วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 3, 2568

มิลอส เคอร์เคซ กับ ลิเวอร์พูล ตัวสำรอง หรือ แทนที่ ร็อบโบ้

by Trust News, 3 กรกฎาคม 2568

มิลอส เคอร์เคซ กับ ลิเวอร์พูล ตัวสำรอง หรือ แทนที่ ร็อบโบ้

“มิลอส เคอร์เคซ” (Milos Kerkez) เด็กหนุ่ม วัย 21 ปี เจ้าของค่าตัว 40 ล้านปอนด์ (1,782ล้านบาท) ที่เกิดในประเทศเซอร์เบีย แต่เลือกลงเล่นให้กับทีมชาติฮังการี ตามสัญชาติของคุณย่า และให้นิยามสไตล์การเล่นฟุตบอลของตัวเองเอาไว้ว่า “Crazy left-back”

กำลังเดินเข้าสู่ถิ่นแอนฟิลด์ เพื่อต่อสู้กับความท้าทายในอาชีพการค้าแข้งครั้งสำคัญ ในฐานะนักเตะที่ได้รับการคาดหวังว่า นี่คือ “จิ๊กซอว์” ที่ลงตัวที่สุด สำหรับการเข้ามา สวมแทน “แบ็กซ้ายพลังไดนามิค” และนักเตะขวัญใจมหาชน อย่าง ร็อบโบ้ “แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน”

“มิลอส เคอร์เคซ” ผู้ซึ่งมีสุดยอดนักฟุตบอลและสมบัติล้ำค่าแห่งอิตาลี อย่าง “เปาโล มัลดินี” เป็นนักเตะในดวงใจ “มีความพิเศษ” สำหรับ “ปฏิบัติการล่าท่าฝัน” ครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน?

วันนี้ “เรา” มีข้อมูลที่น่าสนใจ ซึ่งอาจจะพอให้ “คำตอบ” ที่ว่านี้ มาให้ “คุณ” ได้ร่วมกันพิจารณา

 

จากเบอร์ 10 สู่ เบอร์ 3 :

“มิลอส เคอร์เคซ” เกิดที่ประเทศเซอร์เบีย เริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งตั้งแต่อายุ 11 ขวบ โดยเข้าร่วมกับอาเคเดมี ของ “ราปิด เวียนนา” (Rapid Vienna) ซึ่งเป็นสโมสรชั้นนำ ของ ประเทศออสเตรีย ก่อนจะพบกับความผิดหวัง และหันไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับ “สโมสรกียอร์” (Gyor) ของประเทศฮังการี และ ณ ที่นี้เอง “พรสวรรค์” ของเขา ก็ถูกค้นพบในที่สุด

โดย “ริชาร์ด เฮนซี” (Richard Henzi) อดีตโค้ชของกียอร์ ในเวลานั้น กล่าวถึง มิลอส เคอร์เคซ เอาไว้ว่า

“ผมได้ยินมาว่า มีไอ้หนุ่มผู้บ้าคลั่งคนหนึ่ง อยู่กลุ่มนักเตะใหม่ของเรา เมื่อช่วงปี 2003 และพอผมได้เห็นเขา ผมรีบจัดการเปลี่ยนนักเตะ ที่เดิมเล่นเป็นมิดฟิลด์หมายเลข 10 ไปเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายทันที เพราะตำแหน่งนี้ น่าจะได้ประโยชน์จากพลังงานและความดุดันแบบไม่เกรงกลัวใคร รวมถึงมีสัญชาตญาณการเล่นเกมรุกที่ดี ของเขา ได้มากกว่า”

ต่อมาไม่นาน มิลอส เคอร์เคซ ในวัยเพียง 16 ปี จึงได้ลงประเดิมสนามให้กับสโมสรกียอร์ และเริ่มต้นเก็บเกี่ยวประสบการณ์การค้าแข้ง จนกระทั่งฝีเท้าไปเตะตาสโมสรยักษ์ใหญ่จากอิตาลี อย่าง “เอซี มิลาน” ในที่สุด

 

เปาโล มัลดีนี ชวนร่วมทีม :

