วันอังคาร, สิงหาคม 19, 2568

ประวัติน้องตู้เย็น และความตั้งใจ ที่ใช้สยบดรามาโชเชียลมีเดีย

by Trust News, 19 สิงหาคม 2568

ประวัติน้องตู้เย็น และความตั้งใจ ที่ใช้สยบดรามาโชเชียลมีเดีย  

ท่ามกลาง “เสียงวิพากวิจารณ์มากมาย” ที่มีต่อ นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเวียดนาม ที่มีชื่อว่า “เหงียน ถิ บิช เตวียน (Nguyen Thi Bich Tuyen) หรือที่แฟนๆวอลเลย์บอลชาวไทย มักเรียกขาน “เธอ” จากชื่อภาษาอังกฤษ ในแบบถนัดปากถนัดคำ ว่า “น้องตู้เย็น"

“เรา” จึงได้ลองไปรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ “เธอ” ซึ่งได้ถูกรายงานผ่านสื่อต่างๆในประเทศเวียดนาม เพื่อพยายามค้นหา “คำตอบ” ในประเด็นข้อกังขาต่างๆนานา ที่บรรดาแฟนๆวอลเลย์บอลโลกให้ความสนใจ

รวมถึง "ข้อมูลทางวิชาการ" ที่อาจสามารถบ่งชี้ถึงความ “ได้เปรียบเสียเปรียบ” สำหรับการเล่นกีฬาอาชีพ ในกรณี “เพศกำกวม” (Intersex)? ตามที่มีผู้ตั้งข้อสงสัย

วันนี้ “เรา” จึงอยากชวน “คุณ” ไปร่วมกันพิจารณา “ข้อมูลที่น่าสนใจเหล่านั้น” ไปด้วยกัน!

 

ประวัติน้องตู้เย็น :

อ้างอิงจากรายงานของหลายๆสื่อในประเทศเวียดนาม ระบุตรงกันว่า “เหงียน ถิ บิช เตวียน (Nguyen Thi Bich Tuyen) เกิดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2000 ที่ จังหวัดวินห์ลอง (Vinh Long)

โดยตั้งแต่วัยเด็ก นั้น มีรายงานว่า เธอมีพัฒนาการทางด้านร่างกาย ที่เจริญเติบโตเร็วกว่าเด็กสาวในวัยเดียวกันมาโดยตลอด โดยเฉพาะส่วนสูงที่สูงกว่าเพื่อนๆที่อยู่วัยเดียวกัน โดยสื่อเวียดนามรายงานว่า เมื่ออายุเพียง 13 ปี เธอก็มีส่วนสูงถึง 173 เซนติเมตร แล้ว!  

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเริ่มหันเอาไปดีทางด้านการเล่นกีฬา โดยเฉพาะกีฬาวอลเลย์บอลและบาสเกตบอลที่ส่วนสูงจะช่วยให้เกิดความได้เปรียบคู่แข่ง อย่างไรก็ดีในเวลาต่อมาเธอ ก็ได้ตัดสินใจที่จะเลือกเล่นกีฬาวอลเลย์บอลในที่สุด  

ทั้งนี้ “น้องตู้เย็น” เริ่มมีชื่อเสียงในวงการวอลเลย์บอลเวียดนาม เมื่อตอนอายุ 17 ปี หลังลงเล่นให้กับ “ทีมวินห์ลอง เทเลวิชัน” (Vinh Long Television) ในศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์แห่งชาติเวียดนาม (Vietnam National Championship)

 

จนกระทั่ง ส่วนสูง 185 เซนติเมตร (ปัจจุบัน สูง 188 เซนติเมตร) และพลังกระโดดตบอันทรงพลังของเธอ ไปเตะตา “เฮดโค้ชมาร์ค บาร์นาร์ด” (Mark Barnard) แห่งทีมวอลเลย์บอลหญิง มหาวิทยาลัยโอเรกอน (Oregon State University) ซึ่งเป็นทีมลำดับต้นๆ ของ ศึกวอลเลย์บอลหญิงระดับมหาวิทยาลัยแห่งชาติสหรัฐ (National Collegiate Athletic Association) หรือ NCAA

จนถึงขั้นส่งเทียบเชิญ พร้อมข้อเสนอทุนการศึกษารวม 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (6.4ล้านบาท) เพื่อเชิญให้เธอมาฝึกฝนและโชว์ศักยภาพที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลา 4 ปี อย่างเป็นทางการ

