สำรวจวีรเวร ที่ไม่ ใช่วีรกรรม BHQ องค์รักษ์ประจำตัว ฮุนเซน
by Trust News, 6 สิงหาคม 2568
สำรวจวีรเวร ที่ไม่ ใช่วีรกรรม BHQ องค์รักษ์ประจำตัว ฮุนเซน
เหตุใด Bodyguard Head Quarters หรือ BHQ ของกองทัพกัมพูชา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น กองกำลังที่อยู่ในฐานะ “องค์รักษ์ประจำตัวของ “ตระกูลฮุน” จึงมีความแตกต่าง หรือ “พิเศษ” มากกว่ากองทหารโดยทั่วไป จนกระทั่ง ได้รับการขนานนามว่าเป็น “กองทหารระดับอีลิท” ของประเทศกัมพูชา เพราะอะไร?
และที่ผ่านมา BHQ มี “ต้นกำเนิด” “พัฒนาการ” และ “เกียรติประวัติในการทำสงคราม” จนเป็นที่น่า “ครั่นคร้าม” สำหรับ “กองทัพไทย” ที่กำลังทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยชาติ จากผู้รุกราน มากน้อยแค่ไหน?
วันนี้ “เรา” ลองไปร่วมสำรวจข้อมูลต่างๆ ที่อาจนำไปการสู่การแสวงหา “คำตอบ” อันน่าสนใจนี้ ด้วยกัน

กำเนิด BHQ :
อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ ของ ดร.คาร์ไลล์ อลัน เทเยอร์ (Carlyle Alan Thayer) ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเคยเดินทางมาศึกษาในประเทศไทย เวียดนาม และ ลาว ในปี 2010 ระบุว่า “ฮุนเซน” ซึ่งอยู่ในฐานะนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ณ เวลานั้น ได้ออกพระราชกฤษฎีกา ก่อตั้ง “กองกำลัง Bodyguard Head Quarters” หรือ BHQ ในปี 2009
โดยพระราชกฤษฎีกา ดังกล่าว ระบุว่า BHQ เป็นหน่วยที่ขึ้นตรง ต่อ “นายกรัฐมนตรี” และไม่ได้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ กองทัพแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา (The Royal Cambodian Armed Forces) หรือ RCAF แต่อย่างใด
สำหรับภารกิจ ของ BHQ ซึ่งแยกตัวออกมาจาก กองพลน้อยที่ 70 (The Brigade 70) ซึ่งระบุไว้ในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว คือ “เป็นหน่วยองครักษ์ที่ได้รับมอบหมาย “ภารกิจคุ้มกัน” นายกรัฐมนตรีและครอบครัว บุคคลระดับสูงในรัฐบาลกัมพูชา และ คณะผู้แทนจากต่างประเทศที่เดินทางมาเยือนกัมพูชา “ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย”
โดยมี กระทรวงกลาโหม และ RCAF คอยให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ การฝึกกำลังพล รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

ขนาดกำลังพล BHQ :
อ้างอิงจาก The Military Balance ซึ่งจัดทำโดย สถาบันยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ (International Institute of Strategic Studies) หรือ IISS ในปี 2009 คาดการณ์ว่า BHQ น่าจะมีขนาดกำลังพล ประมาณ “4 กองพัน”
อย่างไรก็ดี การที่กองทัพแต่ละประเทศ มีการกำหนดขนาดกำลังพลต่อกองพัน “ไม่เท่ากัน” รวมถึง แบบสอบถามเรื่องขนาดกำลังพลต่อกองพัน ของ IISS ถูก “ปฏิเสธที่จะให้คำตอบ” จากกระทรวงกลาโหมกัมพูชา
ทาง IISS จึงได้ คาดการณ์ตัวเลขของกำลังพล BHQ จากการที่กองทัพในประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่ มักมีการจัดขนาดกำลังพล ต่อ “กองพัน” อยู่ที่ประมาณ 600 - 1500 นาย จึงทำให้คาดการณ์ได้ว่า BHQ หรือในชื่อเดิมคือ “กองพลน้อยที่ 70” นั้น น่าจะมีกำลังพลในสังกัด ตั้งแต่ 2,400 - 6,000 นาย
ทั้งนี้ ในกรณีที่ BHQ มีขนาดกำลังพลในสังกัดมากถึง 6,000 นาย “จริง” นั่นจะเท่ากับว่า BHQ มีขนาดกำลังพล “ใกล้เคียง” กับ หน่วย U.S. Secret Service ที่มีขนาดกำลังพลประมาณ 6,500 นาย ซึ่งแยกเป็น “Special Agents” ประมาณ 3,200 นาย , เจ้าหน้าที่คุ้มกันในเครื่องแบบ 1,300 นาย และเจ้าหน้าที่สนับสนุนด้านเทคนิคและธุรการอีก 2,000 นาย
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ “แตกต่าง” ไปจาก หน่วยคุ้มกันผู้นำประเทศอื่นๆ ก็คือ… BHQ มีอาวุธสงครามอันน่าเกรงขามอย่าง รถถัง , เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง หรือ MLRS รวมถึง อาวุธสงครามไฮเทคต่างๆ ซึ่งน่าจะเกินไปกว่า “ความจำเป็นปกติ” ที่หน่วยอารักขาผู้นำประเทศ หรือ หน่วยต่อต้านการก่อการร้าย ทั่วๆไป “ควรมี”

