แชมป์แรกในชีวิต แฮร์รี เคน ที่มาจาก Hard Work & Self-Belief

จากนักเตะที่ถูก “ปฏิเสธ” ตั้งแต่วัยเด็ก และเคยถูกปล่อยยืมให้ไปลงเล่นกับบรรดาทีมในลีกรองหลายต่อหลายทีม จนกระทั่งเกือบคิดว่า อนาคตในวงการฟุตบอลน่าจะสิ้นสุดลงไปแล้ว

และแม้ว่าในเวลาต่อมา ชายผู้นี้จะสามารถพัฒนาตัวเอง จนกระทั่งกลายเป็น กองหน้าชั้นยอดของทีมชาติอังกฤษ  ที่มีค่าตัวทะลุ 100 ล้านยูโร แม้วัยจะล่วงเลยถึง 30 ปีในเวลานั้น 

จนกระทั่ง ไม่มีใครตั้งคำถามในเรื่อง “ความสามารถหรือทักษะในการยิงประตูอันเฉียบขาด”

หากแต่เรื่องราวอันสุดแสนประหลาดที่สุดเรื่องหนึ่งของโลกฟุตบอล คือ…การยืนระยะค้าแข้งมาอย่างยาวนาน พร้อมกับสามารถยิงประตูได้อย่างถล่มทลายนั้น กลับไม่เคยช่วยให้ “ชายผู้นี้” มีถ้วยรางวัลระดับเมเจอร์มาสวมมงกุฎเพื่อประดับเกียรติ “ความเป็นราชาแห่งการทำประตู” ได้เลยแม้แต่เพียงถ้วยเดียว

แต่แล้วในฤดูกาล 2024/25 “คำสาป” ที่เกาะกินราชาผู้นี้มาอย่างยาวนาน ก็เสื่อมมนต์ขลังลงได้ในที่สุด

ใช่แล้ว! “เรา” กำลังพูดถึง “แฮร์รี เดอะ เฮอร์ริเคน” ราชันย์ที่ได้สวมมงกุฎอันเกริกเกียรติได้เป็นผลสำเร็จ (สักที) หลังพา “สโมสรบาเยิร์น มิวนิค” คว้าถาดแชมป์บุนเดสลิก้า ได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็น “แชมป์ระดับเมเจอร์” แชมป์แรกในชีวิตการค้าแข้งระดับอาชีพมานานถึง 15 ปีของ กองหน้าและกัปตันทีมชาติอังกฤษผู้นี้

ขวากหนามบนเส้นทางลูกหนัง กว่าที่ “แฮร์รี เคน” จะประสบความสำเร็จในวันนี้ มีแง่มุมใดที่น่าสนใจบ้าง? วันนี้ “เรา” ไปร่วมกันพิจารณาข้อมูลเหล่านั้นร่วมกัน!

กองหน้าที่ถูก อาร์เซนอล ปฏิเสธ :

“ผมคลานได้ ผมร้องไห้ได้  ผมว่ายน้ำได้ ผมอยากเล่นฟุตบอล” หนึ่งในเรียงความ ตอนอายุ 5 ขวบของ “แฮร์รี เคน”

อ้างอิงข้อมูลจากเว็ปไซต์สมาคมฟุตบอลอังกฤษ ระบุว่า “แฮร์รี เคน” ได้บอกเล่าถึงวัยเด็กของตัวเองเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า…. ในสมัยเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนเลควูดส์ ซึ่งตั้งอยู่ในย่านชิงฟอร์ด ทางด้านตะวันออกของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เขาและเพื่อนๆได้รับอนุญาตให้ใช้ลูกเทนนิสแทนลูกฟุตบอล ในเวลาที่ลงเตะกันที่สนามเด็กเล่นเท่านั้น

ซึ่งเรื่องนี้ ส่วนตัวเขาเอง เชื่อว่าทั้ง “ไอ้เจ้าลูกเทนนิสขนาดจิ๋ว และ พื้นที่เล็กๆและแคบของสนามเด็กเล่น” นั้น มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ที่ช่วยให้เขามีทักษะในการจับบอลและยิงประตูมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเวลาที่ได้ไปสัมผัสกับลูกฟุตบอลและสนามฟุตบอลขนาดปกติ

