แม้ไม่มีไทย เขมรก็อยู่ได้ สนามบินเตโชช่วยได้จริงหรือ?
by Trust News, 25 กันยายน 2568
แม้ไม่มีไทย เขมรก็อยู่ได้ สนามบินเตโชช่วยได้จริงหรือ? PART2
สำหรับใน PART1 “เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา” “เรา” ได้พา “คุณ” ไปทำความรู้จักกับ ข้อมูลเบื้องต้น ในเรื่องของ “เงินทุน อุปสรรคในการก่อสร้าง รวมถึง นายทุนผู้ดูแลสนามบินนานาชาติเตโช กรุงตาเขมา (Techo Krong Takhmao International Airport) กันไปบ้างแล้ว
สำหรับใน PART2 นี้ “เรา” จึงอยากชวน “คุณ” ไปร่วมกัน “ลงลึกในรายละเอียด” ที่เกี่ยวข้อง กับ ความทะเยอทะยาน ของ ฮุนเซนและครอบครัว ที่ต้องการใช้สนามบินเตโช เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจ และหารายได้เข้าประเทศจาก “ภาคการท่องเที่ยว” เพื่อการันตี “วาจาสิทธิ” ของ ผู้นำตลอดกาลของชาวเขมร ที่ว่า “ไม่มีไทยเราชาวเขมรก็อยู่กันได้" นั้น มีความเป็นจริง มากหรือน้อยเพียงใด?

เป้าหมายสนามบินเตโช :
สนามบินเตโช กรุงตาเขมา (Techo Krong Takhmao International Airport) หรือ TIA ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทดแทน “สนามบินนานาชาติพนมเปญ” ที่เปิดใช้บริการมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1950 และมีเป้าหมายเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 13 ล้านคนต่อปีในปัจจุบัน สู่ 50 ล้านคน ภายในปี 2050
ทั้งนี้ หากอ้างอิงแถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา เมื่อวันที่ 8ก.ย.2025 ระบุว่า กิจกรรมการบินพลเรือนระหว่างประเทศและในประเทศ จาก สนามบินนานาชาติพนมเปญ ไปยัง สนามบินนานาชาติเตโช กรุงตาเขมา ทั้งหมด
โดยการเปลี่ยนผ่านนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ แผนระยะที่ 2 ของ ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของกัมพูชายุคใหม่ และต่อยอดไปสู่การแข่งขันในตลาดการบินระดับภูมิภาค เพื่อทำให้ กัมพูชา กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ แผนระยะที่ 2 ของ ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของกัมพูชา ที่มี สนามบินเตโช เป็นส่วนขับเคลื่อนสำคัญนั้น ก็คือ เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ , เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคการบินและโลจิสติกส์ รวมถึง เพิ่มการจ้างงานแรงงานในประเทศ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ “อุตสาหกรรมการบิน”
สำหรับ สนามบินนานาชาติพนมเปญ นั้น นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยืนยันว่า นอกจากจะไม่ถูกรื้อถอน หรือ ขายให้กับภาคเอกชนแล้ว ยังจะถูกเก็บรักษาไว้ในฐานะ “สิ่งก่อสร้างที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นเกียรติแก่ “เจ้านโรดมสีหนุ” รวมถึงจะถูกปรับปรุงเอาไว้สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน , ภารกิจการปฏิบัติการทางการทหาร , สนับสนุนเที่ยวบินภายในประเทศและเช่าเหมาลำ รวมถึง เครื่องบินส่วนตัว

สนามบินกัมพูชา :
ปัจจุบันนอกจาก “สนามบินเตโช” แล้ว กัมพูชา มีสนามบินหลักที่ให้บริการเที่ยวบินเชิงพาณิชย์อีก 2 แห่ง คือ…
1. สนามบินนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ใหม่ ซึ่งใช้เงินลงทุนมากถึง 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (35,000 ล้านบาท) ภายใต้การสนับสนุนทางการเงินและอายุสัปทาน 55 ปี โดยรัฐบาลจีน และกลุ่มบริษัท Yunnan Group ซึ่งเพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ปี 2023
2. สนามบินนานาชาติสีหนุวิลล์ ที่เปิดให้บริการ เมื่อเดือนตุลาคมปี 2023 และกำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มเติม ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2026
นอกจากนี้ กัมพูชา ยังมีสนามบินขนาดใหญ่อีก 2 แห่ง ที่กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงและก่อสร้าง คือ...
1. สนามบินนานาชาติดาราสาคร (Dara Sakor International Airport) จังหวัดเกาะกง มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (6,400 ล้านบาท) ซึ่งก่อสร้างโดยกลุ่มทุนจีน ที่มีชื่อว่า Union Development Group หรือ UDG ที่ได้รับสัปทานอายุ 99 ปี สำหรับ Mega Project มูลค่า 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (120,000 ล้านบาท) ในการสร้างสนามบิน , ท่าเรือน้ำลึก และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ สำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรม ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ มาตั้งแต่ปี 2008
อย่างไรก็ดี การอัปเดตล่าสุด ของ “สื่อกัมพูชา” เมื่อวันที่ 24 ธันวาคมปี 2024 ระบุว่า แม้จะเลยกำหนดเปิดสนามบินมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง โดยเส้นตายล่าสุด คือ เดือนพฤศจิกายนปี 2024 ที่ผ่านมา
แต่ปัจจุบันสนามบินนานาชาติดาราสาคร ก็ยังคงไม่ข้อมูลที่ชัดเจน “เรื่องกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ” รวมถึงยังไม่มีการระบุถึง “สาเหตุที่ชัดเจนด้วย”
2. สนามบินนานาชาติเกาะรง (Koh Rong International Airport) มูลค่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (9,600 ล้านบาท) ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลและสัปทานอายุ 99 ปี สำหรับการพัฒนาเกาะรง ที่จะมีทั้ง กาสิโน โรงแรม รีสอร์ท ท่าเรือ สนามกอลฟ์ ของ กลุ่มบริษัท Royal Group ของ “นายคิธ เมง” (Kith Meng) นักธุรกิจผู้มีความใกล้ชิดกับครอบครัวฮุนเซน ทั้งนี้ สนามบินนานาชาติเกาะรง มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2028