ทั้งๆที่ ในปี 2017 นั้น “เธอ” ยังไม่เคยติดทีมชาติเวียดนาม รวมถึงยังไม่มีชื่อเสียงในวงการวอลเลย์บอลระดับชาติมากนัก เนื่องจาก ณ เวลานั้น “ทีมวินห์ลอง เทเลวิชัน” ต้นสังกัดของเธอยังเป็นเพียงทีมระดับกลางๆของลีก ที่มักวนเวียนอยู่กับการเลื่อนชั้นและตกชั้นอยู่เป็นประจำ

โดยสื่อของเวียดนาม รายงาน โดยระบุรายละเอียดในประเด็นนี้ เอาไว้ว่า...

อีเมล์ของ“มาร์ค บาร์นาร์ด” ที่ส่งถึง “เธอ” นั้น มีการแนะนำข้อมูลเบื้องต้นทีมวอลเลย์บอลหญิงมหาวิทยาลัยโอเรกอน รวมถึงรายละเอียดความสำเร็จ และรายชื่อนักกีฬาระดับท็อปของทีมที่คว้ารางวัลต่างๆมาแล้วมากมาย พร้อมกับแนะนำ ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยโอเรกอน ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงระดับโลกด้วย

อย่างไรก็ดี “เรื่องราวอันน่าเหลื่อเชื่อ” ก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อ “เธอ” ตัดสินใจ “ปัดข้อเสนออันยากปฏิเสธนี้” ไป

โดยสื่อหลายสำนักของเวียดนามรายงานตรงกันว่า “เบื้องหลังการตัดสินใจนี้ เป็นเพราะเธอได้รับ “แรงกดดัน” จากผู้นำท้องถิ่นในจังหวัดบ้านเกิด รวมถึงผู้หลักผู้ใหญ่ทีมต้นสังกัด ที่ต้องการให้เธออยู่เป็นกำลังสำคัญให้กับทีมต่อไป”

และแม้จะพลาดโอกาสสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตไป แต่หลังจากนั้นต่อมาไม่นาน “เธอ” ก็ได้รับโอกาสติดทีมชาติเวียดนามเป็นครั้งแรก และได้เข้าร่วมในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพ ในปี 2022 ก่อนจะพาทีม “คว้าเหรียญเงิน” หลังพ่ายให้กับ “ทีมชาติไทย” ในนัดชิงชนะเลิศ

 

จุดเปลี่ยนชีวิต :

ในช่วงต้นปี 2021 ได้เกิดเรื่องยุ่งๆขึ้น กับ เส้นทางวอลเลย์บอลของ “น้องตู้เย็น” เข้าจนได้ หลังฟอร์มการเล่นอันโดดเด่นที่ช่วยให้ “ทีมวินห์ลอง เทเลวิชัน” รอดการตกชั้นจากศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์แห่งชาติเวียดนามได้สำเร็จ ทำให้มีหลายทีม ทั้งใน V League 1 และทีมจากต่างประเทศสนใจอยากดึงเธอไปร่วมทีม

อย่างไรก็ดี “ทีมวินห์ลอง เทเลวิชัน” ซึ่งในเวลานั้น ยอมจ่ายค่าเหนื่อยให้เธอสูงถึง 50 ล้านดองต่อเดือน (62,000บาท) ไม่รวมโบนัส ซึ่งถือเป็นตัวเลขค่าเหนื่อยที่สูงเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศ ยังคงต้องการรั้งให้เธออยู่ช่วยทีมต่อไป

ด้วยเหตุนี้ “น้องตู้เย็น” ที่ในเวลานั้นอายุ 21 ปี จึงตัดสินใจครั้งสำคัญ ด้วยการ “ประกาศขอถอนตัวออกจากการแข่งขัน” เพื่อหวังบีบให้ต้นสังกัดเก่ายอมปล่อยเธอออกจากทีม จนสร้างความตกตะลึงไปทั่วทั้งประเทศเวียดนาม

ภายหลังจากมีรายงานว่า ... “ทีมนิญบิ่ญ โดเวโก” (Ninh Binh Doveco) หรือ ปัจจุบัน คือ “ทีมแอล พี แบงก์ นิญบิ่ญ” (LP BANK Ninh Binh) ยินดียอมจ่ายค่าเหนื่อย สูงถึง 70-80 ล้านดองต่อเดือน (87,000 - 99,000 บาท) ไม่รวมโบนัสและเงินค่าเซ็นสัญญาที่คาดว่าอาจสูงถึง 1,000 ล้านดอง (1.2ล้านบาท) ให้กับ “มือตบดินระเบิด” รายนี้