มกราคมปี 2021 “เปาโล มัลดินี” ตำนานแบ็กซ้ายสโมสรรอสโซเนรี่ และทีมชาติอิตาลี ยกหูโทรศัพท์หา มิลอส เคอร์เคซ และพ่อ เพื่อชักชวนให้มาร่วมทีมเอซีมิลาน ด้วยตัวเอง ซึ่ง แบ็กซ้ายคนใหม่ของทีมหงส์แดง กล่าวถึงการได้สนทนากับนักเตะที่เขายึดเป็นแบบอย่างเอาไว้ว่า…

“เมื่อนักเตะที่ยิ่งใหญ่อย่าง เปาโล มัลดินี โทรหาคุณด้วยตัวเอง ผมก็แทบไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้ว นอกจาก ตอบรับข้อเสนอนี้ ด้วยความเต็มใจ”

อย่างไรก็ดี แม้ว่า “มิลาน” จะทำให้ มิลอส เคอร์เคซ ได้เรียนรู้เรื่องแท็คติกการเล่น และใช้สมองมากขึ้นในสนาม รวมถึงยังได้มีโอกาส ลงเล่นในแมชต์กระชับมิตรช่วงปรีซีซั่น และตัวเขาก็โชว์ฟอร์มยิงได้ถึง 2 ประตู แต่ในฤดูกาลนั้นเขากลับไม่ได้รับโอกาสลงให้กับทีมชุดใหญ่แต่อย่างใด

ด้วยเหตุนี้ มิลอส เคอร์เคซ จึงตัดสินใจว่า ต้องย้ายออกจากทีมรอสโซเนรี่ เพื่อหาโอกาสในการลงสนามให้มากขึ้น เพราะสิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับการพัฒนาในฐานะนักเตะอาชีพ ทั้งๆที่เพิ่งอยู่กับมิลานมาได้เพียงฤดูกาลเดียวก็ตาม

 

แจ้งเกิดที่เอเรดิวิซีลีก :

ปี 2022 เพื่อแสวงหาโอกาสในการลงสนาม อย่างสม่ำเสมอ “มิลอส เคอร์เคซ” ปฏิเสธการยืมตัวและขอย้ายจากสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง เอซี มิลาน ไปอยู่กับ สโมสรอาแซด อัลค์มาร์ (AZ Alkmaar) ในเอเรดิวิซีลีก ซึ่งมีกุนซืออย่าง “ปาสคาล แจนแซ่น” (Pascal Jansen) อดีตผู้ช่วยของ “อาร์เน สลอต” คุมทีมอยู่ ภายใต้เหตุผลสำคัญที่ว่า…

“ผมคงไม่ย้ายไป อาแซด อัลค์มาร์ แน่นอน หากพวกเขาไม่การันตีเรื่องการลงสนามให้กับผม”

โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “อาแซด อัลค์มาร์” สามารถการันตีเรื่องการลงสนามให้กับ มิลอส เคอร์เคซ ได้นั้น ก็เป็นเพราะพวกเขาปล่อยตัว “โอเวน ไวจ์นดาล” แบ็กซ้ายตัวจริงออกจากทีมนั่นเอง

และการได้ลงสนามและสร้างผลงานอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง กลายเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่โดดเด่นของ เอเรดิวิซีลีกนี้เอง เพียง 18 เดือนต่อมา สโมสรบอร์นมัธ จากพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ได้ตัดสินใจทุ่มเงิน 15.5 ล้านปอนด์ (689ล้านบาท) ซื้อตัวไปร่วมทีมในเดือนกรกฏาคมปี 2023

ก่อนที่อีกเพียง 2 ฤดูกาลต่อมา “ลิเวอร์พูล” ซึ่งติดตามฟอร์มของ “มิลอส เคอร์เคซ” อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด จึงทุ่มเงิน 40 ล้านปอนด์ (1,782ล้านบาท) คว้าตัว “แบ็กซ้ายที่หมายปองมานาน” คนนี้ ไปร่วมทีมได้สำเร็จ

 

มิลอส เคอร์เคซ-ลิเวอร์พูล :

แชมป์พรีเมียร์ลีก 20 สมัย ติดตามฟอร์มของ “มิลอส เคอร์เคซ” อย่างใกล้ชิดมาเป็นเวลานาน
เนื่องจากเคยเห็นฟอร์ม ของเจ้าตัวอย่างใกล้ชิด มาตั้งแต่ช่วงทัวร์นาเมนต์ UEFA Youth League เมื่อฤดูกาล 2021/22 ที่มี มิลาน เข้าร่วมการแข่งขันแล้ว

