ทำไมทีมไหนๆจึงเลือกใช้ บอล Direct โจมตี ลิเวอร์พูล (ชมคลิป)

ลูกกลางอากาศเจ้าปัญหา : 

รู้หรือไม่?

9 นัดแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ “ลิเวอร์พูล” คือ ทีมที่ถูกคู่ต่อสู้โจมตีด้วยลูกกลางอากาศมากที่สุดในลีก โดยมีตัวเลขรวมกันถึง 571 ครั้ง! หรือ คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 20.5% ของ “จำนวนการจ่ายบอลทั้งหมด” ที่คู่แข่งจ่ายบอลเข้าโจมตีลิเวอร์พูล

และ ทีมที่ใช้ลูกกลางอากาศโจมตี ลิเวอร์พูล “มากครั้งที่สุด” ใน 9 นัดแรก ของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งสาดบอลโด่ง เข้าโจมตีเหล่าพลพรรคหงส์แดง มากถึง 75 ครั้ง! ในศึกแดงเดือดที่ ยูไนเต็ด เอาชนะ ลิเวอร์พูลไปได้ 2 ประตูต่อ 1 เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา!

ส่วนอันดับที่ 2 คือ ทีมคริสตัน พาเลซ ทีมที่ยัดเยียดความปราชัยแรกให้กับ “ลิเวอร์พูล” ในลีกฤดูกาลนี้ ด้วยสกอร์ 2 ประตูต่อ 1 นั้น มีสถิติโจมตีทางอากาศใส่ “ทีมเรดแมชชีน” มากถึง 71 ครั้ง!

หากแต่ประเด็นที่น่าสนใจ คือ ในกรณีของ “เชลซี” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทีมกลุ่มลุ้นแชมป์ และมีสถิติการครอบครองบอลในนัดที่เอาชนะ “ลิเวอร์พูล” 2 ประตูต่อ 1 เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม สูงถึง 53.2% ก็ยังใช้กลยุทธ์ “บอลกลางอากาศ” เข้าโจมตีใส่ทีมหงส์แดงรวมกัน มากถึง 67 ครั้ง! เช่นกัน

แล้วมันเพราะอะไร สโมสรในพรีเมียร์ลีก จึงเลือกใช้กลยุทธ์ “สาดบอลยาว” เข้าโจมตี “ทีมแชมป์เก่า” กันนะ?

วันนี้ “เรา” ลองไปร่วมกัน พิจารณาข้อมูลต่างๆที่น่าสนใจ เพื่อลองหาคำตอบที่น่าสนใจนี้ด้วยกัน

หงส์แดงกับการป้องกัน :

รู้หรือไม่?

แม้จะถูกโจมตีด้วยลูกกลางอากาศอย่างหนักหน่วง แต่ ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่มีสถิติการเข้าปะทะเพื่อเอาชนะการดวลลูกกลางอากาศ สูงถึง 179 ครั้ง จากทั้งหมด 317 ครั้ง หรือ คิดเป็นค่าเฉลี่ยสูงถึง 56.5%!

โดยมีเพียง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น ที่มีสถิติค่าเฉลี่ย การดวลเอาชนะลูกกลางอากาศได้ดีกว่า คือ 129 ครั้ง จากทั้งหมด 221 ครั้ง หรือ คิดเป็น 58.4% ส่วน เอฟเวอร์ตัน ทำได้ดีกว่าในแง่จำนวนครั้ง การปะทะเพื่อเอาชนะการดวลลูกกลางอากาศ ซึ่งอยู่ที่ 191 ครั้ง จากทั้งหมด 352 ครั้ง หรือ คิดเป็นค่าเฉลี่ย 54.3%

นอกจากนี้ “เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค” กองหลัง กัปตันทีมหงส์แดง ยังมีสถิติการเอาชนะลูกกลางอากาศสูงที่สุดในลีกฤดูกาลนี้ ด้วยสถิติ เอาชนะได้ถึง 46 ครั้ง จากการดวลทั้งหมด 59 ครั้ง หรือ คิดเป็นค่าเฉลี่ยสูงถึง 78% ด้วย!

ขณะที่ คู่หูกองหลังของ “ไดจ์ค” อย่าง “อิบราฮิมา โกนาเต้” ก็แข็งแกร่งในการเล่นลูกกลางอากาศเช่นกัน ด้วยสถิติเอาชนะได้ถึง 35 ครั้ง จากทั้งหมด 50 ครั้ง หรือ คิดเป็น 70% ซึ่งดีที่สุดอันดับที่ 3 ของพรีเมียร์ลีก

ไม่เพียงเท่านั้น ลิเวอร์พูล ยังเป็นทีมที่มีสถิติป้องกันการจ่ายบอลโยนยาวจากฝ่ายตรงข้าม ได้ถึง 29 ครั้ง ซึ่งดีที่สุดในลีกฤดูกาลนี้อีกด้วย

แล้วแบบนี้ “ลูกกลางอากาศ” จากฝ่ายตรงข้าม สร้างปัญหาให้กับ “ลิเวอร์พูล” ได้อย่างไร? ติดตามต่อได้ในตอนต่อไป

Second Balls คือ ปัญหา :

ในเมื่อ “คู่หูเซนเตอร์ฮาล์ฟ” “ไดจ์ค” และ “โกนาเต้” แข็งแกร่งเรื่องการป้องกันลูกกลางอากาศ แล้วบอล Direct จากฝ่ายตรงข้าม สร้างปัญหาให้กับ “ลิเวอร์พูล” ได้อย่างไร?

