วันจันทร์, กรกฎาคม 7, 2568

รำลึกถึงความมุ่งมั่น ดีโอโก้ โชต้า นายจะอยู่กับเดอะค็อปตลอดไป

by Trust News, 7 กรกฎาคม 2568

รำลึกถึงความมุ่งมั่น ดีโอโก้ โชต้า นายจะอยู่กับเดอะค็อปตลอดไป

Oh, he wears the number 20
(โอ… เขาสวมเสื้อหมายเลข 20)

He will take us to victory
(เขา จะพาเราไปสู่ชัยชนะ)

And when he's running down the left wing
(และเมื่อเขา วิ่งไปทางปีกซ้าย)

He'll cut inside and score for LFC
(เขาจะวิ่งตัดเข้าด้านใน และยิงประตูให้กับลิเวอร์พูล)

He's a lad from Portugal
(เขามาจากโปรตุเกส)

Better than Figo don't you know
(เก่งกว่า หลุยส์ ฟิโก้ เสียอีกรู้ไหม?)

Oh, his name is Diogo!
(โอ...เขาชื่อ ดีโอโก้!)

 

จากนี้ไป...เสียงตะโกนเชียร์อย่างสุดเสียง ซึ่งดัดแปลงมาจากเพลง Bad Moon Rising ของวง Creedence Clearwater Revival ซึ่งเคยส่งมอบให้กับ “ดีโอโก้ โชต้า” เด็กหนุ่มจากโปรตุเกส ในทุกๆครั้ง ที่ลงสนามหรือยิงประตูได้ จะยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของเหล่าเดอะค็อป ไปชั่วนิจนิรันดร์

หลังการสูญเสีย “หนึ่งในกองหน้า” ที่เหล่าเดอะค็อปยกย่องว่า เก่งฉกาจกว่า “หลุยส์ ฟิโก้” อดีตปีกระดับโลก ของทีมชาติโปรตุเกส

การจากลาระหว่าง “เดอะค็อป” และนักเตะที่พวกเขาหลงรักในฝีเท้า มีเรื่องราวอะไรที่สุดแสนน่าประทับและควรแค่แก่การย้อนระลึกถึง เพื่อเก็บมันเอาไว้ใน “ลิ้นชักความทรงจำ” บ้าง?

วันนี้ “เรา” จึงได้รวบรวมเรื่องราวเหล่านั้น มาให้ “คุณ” ได้ร่วมรำลึกถึงวันชื่นคืนสุขเหล่านั้นไปด้วยกัน…

แรงบันดาลใจที่ทำให้อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ :

“ดีโอโก้ โชเซ่ เตเซร่า ดา ซิลวา” (Diogo José Teixeira da Silva) หรือที่พวกเรารู้จักในชื่อ “ดีโอโก้ โชต้า” (Diogo Jota) ให้สัมภาษณ์กับเว็ปไซต์สโมสรลิเวอร์พูล เมื่อเดือนธันวาคมปี 2023 ถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพเอาไว้ว่า…

“ผมหลงรักฟุตบอลตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เพราะในเวลานั้น ประเทศโปรตุเกสทั้งประเทศกำลังถูกคลอบงำ ด้วยกระแสความคลั่งไคล้ การได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลยูโร 2004

ผมจำได้ดีเลยว่า ผมกับพ่อ นั่งดูการถ่ายทอดสดระหว่างทีมชาติโปรตุเกสและอังกฤษ ซึ่งในที่สุด ทีมของเราสามารถเอาชนะพวกเขา ได้ ในการดวลจุดโทษ และนั่นคือความทรงจำที่เก่าแก่ที่สุดของผม ที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอล  ซึ่งมันคือสิ่งที่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า ฟุตบอลมีความสำคัญกับผมมากแค่ไหน?”

และด้วยเพราะการติดตามศึกยูโร 2004 อย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่เด็กนี้เอง จึงทำให้นักฟุตบอลที่เขายึดเป็นแบบอย่างเสมอมา คือ “คริสเตียโน โรนัลโด” ที่ในเวลานั้น ยังเป็นนักเตะดาวรุ่งในทีมชาติโปรตุเกส

ก่อนที่ในเวลาต่อมา ทั้งคู่จะได้มีโอกาสร่วมเล่นทีมชาติด้วยกัน โดย ดีโอโก้ โชต้า ยอมรับว่า ครั้งแรกที่เขาพบกับ “โรนัลโด” ในห้องแต่งตัวทีมชาติโปรตุเกส นั้น เขาตื่นเต้นจนกระทั่งไม่กล้า แม้จะกล่าวทักทายกับฮีโรในดวงใจ แต่อย่างใด