และเมื่ออายุได้ 5-6 ปี เมื่อ “แฮร์รี เคน” ได้เริ่มลงเล่นให้กับทีมท้องถิ่น ที่มีชื่อว่า “ริดจ์เวย์ โรเวอร์” (Ridgeway Rovers) ซึ่งเป็นทีมเดียวกันกับที่ “เดวิด เบ็คแฮม” ปีกขวาและอดีตสตาร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยลงเล่นให้ในวัยเด็ก

จนกระทั่งฝีเท้าของเขา ได้ไปเข้าตา “แมวมองของสโมสรอาร์เซนอล” และถูกดึงเข้าสู่อเคเดมีของทีมไอ้ปืนใหญ่ ที่มีชื่อเสียงเรื่องการปั้นนักเตะดาวรุ่งมาอย่างยาวนาน

หากแต่ช่วงเวลาแห่งความหวัง กลับเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น เพราะผ่านไปเพียง 2 ปี กองหน้าทีมชาติอังกฤษผู้นี้ ก็ได้ถูก “อาร์เซนอล” ประเมินว่า “ยังดีไม่พอ เนื่องจากตัวเล็กเกินไปและช้าเกินไปที่จะเป็นกองหน้า” จนกระทั่งถูกปล่อยตัวออกจากทีมในที่สุด

โดย “แฮร์รี เคน” บอกเล่าถึงความผิดหวังเมื่อตอนอายุประมาณ 9 ขวบ เอาไว้ว่า…

“พ่อบอกกับผมว่า อาร์เซนอลกำลังจะปล่อยตัวลูก แต่เราจะกลับไปที่ ริดจ์เวย์ โรเวอร์ อีกครั้ง และเราจะทำในสิ่งที่เราทำต่อไป และทำงานให้หนักมากขึ้นกว่าเก่า

ซึ่งตอนนั้นแม้ว่าผมจะรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง แต่ผมก็แค่อยากเล่นฟุตบอล ดังนั้นแม้จะถูกปฏิเสธ แต่มันก็ถือว่าเป็นการก้าวหน้าไปอีกขั้น ฉะนั้นผมต้องทำงานหนักต่อไป และดูว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต”  

เส้นทางสู่สโมสรทอตแนม ฮอตสเปอร์ :

“Hard Work - Self-Belief”

หลังถูก อาร์เซนอล ปฏิเสธ “แฮร์รี เคน” กลับมาลงเล่นให้กับ ริดจ์เวย์ โรเวอร์ อีกครั้ง จนกระทั่งการยิงประตูอันยอดเยี่ยมของเขา ก็ไปเข้าตาแมวมองทีมอริร่วมเมืองของอาร์เซนอล อย่าง “ทอตแนม ฮอตสเปอร์” เข้าจนได้!

อย่างไรก็ดี หลังการไปทดสอบฝีเท้าเป็นเวลา 6 สัปดาห์ “แฮร์รี เคน” ก็ต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้ง เมื่อถูกสโมสรคลับไก่ “ปฏิเสธ” เจ้าตัวจึงพกความผิดหวังไปทดสอบฝีเท้ากับ “สโมสรวัตฟอร์ต” จนกระทั่งเกือบจะได้เป็นสมาชิกอเคเดมี ของ สโมสรแตนอาละวาดอยู่แล้ว!   

แต่แล้วโชคชะตาก็ได้เล่นตลกกับ “กัปตันทีมชาติอังกฤษ” เข้าจนได้ เพราะบังเอิญ “วัตฟอร์ต” มีคิวลงเตะกับ “ทีมเยาวชนของทอตแนม ฮอตสเปอร์” และในนัดนั้น “แฮร์รี เคน” โชว์ฟอร์มกดแฮตทริกพาวัตฟอร์ต เอาชนะ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ได้สำเร็จ!

คราวนี้ ทีมคลับไก่จึงรีบตัดหน้าวัตฟอร์ต คว้านักเตะกองหน้าอายุ 11 ปี คนนี้ร่วมทีม พร้อมกับเสนอสัญญานักเตะอาชีพฉบับแรก เป็นของขวัญอายุครบ 16 ปี ในเวลาต่อมา!

โดย “แฮร์รี เคน” บอกเล่าถึงช่วงเวลานั้น เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า….