BHQ กองทหารอีลิท :
อ้างอิงจากรายงานของ BBC เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าวที่ไม่เปิดระบุว่ากองกำลัง BHQ แตกต่างจากกองทัพกัมพูชาทั่วไป เนื่องจากมีอาวุธที่ทันสมัยและได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
และเมื่อใดก็ตาม ที่รัฐบาลกัมพูชา มีการจัดซื้ออาวุธหรือเทคโนโลยีสมัยใหม่ BHQ จะได้รับการพิจารณาให้ได้รับอาวุธและเทคโนโลยีเหล่านั้นเป็นลำดับแรกทันที ในขณะที่ กองทัพแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา (The Royal Cambodian Armed Forces) หรือ RCAF นั้น ปัจจุบันยังคงใช้อาวุธที่ล้าสมัย เว้นเสียแต่ในกรณีที่ได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธจากรัฐบาลจีน
อย่างๆไรก็ดี แหล่งข่าวคนดังกล่าวของ BBC ไม่สามารถระบุได้ว่า ปัจจุบัน กองทหารระดับอีลิทนี้ มีขนาดกำลังพลมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากไม่เคยการเปิดเผยข้อมูล ออกมาอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า “BHQ มีการเปิดรับสมัครคนจำนวนมาก เข้าหน่วยทุกปี”
ปัจจุบันมีรายงานว่า ที่ตั้งของกองบัญชาการ BHQ อยู่ที่เมืองตาเขมา จังหวัดกันดาล ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงพนมเปญไปทางใต้เพียงประมาณ 10 กิโลเมตร
ทั้งนี้ หากอ้างอิงจาก บันทึกของสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศเวียดนาม โดยอดีตเอกอัครราชทูต ชาร์ลส์ ทไวนิง (Charles Twining) เมื่อปี 1995 ระบุว่า...
ฮุนเซน มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตัวเอง ด้วยเหตุนี้ จึงมักเลือกเดินทางไปพร้อมกับ กองกำลังองครักษ์ส่วนตัวอย่างน้อย 60 คน ซึ่งมากกว่าผู้นำทางการเมืองของกัมพูชาคนอื่นๆ ในเวลานั้น
ด้าน “เซบาสเตียน สเตนจิโอ” (Sebastian Strangio) สื่อมวลชนผู้คร่ำหวอดการรายงานข่าวในภูมิภาคอาเซียนมายาวนาน รวมถึงเขียนหนังสือที่มีชื่อว่า “Hun Sen’s Cambodia” ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 1996 ซึ่งเป็นช่วงที่ฮุนเซน กรุยทางสู่อำนาจ เป็นต้นมา กองกำลังที่ทำหน้าที่อารักขาฮุนเซน ค่อยๆเพิ่มกำลังพลมากขึ้นเรื่อยๆ โดยกองกำลังนี้ น่าจะมีกำลังมากกว่า 1,000 นาย อีกทั้งยังมีอาวุธยุทโธปกรณ์ อย่าง รถถัง รถหุ้มเกราะ และเฮลิคอปเตอร์ ไว้ใช้งานด้วย
ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนรายนี้ ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า บรรดากองกำลังที่ทำหน้าที่อารักขาฮุนเซน นั้น จะได้รับค่าตอบแทน 300 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (9,721บาท) ในขณะที่ทหารกัมพูชาทั่วไป จะได้รับเงินเดือนเพียง 13 ดอลลาร์สหรัฐ (421บาท) เท่านั้น

