วันอังคาร, กันยายน 30, 2568

ลงมือทำย่อมดีกว่าเอาแต่พูด! จุดกำเนิดความสำเร็จ Walkman (ชมคลิป)

by Trust News, 29 กันยายน 2568

ลงมือทำย่อมดีกว่าเอาแต่พูด! จุดกำเนิดความสำเร็จ Walkman (ชมคลิป) 

คุณเชื่อหรือไม่?

ผลิตภัณฑ์ที่ขายดิบขายดี สร้างยอดขายสะสมได้มากกว่า 400 ล้านเครื่อง จนกระทั่งกลาย “สัญลักษณ์อันล้ำค่าทางการตลาด” ให้กับ บริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่น ติดต่อกันมาหลายทศวรรษ นั้น.. ในจุดที่เริ่มต้น “นับหนึ่ง” มันถูกมอง จากแม้กระทั่ง “พนักงานภายในบริษัท” ด้วยกันเองว่า “มันน่าจะกลายผลิตภัณฑ์ที่สุดล้มเหลวของบริษัท”

 

หรือ แม้กระทั่ง “ชื่อของมันเอง” ก็ยังถูกต่อต้านในแง่ที่ว่า มันเป็นชื่อที่ “ผิดหลักไวยากรณ์” และ “ไม่มีความหมายในภาษาอังกฤษ”

และไม่เพียงเท่านั้น... แม้แต่ในช่วงแรกของการวางจำหน่าย สื่อมวลชนที่ถูกเชิญมาทำข่าวการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ก็ยัง “ช่วยลงข่าวแบบเสียมิได้” จนเป็นผลให้ “ยอดขายต่ำกว่าที่คาดการณ์” จนกระทั่ง “เสี่ยงที่จะล้มเหลว” เหมือนเช่นใครๆคาดหมายไว้

จนเดือดร้อน “ฝ่ายขาย” ต้องวิ่งวุ่นไป “ขายตรง” ด้วยการสาธิตการใช้เจ้าผลิตภัณฑ์ที่ว่านี้  ไปโชว์ตามสถานที่สาธารณะที่มีคนพลุกพล่าน , รถไฟใต้ดิน หรือ แม้กระทั่งตามโรงเรียนมัธยมต่างๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจ พร้อมกับเชิญชวนให้ชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะวัยรุ่น มาร่วมทดสอบศักยภาพที่ไม่มีใครคาดคิดได้ถึง ของ ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ว่านี้!

ซึ่งทั้งหมดที่ว่าไปนี้ มันก็คือ จุดกำเนิดอันน่าสนใจ ของ หนึ่งในไอคอนอันแข็งแกร่งแห่งยุค 80-90 ที่มีชื่อว่า Sony Walkman หนึ่งใน Gadget ที่ทุกคนบนโลกนี้ ล้วนแล้วแต่ “ต้องเคยมีติดกระเป๋า”

วันนี้ “เรา” ลองไปทบทวน “จุดกำเนิดและแนวคิด” ที่นำไปสู่ “ผลิตภัณฑ์ที่ครั้งหนึ่งคุณเคยหลงรัก” กับ “I Think” ใน “ตอนแรก” นี้ จากสำนักข่าว Trustnews ไปด้วยกัน

 

Just Try It :

จุดเริ่มต้นของ GedGet ที่สร้างยอดขายมากกว่า 400 ล้านเครื่อง มันเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ เพียงแค่ว่า “มาซารุ อิบุกะ” (Masaru Ibuka) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท SONY ซึ่งเป็นผู้หลงไหลการฟังเพลง ได้ร้องขอให้ “โคโซ  โอโซเนะ” (Kozo Ozone) หัวหน้าแผนกเครื่องเสียงในขณะนั้น ช่วยทำให้ “เครื่องบันทึกเทปคาสเสตต์” ของบริษัทที่มีชื่อว่า “Pressman” ให้มีขนาดเล็กลง และสามารถเล่นเทปคาสเสตต์ในระบบสเตอริโอได้ด้วย” เพื่อให้ “เขา” สามารถรับฟังเพลง ที่มีคุณภาพเสียงชั้นยอดบนเครื่องบินส่วน รวมถึง อาจนำไปสู่การสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับบริษัท

ซึ่งคำร้องขอนี้ ถือเป็นการโยน “โจทย์มหาหิน” ให้กับ “แผนกเครื่องเสียง” เป็นอย่างยิ่ง จนถึงขั้นที่ “โคโซ  โอโซเนะ” ต้องปลุกปลอบใจ “ทีมงาน” ด้วยคำพูดที่ว่า…

“พวกเราควรทดลองพยายามทำตามไอเดียนี้ ก่อนที่จะไปมัวเสียเวลากับปัญหาที่ยังไม่เกิดขึ้นดีกว่า”

