โคล พาลเมอร์ เรียนรู้ที่ แมนฯซิตี้ เพื่อไปประสบความสำเร็จกับเชลซี
by Trust News, 17 กรกฎาคม 2568
โคล พาลเมอร์ เรียนรู้ที่ แมนฯซิตี้ เพื่อไปประสบความสำเร็จกับเชลซี
“ถ้า โคล พาลเมอร์ ได้ลงเล่นเท่ากับที่ผมให้ ฟิล โฟเด้น ลงเล่นตั้งแต่แรก พาลเมอร์ ก็คงอยู่ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อไป แต่ผมไม่ได้ให้โอกาสเขา ฉะนั้น นั่นคือความรับผิดชอบของผมเอง
แล้วมันเป็นเพราะอะไรน่ะหรือ? นั่นก็เป็นเพราะเรามีทั้ง แบร์นาร์โด้ ซิลวา , ริยาด มาห์เรซ และ ฟิล โฟเด้น อยู่ในตำแหน่งนั้น”
ทั้งหมดนั้น คือเหตุผลจากปากของ “โจเซป กวาร์ดิโอล่า” ในวันที่นายใหญ่ของสโมสรเรือใบสีฟ้า จำใจต้องปล่อย “นักเตะที่มากไปด้วยพรสวรรค์” และค้นพบได้ “ยากยิ่ง” ในประเทศอังกฤษ ไปให้กับ สโมสรคู่แข่งชั้นนำในลีก อย่าง “เชลซี”
หากแต่บางที...การตัดสินใจที่ว่านั้น อาจเป็นอีกหนึ่งในการตัดสินใจที่ผิดพลาด ที่เกิดขึ้นไม่กี่ครั้งของ “มนุษย์ผู้พิศมัยความสมบูรณ์แบบ” อย่าง “เป๊ป” ก็เป็นได้
เพราะหลังจากนั้นเป็นต้นมา “ความอัดอั้น” ในฐานะตัวสำรองมาเนิ่นนาน ก็ถูกปลดปล่อย จนกระทั่ง กลายเป็น “ความหวัง” ในการ “รัน” ทีมชาติอังกฤษสู่การเป็นแชมป์โลกไปแล้วในปัจจุบัน
หลังโชว์การยิง 2 ประตูอันเฉียบขาดและเยือกเย็น ในนัดชิงชนะเลิศ ฟีฟ่าคลับ เวิลด์คัพ ใส่ทีมที่ดีที่สุดในยุโรป อย่าง “ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง” จนพา “สิงห์บูล” คว้าแชมป์ พร้อมตำแหน่ง MVP ประจำทัวร์นาเม้นท์ ไปอย่างเฉิดฉาย

“ตัวตน” ของ “นักฟุตบอลอังกฤษ” ผู้แสนหนาวเหน็บ และน่าจะทำให้ “โจเซป กวาร์ดิโอล่า” ต้องมานั่งคร่ำครวญ ด้วยความเสียดายในเวลานี้ มีแง่มุมใดที่น่าสนใจบ้าง?
วันนี้ “เรา” ได้รวบรวม “ความน่าสนใจ” เหล่านั้น มาให้ “คุณ” ได้ร่วมกัน “พิจารณา” แล้ว!
เด็กชาย โคล พาลเมอร์ :
เขาเป็นลูกชาย ของ “นายเจอร์เมน (Jermaine) และ นางมารี (Marie) พาลเมอร์” เกิดวันที่ 6พ.ค. ปี 2002 ที่ เมืองแมนเชสเตอร์ โดยในวัยเด็ก เขาเป็น เรด อาร์มี ตัวยง และมีสุดยอดนักเตะในดวงใจ คือ “เวย์น รูนี่ย์”
โดยความคลั่งไคล้ที่มีต่อ “อดีตกองหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ในวัยเด็ก นั้น โคล พาลเมอร์ ถึงกับเคยยอมรับผ่านสื่อว่า “ถ้าแม่อยากให้ผมทำอะไร แล้วบอกกับผมว่า เวย์น รูนี่ย์ เคยทำแบบนี้มาก่อน ผมจะรีบทำมันในทันที!”