 

ความคลั่งไคล้ที่มีต่อฟุตบอล :

“โจอาคิม ซิลวา” (Joaquim Silva) และ “อิซาเบล ซิลวา” (Isabel  Silva) พ่อและแม่ของ ดีโอโก้ โชต้า เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อประเทศโปรตุเกส ถึงความคลั่งไคล้ฟุตบอลในวัยเด็กของลูกชาย เมื่อปี 2020 เอาไว้ว่า…

“ในวัยเด็ก ดีโอโก้ เห็นแต่ลูกฟุตบอลที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น เวลาที่เล่นอยู่ในสนามหลังบ้านคุณย่า ที่มีขนาด 3 เมตร คูณ 15 เมตร เขาทำกระถางต้นไม้แตกไปหลายใบ

นอกจากนี้ ในตอนที่ ดีโอโก้ เริ่มเล่นฟุตบอล เขาเคยถูกบังคับให้เล่นในตำแหน่งปีกซ้ายก่อน เพราะโค้ชต้องการให้เขาพัฒนาการเล่นด้วยเท้าซ้าย ซึ่งแม้ว่า เขาจะไม่ชอบนัก เพราะไม่ถนัดเรื่อง การครอสบอลจากทางด้านข้าง แต่ในเวลาต่อมา มันกลับส่งผลดีในแง่ที่ทำให้เขา สามารถเล่นได้ดีทั้งสองเท้า”

ขณะเดียวกัน “ดีโอโก้ โชต้า” ได้เคยให้สัมภาษณ์กับ The Athletic เมื่อปี 2020 ถึง ความคลั่งไคล้ฟุตบอลในวัยเยาว์ เอาไว้ว่า…

“เมื่อตอนผมอายุ 6 ขวบ ผมเคยร้องไห้และอ้อนวอนให้พ่อ ช่วยยกเลิกคลาสสอนว่ายน้ำที่ผมลงทะเบียนไว้ เพราะมันดันไปชนกับตารางการฝึกซ้อมฟุตบอล”

 

เป็นนักฟุตบอลได้เพราะครอบครัว :

ครั้งหนึ่งในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Sky Sport “ดีโอโก้ โชต้า” ยอมรับว่า ทั้งเขาและน้องชาย “อันเดร ซิลวา” ติดหนี้บุญคุณของพ่อและแม่ จนยากที่จะทดแทนได้หมด

นั่นเป็นเพราะในประเทศโปรตุเกสนั้น แตกต่างจากประเทศอังกฤษ ตรงที่การจะลงเล่นให้กับสโมสรเล็กๆ เพื่อเปิดทางไปสู่การเป็นนักเตะอาชีพให้กับสโมสรยักษ์ใหญ่ นั้น นักเตะจะต้องจ่ายเงินรายเดือนให้กับสโมสร

ซึ่งในกรณีของเขา นั้น แม้ตอนที่อายุ 16 ปี ขณะลงเล่นให้กับสโมสรกอนโดมาร์ เอฟซี (Gondomar FC) ซึ่งเป็นทีมในลีกรองของโปรตุเกส ในละแวกบ้านเกิด ในเมืองปอร์โต้  

พ่อและแม่ของเขา ซึ่งเป็นคนงานในโรงงาน ก็ยังคงต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อหาเงินมาสานความฝัน สู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ให้กับลูกๆ ทั้งๆที่ฐานะทางบ้านไม่สู้ดีนักก็ตาม

โดย “โจอาคิม ซิลวา” ให้สัมภาษณ์กับสื่อโปรตุเกส ในปี 2020 โดยพูดถึงช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนั้นเอาไว้ว่า…

“ผมและภรรยา ทำงานเป็นคนงานในโรงงาน เราไม่ได้มีรายได้มากไปกว่าค่าแรงขั้นต่ำมากนัก และเราไม่เคยปกปิดข้อจำกัดนี้กับลูกๆของเรา

และแน่นอน มันย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่มีลูกชายถึงสองคนอยู่ในวงการฟุตบอล และต้องสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆให้กับพวกเขา หากแต่ ดีโอโก้ ไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเราเลย เขาไม่เคยเอ่ยปากสักครั้งว่า อยากได้รองเท้าสตั๊ดดีๆสักคู่

โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น ดิโอโก้ ไม่เคยออกไปทานอาหารค่ำๆ หรือ เที่ยวกลางคืน กับเพื่อนๆ เลย ไม่มีเลย เขาชอบอยู่บ้าน จนกระทั่งบางครั้ง ผมต้องบอกให้เขาออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆบ้าง

และสิ่งที่ ดิโอโก้ ต้องการ มีเพียงฟุตบอลและเพลย์สเตชัน ที่เราสองคนอดออม เพื่อซื้อให้เขา โดยที่เขาไม่ได้เอ่ยปากขอเท่านั้น ทำให้ในทุกๆวัน ดิโอโก้ จะออกไปเตะฟุตบอลในช่วงบ่าย และกลับมาเล่นเพลย์สเตชันที่บ้าน ในตอนเย็นเท่านั้น”

 

การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ที่ไม่ใช่เรื่องง่าย :

ความท้าทายในชีวิตการค้าแข้งของ “ดีโอโก้ โชต้า” เริ่มต้นขึ้นในปี 2013 เมื่อสโมสรเล็กๆที่มีชื่อ “ปาซอส เด แฟร์เรยร่า” (Pacos de Ferreira) ซึ่งเป็นทีมระดับดิวิชั่น 2 ของโปรตุเกส ได้ให้ความสนใจ ดึงตัวเขา ไปร่วมทีม ทำให้ “ดีโอโก้ โชต้า” ที่ในเวลานั้น อายุเพียง 16 ปี ต้องไกลจากครอบครัว เป็นครั้งแรกในชีวิต

โดย นักเตะหมายเลข 20 ของลิเวอร์พูล กล่าวถึงช่วงเวลาสำคัญนั้น กับ เว็ปไซต์สโมสรลิเวอร์พูล เมื่อปี 2023 เอาไว้ว่า...

“นี่คือช่วงเวลาแห่งความท้าทายในชีวิตของผมอย่างแท้จริง เพราะการต้องอยู่ไกลบ้านเพียงลำพัง ภายใต้สภาพแวดล้อมที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ทำให้ผมใช้เวลาครุ่นคิดกับตัวเองอยู่เสมอๆว่า ถ้าคิดว่าตัวเองกำลังในสิ่งที่ถูกต้อง ก็ควรจะต้องทำมันให้ดี และผมจะไม่ยอมให้ตัวเอง ไปอยู่ในจุดที่กำลังจะพ่ายแพ้อย่างเด็ดขาด”

ด้วยเหตุนี้ ในเดือนธันวาคมปี 2023 สิ่งที่เขาอดทนรอมาทั้งชีวิต ก็เริ่มต้นนับหนึ่ง เมื่อได้ลงสนาม ในฐานะนักเตะอาชีพครั้งแรก ในเดือนตุลาคม ปี 2014

จนกระทั่งฝีเท้าไปเตะตา ทีมยักษ์ใหญ่ของสเปนอย่างแอตเลติโก มาดริด จนกระทั่งถูกซื้อตัวไปร่วมทีมในปี 2016 ด้วยวัยเพียง 19 ปี

อย่างไรก็ดี การไปเล่นในทีมที่กำลังอยู่ในยุคทอง ภายใต้การคุมทีมของ ดิเอโก ซิเมโอเน ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย และจากการที่เขาไม่เคยได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงแม้แต่นัดเดียว จึงทำให้ เขาตัดสินใจกลับโปรตุเกส ด้วยการกลับไป ลงเล่นให้กับ สโมสรปอร์โต้ ด้วยสัญญายืมตัว ในฤดูกาล 2016/2017

ก่อนจะเริ่มต้นการผจญภัยในต่างแดนอีกครั้ง เมื่อถูกวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส จากเกาะอังกฤษ ที่ในเวลานั้น คราคร่ำไปด้วยนักเตะโปรตุเกส ซื้อตัวไปร่วมทีม ในฤดูกาล 2017/2018

 

ความท้าทายที่แอนฟิลด์ :

หลังถูกสโมสรหงส์แดง ทุ่มเงินถึง 45 ล้านปอนด์ (1,900ล้านบาท) ซื้อตัวจาก สโมสรวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ไปร่วมทีม ในปี 2020

สิ่งแรกที่ “ดีโอโก้ โชต้า” ถูกท้าทายทันที ที่เดินเข้าถิ่นแอนฟิลด์เลย ก็ คือ คำพูดของกุนซืออย่าง “เจอร์เก้น คล็อปป์” ที่ว่า…. นาย คือ กองหน้าสำรอง ของ โมอาเหม็ด ซาลาห์ , โรแบร์โต ฟีร์มิโน และ ซาดิโอ มาเน สามแนวรุกหลักของทีมในเวลานั้น