ไทยแชมป์เที่ยวเขมร :
อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวของกัมพูชา ระบุว่า ระหว่างเดือนมกราคม ถึง เดือนกรกฎาคม ปี 2025 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ากัมพูชาด้วยการคมนาคมทางอากาศ ไปลงที่ สนามบินนานาชาติพนมเปญ , สนามบินนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ และ สนามบินนานาชาติสีหนุวิลล์ รวม 1,658,647 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2024 (1,346,092คน) คิดเป็น 23.2%
โดยในจำนวนนี้ ไปลงที่สนามบินนานาชาติพนมเปญ ซึ่งปัจจุบันถูกแทนที่ โดย สนามบินเตโช แล้ว มากถึง 1,244,163 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2024 (985,041คน) คิดเป็น 26.3%
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังกัมพูชา “มากที่สุด” คือ นักท่องเที่ยวไทย 946,325 คน หรือ คิดเป็น 25.5% ลำดับถัดมา คือ นักท่องเที่ยวเวียดนาม 714,614 คน หรือ คิดเป็น 19.3% และลำดับที่ 3 คือ นักท่องเที่ยวจีน 687,509 คน หรือ คิดเป็น 18.5%
หากแต่เฉพาะในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งไทยเริ่มมีปัญหาชายแดนกับกัมพูชา นั้น มีนักท่องเที่ยวไทย เดินทางเข้าไปยังกัมพูชาเพียง 18,298 คน ซึ่งลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2024 ซึ่งมีจำนวนมากถึง 192,284 คน ถึง -90.5%!
และไม่เพียงเท่านั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว หากไม่นับรวม “ชาวจีน” แล้ว สัดส่วนนักท่องเที่ยวเวียดนาม ก็ยัง “ลดลง” ถึง -19.1% (95,314คน) เช่นเดียวกับ ชาวอเมริกัน (13,545คน) และ เกาหลีใต้ (12,714คน) ในลำดับที่ 4 และ 5 ที่ก็ลดลงถึง -22.5% และ -19.5% ตามลำดับด้วย

ท่องเที่ยวสำคัญแค่ไหน? :
อ้างอิงจาก รายงาน ของ สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (ASEAN+3 Macroeconomic Research Office) หรือ AMRO ซึ่งติดตามและประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาระบุว่า
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ถือ เป็น แกนหลักสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงานของประเทศกัมพูชามาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในปี 2019 ก่อนการแพร่ระบาดโรค Covid-19 นั้น ภาคการท่องเที่ยว ทำให้เกิดการจ้างงานโดยตรงถึง 630,000 คน และยังสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมากถึง 4,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.5แสนล้านบาท) หรือ คิดเป็น 18.2% ของ GDP ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงท่ีสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน+3
อย่างไรก็ดี แม้ปัจจุบันจะผ่านพ้นปัญหาการแพร่ระบาดโรคCovid-19 มานานหลายปีแล้ว แต่การท่องเที่ยวกัมพูชา ก็ยังคงไม่สามารถฟื้นฟูกลับไปสู่จุดเดิมได้ โดยในปี 2023 นั้น ยอดรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็น 82.5% ของจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2019 เท่านั้น
ขณะเดียวกันแม้ว่า ในปี 2024 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ (6.7ล้านคน) จะมีตัวเลขสูงกว่าในปี 2019 (6.6ล้านคน) ได้แล้ว หากแต่ “รายได้จากการท่องเที่ยวรวมกลับต่ำกว่า ระดับก่อนการแพร่ระบาดถึง 26% ซึ่งเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า “การใช้จ่ายค่าเฉลี่ยต่อคนต่อทริป” ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง

ปัญหาการท่องเที่ยว :
มีบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ จากนิตยสาร Fortune Times สื่อด้านธุรกิจชั้นนำของสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ระบุว่า ปัญหาความขัดแย้งชายแดนกับประเทศไทย สร้างความเสียหายอย่างยิ่งต่อ “อุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชา” เนื่องจากเป็นผลให้ นักท่องเที่ยวไทยหายไปจำนวนมาก แม้ว่า การจราจรทางอากาศจะยังเปิดให้บริการตามปกติก็ตาม
นอกจากนี้ การที่กัมพูชาถูกนานาชาติมองว่าเป็น ศูนย์กลางการค้ามนุษย์และการหลอกลวงออนไลน์ ยัง “ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศอย่างรุนแรง” จนกระทั่งเป็นผลให้ นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้สึก “หวาดกลัว” ที่จะเข้ามาท่องเที่ยวด้วย
ดังจะเห็นได้จาก รายงานของ Angkor Enterprise ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันที่1กรกฎาคม ที่ผ่านมา ระบุว่า เฉพาะเดือนมิถุนายน ปี 2025 แม้แต่ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ อย่าง “นครวัดนครธม” ก็มีตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ “ลดลง” ถึง 19% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปี 2024
ขณะเดียวกัน บทวิเคราะห์ ของ สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (ASEAN+3 Macroeconomic Research Office) หรือ AMRO เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมายังระบุอีกด้วยว่า ปัญหาสำคัญของกัมพูชา คือ โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการกระตุ้นการท่องเที่ยว “ยังไม่เพียงพอ” แม้จะมีการเปิดให้บริการสนามบินนานาชาติเตโชแล้วก็ตาม
เนื่องจากกัมพูชา ยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงานทักษะสูง , แหล่งช็อปปิ้ง , แบรนด์โรงแรมระดับนานาชาติ , การผลิตสินค้าที่ระลึกท้องถิ่น ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข รวมถึง การยังคงชูจุดขายสถานที่ท่องเที่ยวเดิมๆ อย่าง นครวัดนครธม

และไม่เพียงเท่านั้น ในอีก 3-5 ปี ข้างหน้า สนามบินเตโช จะต้องเผชิญหน้ากับการแข่งขันที่สูงขึ้นไปอีก จาก คู่แข่งสำคัญในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็น สนามบินสุวรรณภูมิ ของไทย , สนามบินชางฮี ของ สิงคโปร์ ที่ยังมีการขยายขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง
หรือแม้กระทั่ง อินโดนีเซีย เองก็เพิ่งประกาศเดินหน้าพัฒนาสนามบินเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวให้ก้าวพ้นจากศูนย์กลางหลักอย่าง กรุงจาการ์ตา และ บาหลี
ขณะที่ น้องใหม่มาแรงอย่าง “เวียดนาม เองก็เพิ่งประกาศเพิ่มการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านการบินในประเทศครั้งใหญ่ มากกว่า 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (5แสนล้านบาท) เพื่อพุ่งไปสู่เป้าหมาย “รองรับผู้โดยสาร 250 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2030”
ดังนั้น ภายใต้การแข่งขันที่ร้อนแรงขนาดนี้ การมีเพียงสนามบินใหม่เพียงอย่างเดียว ย่อมไม่ใช่หลักรับประกัน “แรงดึงดูด” นักท่องเที่ยวต่างชาติได้อย่างแน่นอน!
อ่านมาถึงบรรทัดนี้ จากบทความอันแสนยาวยืด “คุณ” มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง?

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา (ชมคลิป)
เบื้องหลังไฟปะทุGENZ ถ้าการเมือง เนปาล ดี? (ชมคลิป)
ไขรหัสจุดระเบิดชาวอินโดนีเซีย เมื่อประชาชนต้องปลุกจิตสำนึกส.ส. (ชมคลิป)
สำรวจ “นครดูไบ” ทำไมใครๆชอบไปกันจัง (ชมคลิป)
ตำนานโคตรโกง7,000ล้านเยน กลลวงยักษ์ใหญ่ซื้อที่ดินสุดเนียน (ชมคลิป)
You might be intertested in this news.
Mostview
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา (ชมคลิป)
เจาะเบื้องลึก สนามบินเตโช ความภาคภูมิใจของกัมพูชา (PART1)
รีวิวหนัง “one battle after another” หนังสนุกมาก (ก.ล้านตัว)
“One Battle After Another” หนึ่งศึก ครั้งแล้ว ครั้งเล่า เป็นหนังอีกเรื่องที่เห็นชื่อนักแสดง อย่าง ฌอน เพนน์, เดล โตโร และ ดิคาปิโอ ที่มารวมตัวกัน ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็ต้องตีตั๋วเข้าดูแล้ว
อีนางคำดวง อาชีพ “นายฮ้อย” กับเรื่องจริงการค้าควาย สมัย ร.5
จากละคร สู่เรื่องจริง อาชีพ "นายฮ้อย" และการค้าขายควาย ในสมัย ร.5 สาเหตุที่เฟื่องฟู กับปัญหาการขโมยและปล้นควาย...
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(23ก.ย.68) หาจังหวะขายทํากำไร
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(24ก.ย.68) ทยอยซื้อสะสม
แนวโน้มราคาทองคําวันนี้(24ก.ย.68) ทยอยซื้อสะสม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