ขณะเดียวกัน ฝ่ายคุณพ่อ ซึ่งมีอาชีพเป็น Dental Engineer และเคยทั้งเป็นโค้ชและลงเล่นในศึก Sunday League หรือ ลีกฟุตบอลสมัครเล่นประจำท้องถิ่นนานร่วม 20 ปี นั้น ยังได้ทุ่มเทเวลาหลายชั่วโมงในแต่ละวัน เพื่อฝึกฝนทักษะและฝึกซ้อมให้กับลูกชายมาตั้งแต่เด็กอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เจอร์เมน ยังสร้างประตูชั่วคราวเอาไว้ที่หน้าบ้าน เพื่อให้ลูกชายสามารถฝึกซ้อมการเล่นฟุตบอลได้ในทุกๆวัน รวมถึงยังพาเบอร์ 10 ของเชลซี ไปลงเล่นฟุตบอลลีกเยาวชนท้องถิ่นตามสวนสาธารณะเป็นประจำ เพื่อสานความฝันการเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้กับลูกชายเป็นประจำด้วย
โดย เจอร์เมน ยืนยันว่า ลูกชายคนนี้ของเขา เติบโตมาในแบบที่เรียกว่า “เขาไม่ต้องการที่จะมีชื่อเสียง เขาไม่ต้องการเป็น Pop Star เขาแค่อยากเป็นนักฟุตบอล”
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่แม้จะได้ชื่อว่าหนึ่งในนักเตะชื่อดังที่สุดคนหนึ่ง ของเกาะอังกฤษในปัจจุบัน แต่กลับเป็นคน Low Profile แทบไม่ค่อยปรากฏตัวออกสื่อ หรือแม้กระทั่งเวลาให้สัมภาษณ์ ก็มักแทบไม่แสดงอารมณ์หรือความรู้สึกใดๆ

เทคนิคเหมือนนักเตะบราซิล :
“คีธ เฟล็ตเชอร์” (Keith Fletcher) วัย 79 ปี แมวมองของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีประสบการณ์ในการค้นหา Wonder Kid มานานกว่า 25 ปี บอกเล่าถึงการค้นพบ “ความพิเศษ” ของ เด็กชายอายุแค่ 6 ขวบ ที่กำลังเล่นฟุตบอลอยู่ตรงหน้า ในการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนท้องถิ่น ที่ สวนสาธารณะไวเธนชอว์ (Wythenshawe) เมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อหลายปีก่อน ว่า…
“มันสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า เขามีความพิเศษมากกว่าเด็กคนอื่นๆ เขาโดดเด่นในฐานะผู้เล่นที่ดีที่สุดในทีม การคอนโทรลลูกฟุตบอล และความกล้าหาญที่จะครอบครองบอล รวมถึงเทคนิคการเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ มันน่าเหลือเชื่อที่ได้เห็นในสิ่งที่เขาทำ มันเหมือนกับ กำลังได้ดูนักเตะบราซิลยุคคลาสสิก ทั้งวิธีการเล่น เทคนิคการหลอกล่อคู่แข่ง และเขาดูแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ”
และ แมวมองอาวุโสของเรือใบสีฟ้าคนนี้เอง ที่เป็นผู้นำเด็กชายอายุ 6 ขวบ ที่มีชื่อว่า “โคล พาลเมอร์” เข้าสู่ อเคเดมีของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนกระทั่งพัฒนาตัวเองกลายเป็นสุดยอดนักเตะในเวลานี้
อย่างไรก็ดี “คีธ เฟล็ตเชอร์” ยอมรับว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องทนเห็น “เด็กอัจฉริยะ” ที่เขาอุตสาห์จับมือพาเข้าสู่สโมสรอันเป็นที่รักนั้น… ในท้ายที่สุด กลับไปเติบโตและเฉิดฉาย” ในสีเสื้อสโมสรอื่นที่ไม่ใช่ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ในปัจจุบัน

พอแล้วกับตัวสำรอง :
การเริ่มต้นที่อเคเดมีของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด โดย โคล พาลเมอร์ เปิดเผยว่า เคยถูกจับไปเล่นเป็น “แบ็กซ้าย” เมื่อลงเล่นในทีม U-10 ด้วย เนื่องจากในเวลานั้น เขารูปร่างผอมบางมาก และด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ ครั้งหนึ่งเขายังเคยเกือบถูกปล่อยออกจากทีม เมื่อตอนอายุ 16 ปี ด้วย