และนั่นเอง...จึงทำให้ “ทีมวินห์ลอง เทเลวิชัน” จำใจต้องปล่อยตัว “นักกีฬาที่ดีที่สุดของทีม” ไปให้กับ “ทีมแอล พี แบงก์ นิญบิ่ญ” ในที่สุด

 

เป้าหมายถูกวิจารณ์ :

หลังย้ายจาก “ทีมวินห์ลอง เทเลวิชัน” ไปสังกัด “ทีมนิญบิ่ญ โดเวโก” (Ninh Binh Doveco) หรือปัจจุบัน คือ “ทีมแอล พี แบงก์ นิญบิ่ญ” (LP BANK Ninh Binh) ในปี 2021 “น้องตู้เย็น” ซึ่งเดิมเคยไว้ผมยาวมาตั้งแต่เด็ก ได้ตัดสินใจตัดผมสั้นและฝึกฝนร่างกายให้แข็งแกร่ง

จนกระทั่งช่วยต้นสังกัดใหม่คว้าแชมป์วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์แห่งชาติเวียดนาม เป็นครั้งแรกได้สำเร็จในปี 2023 พร้อมกับกลายเป็นนักกีฬาที่ทำคะแนนรวมได้สูงสุดถึง 189 คะแนน และมีค่าเฉลี่ยประสิทธิภาพการตบทำคะแนน (Kill Percentage) มากกว่า 50% ด้วย!

ขณะที่ในช่วงฤดูกาลแรกของเธอ เมื่อปี 2021 นั้น “น้องตู้เย็น” เคยทำคะแนนได้สูงถึง 61 แต้ม ภายใน 5 เซตการแข่งขัน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ทำลายสถิติโลก “การทำคะแนนสูงสุดในแมชต์เดียว” ของ “เลโอนาร์โด เลย์วา” (Leonardo Leyva) นักวอลเลย์บอลชาย ทีมชาติคิวบา ของ “ทีมซัมซุง บูลแฟงส์” (Samsung Bluefanga) ที่เคยทำไว้ 59 คะแนนในนัดเดียว เมื่อปี 2013

หากแต่น่าเสียดายที่ การแข่งขันชิงแชมป์วอลเลย์บอลหญิงแห่งชาติเวียดนาม ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (Fédération Internationale de Volleyball) หรือ FIVB สถิติดังกล่าวจึงไม่ได้รับการรับรองจาก FIVB

อย่างไรก็ดี แม้จะสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น จนกลายเป็นทั้ง “ตัวหลักและเครื่องจักรทำคะแนน” ให้กับทีม หากแต่ในอีกด้านหนึ่ง “รูปลักษณ์ภายนอก” ที่เปลี่ยนแปลงไป ก็ได้ทำให้เริ่มมีเสียงวิพากวิจารณ์มากขึ้น

 

อย่างไรก็ดี หลายสื่อของเวียดนาม รายงานตรงกันว่าในทุกๆปี “ทีมแอล พี แบงก์ นิญบิ่ญ” ยังคงส่งรายชื่อของเธอเข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลทุกรายการในประเทศ รวมถึง สหพันธ์วอลเลย์บอลเวียดนาม ก็ยังคงรับรองสถานะความเป็น “นักกีฬาหญิง” ให้กับ “เธอ” ทุกๆปี

แม้ว่า...เสียงวิพากวิจารณ์ โดยเฉพาะจากนอกประเทศเวียดนาม จะเริ่มดังมากขึ้นทุกทีก็ตาม รวมถึงยังมักมีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เพราะเหตุใด “เธอ” จึงมัก “ปฏิเสธ” การถูกเรียกตัวติดทีมชาติ เวลาไปทำการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์สำคัญๆ นอกประเทศ เช่น การแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา , ศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชียและโอเชียเนีย , ศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย ,  การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชาเลนเจอร์คัพ และ ศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ในช่วงปี 2023

 

เหตุผลที่ไม่ติดทีมชาติ :