“ไม่ว่าแมวมองหรือโค้ชจะเก่งแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่ใครจะมาบอกได้ว่าคุณจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้หรือไม่? เพราะมันไม่ได้ขึ้นอยู่แต่กับความสามารถส่วนตัวเพียงอย่างเดียว แต่มันต้องอาศัย ความมุ่งมั่น ทัศนคติ และความเป็นมืออาชีพด้วย

ตอนนั้นผมตัวเล็กมาก ศักยภาพทางร่างกายของผม เป็นรองเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ เกือบ 1 ปี แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อจู่ๆผมก็สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ยิ่งตอนอายุ 14 ปี ผมกลับกลายเป็นคนที่สูงที่สุดในทีม

ดังนั้น ผมจึงมักบอกกับเด็กๆที่อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพอยู่เสมอๆ ว่า คุณก็แค่สนุกกับมัน สนุกกับการเล่นฟุตบอล และพยายามเล่นหลายๆตำแหน่ง เพื่อเรียนรู้ทุกแง่มุมของเกมฟุตบอล รวมถึงทำงานให้หนัก ถ้าคุณคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณอยากทำ ฝึกซ้อมให้หนัก และฝึกให้มากขึ้น รวมถึงต้องเชื่อมั่นในตัวเองเท่านั้น เพราะอะไรๆก็ย่อมสามารถเกิดขึ้นได้”

กองหน้าดาวรุ่ง มุ่งลีกรอง :

หลังได้รับสัญญานักเตะอาชีพเต็มตัว “แฮร์รี เคน” ต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนักหน่วง ว่ามีความสามารถมากพอ ที่จะลงเล่นให้กับ หนึ่งในสโมสรยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์อังกฤษ อย่าง ทอตแนม ฮอตสเปอร์

โดยในช่วงยังเป็นกองหน้าดาวรุ่งระหว่าง ฤดูกาล 2010 - 2013 นั้น “แฮร์รี เคน” ถูกปล่อยตัวไปเล่นให้กับทีมระดับลีกรอง หลายต่อหลายสโมสร ไม่ว่าจะเป็น เลย์ตัน โอเรียนท์ , มิลล์วอลล์ , นอริช ซิตี้ และ เลสเตอร์ ซิตี้ โดยทำสถิติลงเล่น 65 นัด ยิงได้ 16 ประตู

ซึ่งการถูกปล่อยยืมตัวไปให้กับสโมสรระดับลีกรอง หลายต่อหลายครั้งเช่นนี้ เป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก ของ นักเตะในสโมสรยักษ์ใหญ่ และนักเตะดาวรุ่งอนาคตไกลหลายคน เคยสูญเสียความมั่นใจจนกระทบต่ออนาคตการค้าแข้ง

หากแต่เรื่องนี้ กลับไม่มีผลกระทบต่อทัศนคติความเป็นมืออาชีพของ “แฮร์รี เคน” เลยแม้แต่น้อย แถมเขาเรียนรู้และนำประสบการณ์ที่ได้รับกลับไปพัฒนาตัวเองได้อย่างเหลือเชื่อ

เลย์ตัน โอเรียนท์ : ลีกวัน ฤดูกาล 2010/11 (อายุ 17 ปี ลงเล่น 18 นัด ยิง 5 ประตู)  

โดยช่วงที่ลงเล่นให้กับ เลย์ตัน โอเรียนท์ ซึ่งอยู่ในลีกวัน ณ เวลานั้น สก็อตต์ แม็คกลิช กองหน้าจอมเก๋าวัย 36 ปี อดีตเพื่อนร่วมทีมของ “แฮร์รี เคน” เคยบอกเล่าว่า…

“แฮร์รี ไม่เหมือนนักเตะจากพรีเมียร์ลีกคนอื่นๆ ที่มักทำตัวเหมือน Big Star เวลามาลงเตะให้กับทีมระดับลีกวัน และในเวลาลงฝึกซ้อม เขายังแสดงความพร้อมที่จะเรียนรู้จากนักเตะรุ่นพี่ และก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างหนักอยู่ตลอดเวลา