หากแต่ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อได้รับโอกาสให้ลงเล่นในแนวรุก จนกระทั่งถูกเลื่อนไปลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ และได้สัญญาระยะยาว 5 ปี ในที่สุด
อย่างไรก็ดี การได้รับโอกาสลงเล่นในลีกอันน้อยนิด เพียง 4 นัด แถมในจำนวนนี้เป็นตัวสำรองถึง 3 นัด ในฤดูกาลแรก คือ 2021/22
ส่วนในฤดูกาลที่ 2 คือ 2022/23 นั้น ได้เป็นตัวจริงในลีก เพียง 2 นัด และเป็นตัวสำรองอีก 12 นัด ก็ทำให้ “อดทน” ของ โคล พาลเมอร์ เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด! แม้ว่าทั้ง 2 ฤดูกาลนั้น สโมสรเรือใบสีฟ้าจะคว้าแชมป์ลีกได้ก็ตาม
โดย “โจเซป กวาร์ดิโอล่า” กล่าวถึงการตัดสินอันยากลำบากนี้ว่า…
“โคล พาลเมอร์ แสดงอาการหงุดหงิดให้ผมสังเกตเห็นได้เสมอ เมื่อเขาไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับนักเตะอายุน้อย เรามักต้องการให้พวกเขาอยู่กับทีมต่อเสมอ แต่แน่นอน เมื่อมันผ่านไปสัก 2-3 ฤดูกาล พวกเขาก็มักจะแสดงออกให้เห็นว่า ผมอยากลงเล่น ผมไม่อยากนั่งสำรองอีกแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติและสโมสรเองก็เข้าใจ และทุกๆสโมสรก็มักจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
ถ้า โคล พาลเมอร์ ได้ลงเล่นเท่ากับที่ผมให้ ฟิล โฟเด้น ลงเล่นตั้งแต่แรก พาลเมอร์ ก็คงอยู่ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อไป แต่ผมไม่ได้ให้โอกาสเขา ฉะนั้น นั่นคือความรับผิดชอบของผมเอง
แล้วมันเป็นเพราะอะไรน่ะหรือ? นั่นก็เป็นเพราะเรามีทั้ง แบร์นาร์โด้ ซิลวา , ริยาด มาห์เรซ และ ฟิล โฟเด้น อยู่ในตำแหน่งนั้น"
ขณะเดียวกัน ความพยายามครั้งสุดท้ายของ “เป๊ป” ที่มาพร้อมกับการให้คำมั่นว่า จะได้รับโอกาสในสนามมากขึ้น เพื่อหวังรั้งให้ โคล พาลเมอร์ อยู่กับทีมต่อไป หลัง ริยาด มาห์เรซ ถูกขายไปให้กับลีกซาอุดิอาระเบีย ก็ยังล้มเหลวอีกด้วย
เพราะดาวรุ่งสัญชาติอังกฤษ ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่า “ต้องการย้ายออกไปจากทีม เพื่อโอกาสในการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ ที่ เชลซี ด้วยค่าตัว 42.5 ล้านปอนด์ (1,854ล้านบาท) ในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะซัมเมอร์ ของ ฤดูกาล 2023/24
“ในช่วงปรีซีซั่น ผมบอกให้ โคล พาลเมอร์ อยู่ต่อ เพราะ ริยาด มาห์เรซ ย้ายออกไปแล้ว แต่เขาบอกกับผมว่า ไม่ ผมต้องการย้ายออกจากทีม ซึ่งหลังจากผ่านไปถึง 2 ฤดูกาล ที่บอกให้เขารอแล้ว ผมจะสามารถพูดอะไรได้อีก”
ในขณะที่ โคล พาลเมอร์ พูดถึงประเด็นการตัดสินใจในครั้งนั้นเอาไว้ว่า...
“ผมได้ฝึกซ้อมกับผู้เล่นที่ดีที่สุด ดังนั้นแน่นอนว่า มันช่วยพัฒนาการเล่นของผม แต่ผมรู้สึกว่า ผมอยู่ในจุดที่ผมต้องการลงเล่น... ผมจะลงแค่ 20 นาที แล้วไม่ได้ลงเล่นอีก 5 เกม จากนั้นก็ลงไปเล่นอีก 5 นาที
ซึ่งเมื่อเป็นแบบนั้น มันทำให้ผมไม่สามารถจับจังหวะการเล่นได้ และนั่นคือเหตุผลว่าเพราะอะไร ผมจึงต้องย้ายออกไป”

อิสระที่ได้รับกับเชลซี :
ปีแรกที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ฤดูกาล 2023/24 ลงเล่นรวม 48 นัดในทุกรายการกับเชลซี ยิง 27 ประตู กับ 15 Assists พร้อม คว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ หรือ PFA และติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ไปเล่นฟุตบอลยูโร 2024
แล้วอะไร คือ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ โคล พาลเมอร์ สามารถฉายแสงได้อย่างเจิดจรัส ที่ เชลซี?
