วันศุกร์, มิถุนายน 27, 2568

อาวุธข่มขวัญทางยุทธศาสตร์ เครื่องบินล่องหน B-2 Spirit

by Trust News, 27 มิถุนายน 2568

อาวุธข่มขวัญทางยุทธศาสตร์ เครื่องบินล่องหน B-2 Spirit

ปฏิบัติการจู่โจมภายใต้รหัส "Operation Midnight Hammer" ต่อเป้าหมายที่สหรัฐฯและอิสราเอล อ้างว่าเป็น “โรงงานผลิตอาวุธนิวเคลียร์” ของ อิหร่าน ถึง 3 แห่ง ทำให้เหล่าประเทศมหาอำนาจ ต้องกล้ำกลืน กลับมายอมรับกันอีกครั้งว่า “เทคโนโลยีด้านการทหารของสหรัฐ” ยังคงล้ำหน้ากว่าหลายๆประเทศ ที่พยายามลุกขึ้นมาท้าทายอำนาจของสหรัฐฯ ในเวลานี้

นั่นเป็นเพราะ 1 ใน 3 “โรงงานผลิตอาวุธนิวเคลียร์” ของอิหร่าน นั้น นอกจากจะอยู่ภายใต้การคุ้มกันทางอากาศอันแข็งแกร่งแล้ว มันยังอยู่ลึกลงไปใต้ดินถึง 300 ฟุต (91เมตร)! ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น หลังปฏิบัติการบินไป-กลับ รวดเดียว 37 ชั่วโมง สำเร็จลุล่วง B-2 Spirit ทั้ง 7 ลำ ยังสามารถบินข้ามน่านฟ้าของหลายประเทศ เดินทางกลับฐานทัพที่ประเทศสหรัฐ โดยไร้ซึ่ง “รอยขีดข่วน” ใดๆ

ขณะเดียวกัน ผลของ Operation Midnight Hammer ยังทำให้ ขอถกเถียงในประเด็นที่ว่า “เทคโนโลยีเครื่องบินรบล่องหน” ที่ทั้ง “มีราคาแพงแสนแพง” รวมถึง “สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษา” ควรถูกแทนที่ด้วย “ฝูงโดรน” ที่ทั้งมี “ราคาถูก” และ “ไม่เสี่ยงต่อชีวิตนักบิน” หยุดชะงักลงได้ด้วย

Operation Midnight Hammer ทำให้เกิดแรงสั่นไหวในด้านใดต่อ “ยุทธศาสตร์ทางการทหารโลก” บ้าง วันนี้ “เรา” ขอรวบรวมข้อมูลที่หลากหลายมาให้ “คุณ” ได้ร่วมกันพิจารณา…

Operation Midnight Hammer :

หลังอิสราเอล อ้างว่า อิหร่าน เป็น “ภัยคุกคาม” จากการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีทางอากาศอย่างรุนแรงต่อเตหะรานก่อน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13มิ.ย.25 จนกระทั่งนำไปสู่การปะทะอย่างดุเดือดระหว่างทั้งสองฝ่ายในเวลาต่อมา

ทำให้ในที่สุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จึงได้ออกมาแสดงท่าที “ข่มขู่” ให้อิหร่านยอมแพ้แบบไม่มีเงื่อนไขโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ดี เมื่อ “เตหะราน” แสดงท่าทีไม่ยินยอมที่จะปฏิบัติตาม

จึงมีการ “ปล่อยข่าวลวง” ออกมา จากทั้งฝ่ายอิสราเอลและสหรัฐฯว่า ในช่วงกลางดึกของวันที่ 21มิ.ย.25 หรือ เวลา 00:01 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออกสหรัฐ  เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน B-2 Spirit ได้บินออกจากฐานทัพอากาศไวท์แมน ในรัฐมิสซูรี  เพื่อมุ่งหน้าไปยัง “ฐานทัพสหรัฐบนเกาะกวม” เพื่อเตรียมความพร้อม สำหรับการปฏิบัติการที่อาจเกิดขึ้น “เร็วๆนี้”

หากแต่ความจริงแล้ว เครื่องบิน B-2 Spirit ได้แยกออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 7 ลำ โดยกลุ่มแรกทำหน้าที่เป็น “เป้าลวง” โดยบินไปทางตะวันตกข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะกวมจริง

ส่วนกลุ่มที่ 2 บินมุ่งหน้าไปทางตะวันออก ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ผ่านการเติมน้ำมันทางอากาศหลายครั้ง ก่อนจะบินรวดเดียว 18 ชั่วโมง รวมระยะทาง 11,400 กิโลเมตร จนถึงเป้าหมาย

สำหรับประเด็นนี้ ได้รับการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า มีจุดประสงค์สำคัญเพื่อหวัง “ลดความเป็นไปได้” ที่ อิหร่าน จะยกระดับการป้องกันภัยทางอากาศ จนกระทั่งเป็นภัยคุกคามต่อ ฝูงบิน B-2 Spirit ซึ่งแท้จริงแล้ว กำลังมุ่งหน้าไปยังอิหร่านแบบ “ไร้ร่องรอย”

นอกจากนี้ เมื่อ ฝูงบิน B-2 Spirit เริ่มเข้าสู่น่านฟ้าอิหร่าน เรือดำน้ำของสหรัฐ ยังได้เริ่มยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์กหลายสิบลูก เข้าโจมตีเป้าหมายและสร้างความสับสนให้กับระบบป้องกันภัยทางอากาศของฝ่ายอิหร่านทันที

ขณะเดียวกัน ฝูงบิน B-2 Spirit ยังได้รับการ “คุ้มกัน” จากเครื่องบินรบล่องหน F-35 ที่บินนำหน้าจำนวนหนึ่ง เพื่อระแวดระวัง “เครื่องบินรบ” และ ภัยคุกคามจากขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศของฝ่ายอิหร่านด้วย

จนกระทั่งเมื่อ ฝูงบิน B-2 Spirit ทั้ง 7 ลำ บินเข้าสู่ “เป้าหมาย” ทั้งหมดก็จัดการปล่อย GBU-57 Massive Ordnance Penetrators หรือ MOPs ที่บรรทุกมาลำละ 2 ลูก (รวม 14 ลูก)

โดยแต่ละลูกมีน้ำหนักประมาณ 3,000 ปอนด์ (14,000 กิโลกรัม) และมีศักยภาพเจาะทะลุคอนกรีตได้ถึง 18 เมตร ก่อนระเบิด ซึ่งได้ถูกนำมาใช้ปฏิบัติการจริงเป็นครั้งแรก ลงสู่ “โรงงานผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน” ทันที

โดยหลังปฏิบัติภาระกิจเสร็จสิ้น ฝูงบิน B-2 Spirit ทั้ง 7 ลำ ก็บินรวดเดียวอีก 17 ชั่วโมงเพื่อกลับฐานทัพอากาศไวท์แมนทันที โดยในระหว่างนั้น กองทัพสหรัฐ ได้มีการยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์กเข้าใส่เป้าหมายต่างๆในอิหร่าน รวมกว่า 75 ลูก เพื่อสร้างความสับสนอย่างต่อเนื่องด้วย

ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายสหรัฐยืนยันว่า ตลอดระยะเวลาประมาณ 25 นาที ที่ ฝูงบิน B-2 Spirit ทั้ง 7 ลำ บินเหนือน่านฟ้าอิหร่าน นั้น ทั้งหมดไม่ได้ถูกตรวจพบ จาก ระบบป้องกันภัยทางอากาศ หรือ เครื่องบินรบของอิหร่าน แต่อย่างใด และนั่นคือหลักฐานที่ชัดเจนว่า B-2 Spirit ยังคงขีดความสามารถในการปฏิบัติภาระกิจ โดยไม่ถูกตรวจพบ เอาไว้ได้ต่อไป

ระบบป้องกันของอิหร่าน :

การถูกบุกทะลวงผ่าน ระบบป้องกันภัยทางอากาศ เข้ามาโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ได้อย่างง่ายดายเกินคาด ทำให้เกิด “คำถาม” ถึงขีดความสามารถของฝ่ายอิหร่าน รวมถึง “ความน่าเชื่อถือ” ของข่าวที่ว่า สามารถยิงเครื่องบินล่องหน F-35 ของกองทัพอิสราเอล ตกถึง 4 ลำ ก่อนหน้านี้ ขึ้นมาทันที  

แล้ว...ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านแข็งแกร่งแค่ไหน?