วีรกรรมการรบ BHQ :
ในปี 2014 “ฟีล โรเบิร์ตสัน” (Phil Robertson) รองผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำเอเชีย เคยให้สัมภาษณ์ถึง “วีรกรรม” ของ กองพลน้อยที่ 70 (The Brigade 70) หรือในชื่อปัจจุบัน คือ BHQ เอาไว้ว่า…
ในช่วงยุค 80 หลังสิ้นสุดอำนาจของฝ่ายเขมรแดง กองพลน้อยที่ 70 ได้รับคำสั่งให้จับกุมฝ่ายตรงกันข้ามทางการเมืองของรัฐบาลกัมพูชา ในกรุงพนมเปญ หลายต่อหลายคน และในจำนวนนี้ส่วนมาก มักถูกจับซ้อมทรมานเพื่อให้รับสารภาพว่า เป็น “เขมรแดง”
ขณะที่ในช่วงปี 1991 หลังมีการทำข้อตกลงสันติภาพปารีสในปี 1991กองพลน้อยที่ 70 ยังได้รับคำสั่งให้ทำหน้าที่ปราบปรามการชุมนุมประท้วงขบวนการนักศึกษา ที่ต่อต้านการทุจริตของรัฐบาลกัมพูชาอย่างรุนแรง

รวมถึง ในช่วงหลังการเลือกตั้ง ภายใต้การดูแลขององค์การสหประชาชาติ เมื่อปี 1993 ที่นำไปสู่ “การใช้กำลังเข้าชิงอำนาจ” ของ ฮุนเซน ต่อ “เจ้านโรดม รณฤทธิ์” ซึ่งเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง ในบั้นปลาย นั้น กองพลน้อยที่ 70 ยังถูกใช้เป็น “หัวหอกหลัก” ในการกัดกร่อนอำนาจฝ่ายตรงข้าม หรือแม้กระทั่ง เข้าปลดอาวุธหน่วยองค์รักษ์ที่สนับสนุน “เจ้านโรดม รณฤทธิ์” จนเป็นเหตุให้พระองค์ จำเป็นต้องเสด็จออกนอกประเทศ เพื่อความปลอดภัยในที่สุดด้วย
ขณะเดียวกัน ในปี 2007 องค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมที่เคยทำงานร่วมกับรัฐบาลกัมพูชา อย่าง “Globle Witness” ยังเคยเขียนรายงาน กล่าวหาว่า “กองพลน้อยที่ 70” ซึ่งมีความภักดีต่อ ฮุนเซน เป็นอย่างยิ่ง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการส่งออกไม้อย่างผิดกฎหมาย ไปให้กับ นายทุนรายใหญ่ทั้งในและนอกประเทศ ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับ “ผู้นำตลอดกาลของชาวเขมร” รวมถึงยังลักลอบนำเข้าสินค้าอย่างผิดกฎหมาย เพื่อหาเงินทุนมาหล่อเลี้ยงกองกำลังของตัวเองอีกด้วย