“เจอร์เก้น คล็อปป์ ชัดเจนกับผมทันที ด้วยการพูดกับผมว่า ผมต้องการคุณที่นี่ แต่ผมต้องการให้คุณต่อสู้เพื่อตำแหน่ง 11 ตัวจริง ดังนั้น ผมจึงมีความสุขกับการได้ลงเล่นเพื่อทีม เพราะการได้ลงเล่นกับคนเก่งๆ จะทำให้คุณพัฒนาขึ้น ขณะเดียวกัน ผมรู้แค่ว่า ผมจะต้องยกระดับการเล่นของตัวเองให้ได้ เพื่อหาโอกาสสำหรับการลงเล่นให้มากขึ้น”

นอกจากนี้ “ดีโอโก้ โชต้า” ยังเคยให้สัมภาษณ์ถึงการวางเป้าหมายในถิ่นแอนฟิลด์ ของตัวเอง เอาไว้อย่างน่าสนใจด้วยว่า…

“เป้าหมายของผม คือ การต่อสู้เพื่อคว้าทุกแชมป์ โดยที่ผมจะต้องพยายามยิงประตูให้ได้มากกว่าฤดูกาลที่ผ่านมาให้ได้ เพื่อพัฒนาตัวเองไปสู่การพิชิตความสำเร็จ ที่ผมยังไม่เคยได้มาก่อน และพาตัวเองไปสู่จุดสูงสุดให้ได้

สุภาษิตที่ว่า สิ่งที่ยากที่สุด ไม่ใช่การพิชิตยอดเขา แต่มันคือการอยู่ที่นั่นให้นานที่สุด มีความหมาย สำหรับผมมากๆ เพราะมีผู้คนมากมายที่ต้องการไปให้ถึงยอดเขาให้ได้เป็นครั้งแรกเสมอ ดังนั้น คุณจึงไม่สามารถปล่อยให้คนเหล่านั้น มีความมุ่งมั่นมากไปกว่าคุณได้เลย”

และด้วยทัศนคติที่มุ่งมั่นเช่นนี้เอง จึงทำให้ตลอด 5 ฤดูกาลกับลิเวอร์พูล “ดีโอโก้ โชต้า” จึงยิงได้ถึง 65 ประตูจากการลงเล่นรวม 182 นัด และมีส่วนสำคัญในการพาทีมกวาดทุกแชมป์บนเกาะอังกฤษ ทั้งๆที่ ถูกอาการบาดเจ็บรบกวนเป็นพักๆก็ตาม  

 

น้องชายชื่อ อันเดร ซิลวา :

“ดีโอโก้ โชต้า” ให้สัมภาษณ์กับ ESPN เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า “นักฟุตบอลที่ผมชอบดูมากที่สุด ก็คือน้องของผมเอง เขามีชื่อเต็มว่า “อังเดร ฟิลิเป้ เตเซรา ดา ซิลวา” (Andre Filipe Teixeira da Silva)”

โดยน้องชายที่อายุน้อยกว่า 3 ปี และเสียชีวิตพร้อมกับกองหน้าลิเวอร์พูลในอุบัติเหตุอันน่าเศร้าสลด เมื่อวันที่ 3ก.ค.25 นั้น ปัจจุบันลงเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีเอล (Panafiel) ซึ่งเป็นทีมในลีกรองของประเทศโปรตุเกส

ทั้งนี้ เพื่อนบ้านในละแวกบ้านเกิด ของสองพี่น้องให้สัมภาษณ์กับ The Athletic ว่า ในตอนที่ทั้งคู่ยังเป็นเด็กนั้น ทั้งสองคน มักจะออกมาเล่นฟุตบอลด้วยกัน โดยผลัดกันทำหน้าที่เป็นผู้รักษาประตู ส่วนอีกคนเป็นคนยิงประตูเสมอ

สำหรับชีวิตการค้าแข้งของ อันเดร ซิลวา นั้น เริ่มต้นเล่นฟุตบอล กับ สโมสรกอนโดมาร์ เอฟซี เช่นเดียวกับพี่ชาย จนกระทั่งอายุ 11 ปี จึงได้เข้าร่วมอเคเดมีของสโมสรปอร์โต้ โดยสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก

หลังจากนั้น อันเดร ซิลวา ก็ย้ายไปสังกัดกับอีกหลายสโมสรในลีกรองของโปรตุเกส จนกระทั่ง ในเดือนกรกฎาคม ปี 2023 จึงได้ถูก สโมสรเปนาฟีเอล ดึงตัวไปร่วมทีมในที่สุด