อ้างอิงจากรายงานของสื่ออิสราเอล เมื่อช่วงปลายปี 2024 ที่ผ่านมา ระบุว่า เตหะรานได้ลงทุนกับระบบป้องกันภัยทางอากาศมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ อิหร่านจึงมีระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทั้งหลากหลายและมีปริมาณที่น่าพึงพอใจ อย่างไรก็ดี ในแง่ของประสิทธิภาพ “ยังคงอยู่ภายใต้คำถาม”

นั่นเป็นเพราะ นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกับอิรัค ในปี 1988 เป็นต้นมา อิหร่านยังไม่เคยเผชิญกับภัยคุกคามทางอากาศ ในระดับที่ “น่าหวาดหวั่น” จึงทำให้มีประสบการณ์ สำหรับการรับมือ การโจมตีด้วยเทคโนโลยีทางการทหารอันทันสมัย เพียงเล็กน้อย

ดังจะเห็นได้จาก ระบบป้องกันภัยของอิหร่าน เคยถูก กองทัพแฮกเกอร์ของอิสราเอล เจาะเข้าระบบจนสูญเสียขีดความสามารถในการป้องกันน่านฟ้า จากฝูงเครื่องบินรบของอิสราเอลในระหว่างการโจมตี เมื่อเดือนตุลาคมปี 2024

อีกทั้ง การที่ “อิหร่าน” ถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติมาเป็นเวลานาน จึงทำให้การจัดซื้ออาวุธอันทันสมัย โดยเฉพาะระบบขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศและเครื่องบินรบ เพื่อรับมือกับเครื่องบินรบยุคที่ 5 จึงกลายเป็น “ช่องโหว่อันสำคัญยิ่ง” สำหรับการป้องกันน่านฟ้าของตัวเองด้วย

ทั้งนี้ รายงานชิ้นดังกล่าวของอิสราเอล ยังเชื่อมั่นด้วยว่า ระบบขีปนาวุธสำหรับป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านในเวลานี้ส่วนใหญ่ เป็นอาวุธที่อิหร่านพัฒนาและต่อยอดด้วยตัวเอง มาจาก ระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ S-300 ของกองทัพรัสเซีย เป็นหลัก

อย่างไรก็ดี มีรายงานจากฝ่ายอิสราเอลว่า รัสเซียได้แอบส่งมอบระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ S-400 ซึ่งมีพิสัยการยิงไกลถึง 400 กิโลเมตร และมอสโกอ้างว่า มีเทคโนโลยีที่สามารถจัดการ กับ B-2 Spirit ได้ ให้กับอิหร่านอย่างลับๆไปแล้ว เมื่อช่วงปลายปี 2024

อิหร่านกับอาวุธนิวเคลียร์ :

โรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่าน ทั้ง 3 แห่ง ซึ่งตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของ B-2 Spirit ประกอบไปด้วย

1. โรงงานนิวเคลียร์ นาแทนซ์ (Natanz) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงเตหะราน ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 220 กิโลเมตร

โดย “นาแทนซ์” ถือเป็นโรงงานนิวเคลียร์หลัก สำหรับการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่าน และเพิ่งถูกอิสราเอลโจมตีทางอากาศไป เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา  

2. โรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โด (Fordo) ซึ่งทันสมัยและแข็งแกร่งที่สุด เนื่องจากถูกออกแบบมาสำหรับป้องกันการโจมตีทางอากาศโดยเฉพาะนั้น อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 100 กิโลเมตร

โดยโรงงานนี้ นอกจากจะถูกสร้างขึ้นใต้ภูเขาลึกลงไปใต้ดิน ประมาณ 300 ฟุตแล้ว ยังมีการเสริมความแข็งแกร่งจากชั้นคอนกรีตเพิ่มเติมเข้าไปอีก รวมถึงยังได้มีการติดตั้งระบบอาวุธป้องกันอากาศยานจากรัสเซียด้วย

ด้วยเหตุนี้ มันจึงได้ชื่อว่า เป็นโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ที่ไม่สามารถถูกทำลายได้ด้วยอาวุธใดๆ ก่อนหน้านี้

3. โรงงานนิวเคลียร์อิสฟาฮาน (Isfahan) ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเตหะรานไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 350 กิโลเมตร โดยโรงงานนิวเคลียร์นี้ จากรายงาน ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA ระบุว่า กำลังถูกอิหร่านเตรียมไว้สำหรับ การเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพิ่มเติม ต่อจาก โรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดและนาแทนซ์