“คำตอบ” คือ ความสับสนอลหม่านของแผงหลัง เมื่อถูกโจมตีด้วยลูกกลางอากาศ ที่มักนำไปสู่ “ความผิดพลาด” ในการเก็บบอล 2 หรือ Second Balls

นั่นเป็นเพราะทั้ง “แบ็คซ้าย ที่เพิ่งมาเข้าร่วมทีมในฤดูกาลนี้ อย่าง “มิลอส เคอร์เคซ” รวมถึง การหมุนเวียนผู้เล่นตำแหน่งแบ็คขวา ที่ยังไม่ลงตัวสักที อย่าง “เจเรมี่ ฟริมปง” , “คอเนอร์ แบรดลีย์” และ “โดมินิก โซบอสไล” มักพลาด “หลุดจากตำแหน่ง” ไปชั่วขณะ เมื่อทีมถูกโจมตีด้วยลูกกลางอากาศ อยู่เสมอๆ

ทำไมคู่แข่งจึงใช้บอล Direct :

รู้หรือไม่?

เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูล ทำสถิติการเข้าโจมตีเมื่อคู่แข่งเริ่มเล่นตั้งแต่แดนบน หรือ High Turnovers ได้มากถึง 60 ครั้ง อีกทั้งยังสามารถ เปลี่ยนจากการ High Turnovers ไปสู่การทำประตูได้มากถึง 10 ประตูอีกด้วย ทำให้ฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล มีค่าเฉลี่ยสถิติ High Turnovers สูงถึง 8.1 ครั้งต่อเกม!

ส่วน 10 นัดแรกในฤดูกาลนี้ “ทีมเครื่องจักรสีแดง” สามารถเปลี่ยนการทำ High Turnovers ไปสู่การจบด้วยการยิงประตูได้ 10 ครั้ง

หากแต่ “ตัวเลขที่น่าสนใจ” ในประเด็นนี้ คือ ค่าเฉลี่ยสถิติ High Turnovers ต่อเกมในฤดูกาลนี้ ของ ทีมหงส์แดง ลดลงมาเหลือเพียง 6 ครั้งต่อเกมเท่านั้น

นั่นเป็นเพราะ... “บรรดาทีมคู่แข่งในพรีเมียร์ลีก” ต่างเริ่มเรียนรู้แล้วว่า หากต้องการหลีกเลี่ยงความอันตราย เมื่อต้องเล่นกับทีมที่เก่งเรื่อง High Turnovers อย่าง ลิเวอร์พูล สิ่งที่ต้องทำเป็นลำดับแรก คือ “จงวางบอลยาวไปข้างหน้าเพื่อวัดดวงกับการแย่งเก็บบอล 2 หรือ Second Balls เสียยังดีกว่า ปล่อยให้นักเตะลิเวอร์พูล เข้ามารุมแย่งบอลในแดนตัวเอง จนนำไปสู่การเสียประตูในแบบที่เคยเป็นมา!

ปัญหาการรับมือ SET-PIECES :

รู้หรือไม่?

ไม่เพียงแต่บอล Direct จะสร้างความสับสนอลหม่านให้กับแผงหลังของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้เท่านั้น ปัญหาที่หนักใจอีกข้อ คือ การป้องกันลูก SET-PIECES เนื่องจากแค่ 10 นัดแรกในลีกฤดูกาลนี้

“หงส์แดง” เสียประตูจากลูกตั้งเตะ ไปแล้วถึง 7 ประตู โดยมีเพียงทีมท้ายตารางอย่าง เวสต์แฮม และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เท่านั้น ที่ทำได้แย่กว่า จากการเสียไปถึง 10 ประตู ทั้งๆที่ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว “ทีมเครื่องจักรสีแดง” เสียประตูจากลูกฟรีคิกไปรวมกันเพียง 10 ประตูเท่านั้น!

“ความอ่อนแอ” ในเรื่องการจัดระเบียบแผงรับ เพื่อรับมือกับบอล Direct จากฝ่ายตรงข้าม ที่เริ่มเรียนรู้แท็กติกการเล่นของลิเวอร์พูลมากขึ้น จากฤดูกาลที่ผ่านมา

รวมไปจนกระทั่งถึง “การผสมสูตรเกมรุก” จากเหล่านักเตะร้อยล้านปอนด์ผู้มาใหม่ ที่ยังไม่ลงตัวดีนัก จะได้รับการ “ปลดเปลื้อง” ปัญหาทั้งหมดนี้ให้หมดไป เพื่อเพิ่มเติมความหวังในการลุ้นแชมป์เต็มตัวได้รวดเร็วมากแค่ไหน?

“คำตอบ” นี้ คงมีเพียงคนเดียวในเวลานี้ ที่จะสามารถตอบได้ นั่นก็คือ “อาร์เนอ สล็อต” ผู้เป็นกุนซือเท่านั้น!

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :

เล่นเร็ว เน้นบอลยาวและฟรีคิก แท็กติกที่ทำให้แมนยูฯเริ่มดีขึ้น (ชมคลิป)

เคล็ดลับความสำเร็จกัปตันซึบาสะ ความคิดของคนเลือกอยู่หัวแถว (ชมคลิป)

แผนฟื้นฟู Back to Starbucks เพราะจิตวิญญาณคือกาแฟ (ชมคลิป)

ตำนานโคตรโกง7,000ล้านเยน กลลวงยักษ์ใหญ่ซื้อที่ดินสุดเนียน (ชมคลิป)

แม้ไม่มีไทย เขมรก็อยู่ได้ สนามบินเตโชช่วยได้จริงหรือ? (ชมคลิป)