สำหรับ เหตุผลที่ทำให้ “น้องตู้เย็น” พลาดการติดทีมชาติเวียดนามไปเล่นในต่างแดน ทั้งๆที่ เริ่มมีชื่อเสียงโดดเด่นในวงการวอลเลย์บอลเวียดนาม ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา นั้น…

หลายสื่อในเวียดนาม รายงานว่า ในปี 2019  เหตุผลที่ทำให้ “น้องตู้เย็น” พลาดการติดทีมชาติไปร่วมการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 30 ซึ่งประเทศฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ เป็นเพราะ “ทีมวินห์ลอง เทเลวิชัน” ต้นสังกัดเดิมของ “เธอ” ระบุว่า นักกีฬาสาวรายนี้ มี “อาการบาดเจ็บหมอนรองกระดูกและกระดูกสันหลังเคลื่อน”

ส่วนการแข่งขันซีเกมส์ครั้งต่อมา ที่ เวียดนามเป็นเจ้าภาพนั้น โค้ชทีมชาติเวียดนาม ระบุว่า แม้ “น้องตู้เย็น” จะติดทีมชาติ แต่ก็ต้องลงเล่นด้วยสภาพร่างกายที่ฟิตเพียง 70% เท่านั้น เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้องท้องฉีกขาด

ขณะเดียวกัน สื่อเวียดนาม ยังรายงานด้วยว่า “ปัจจัยสำคัญ” นอกเหนือจาก “อาการบาดเจ็บ” ที่ทำให้ “น้องตู้เย็น” พลาดการติดทีมชาติเวียดนาม ไปลงเล่นในทัวร์นาเมนท์ต่างประเทศ ร่วม 2 ปี นับตั้งแต่ปี 2022 จนถึงปี 2023 ก็เป็นเพราะ “สภาพจิตใจอันบอบช้ำ” จากเสียงวิพากวิจารณ์อย่างรุนแรง เกี่ยวกับ “ลักษณะทางกายภาพของเธอ” บนโลกโชเชียลมีเดีย ที่มาจากนอกประเทศเวียดนาม

นอกจากนี้ “อาการบาดเจ็บหมอนรองกระดูกและกระดูกสันหลังเคลื่อน” ที่ติดตัวมาตั้งแต่วัยรุ่น ยังมักทำให้ “เธอ” ต้องพลาดการลงเล่นในทัวร์นาเมนท์สำคัญอยู่เสมอๆ ด้วย

 

เพศสภาพน้องตู้เย็น :

หลายสื่อของเวียดนาม รายงานตรงกันว่า บรรดาคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นทั้ง โค้ช , คนในครอบครัว , หรือ เหล่าเพื่อนๆ ล้วนแล้วแต่ยืนยันว่า “น้องตู้เย็น” เป็น “ผู้หญิง” และคนเหล่านี้ต่างรู้สึกโกรธและเสียใจ กับการที่มีผู้สร้างข่าวลือ และวิพากวิจารณ์ประเด็นนี้อย่างรุนแรง จนถึงขั้นเรียกร้องให้เธอไป “ตรวจเพศสภาพ” นับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา

ขณะเดียวกัน ทั้งเจ้าของทีมและผู้หลักผู้ใหญ่ในสหพันธ์วอลเลย์บอลเวียดนาม ยังได้ตั้งข้อสังเกตถึงประเด็นเพศสภาพ ที่ลุกลามบานปลาย มาจนถึงเวลานี้ เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า...

ปัจจัยสำคัญน่าจะมาจากการที่ เธอ ตัดสินใจตัดผมสั้น เมื่อตอนอายุ 20 ปี ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไว้ผมยาวมาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อประกอบเข้ากับ ลักษณะทางกายภาพ รวมถึงความชื่นชอบสไตล์การแต่งตัวคล้ายเด็กผู้ชาย จึงได้ทำให้เกิด “ความเข้าใจผิด” มาจนถึงปัจจุบัน

ด้าน “น้องตู้เย็น” เมื่อถูกสื่อพยายามสอบถามว่าประเด็นดังกล่าว สร้างผลกระทบต่อการเล่นวอลเลย์บอลของเธอหรือไม่?…. คำตอบที่มักได้รับกลับมา คือ…

“เธอพยายามที่จะไม่สนใจเรื่องราวดรามาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกโชเชียลมีเดีย และเธอยังคงมุ่งมั่นที่จะฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันที่จะมาถึงอยู่เสมอเท่านั้น”  