นั่นเป็นเพราะ... “หัวหน้าแผนกเครื่องเสียงของ Sony” ในเวลานั้น เชื่อว่า…

“หากมัวแต่คิดถึงแต่ปัญหาต่างๆ ก่อนจะลงมือทำ มักนำไปสู่การประชุมหารือที่มากเกินไป จนเป็นผลให้โครงการเกิดความล่าช้า หากแต่การลงมือทำทันทีนั้น มักจะนำไปสู่การหาข้อบกพร่องที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อยู่เสมอๆ

และ “ด้วยความมุ่งมั่นแบบลงมือทำทันที” นี้เอง ทำให้ ทีมงานแผนกเครื่องเสียง พร้อมใจกันทำงานโต้รุ่งสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อหาทาง “แก้โจทย์มหาหิน” นี้ พร้อมกับรับปาก “ท่านผู้ร่วมก่อตั้ง” ว่า จะสร้าง “เครื่องต้นแบบ” ตามแนวคิดนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุดด้วย

 

น่าเชื่อถือและไม่พังง่ายๆ :

เนื่องจากมันจะเป็นกลายเป็น “ผลิตภัณฑ์ปฏิวัติวงการ” “โคโซ  โอโซเนะ” (Kozo Ozone) หัวหน้าแผนกเครื่องเสียง Sony ในเวลานั้น จึงมีแนวคิดหลักในการออกแบบที่ว่า…

สำหรับรุ่นแรกที่นำออกวางจำหน่าย มันจะต้องเป็น “ผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือและต้องไม่พังง่ายๆ” เพราะถ้าหาก ผลิตภัณฑ์รุ่นแรกนี้ ทำให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การใช้ที่ “ไม่ดี” โครงการสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะตามหลังมาทั้งหมดจะต้อง “พังลงอย่างไม่เป็นท่าแน่นอน”

ดังนั้น “โคโซ  โอโซเนะ” จึงบอกกับบรรดาลูกทีมว่า “ไม่ต้องกังวลกับการดีไซน์เครื่องให้สวยงามมากนัก” แต่ให้เน้นไปที่ “คุณภาพ” ของ ผลิตภัณฑ์ รวมถึง ส่งเสริมคอนเซ็ปต์ “Music on the Move” ให้มีความ “แข็งแรง” ให้ได้มากที่สุด  

อย่างไรก็ดี เมื่อ เครื่องต้นแบบถูกผลิตขึ้นมาได้สำเร็จ “อาคิโอะ โมริตะ” (Akio Morita) ซึ่งเป็นคู่หูผู้ร่วมก่อตั้ง Sony ของ “มาซารุ อิบุกะ” (Masaru Ibuka) ได้นำ “เครื่องต้นแบบ” กลับไปทดลองใช้งานที่บ้าน ก็ได้เกิดปิ๊งไอเดียเพิ่มเติม ด้วยการสั่งให้เพิ่มจำนวนแจ๊คหูฟัง เพื่อให้คนสองคนสามารถฟังเพลงได้พร้อมกัน รวมถึงให้เพิ่มฟังก์ชั่น “Talk Buttom” เพื่อให้ผู้คน สามารถสนทนาระหว่างกัน ขณะสวมหูฟังด้วย

 

ทำไมต้องชื่อ Walkman? :

หลังเครื่อง Prototype เสร็จสมบูรณ์และเริ่มเข้าสู่ไลน์การผลิต แผนกประชาสัมพันธ์ต่างเร่งระดมสมองเพื่อตั้งชื่อที่เหมาะสมให้กับ “ผลิตภัณฑ์ปฏิวัติวงการ” นี้ทันที ซึ่งชื่อที่เหมาะสมและสอดคล้องกับ คอนเซ็ปต์ “Music on the Move” ที่มีชื่อว่า  “Walkman” ก็ถูกเลือกใช้ในที่สุด

โดยมีปัจจัยสำคัญมาจาก ความนิยมที่มีต่อภาพยนตร์ “ซุปเปอร์แมน” ในเวลานั้น รวมถึง ยังเป็นการอิงกับชื่อผลิตภัณฑ์ที่กำลังขายดีของบริษัทอย่าง “เครื่องบันทึกเทปคาสเสตต์ Pressman ที่ออกวางจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 1977 ด้วย

อย่างไรก็ดี ชื่อ “Walkman” ซึ่งทั้ง “ผิดหลักไวยากรณ์” และ “ไม่มีความหมายในภาษาอังกฤษ” ได้ถูกต่อต้านอย่างหนัก จาก บรรดาบริษัท Sony สาขาต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา และ อังกฤษ นั้น ถึงขั้นวางแผนที่จะใช้ชื่อว่า “Soundabout” และ “Stowaway” สำหรับการวางจำหน่ายเลยทีเดียว