ทั้งนี้ อิหร่าน ยืนกราน มาโดยตลอดว่า โครงการนิวเคลียร์ของตัวเองมีวัตถุประสงค์เพื่อสันติเท่านั้น ในขณะที่ฝ่ายสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล โต้แย้งว่า ทั้งหมดมีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การสร้างอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งสอดคล้องกับ IAEA เพิ่งประเมินเมื่อเร็วๆนี้ว่า อิหร่าน มีคลังยูเรเนียมมากเพียงพอ สำหรับการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 9 ลูก

สำหรับ Operation Midnight Hammer นั้น กองทัพสหรัฐรายงานว่า โรงงานนิวเคลียร์นาแทนซ์ และ ฟอร์โด ถูกโจมตีด้วย B-2 Spirit ส่วน โรงงานนิวเคลียร์อิสฟาฮาน นั้น ถูกถล่มด้วย ขีปนาวุธโทมาฮอว์ก

ความสำคัญของ B-2 Spirit :

Operation Midnight Hammer ทำให้เสียงวิพากวิจารณ์เรื่องความ “คุ้มค่า” สำหรับ B-2 Spirit ซึ่งเข้าประจำการในกองทัพสหรัฐ มาตั้งแต่ปี 1991 หยุดชะงักลงชั่วคราว

เนื่องจากเห็นได้ชัดว่า “จุดเด่น” เรื่องคุณสมบัติล่องหน , เหมาะสมสำหรับภารกิจระยะไกล , รวมถึงเป็นอีกหนึ่งอาวุธยุทธศาสตร์ สำหรับ “การข่มขวัญด้านจิตวิทยา” ด้วยอาวุธนิวเคลียร์แบบเฉพาะเจาะ ยังคงมี ขีดความสามารถอย่างเหลือล้น สำหรับการเจาะทะลวงแนวป้องกันอันแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม เพื่อมุ่งตรงไปยังเป้าหมายประสิทธิภาพ ในแบบ “ไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน จนกระทั่งมันเปิดฉากโจมตีและบินกลับบ้าน”

ขณะเดียวกัน การที่ B-2 Spirit ยังเป็นเครื่องบินเพียงแบบเดียวในเวลานี้ ที่สามารถบรรทุกระเบิด Bunker Buster อันมีอนุภาพการทำลายล้างสูงได้ จึงยิ่งทำให้ ข้อครหาจากมหาเศรษฐี “อีลอน มัสก์” ที่ว่า…

“ทั้ง B-2 และ F-35 ที่ยังต้องใช้ นักบินบังคับเครื่อง คือ อาวุธตกยุคจากสงครามเย็น ที่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายและไม่จำเป็นสำหรับกองทัพสมัยใหม่ และควรถูกแทนที่ด้วย โดรน” นั้น ถูกหักล้างลงด้วย

นั่นเป็นเพราะ... Operation Midnight Hammer แสดงให้เห็นแล้วว่า เครื่องบินรบล่องหน ที่ถูกบังคับโดยมนุษย์ นั้น สามารถใช้สัญชาตญาณนักบิน และความสามารถในการปรับตัวจากการฝึกฝน แทรกซึมและทะลวงผ่าน ระบบการป้องกันภัยทางอากาศอันซับซ้อนได้ โดยไม่ถูกยิงตก

ในขณะที่เทคโนโลยีไร้คนขับ ณ ปัจจุบัน ยังมีข้อจำกัดมากมาย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับน่านฟ้าที่ถูกปิดและภัยคุกคามที่ไม่หยุดนิ่ง ด้วยเหตุนี้ B-2 Spirit จึงยังคงมีบทบาทสำหรับภารกิจทางทหาร ให้กับกองทัพสหรัฐอยู่ต่อไป

ข้อเท็จจริง B-2 Spirit :

1.  B-2 Spirit ลำแรก ถูกส่งมอบให้กับฐานทัพอากาศไวท์แมน ซึ่งเป็นฐานทัพเพียงแห่งเดียวที่มีฝูงบินนี้ประจำการ เมื่อวันที่ 17ธ.ค.1993

2.  B-2 Spirit 2 ลำ ออกปฏิบัติการครั้งแรก ในภาระกิจสนับสนุนปฏิบัติการ Operation Allied Force ด้วยการบินยาวมากกว่า 31 ชั่วโมง ไป-กลับ จากฐานทัพในรัฐมิสซูรี เพื่อไปถล่มเป้าหมายสำคัญๆต่างในเซอร์เบีย