ขณะเดียวกัน ในช่วงที่ สโมสรบอร์นมัธ ยื่นข้อเสนอซื้อตัวในปี 2023 นั้น ลิเวอร์พูล ก็เข้าทาบทามด้วยเช่นกัน เพียงแต่ในเวลานั้น “ทีมเครื่องจักรสีแดง” ไม่สามารถการันตีตำแหน่งตัวจริงให้กับ มิลอส เคอร์เคซ ที่ในเวลานั้นเพิ่งมีอายุ 19 ปี และต้องการสะสมเลเวล สำหรับการเป็นนักเตะอาชีพอย่างจริงจัง เหมือนเช่นที่ สโมสรบอร์นมัธ สามารถการันตีในเรื่องนี้ได้

อย่างไรก็ดี แม้จะพลาดโอกาสคว้าตัวในครั้งแรก แต่มีรายงานว่า ลิเวอร์พูล ยังคงแสดงความสนใจ และสร้างสัมพันธ์อันดีกับ “แบ็กซ้ายดาวรุ่ง” คนนี้มาโดยตลอด

ขณะเดียวกัน การที่ “หงส์แดง” เพิ่งได้ตัว “ริชาร์ด ฮิวจ์ส” อดีตผู้อำนวยการด้านเทคนิคของบอร์นมัธ มานั้งเก้าอี้ผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2024 ก็ยิ่งทำให้ สายใยสัมพันธ์ที่ว่านี้ “เหนียวแน่นมากยิ่งขึ้นไปอีก!”

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ “มิลอส เคอร์เคซ” จะถึงกับยอมถอนตัวจากการลงเล่นทีมชาติฮังการีก่อนหน้านี้ เพื่อให้แน่ใจได้ว่า “การย้ายไปลิเวอร์พูลในครั้งนี้ จะเสร็จสิ้นลงอย่างเรียบร้อยเสียก่อน”

ความถดถอยของ ร็อบโบ้ :

ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า “แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน” บนวัย 31 ปี ที่กรำศึกให้กับ ลิเวอร์พูล มาอย่างยาวนาน และอยู่ในปีสุดท้ายของสัญญา กำลังอยู่ในช่วง “ร่างกายถดถอยตามวัย” ดังจะเห็นได้จาก สถิติ Top Speed ที่เคยมีสถิติสูงสุดถึง 35.35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อฤดูกาล 2019/20 ถดถอยมาเหลือเพียง 33.31 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้ว ในฤดูกาลล่าสุด (2024/25)

นอกจากนี้ สถิติค่าเฉลี่ยวิ่งเต็มสปีด ต่อ90นาที ที่เคยมีสถิติวิ่งได้สูงสุดถึง 21.69 นาที เมื่อฤดูกาล 2021/22 นั้น ในฤดูกาลล่าสุด ยังตกลงมาเหลือเพียง 18.57 นาทีแล้วด้วย

ซึ่งจากทั้ง 2 สถิตินี้ หมายความว่า “ร็อบโบ้” กำลังถดถอยลงทั้งในแง่ “ความเร็วและความอึด” สำหรับการวิ่งขึ้นสุดลงสุดแบบไม่มีหมด เช่น ในอดีต

และอาจจะเป็นเพราะ “ความถดถอย” นี้เอง จึงเป็นผลให้ “แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน” สามารถทำได้เพียง 4 แอสซิสต์ ใน 2 ฤดูกาลล่าสุด (2023/24 และ 2024/25) ทั้งๆที่เมื่อ 2 ฤดูกาลก่อนหน้า (2021/22 และ 2022/23) นั้น “แบ็กซ้ายสัญชาติสก็อตแลนด์ผู้นี้” ทำแอสซิสต์ ได้รวมกันถึง 26 แอสซิสต์!