หากแต่แม้จะถูกต่อต้านอย่างหนัก “อาคิโอะ โมริตะ” (Akio Morita) ผู้ร่วมก่อตั้ง Sony กลับยังคงยืนกรานที่จะให้ใช้ชื่อ Walkman ต่อไป เนื่องจากเขาเชื่อมั่นว่า ผลิตภัณฑ์นี้กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ “คนรุ่นใหม่” ดังนั้น พนักงานหนุ่มสาวที่ตั้งชื่อนี้ขึ้นมา “ย่อมเข้าใจคนรุ่นเดียวกันได้ดีกว่า”

ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญ คือ บรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ที่เตรียมไว้สำหรับการทำแคมเปญโฆษณา ก็ได้ถูกตีพิมพ์ไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่เหลือเวลามากพอ สำหรับการแก้ไขได้อีกต่อไปด้วย!

 

โฆษณาแบบไหนถึงโดน? :

เนื่องจาก Walkman เป็นผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่ในยุคนั้น ดังนั้น แคมเปญโฆษณาจึงต้องเน้นย้ำไปที่ Sony ต้องการแนะนำแนวคิดใหม่ๆสำหรับความสนุกสนานที่แปลกไปกว่าที่เคยเป็นมา ดังนั้น ทีมประชาสัมพันธ์ จึงเลือกวิธีเปิดตัวกับสื่อมวลชน ด้วยการนำให้พรีเซนเตอร์ สวมหูฟัง ฟังเพลงจาก Walkman ขณะกำลังเล่นโรลเลอร์สเกต และ ขี่จักรยาน รวมถึงให้นักข่าวได้ฟังเพลงจาก Walkman ขณะเดินทางไปยังสถานที่สาธารณะต่างๆ เพื่อหวัง “ตอกย้ำคุณภาพของเสียงเพลงในระบบสตอริโอ ที่สามารถฟังได้ในทุกๆที่”

อย่างไรก็ดี หลังการเปิดตัว ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปอย่างที่คาดไว้ เนื่องจาก มีสื่อมวลชนให้ความสนใจนำเสนอข่าวเพียงเล็กน้อย จนกระทั่งทำให้ในเดือนแรก Walkman ทำยอดขายได้เพียง 3,000 เครื่องเท่านั้น! ซึ่งยอดขายที่สุดซบเซานี้ ได้ทำให้บรรดาผู้บริโภค เริ่มตั้งคำถามกับ “คุณภาพของผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ ตามมาทันที”

ด้วยเหตุนี้ Sony จึงตัดสินใจให้พนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์นำ Walkman ออกไปสาธิตให้คนทั่วๆไปพบเห็นและทดลองฟัง ตามสถานที่สาธารณะต่างๆ โดยเฉพาะในย่านที่ผู้คนพลุกพล่าน เช่น ย่านชินจูกุและกินซ่า รวมถึงสถานศึกษาต่างๆ จนกระทั่ง ทำให้ ความคลางแคลงใจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เพราะอะไรจึงไม่สามารถบันเสียงได้ รวมถึง ข้อครหาเรื่องคุณภาพเสียงจากหูฟัง หมดไปจากใจผู้บริโภคอย่างสิ้นเชิง!

ขณะเดียวกัน การที่บรรดาเซเลป โดยเฉพาะในวงการเพลง เริ่มปรากฎตัวพร้อมกับ Walkman ตามสื่อต่างๆ ยังช่วยทำให้ ผลิตภัณฑ์ปฏิวัติวงการนี้ กลายเป็นเทรด์ฮิตในหมู่วัยรุ่นญี่ปุ่นมากขึ้นด้วย

 

ซื้อ Walkman ได้ที่ไหน? :

สำหรับปัญหาอีกหนึ่งข้อ ที่ทำให้เกิด “คำถามและความไม่เชื่อมั่น” ต่อ ผลิตใหม่อย่าง Walkman ทั้งภายในบริษัท Sony และบรรดาร้านค้าปลีกในเวลานั้น ก็คือ การขาดหายไปของฟังก์ชั่น “บันทึกเสียง” จนถึงขั้นที่ว่า…นี่อาจเป็น “จุดอ่อนสำคัญ” ที่ทำให้ “Walkman รุ่นแรกล้มเหลว”

ด้วยเหตุนี้ “อาคิโอะ โมริตะ” หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Sony จึงได้ประกาศเดิมพันชื่อเสียงของตัวเองกับความสำเร็จที่กำลังจะเกิดขึ้น กับ ผลิตภัณฑ์ใหม่ชิ้นนี้ของบริษัททันที พร้อมกับให้เหตุผลที่น่ารับฟังว่า….