และสิ่งที่เขาได้รับไปจากการลงเล่นในระดับลีกวัน คือ ความแข็งแกร่งทางร่างกายที่เพิ่มขึ้น เพราะเกมในลีกรองนั้น นอกจากจะเน้นเรื่องการใช้ร่างกายเข้าปะทะกันดุเดือดแล้วมันยังเป็นเกมที่มีความเร็วสูงด้วย ซึ่งแน่นอนว่า มันย่อมให้ผลลัพท์ที่ดีกว่า การลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องของทีมชุดใหญ่ หรือ ลงเล่นในเกมระดับเยาวชน U21”

มิลล์วอลล์ : เดอะแชมเปียนชิพ ฤดูกาล 2011/12 (อายุ 18 ปี ลงเล่น 27 นัด ยิง 9 ประตู)  

ส่วนที่ สโมสรมิลล์วอลล์ ซึ่งขึ้นชื่อลือชาเรื่องกองเชียร์ดุดัน นั้น “อลัน ดันน์” อดีตกองหลังของมอลล์วอลล์ บอกเล่าถึง “แฮร์รี เคน” เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า…

“ผมเคยเห็นนักเตะมากมาย ที่ลงเล่นในสนามของเรา แล้วจู่ๆเกิดตัวแข็งทื่อ ภายใน 5 นาที หลังถูกกองเชียร์ของเรา เรียกด้วยชื่อที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน นั่นเป็นเพราะคนเหล่านั้น ไม่สามารถทนรับแรงกดดันที่เกิดขึ้นได้

แต่กับ แฮร์รี เคน มันไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะแม้เขาจะอายุเพียง 18 ปี (ณ ขณะนั้น) แต่กลับมีสมาธิและความมั่นใจในความสามารถของตัวเอง จนกระทั่งสามารถก้าวข้ามความท้าทายนี้ไปได้ และได้รับการโหวตให้เป็น “นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสรมิลล์วอลล์”

นอริช ซิตี้ : ฤดูกาล 2012/13 พรีเมียร์ลีก (อายุ 19 ปี ลงเล่น 5 นัด ยิง 0 ประตู)

อดีตผู้จัดการทีม คริส ฮิวจ์ตัน พูดถึง แฮร์รี เคน ในเวลานั้นว่า...

“น่าเสียดายว่า ตอนที่ แฮร์รี มาอยู่กับ นอริช เขามีอาการบาดเจ็บจึงไม่ค่อยได้ลงเล่น แต่สิ่งที่เขาแสดงออกให้เห็นอยู่เสมอ คือ ความมุ่งมั่นและการฝึกซ้อมอย่างหนัก โดยทุกวันหลังการฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม แฮร์รี จะขอลูกฟุตบอลและโค้ชอีกหนึ่งคน เพื่อฝึกซ้อมการยิงประตูเพิ่มอีก 30-40 นาทีเสมอ และสิ่งที่น่าทึ่ง คือ ไม่ว่าจะยิงด้วยเท้าซ้ายหรือเท้าขวา เขาจะยิงเสียบมุมประตูได้เกือบทุกครั้ง!”

เลสเตอร์ ซิตี้ : ฤดูกาล 2012/13 เดอะแชมเปียนชิพ (อายุ 19 ปี ลงเล่น 15 นัด ยิง 2 ประตู)

แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ อดีตมิดฟิลด์ของจิ้งจอกสยาม พูดถึง แฮร์รี เคน อดีตเพื่อนร่วมทีมสมัยเป็นดาวรุ่งว่า....

“แฮร์รี จะฝึกซ้อมการยิงประตูไม่หยุดหย่อน โดยหลังเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม และเขามักจะถามบรรดาผู้รักษาประตูเสมอว่า ซ้อมด้วยกันต่อได้ไหม เพราะเขายังอยากที่จะซ้อมต่อ

และถ้าหากวันไหน ไม่มีใครซ้อมต่อด้วยได้ แฮร์รี จะใช้วิธีเอาเสาไปวางไว้ที่มุมประตู เพื่อพยายามฝึกยิงประตูด้วยตัวเองทุกครั้ง!”