ทั้งนี้ “น้องตู้เย็น” ถือเป็น “นักกีฬาดาวเด่น” ของเวียดนาม ที่ไม่เคยมีเรื่องอื้อฉาวใดๆ อีกทั้ง ยังเลือกใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย แม้จะได้รับค่าเหนื่อยสูงมาก รวมถึงไม่ค่อยสนใจที่จะเล่นโชเชียลมีเดีย เหมือนกับนักกีฬาวัยรุ่นทั่วๆไปด้วย  

 

โดยครั้งหนึ่ง ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อเวียดนาม “น้องตู้เย็น” พูดถึงชีวิตอันเรียบง่ายของเธอเอาไว้อย่างน่าชื่นชมว่า…

“เมื่อตอนอายุ 22 ปี เธอมักพยายามขออนุญาตโค้ชต้นสังกัดเก่า คือ “ทีมวินห์ลอง เทเลวิชัน” หยุดซ้อมหนึ่งวัน เพื่อหาโอกาสนำเงินกลับไปให้คุณแม่ช่วยเก็บรักษาไว้ เพราะเธอเอง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า จะเอาเงินมากมายนี้ ไปซื้ออะไร

นอกจากนี้ เธอยังมักเลือกที่จะเหลือเงินเอาไว้ สำหรับจับจ่ายใช้สอยส่วนตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากทีมต้นสังกัด เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องค่าอาหารการกิน และค่าที่พักให้อยู่แล้ว  

อย่างไรก็ดี เนื่องจากทั้งโปรแกรมการแข่งขันและการฝึกซ้อมที่แทบไม่มีเวลาว่างเหลือมากนัก เธอจึงมีโอกาสสำหรับเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัว ได้เพียง 1 ครั้ง ในทุกๆ 7-8 เดือนเท่านั้น”

น้องตู้เย็น Come Back :

หลังหายหน้าหายตาไปจาก ทีมชาติเวียดนาม ร่วม 2 ปี เมื่อสภาพจิตใจของ “น้องตู้เย็น” กลับมาแข็งแกร่งขึ้น จนกระทั่งกลับไปลงเล่นให้กับทีมชาติเวียดนามอีกครั้ง ตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นมา

“เธอ” พาทีมชาติเวียดนาม สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์ศึกวอลเลย์บอลหญิงทวีปเอเชียและโอเชียเนีย , อันดับ 3 FIVB Challenger Cup , รองแชมป์ SEA V.League, และ รองแชมป์ VTV Cup

ขณะที่ผลงานส่วนตัว นั้น “น้องตู้เย็น” ยังคว้าได้ทั้งรางวัล All-round player และ Best setter ประจำทัวร์นาเมนท์ศึกวอลเลย์บอลหญิงทวีปเอเชียและโอเชียเนีย , รางวัลผู้เล่นที่ทำคะแนนได้สูงสุด (77คะแนน) ในศึก FIVB Challenger Cup ด้วย

โดย “น้องตู้เย็น” ในวัย 24 ปี ได้เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อเวียดนามถึงการ Come Back อย่างยิ่งใหญ่นี้ว่า…

“ดิฉันรู้สึกเติบโตขึ้นทั้งในแง่ของสภาพจิตใจและความสามารถทางร่างกาย ดิฉันมีสมาธิกับการแข่งขันและความมั่นใจที่จะเอาชนะคู่แข่งมากขึ้น ดิฉันรู้สึกว่าตัวเองมีความกล้าหาญ ที่จะเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เหนือกว่า โดยเฉพาะกับทีมที่มีผู้เล่นสูงใหญ่

มันเป็นปีที่ ดิฉันมีความสุขกับรางวัลต่างๆที่ได้รับ และคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่ควรมีความมั่นใจในเรื่องการแสดงความเป็นตัวตนของตัวเอง

ในอดีต บางครั้งดิฉันเคยวิตกกังวลกับบางเรื่อง เสียจนส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ แต่แล้วเมื่อตระหนักได้ว่า แม้จะมีบางคนที่พูดไม่ดีเกี่ยวกับดิฉัน หากแต่ในทางกลับกัน ก็ยังมีผู้คนอีกหลายต่อหลายคนที่ยังคงรักและคอยให้การสนับสนุนดิฉันด้วยเช่นกัน

ดิฉัน จึงคิดว่า ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น ด้วยการฝึกฝนและความตั้งใจที่มากขึ้นให้ได้”