 

พัฒนาการ ของ มิลอส เคอร์เคซ :

ศึกพรีเมียร์ ฤดูกาลที่ผ่านมา (2024/25) มิลอส เคอร์เคซ ทำสถิติ ยิง2ประตู กับอีก 5แอสซิสต์ จากการลงเล่น 38 นัดในลีก ทั้งๆที่ในฤดูกาลแรกกับบอร์นมัธ นั้น เจ้าตัวทำได้เพียง 1 แอสซิสต์ จากการลงเล่น เฉพาะในลีก ถึง 28 นัด

ซึ่งสถิติดังกล่าว สอดคล้อง กับ สถิติการสร้างสรรค์โอกาสในการทำประตู (Chances Created) ต่อ 90 นาที ในฤดูกาลล่าสุด ซึ่งอยู่ที่ 0.93 ครั้ง ต่อ 90 นาที ซึ่งพัฒนาดีขึ้นกว่าฤดูแรกในพรีเมียร์ลีก ซึ่งอยู่ที่เพียง 0.55 ครั้งต่อ 90 นาทีเท่านั้น

ขณะเดียวกัน การมีส่วนร่วมกับเกมยังพัฒนาขึ้นด้วย ดั่งจะเห็นได้จาก สถิติการผ่านบอลในฤดูกาลที่ผ่านมา ที่สูงถึง 36.36 ครั้งต่อ 90 นาที ซึ่งพัฒนาขึ้นจาก 28.57 ครั้งต่อ 90 นาทีในฤดูกาลแรก

นอกจากนี้ สถิติการโจมตีจากด้านข้าง ด้วยการ “ครอสบอล” ยังดีขึ้นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน โดยฤดูกาลล่าสุด เจ้าตัวทำได้ถึง 3.57 ครั้งต่อ 90 นาที ในขณะที่ฤดูกาลแรกทำได้เพียง 2.51 ครั้งต่อ 90 นาที เท่านั้น ทั้งๆที่ บอร์นมัธ นั้น ได้ชื่อว่าเป็นทีมที่เล่นเกมรับอย่างเหนียวแน่น เป็นหลักก็ตาม

ร็อบโบ้ VS เคอร์เคซ :

เกมรับ :

สถิติค่าเฉลี่ยความสำเร็จในการสกัดบอล ของ “มิลอส เคอร์เคซ” เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา มีอัตราความสำเร็จถึง 66.7% ซึ่งสูงกว่าแบ็กตัวจริงของ ลิเวอร์พูล อย่าง “แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน” และ “เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์” ซึ่งมีอัตราความสำเร็จอยู่ที่ 60% และ 55% ตามลำดับ

เกมรุก :

หัวใจสำคัญในการเติมเกมรุกของผู้เล่นตำแหน่ง “แบ็ก” นั้น ก็คือการวิ่ง “Overlap” หรือ การวิ่งสอดขึ้นจากทางด้านข้าง แซงเพื่อนร่วมทีมที่กำลังครองบอลอยู่ และ “Underlap” หรือ การวิ่งทะลุตัดเข้าไปด้านใน จากตำแหน่งที่เพื่อนร่วมทีมกำลังครองบอลอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้พลังงานที่สูงมากนั้น

อ้างอิงจากสถิติของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาลที่ผ่านมา “มิลอส เคอร์เคซ” ทำสถิติวิ่ง “Overlap” เมื่อทีมกำลังครอบครองบอลอยู่ได้ถึง 66 ครั้ง ส่วนการวิ่ง “Underlap” ทำได้ถึง 52 ครั้ง ซึ่งถือเป็นสถิติที่สูงที่สุดในลีก (เฉพาะ Underlap)

ในขณะที่ “ร็อบโบ้” ทำสถิติวิ่ง “Overlap” เมื่อทีมกำลังครอบครองบอลอยู่ เพียง 33 ครั้ง ส่วนการวิ่ง “Underlap” ก็ทำได้ 39 ครั้ง หรือ น้อยกว่ากันเกือบครึ่งต่อครึ่ง! รวมถึงยังเป็น “อีกหนึ่งสัญญาณสำคัญ” เรื่องพละกำลังที่ถดถอยลงตามวัยด้วย!

เรื่องน่ารู้ มิลอส เคอร์เคซ :

1. คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด

มิลอส เคอร์เคซ ยอมรับว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คือ กองหน้าที่อันตรายที่สุด เท่าที่เคยพบมา ด้วยเหตุนี้ บอร์นมัธ จึงต้องพ่ายแพ้ให้กับ หงส์แดง ใน 4 นัดล่าสุดที่พบกัน

2. นักเตะที่พูดได้ถึง 5 ภาษา

หลังต้องออกไปค้าแข้งในต่างแดน มาตั้งแต่เด็ก มิลอส เคอร์เคซ จึงสามารถพูดได้ถึง 5 ภาษา ประกอบด้วย ภาษาเซอร์เบีย , ฮังการี , เยอรมนี , อังกฤษ และ อิตาลี