และแม้จะได้ชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่ อันเดร ซิลวา ยังคงศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี และเพิ่งเรียนจบหลักสูตรด้านการบริหารจัดการองค์กร เพื่อเตรียมไว้สำหรับการทำธุรกิจกับพี่ชายในอนาคตด้วย

หากแต่ทุกอย่าง...ก็ถูกพรากไปจากอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด

 

ความรักของ ดีโอโก้ โชต้า :

“ดีโอโก้ โชต้า” คบหากับ “รูเต การ์โดโซ” (Rute Cardoso) แฟนสาวเพื่อนร่วมชั้นโรงเรียนมัธยมปลาย มาตั้งแต่ปี 2012 โดยทั้งคู่มีลูกด้วยกันแล้ว 3 คน ก่อนที่จะเข้าประตูวิวาห์ ที่เมืองปอร์โต้ ไปเมื่อวันที่ 22มิถุนายนที่ผ่านมา หลังฝ่ายเจ้าบ่าวคุกเข่าขอแต่งงานไปตั้งแต่เดือนกรกฏาคมปี 2022

โดยโพสต์บนไอจี ของ ทั้งคู่ในวันวิวาห์ นั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความหมาย หลังฝ่ายหญิงได้โพสต์ว่า “ความฝันของฉันเป็นจริงแล้ว” ในขณะที่ฝ่ายชายเข้ามาตอบกลับอย่างสุดซึ้งว่า “แต่ผมต่างหากที่เป็นคนโชคดี”

อ่านมาถึงบรรทัดนี้ จากบทความอันแสนยาวยืด “คุณ” มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง?

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :

มิลอส เคอร์เคซ กับ ลิเวอร์พูล ตัวสำรอง หรือ แทนที่ ร็อบโบ้ (ชมคลิป)

ความทันสมัย ของ โคตะ ทาคาอิ กองหลังสัตว์ประหลาดแห่งเจลีก (ชมคลิป)

เบื้องหลังความสำเร็จซอน เฮือง มิน พ่อ และทุกอย่างที่เริ่มจาก Basic (ชมคลิป)

แชมป์แรกในชีวิต แฮร์รี เคน ที่มาจาก Hard Work & Self-Belief (ชมคลิป)

สปริตและพลังงาน วาตารุ เอ็นโดะ นักเตะรับจบที่นำลิเวอร์พูลสู่แชมป์ (ชมคลิป)

 

 


You might be intertested in this news.

Mostview

5 ก.ค.2025 ผวาแผ่นดินไหว สึนามิ ต้นตอการ์ตูนมังงะ ที่ไม่มีมูลทางวิทยาศาสตร์

เมื่อมังงะญี่ปุ่น ปลุกความตื่นกลัว “แผ่นดินไหว” 5 กรกฎาคม 2025 จะเกิดสึนามิใหญ่กว่า ปี 2011 กว่า 3เท่า ขณะที่ รัฐบาลญี่ปุ่นยัน ไม่มีมูลความจริงทางวิทยาศาสตร์ แผ่นดินไหว ถี่ ช่วงที่ผ่านมา คือ เรื่องดี คือ การปลดปล่อยพลังงานสะสม…

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (2ก.ค.68) เริ่มแกว่งออกข้าง

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (2ก.ค.68) เริ่มแกว่งออกข้าง

ความทันสมัย ของ โคตะ ทาคาอิ กองหลังสัตว์ประหลาดแห่งเจลีก (ชมคลิป)

ความทันสมัย ของ โคตะ ทาคาอิ กองหลังสัตว์ประหลาดแห่งเจลีก (ชมคลิป)

สิตา CGM48 เปิดใจหลังประกาศแกรดฯ ต้องก้าวต่อไปยังสักที่บนโลกที่รักเรา

สิตา สมาชิกวง CGM48 รุ่น 1 เปิดใจในแอป iAM Application หลังประกาศจบการศึกษา เผยชีวิตไอดอลมันยากจัง อยากเต้นแสดงให้ทุกคนดูทุกเพลงแต่ก็ทำไม่ได้ ชีวิตถึงเวลาต้องก้าวต่อ จากนี้ไม่ต้องเจ็บปวดทนรอเป็นปีอีก แม้จะยังมีฝันอีกมากมายแต่ขอทิ้งไว้ ขอบคุณที่ชอบสิตานะคะ

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ก.ค.2025)

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ก.ค.2025)

TrustNEws Line