** หมายเหตุ เป็นการรวบรวม มาจากสำนักข่าวเหงือย ลาว ด่ง , บ้าว เยิง เวียด , เยิง ตรี้
และ เยิง เวียด ของ ประเทศเวียดนาม ** 

เพศกำกวม (Intersex) :

อ้างอิงจาก “สถาบันวิจัยฮัดสัน” (Hudson Institute) ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า “เพศกำกวม” เป็นคำที่ใช้เรียกบุคคลที่มีอวัยวะสืบพันธุ์ กายวิภาคทางเพศ หรือ รูปแบบโครโมโซมแตกต่างจากข้อจำกัดความทางชีววิทยาของเพศชาย หรือ เพศหญิง 

อย่างไรก็ดี การมีเพศกำกวมเป็นความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของมนุษย์ ไม่ถือเป็น “ความผิดปกติ” แต่อย่างใด 

โดยเบื้องต้น อ้างอิงข้อมูลจาก สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Right Office of the High Commissioner) หรือ OHCHR ระบุว่า มีประชากรมากถึง 1.7% เกิดมาพร้อมกับภาวะเพศกำกวม

ประเภทของภาวะเพศกำกวม 

1. 46, XX intersex : 

มีโครโมโซมและรังไข่เช่นเดียวกับเพศหญิง แต่อวัยวะเพศภายนอกปรากฏเป็นเพศชาย สำหรับกรณีนี้ อาจเกิดจากการได้รับฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป ก่อนเกิด 

2. 46, XY intersex : 

มีโครโมโซมเพศชายแต่อวัยวะเพศภายนอกมีรูปแบบไม่สมบูรณ์ หรือไม่ชัดเจน หรือเป็นเพศหญิง แต่มีอัณฑะผิดรูปแบบ หรือขาดหายไป สำหรับกรณีนี้ อาจเกิดจากปัญหาฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) หรือฮอร์โมนเพศชาย และพัฒนาการอื่นๆ ของทารกในครรภ์ 

3. Sex Chromosomes intersex : 

อาจมีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของโครโมโซมหลายรูปแบบที่ส่งผลต่อพัฒนาการทางเพศ แต่ไม่ก่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างอวัยวะเพศภายในและภายนอก แต่อาจเกิดปัญหากับระดับฮอร์โมนเพศและพัฒนาการทางเพศโดยรวม

ความชุกของเพศกำกวม :

“ความแตกต่างในด้านพัฒนาการทางเพศ” (Differences in Sex Development) หรือ DSD ในกลุ่ม XY DSD (มีโครโมโซมเพศชายแต่อวัยวะเพศภายนอกมีรูปแบบไม่สมบูรณ์ หรือไม่ชัดเจน หรือเป็นเพศหญิง) ในกลุ่มประชากรทั่วไป คาดว่าอยู่ที่อย่างน้อย 1 คนต่ออัตราการเกิด 20,000 คน 

แต่หากนำไปเปรียบเทียบความชุกของภาวะดังกล่าวในกลุ่มนักกีฬาหญิงที่เข้าร่วมการแข่งขันในระดับโลกจะอยู่ที่ประมาณ 7 คน ในนักกีฬาหญิง 1,000 คน หรือ “สูงกว่าในอัตราในกลุ่มประชากรทั่วไปถึง 140 เท่า!”

หมายเหตุ : อ้างอิงจากรายงาน “ภาวะฮอร์โมนแอนโดรเจนสูงผู้หญิงและนักกีฬาชั้นยอด” (Female Hyperandrogenism and Elite Sport) ของ พญ.แอนเจลิกา ลินเดน เฮิร์ชเบิร์ก “Angelica Linden Hirschberg” สูตินรีแพทย์ชาวสวีเดน ของ Karolinska Institutet ซึ่งเผยแพร่ในปี 2019

ฮอร์โมนเพศชายในร่างหญิง :

จริงหรือที่ว่า?…  “ความแตกต่างในด้านพัฒนาการทางเพศ” (Differences in Sex Development) หรือ DSD ทำให้เกิดความได้เปรียบ-เสียเปรียบ ในการแข่งขันกีฬา?  

ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรือ ฮอร์โมนเพศชาย :

ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) เป็นฮอร์โมนที่ผลิตโดยอัณฑะ (Testis) ซึ่งเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้ชาย เป็นฮอร์โมนที่นอกจากจะช่วยส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศแล้ว ยังส่งผลต่อการทำงานส่วนอื่นๆ ของร่างกาย โดยช่วยในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และลดระดับไขมันสะสมในร่างกาย 

ทำให้ในด้านหนึ่ง จึงถูกมองว่าถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ “การสร้างความสำเร็จ” ในการเล่นกีฬาบางประเภทที่ต้องอาศัยพละกำลัง

ด้วยเหตุนี้ในอดีต “ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน” จึงถือเป็น “สารต้องห้าม” สำหรับวงการกีฬา

โดยจากการศึกษาวิจัยของ “สหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ” (World Athletics) ซึ่งในอดีตมีข้อพิพาทมากมายกับ “นักกีฬาหญิงที่เข้าข่าย DSD” รวมถึงเคยพ่ายแพ้ต่อศาลอนุญาโตตุลาการการกีฬามาแล้ว  

พบว่า นักกีฬาหญิงที่มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูง สามารถทำผลงานได้ดีกว่านักกีฬาเพศหญิงที่มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำกว่า ในกีฬาบางประเภท เช่น การแข่งขันวิ่งระยะ 400 เมตร และ 800 เมตร, กีฬาขว้างค้อน และกระโดดค้ำถ่อ 
อย่างไรก็ดี ในกรณีกีฬาประเภทอื่นๆ เช่น การแข่งขันวิ่งระยะ 1,500 เมตร กลับ “ไม่พบความแตกต่างที่มีนัยสำคัญ”

ด้วยเหตุนี้ มันจึงยังคงเป็น “ข้อถกเถียง” ที่ยังไม่มีข้อสรุปได้อย่างชัดเจนว่า “ฮอร์โมนเพศชาย” ทำให้เกิดความได้เปรียบหรือเสียเปรียบในการแข่งขันกีฬา เนื่องจาก “ยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์รองรับได้มากพอ” รวมถึงการศึกษาวิจัยยังขาดแคลนกลุ่มตัวอย่างที่จะเข้าร่วม

อีกทั้งที่ผ่านมายังเป็นเพียงเฉพาะ “การศึกษาเชิงสังเกต” (Observational Studies) และไม่มีการเปรียบเทียบกับ “กลุ่มควบคุม” (Control Group) โดยตรงแต่อย่างใด 

หมายเหตุ : อ้างอิงจากรายงาน “ประสิทธิภาพและความเป็นเลิศทางกีฬา และนักกีฬาที่มีความแตกต่างในด้านการพัฒนาการทางเพศ” (Performance, Inclusion and Elite Sports-Athletes with Differences in Sex Development) ของ ดร.ซาลาห์ บุนน์ (Dr.Sarah Bunn) ซึ่งมีการเผยแพร่โดยรัฐสภาสหราชอาณาจักร เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2022

อ่านมาถึงบรรทัดนี้ จากบทความอันแสนยาวยืด “คุณ” มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง? 

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :

สำรวจวงจรเชื่อมผลประโยชน์ สายใยที่ยึดโยงตระกูลฮุน (ชมคลิป)

สำรวจวีรเวร ที่ไม่ ใช่วีรกรรม BHQ องค์รักษ์ประจำตัว ฮุนเซน (ชมคลิป)

เรียนรู้ถึงตัวตนของฮุนเซน ผ่านการดิ้นรนเพื่อไปสู่อำนาจ (ชมคลิป)

จับ กริพเพน เทียบ F-35 และแนวคิดพึ่งตัวเองของสวีเดน (ชมคลิป)

อาวุธข่มขวัญทางยุทธศาสตร์ เครื่องบินล่องหน B-2 Spirit (ชมคลิป)


You might be intertested in this news.

Mostview

สำรวจวงจรเชื่อมผลประโยชน์ สายใยที่ยึดโยงตระกูลฮุน (ชมคลิป)

สำรวจวงจรเชื่อมผลประโยชน์ สายใยที่ยึดโยงตระกูลฮุน (ชมคลิป)

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (14ส.ค.68) ดีดตัวระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองคําวันนี้ (14ส.ค.68) ดีดตัวระยะสั้น

ภาษีทรัมป์ความเสี่ยงเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2

ภาษีทรัมป์ความเสี่ยงเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้(18ส.ค.68) Sideway Down

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้(18ส.ค.68) Sideway Down

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ส.ค.2025)

8 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (18ส.ค.2025)

TrustNEws Line