ส่วน “อลัน ดันน์” อดีตกองหลังเพื่อนร่วมทีมที่มิลล์วอลล์ เล่าว่า ตอนที่ “แฮร์รี่ เคน” พาเลสเตอร์ ซิตี้ มาลงเตะกับ มิลล์วอลล์ เขาพยายามยั่วโมโหเพื่อรบกวนสมาธิ “กัปตันทีมชาติอังกฤษ” หลายต่อหลายครั้ง

แต่ แฮร์รี่ เคน ในวัย 19 ปี กลับนิ่งเฉยและไม่เคยเสียสมาธิ รวมถึงยังกล้าพุ่งปะทะเพื่อแย่งบอลกับเขาอย่างดุเดือดตลอดทั้งเกมเสียด้วย!

ตำนานของ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ :

หลังกลับจากการยืมตัวของ เลสเตอร์ ในที่สุด “แฮร์รี่ เคน” ก็ได้รับโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองกับสโมสรทอตแนม ฮอตสเปอร์ โดยได้ลงเล่นเป็นตัวจริงครบ 90 นาทีครั้งแรก ในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2014/15 เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2014 หรือ 3 เดือนก่อนครบรอบวันเกิดอายุ 21 ปี

สำหรับ ผู้ให้โอกาสสำคัญนี้กับ “แฮร์รี เคน” ก็คือ “ทิม เชอร์วูด” อดีตผู้จัดการทีมทอตแนม ฮอตสเปอร์ ที่เฝ้ามองพัฒนาการของกองหน้าดาวรุ่งรายนี้มาโดยตลอด  

โดย “ทิม เชอร์วูด” กล่าวถึงเหตุผลที่ให้โอกาสกับ กองหน้าทีมชาติอังกฤษในครั้งนั้นว่า…

“การให้โอกาสแฮร์รี ลงเล่นเป็นตัวจริง นั้น ผมไม่รู้สึกว่าจะเป็นความเสี่ยงอะไรเลย ในทางกลับกัน ผมคิดว่ามันเกือบจะสายเกินไปด้วยซ้ำ เพราะการฝึกซ้อมในทุกวันนั้น แฮร์รี ทำผลงานได้ดีกว่า โรแบร์โต โซลลาโด้ กองหน้าตัวจริงของทีมในเวลานั้นเสียอีก

สำหรับผม แฮร์รี เหมือนเป็นส่วนผสมของ เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม และ อลัน เชียร์เรอร์ นั่น คือ นอกจากจะมีมันสมองในการอ่านเกม จ่ายบอลได้แม่นยำแล้ว ยังสามารถยิงประตูได้เฉียบคมด้วย!"

นับจากนั้นเป็นต้นมา “แฮร์รี เคน” ก็กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานของ “ทอตแนม ฮอตสเปอร์” ด้วยการทำสถิติ ลงเล่นรวมทุกรายการ 435 นัด ยิง 280 ประตู และอีก 63 แอตซิสต์ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ สโมสรบาเยิร์น มิวนิค ด้วยค่าตัว 100 ล้านยูโร ในฤดูกาล 2023/24  

และด้วยทัศนคติที่ มุ่งมั่น ซ้อมให้หนัก และไร้ซึ่งอีโก้ ที่ยังมีอยู่ในตัวเองอยู่เสมอ ในที่สุด “แฮร์รี เคน” ที่ 2 ฤดูกาลกับบาเยิร์น มิวนิก ลงเล่นทุกรายการรวม 90 นัด ยิง 81 ประตู กับอีก 24 แอตซิสต์ (สถิติ ณ วันที่ 10พ.ค.25) ก็บรรลุภาระกิจไขว่คว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ เป็นรางวัลของความทุ่มเททั้งชีวิตให้กับฟุตบอลได้เป็นผลสำเร็จ!

อ่านมาถึงบรรทัดนี้ จากบทความอันแสนยาวยืด “คุณ” มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง?

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :

ทำไมคนจีนเที่ยวไทยน้อยลง เวียดนามคู่แข่งที่น่ากลัวจริงไหม (ชมคลิป)

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สเกาเซอร์ผู้ชื่นชอบความท้าทาย (ชมคลิป)

สปริตและพลังงาน วาตารุ เอ็นโดะ นักเตะรับจบที่นำลิเวอร์พูลสู่แชมป์ (ชมคลิป)

Arne Slot WAY ตัวตนที่พาลิเวอร์พูลสู่แชมป์ (ชมคลิป)

ลิเวอร์พูลแชมป์ลีก20สมัย ความยืดหยุ่นสู่ความสำเร็จ (ชมคลิป)