โคล พาลเมอร์ พูดถึง “เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่” อดีตกุนซือผู้ดึงตัวเขามาสู่ “เดอะ บริดจ์” เอาไว้ว่า…
“เจ้านายให้โอกาส ความไว้วางใจ และอิสระในการเล่นกับผม เขาบอกผมเพียงว่า จงลงสนามไปทำในสิ่งที่นายต้องทำ ในขณะที่ผู้จัดการทีมคนอื่น อาจไม่ได้ให้อิสระและโอกาสในแบบที่ผมสามารถทำมันได้ที่เชลซี”
ในขณะที่อดีตเจ้านายชาวอาร์เจนตินา ให้เหตุผลถึงการตัดสินใจดึงตัวนักเตะดาวรุ่งผู้นี้มาร่วมทีมเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า...
“โคล พาลเมอร์ เป็นนักเตะประเภทที่ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไร เขาเป็นนักเตะอายุน้อยที่มากไปด้วยพรสวรรค์ อย่างไรก็ดี เขาต้องพัฒนาเกมของตัวเอง รวมถึงต้องแสดงให้เห็นว่าเขาดีกว่าเพื่อนร่วมทีม และสมควรได้ลงเล่น รวมถึงหาตำแหน่งของตัวเอง
นอกจากนี้ เขาต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัว เพราะแมนเชสเตอร์ แตกต่างจาก ลอนดอน สโมสรและวัฒนธรรมก็แตกต่างกัน ก่อนที่จะเริ่มทำผลงาน เขาต้องปรับตัวอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง และรู้สึกสบายใจ ซึ่งแน่นอนว่า เราจะไม่กดดันเขา”

ความแตกต่างในฤดูกาลที่ 2 :
“โคล พาลเมอร์ เป็นนักเตะที่เข้าใจเกม และใช้พื้นที่ Half Space ได้ดี เขาเล่นระหว่างแนวรับเพื่อสร้างความสับสนให้กับคู่ต่อสู้ได้เก่ง และเขาให้ทางเลือกเสมอสำหรับการเล่นของเรา ที่สำคัญเขามองหาตำแหน่งเพื่อนที่ว่างอยู่ได้เสมอ เขา คือ เพลย์เมกเกอร์ ที่เชื่อมโยงถึงเพื่อนร่วมทีมได้ทุกคน"
มุมมองของ “เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่” อดีตกุนซือเชลซีที่ให้ “อิสระอย่างไร้ขีดจำกัด” กับ โคล พาลเมอร์ ในฤดูกาลแรก
อย่างไรก็ดี เมื่อ เชลซี ได้ตัว “เอ็นโซ่ มาเรสก้า” กุนซือจอมแท็กติก ที่ถือยึดแบบแผนการทำทีมของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า มาอย่างเข้มข้น รวมถึงเคยจับ “โคล พาลเมอร์” จากหมายเลข 10 ไปเล่นเป็นปีกขวาในทีมชุด U-18 เมื่อสมัยยังเป็นผู้ช่วยโค้ชที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เข้ามารับงานคุมทีมต่อจาก “เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่” นั้น ครั้งหนึ่ง โคล พาลเมอร์ เคยพูดถึงความแตกต่างที่เกิดขึ้นนี้ เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า…
“ผมรู้สึกเบื่อที่จะรับบอล แล้วส่งคืนหลัง หรือแค่ส่งออกไปด้านข้าง”
ซึ่งต่อมา “ประโยคดังกล่าว” ถูกสื่อนำไปตีความว่า น่าจะเป็นการวิพากวิจารณ์ถึงแท็กติกของกุนซือใหม่ทางอ้อม ถึงแม้ว่าในเวลาต่อมา เจ้าตัวจะออกมาปฏิเสธว่า "ไม่ได้เป็นเช่นนั้น"
แต่ โคล พาลเมอร์ ก็ยอมรับ เขาไม่สามารถเล่นตามใจตัวเองได้ แต่อย่างน้อยที่สุด มาเรสก้า ก็ยังคงให้พื้นที่เล็กน้อย ในการลองทำอะไรในสนาม และคอยดูว่า เขาจะสามารถทำอะไรได้บ้าง?

