิ่งแก้ว เป็นคนที่ตัวเล็กมาก ตอนที่เอามาเข้าแท่นประหาร ก็มีผูกตา ผูกเชือกที่มือและขาเพื่อไม่ให้ดิ้น ผู้คุมคงจะผูกหลวมไป ทำให้ตอนยิง กิ่งแก้ว ดิ้นไปดิ้นมา กระสุนไม่ถูกหัวใจ ก็เลยยังไม่ตาย

ซึ่งตอนนั้น เขาเอากิ่งแก้วลงมาจากหลักประหารแล้ว และได้ยิงเป้านักโทษชายคนที่สองอยู่

แต่ระหว่างนั้น กิ่งแก้ว ก็มีอาการเจ็บ ดิ้นไปมา พูดว่า “ยิงฉันทำไมๆ” หลังจากยิงผู้ชายเสร็จ ก็เอากิ่งแก้ว ขึ้นมายิงอีกชุด คราวนี้คือเสียชีวิต

ในวันนั้น นักโทษทั้ง 3 คน ในคดีลักพาตัวและฆาตกรรมเด็กนั้น ถูกประหารเรียงกัน

เท่าที่ผมทราบ คือ ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์นั้น เมื่อมีการประหารแล้ว เขาจะไม่นำร่างออกมาทันที เขาจะนำไปเก็บเพื่อรอให้ข้ามวัน จากนั้น ก็มีคนตรวจอีกครั้ง ว่า “ตายจริงๆ”

สำหรับอีกสาเหตุหนึ่งที่ “กิ่งแก้ว” ถูกยิงเป้าแล้วไม่ตายในชุดแรกนั้น มีการเปิดเผยกันภายหลังจากนายแพทย์ที่ตรวจสอบศพ เขาพบว่า “หัวใจ” ของกิ่งแก้ว ไม่ได้อยู่จุดเดียวกับคนทั่วไป อาจจะเยื้องมาตรงกลางตัวมากกว่า…

สาเหตุนี้ ก็อาจมีความเป็นไปได้

สำหรับ “หนังผี” เรื่อง “กิ่งแก้ว” นั้น ไม่ว่า “หนัง” จะเป็นอย่างไรก็ขอให้รับชมเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะครับ เพราะขนาดเรื่องจริงนั้น หากมีการเล่าต่อๆ กันมา ยังมีการใส่สีตีไข่ เมื่อมาเป็นภาพยนตร์ ก็คงมีการเติมเพื่ออรรถรส

ส่วน “กิ่งแก้ว” จะฆ่าจริงหรือไม่ อันนี้ตอบไม่ได้….แต่ที่แน่ๆ คือเธออยู่ในขบวนการ
“ลักพาตัว” ถือว่าอยู่ในขบวนการ

อ่านบทความที่น่าสนใจ 

น้ำตาพระ สละผ้าเหลือง สึกเจ้าคุณอุดม ตำนานคดีเครื่องราชฯ (คลิป)

ความแค้นของแม่ ใช้ศาลเตี้ยล้างอยุติธรรม (2541)

5 ปมสั่งตาย “แคล้ว ธนิกุล” เจ้าพ่อนครบาลกับพระสมเด็จวัดระฆัง ที่หายไป?

“พระปรุหนัง” ของขลังมหาอุตม์ของ “เสือฝ้าย” และจุดจบที่แสนอดสู


You might be intertested in this news.

Mostview

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (23ธ.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (23ธ.ค.68) ยังเป็นขาขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (24ธ.ค.68) ยังคงเป็นขาขึ้น เก็งกำไรระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (24ธ.ค.68) ยังคงเป็นขาขึ้น เก็งกำไรระยะสั้น

โดรน อาวุธเปลี่ยนเกมสงคราม? ขีดความสามารถและข้อจำกัด

โดรน อาวุธเปลี่ยนเกมสงคราม? ขีดความสามารถและข้อจำกัด

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

7 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ธ.ค.68)

TrustNEws Line