3. ชีวิตนอกสนาม

งานอดิเรกของ มิลอส เคอร์เคซ คือ การตกปลา และตั้งแคมป์ในป่า และหยุดการติดต่อผ่านโทรศัพท์มือถือทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า เพื่อสร้างแรงจูงใจและพลังงานใหม่ๆ สำหรับการลงสนามในฤดูกาลถัดไป

4. ความแข็งแกร่งอันน่าเหลือเชื่อ

แม้จะได้ชื่อว่าเป็น “แบ็กจอมดีเดือด” แต่รู้หรือไม่? ตลอดชีวิตการค้าแข้ง มิลอส เคอร์เคซ ยังไม่เคยบาดเจ็บรุนแรงแม้แต่เพียงครั้งเดียว!

นอกจากนี้ ฤดูกาลที่ผ่านมา (2024/25) เจ้าตัวลงเล่นในพรีเมียร์ลีก กับ บอร์นมัธ 38 นัด รวม 3,342 นาที หรือคิดเป็น 98% ในขณะที่การลงเล่นในเอเรดิวิซีลีก กับ อาแซด อัลค์มาร์ เมื่อฤดูกาล 2022/23 นั้น เจ้าตัวลงเล่นไปถึง 33 นัดจาก 34 นัด โดย 1 นัดที่พลาดการลงสนามนั้น เป็นเพราะ “ติดโทษแบน”

5. นักเตะหงส์แดงที่ชื่นชอบ

“จอห์น อาร์เน รีเซ” แบ็กซ้ายเท้าหนักชาวนอร์เวย์ คือ นักเตะลิเวอร์พูล ที่ “มิลอส เคอร์เคซ” ชื่นชอบ หลังได้ติดตามดูการเล่นของทีมเครื่องจักรสีแดง มาตั้งแต่อายุ 13 ปี

อ่านมาถึงบรรทัดนี้ จากบทความอันแสนยาวยืด “คุณ” มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง?

 

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :

ความทันสมัย ของ โคตะ ทาคาอิ กองหลังสัตว์ประหลาดแห่งเจลีก (ชมคลิป)

เบื้องหลังความสำเร็จซอน เฮือง มิน พ่อ และทุกอย่างที่เริ่มจาก Basic (ชมคลิป)

แชมป์แรกในชีวิต แฮร์รี เคน ที่มาจาก Hard Work & Self-Belief (ชมคลิป)

สปริตและพลังงาน วาตารุ เอ็นโดะ นักเตะรับจบที่นำลิเวอร์พูลสู่แชมป์ (ชมคลิป)

เพราะอะไรลิเวอร์พูลจึงยอมจ่ายแพง กับเบอร์10 ที่ชื่อ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ (ชมคลิป)


You might be intertested in this news.

Mostview

รีวิวหนัง ทรชน คนสองหน้า หนังสายลับ ดูง่าย มันส์สะใจ

ทรชน คนสองหน้า Yadang : The Snitch หนังเล่าเรื่องของความพยายามในการทลายแก๊งค้ายาในเกาหลีใต้ โดยเล่าผ่านมุมมองสายลับของอัยการที่มาแฝงตัวอยู่ในแก๊งเพื่อหาหลักฐานในการบุกจับ...

F1 หนังแข่งรถโชว์ของ ที่ต้องดูผ่าน Screen X หรือ Vision Pro

F1 เป็นผลงานของ Apple Original Films ที่จัดเต็มมุมกล้องแบบรอบด้าน สามารถดูได้แบบเหมือนอยู่ในรถแข่งได้จริง ๆ ทาง Apple อาจจะทำเผื่อไว้รับชมผ่าน Apple Vision Pro ไ

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (2ก.ค.68) เริ่มแกว่งออกข้าง

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (2ก.ค.68) เริ่มแกว่งออกข้าง

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (2ก.ค.2025)

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (2ก.ค.2025)

ความทันสมัย ของ โคตะ ทาคาอิ กองหลังสัตว์ประหลาดแห่งเจลีก (ชมคลิป)

ความทันสมัย ของ โคตะ ทาคาอิ กองหลังสัตว์ประหลาดแห่งเจลีก (ชมคลิป)

TrustNEws Line