อย่างไรก็ดี “เอ็นโซ่ มาเรสก้า” ได้ออกมาอธิบายถึงความแตกต่างที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ โคล พาลเมอร์ ฟอร์มตก ยิงประตูไม่ได้ถึง 18 เกมติดต่อกัน เอาไว้อย่างน่าสนใจเช่นกันว่า…
“หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ในฤดูกาลนี้ คู่แข่งจึงหาทางจัดการกับ โคล พาลเมอร์ แตกต่างไปจากเดิม ด้วยเหตุนี้เขาจึงมักถูกคู่แข่งประกบตัวแบบหายใจรดต้นคอ และพยายามก่อกวนให้เขาเสียสมาธิ ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับนักฟุตบอลทุกคนในโลก
แต่ผมเชื่อว่า เขาจะเรียนรู้และเข้าใจมันมากขึ้นในแต่ละเกม เขาจะรู้ว่าต้องเคลื่อนที่อย่างไร เมื่อถูกประกบตัวชิดแบบนั้น”
ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าว สอดคล้องกับสถิติที่ โคล พาลเมอร์ ซึ่งเคยถูกทำฟาวล์ เฉลี่ยเพียง 0.9 ครั้ง ต่อ 90 นาที ในฤดูกาลแรก (2022/23) มาเป็น เฉลี่ย 2.1 ครั้ง ต่อ 90 นาที ในฤดูกาลที่ผ่านมา (2023/24)
อย่างไรก็ดี แม้จะถูกมองว่า “ฟอร์มดร็อปลง” กว่าฤดูกาลแรกอันเฉิดฉาย หากแต่ฤดูกาลที่ผ่านมา โคล พาลเมอร์ ก็ยังทำได้ถึง 18 ประตู กับอีก 14 Assists จากการลงเล่นรวม 52 นัด ในทุกรายการ อีกทั้งยังพาทีมสิงห์โตน้ำเงินคราม คว้าแชมป์ฟีฟ่าคลับ เวิลด์คัพ รวมถึง ตำแหน่ง MVP ประจำทัวร์นาเม้นท์ไปอย่างสุดยิ่งใหญ่ในท้ายที่สุด
อ่านมาถึงบรรทัดนี้ จากบทความอันแสนยาวยืด “คุณ” มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง?

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :
อะไรคืออุปสรรค ที่ แมนยูฯ ของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ (ชมคลิป)
คำตอบความอดทนของอาร์เซนอล ทำไมจึงต้องเป็น มาร์ติน ซูบิเมนดี้ (ชมคลิป)
รำลึกถึงความมุ่งมั่น ดีโอโก้ โชต้า นายจะอยู่กับเดอะค็อปตลอดไป (ชมคลิป)
มิลอส เคอร์เคซ กับ ลิเวอร์พูล ตัวสำรอง หรือ แทนที่ ร็อบโบ้ (ชมคลิป)
ความทันสมัย ของ โคตะ ทาคาอิ กองหลังสัตว์ประหลาดแห่งเจลีก (ชมคลิป)
You might be intertested in this news.
Mostview
แรงกระแทก “สีกากอล์ฟ” นารีพิฆาตพระ กับขบวนการทำลายพุทธศาสนา มีจริงไหม..? (ชมคลิป)
ปกติแล้ว เมื่อพระเจอ “นารีพิฆาต” จะมาในรูปแบบบุคคลกับบุคคล แต่กรณี “สีกากอล์ฟ” นั้น กลับไม่ใช่ เรียกว่า ทำให้คณะสงฆ์สมณศักดิ์หลายรูป โดยเฉพาะชั้น "เทพ" ต้องสละผ้าเหลือง เพราะแบบนี้ จึงถูกตั้งคำถามว่า จะเกี่ยวข้องกับ "ขบวนการทำลายพุทธศาสนา" หรือไม่...
อะไรคืออุปสรรค ที่ แมนยูฯ ของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ (ชมคลิป)
อะไรคืออุปสรรค ที่ แมนยูฯ ของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ (ชมคลิป)
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (16ก.ค.68) ทยอยซื้อสะสม
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (16ก.ค.68) ทยอยซื้อสะสม
แนวโน้มตลาดวันนี้ (14ก.ค.68) ความกังวลภาษียังกดดัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (14ก.ค.68) ความกังวลภาษียังกดดัน
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (14ก.ค.68) หาจังหวะขายทํากําไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (14ก.ค.68) หาจังหวะขายทํากําไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