“ผมสังเกตเห็นพฤติกรรมของบรรดาคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะบรรดาลูกๆ ของผม ที่เมื่อกลับถึงบ้าน พวกเขาจะเดินตรงไปเปิดฟังเพลงจากเครื่องเสียงสตอริโอทันที ดังนั้น Walkman จะช่วยส่งเสริมความผูกพันระหว่างกลุ่มคนหนุ่มสาวกับเสียงเพลงให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นได้อย่างแน่นอน!”

นอกจากนี้ “อาคิโอะ โมริตะ” ยังมีประสบการณ์ การได้พบเจอ “เครื่องการันตีความสำเร็จ” อีกอย่าง ก็คือ ขณะเตรียมเปิดการวางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ หลัง Walkman ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นแล้วก็คือ เมื่อเขาเดินทางไปฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร บรรดาลูกๆวัยรุ่นของผู้บริหารโซนี ต่างร้องขอเมื่อได้พบเจอเขาทันทีว่า “คุณโมริตะ ผมอยากได้ Walkman ผมจะหาซื้อมันได้ที่ไหน?”

ขณะเดียวกัน สิ่งที่เขาค้นพบอีกอย่างก็คือ “บรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติ” ที่เดินทางมาเยือนญี่ปุ่น ยังแห่ซื้อ Walkman กลับบ้านจำนวนมาก ตามกระแสความคลั่งไคล้ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในเวลานั้นอีกด้วย

 

และด้วยเหตุนี้ มันจึงไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะเปลี่ยนชื่อ “ผลิตภัณฑ์ที่ขายดิบขายดีจนติดตลาดไปทั่วโลก ตามที่บรรดาสาขาในยุโรป เคยออกมาคัดค้าน อีกต่อไปด้วย!”

และจากนั้น ความสำเร็จภายใต้ชื่อ “Sony Walkman” ก็ได้กลายเป็น “ตำนาน” โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Sony ในเดือนมิถุนายนปี 1989 หรือ ครบ 10 ปี หลังการเปิดตัว Walkman มียอดจำหน่ายสะสมรวม 50 ล้านเครื่อง และในปี 1992 อยู่ที่ 100 ล้านเครื่อง

ส่วนยอดขายล่าสุดที่มีการประกาศอย่างเป็นทางการในปี 2019 อยู่ที่ยอดสะสมรวม เกินกว่า 400 ล้านเครื่อง อย่างไรก็ดี ในปี 2010 ได้มีการยุติการจำหน่ายรุ่นเทปคาสเซ็ต และในปี 2011 ได้ยุติการจำหน่ายรุ่นใช้แผ่น MD และปัจจุบันในปี 2025 มีวางจำหน่ายเฉพาะรุ่น Hi-Res Audio เท่านั้น

อ่านมาถึงบรรทัดนี้ จากบทความอันแสนยาวยืด “คุณ” มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง?

 

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :

ตำนานโคตรโกง7,000ล้านเยน กลลวงยักษ์ใหญ่ซื้อที่ดินสุดเนียน (ชมคลิป)

แม้ไม่มีไทย เขมรก็อยู่ได้ สนามบินเตโชช่วยได้จริงหรือ? (ชมคลิป)

เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา

เบื้องหลังไฟปะทุGENZ  ถ้าการเมือง เนปาล ดี? (ชมคลิป)

ไขรหัสจุดระเบิดชาวอินโดนีเซีย เมื่อประชาชนต้องปลุกจิตสำนึกส.ส. (ชมคลิป)


You might be intertested in this news.

Mostview

แม้ไม่มีไทย เขมรก็อยู่ได้ สนามบินเตโชช่วยได้จริงหรือ? (ชมคลิป)

แม้ไม่มีไทย เขมรก็อยู่ได้ สนามบินเตโชช่วยได้จริงหรือ? PART2 (ชมคลิป)

24 กันยายน หลุมยุบยักษ์ใน กทม. กับ 35 ปี แก๊สระเบิด ถนนเพชรบุรี

24 กันยายน 2568 เกิดเหตุหลุมยุบ กลางเมือง ในกทม. และไม่น่าเชื่อในวันเดียวกันเมื่อ 35 ปี ก่อน กับเหตุการณ์ รถแก๊สคว่ำ และเกิดระเบิด ที่ถนนเพชรบุรี ...

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(30ก.ย.68) เก็งกําไรระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(30ก.ย.68) เก็งกําไรระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(24ก.ย.68) ทยอยซื้อสะสม

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(24ก.ย.68) ทยอยซื้อสะสม

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(25ก.ย.68) เก็งกําไรในกรอบใหม่

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(25ก.ย.68) เก็งกําไรในกรอบใหม่

TrustNEws Line