โดยมีประสิทธิภาพความแม่นยำในการโจมตีอันยอดเยี่ยม จากการที่สามารถทำลายเป้าหมายได้ถึง 33% ในช่วง 8 สัปดาห์แรกของโจมตี ทั้งๆที่ ออกปฏิบัติภารกิจน้อยกว่า 1% ของจำนวนภารกิจทั้งหมดก็ตาม

หลังจากนั้นเป็นต้นมา B-2 Spirit จึงได้สมญาว่า No.1 เนื่องจากมักได้รับภารกิจให้ไปปฏิบัติการโจมตีในคืนแรกของสงคราม เพื่อเล็ดรอดเข้าไปทำลายเป้าหมายสำคัญของฝ่ายตรงข้ามเสมอ

3. ปัจจุบัน B-2 Spirit มีสถิติปฏิบัติภารกิจยาวนานที่สุด 44 ชั่วโมง ด้วยการบินจากสหรัฐอเมริกาไปทิ้งระเบิดต่อเป้ากลุ่มอัลกออิดะห์และตอลิบาน ในประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อปี 2001 โดยมีสถิติความแม่นยำในการทิ้งระเบิดต่อเป้าหมาย ในระยะไม่เกิน 40 ฟุต สูงถึง 90%!

4. เนื่องจาก B-2 Spirit มักได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจระยะไกลและต่อเนื่องยาวนานหลายชั่วโมงติดต่อกัน ภายในเครื่องบินที่มีมูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(64,936ล้านบาท) จึงจำเป็นต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักบินทั้ง 2 นาย เช่น เตียงนอน , ห้องน้ำสำหรับปลดทุกข์หนัก , ถุงปัสสาวะ และ ไมโครเวปขนาดเล็กสำหรับอุ่นอาหาร  

อ่านมาถึงบรรทัดนี้ จากบทความอันแสนยาวยืด “คุณ” มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง?

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :

เรียนรู้ถึงตัวตนของฮุนเซน ผ่านการดิ้นรนเพื่อไปสู่อำนาจ (ชมคลิป)

ย้อนรอย จลาจลเผาสถานทูตไทย บทเรียนข่าวเท็จ กัมพูชา ปี2546 (ชมคลิป)

ย้อนสงครามไทย-กัมพูชา 2554 BM 21 VS ปืนใหญ่ “บิ๊กตู่” ลั่น อยากรบก็รบ! (ชมคลิป)

เมื่อวิกฤตหนี้สิน47,000ล้านเยน ถูกแก้ไขด้วยใจนักสู้ของเราทุกคน

เป็นโค้ชกับว่ายน้ำเองไม่เหมือนกัน มุมคิด คนจับปลา ชื่อ ตี๋ เว่ยเจี๋ย (ชมคลิป)


You might be intertested in this news.

Mostview

กกล.บูรพา เปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวให้ประชาชนกลับภูมิลำเนาภายใน 24 มิ.ย.นี้

กองกำลังบูรพา ประกาศอนุโลมให้ประชาชนชาวกัมพูชา และชาวไทย ที่ต้องการกลับภูมิลำเนา สามารถข้ามแดนได้ภายในวันนี้เท่านั้นก่อน 20.00 น.ที่ด่านฯ บ้านคลองลึก และด่านฯ บ้านเขาดิน ส่วนจุดผ่อนปรนฯ บ้านหนองปรือ และบ้านตาพระยา ผ่านผ่านก่อน 18.00 น.

เรียนรู้ถึงตัวตนของฮุนเซน ผ่านการดิ้นรนเพื่อไปสู่อำนาจ (ชมคลิป)

เรียนรู้ถึงตัวตนของฮุนเซน ผ่านการดิ้นรนเพื่อไปสู่อำนาจ (ชมคลิป)

5 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (25มิ.ย.2025)

5 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (25มิ.ย.2025)

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (27มิ.ย.68) ทยอยชื้อสะสม

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (27มิ.ย.68) ทยอยชื้อสะสม

แนวโน้มSETวันนี้ (25มิ.ย.68) ลุ้น กนง. ลดดอกเบี้ย

แนวโน้มSETวันนี้ (25มิ.ย.68) ลุ้น กนง. ลดดอกเบี้ย

TrustNEws Line