เกียรติประวัติผู้นำ BHQ :
ผู้บังคับบัญชาของ BHQ ในปัจจุบัน คือ “พลเอก ฮิง บุนเฮียง” (Hing Bun Hieng) ซึ่งได้ชื่อว่า “ภักดีต่อตระกูลฮุน 100%” จากการที่มักกล่าวต่อสาธารณชน อย่างเปิดเผย อยู่เสมอๆ ว่า “จะขอรับคำสั่งจากฮุนเซนเท่านั้น”
นอกจากจะถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การกวาดล้างซ้อมทรมานกับฝ่ายต่อต้านฮุนเซน อีกหลายต่อหลายคนแล้ว ยังถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่คนร้ายปาระเบิดมือ เข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านฮุนเซน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 16 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีกถึง 150 คน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นเป็นชาวอเมริกัน ในเดือนมีนาคม ปี 1997 ด้วย
จนกระทั่ง ถูกรัฐบาลสหรัฐประกาศคว่ำบาตร ด้วยการใช้พระราชบัญญัติความรับผิดชอบต่อสิทธิมนุษยชนสากล (Magnitsky Human Rights Accountability Act) ซึ่งมีบทลงโทษ ทั้งอายัดทรัพย์สินและห้ามเดินทางเข้าสหรัฐ ในเดือนมิถุนายน ปี 2018 ด้วย
อย่างไรก็ดี นอกจาก “พลเอก ฮิง บุนเฮียง” จะไม่เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาใดๆในกัมพูชา มาจนถึงปัจจุบันแล้ว ในทางตรงกันข้าม “ฮุนเซน” ยังได้ ปูนบำเหน็จให้ “พลเอก ฮิง บุนเฮียง” ดำรงตำแหน่งระดับสูงในกองทัพ รวมถึงพยายามลบล้างมลทินลูกน้องคนสำคัญเรื่อยมา ด้วยการแต่งตั้งให้เป็น ที่ปรึกษาสูงสุดของพระสงฆ์ระดับสูงในประเทศกัมพูชาถึง 4 รูป ในปี 2020 ทั้งๆที่ “เจ้าตัวไม่เคยผ่านการบวชเรียนมาก่อนแต่อย่างใด”

ยิ่งไปกว่านั้น ฮุนเซน ยังออกตัวแรงแทนลูกน้องคนสนิท ด้วยกว่า “การที่สหรัฐฯทิ้งระเบิด สังหารชาวกัมพูชาหลายล้านคนในยุค 70 นั้น ไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรืออย่างไร?”
อ่านมาถึงบรรทัดนี้ จากบทความอันแสนยาวยืด “คุณ” มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง?

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :
เรียนรู้ถึงตัวตนของฮุนเซน ผ่านการดิ้นรนเพื่อไปสู่อำนาจ (ชมคลิป)
จับ กริพเพน เทียบ F-35 และแนวคิดพึ่งตัวเองของสวีเดน (ชมคลิป)
อาวุธข่มขวัญทางยุทธศาสตร์ เครื่องบินล่องหน B-2 Spirit (ชมคลิป)
ย้อนรอย จลาจลเผาสถานทูตไทย บทเรียนข่าวเท็จ กัมพูชา ปี2546 (ชมคลิป)
ย้อนสงครามไทย-กัมพูชา 2554 BM 21 VS ปืนใหญ่ “บิ๊กตู่” ลั่น อยากรบก็รบ! (ชมคลิป)
You might be intertested in this news.
Mostview
จับ กริพเพน เทียบ F-35 และแนวคิดพึ่งตัวเองของสวีเดน (ชมคลิป)
จับ กริพเพน เทียบ F-35 และแนวคิดพึ่งตัวเองของสวีเดน (ชมคลิป)
รีวิวหนัง “อ่านชะตาวันสิ้นโลก” CG อลังก์ หนังมันส์แบบ nonstop
ดูมาแล้ว สำหรับ หนังฟอร์มยักของเกาหลี “อ่านชะตาวันสิ้นโลก” หรือ Omniscient Reader: The Prophecy หนังที่ใช้ทุนสร้างมหาศาล โดยดัดแปลงเนื้อหามาจาก “มังฮวา” ชื่อดัง ที่มีการเขียนลงในเว็บโนเวล
กองทัพอากาศ แจงข่าวสวีเดนปฏิเสธขาย Gripen ให้ไทย เป็นเฟคนิวส์ฝั่งกัมพูชา
กองทัพอากาศ ยืนยัน ข่าวกรณี สื่อของกัมพูชารายงานอ้างว่า สวีเดนระงับการขายเครื่องบินขับไล่ Gripen เพิ่มเติม ให้กับไทยทั้งหมด “ข่าวบิดเบือนความจริง” โครงการดังกล่าว ยังคงอยู่ในระหว่างกระบวนการจัดซื้อ
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ส.ค.2025)
8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (1ส.ค.2025)
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (4ส.ค.68) มีโอกาสดีดตัวระยะสั้น
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (4ส.ค.68) มีโอกาสดีดตัวระยะสั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
