ไม่ปิดโอกาสจึงเป็น1ใน3% เธอผู้นี้ชื่อ เมลานี คลูสเนอร์
by Trust News, 10 มีนาคม 2568
ไม่ปิดโอกาสจึงเป็น1ใน3% เธอผู้นี้ชื่อ เมลานี คลูสเนอร์
อ้างอิงข้อมูลจากฐานทัพอากาศ Kingsley Field ระบุว่า ณ ปี 2023 กองทัพอากาศสหรัฐมีจำนวนนักบินหญิง ที่ขับเครื่องบินขับไล่เพียง 103 นายเท่านั้น!
ในขณะที่ จำนวนนักบินที่เข้าสู่การประเมินของกองทัพอากาศสหรัฐรวม 10,964 นายในปี 2024 มีเพียง 708 นาย หรือ 6.5% เท่านั้น ที่เป็น “ผู้หญิง” และในจำนวนนี้ มีเพียง 21 คนหรือคิดเป็นเพียง 3% เท่านั้น ที่ได้ขับเครื่องบินขับไล่!
และหนึ่งในจำนวนนั้น “เธอ” มีชื่อว่า “นาวาอากาศตรี เมลานี (มัค) คลูสเนอร์” (Melanie ‘Mach’ Kluesner) ผู้บังคับหน่วยบิน F-35 Demonstration Team นักบินสาวแสนสวยและเพียบพร้อมไปด้วยกริยามารยาทอันงดงาม ซึ่งได้ขับเครื่องบินขับไล่ล่องหนยุคที่ 5 สมรรถนะสูงประจำกองทัพอากาศสหรัฐ อย่าง F-35A มา “ตกหัวใจของชาวไทย” ในงาน Air Show กองทัพอากาศครบรอบ 88 ปี ไปได้เต็มๆ
เจ้าของนามเรียกขาน “มัค” ผู้นี้ มีอะไรที่น่าสนใจนอกเหนือไปจากการขับเครื่องบินรบที่ทันสมัยที่สุดในโลกบ้างนะ?
วันนี้ “เรา” เลยลองไปสืบเสาะข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ “นักบินรบสาวแกร่ง” ผู้นี้ มาให้ “คุณ” ได้ลองพิจารณากันดู
1. คุณรู้หรือไม่? นาวาอากาศตรี เมลานี คลูสเนอร์ มี DNA ทหารอยู่ในสายเลือดอย่างเต็มเปี่ยม :
นาวาอากาศตรี เมลานี คลูสเนอร์ ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้บังคับหน่วยบิน F-35 Demonstration Team เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2024 ที่ผ่านมา เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อในสหรัฐฯ โดยระบุว่า...ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ รวมถึงปู่ย่าตายาย และผู้คนแวดล้อมต่างๆส่วนใหญ่ ล้วนแล้วแต่เคยผ่านการทำงานรับใช้ประเทศชาติมาแล้วทั้งสิ้น
โดยคุณปู่และคุณย่าของเธอ เป็นช่างซ่อมเครื่องบินและพยาบาลให้กับกองทัพอากาศส่วนคุณพ่อเป็นนักบินประจำเครื่องบิน F-16 ขณะที่คุณแม่เป็นนักบินประจำเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงหลัก KC-135 ส่วนลุงของเธอเป็นนักบินเครื่องบินลำเลียง C-130 ของกองทัพอากาศสหรัฐ เช่นกัน
ไม่เพียงเท่านั้น สามีเธอยังเติบโตมาในครอบครัวทหารด้วย โดยเฉพาะคุณปู่ของเขา เคยเป็นนายทหารระดับสูงประจำฐานทัพอากาศจอร์จ รวมถึงผ่านสมรภูมิเวียดนาม ด้วยการเป็นนักบิน เครื่องบิน F-4 Phantoms มาแล้ว
2. แรงกระตุ้นที่ทำให้ “มัค” อยากเป็นนักบิน? :
นาวาอากาศตรีเมลานี เคยบอกเล่าถึงแรงบัลดาลใจที่ทำอยากเป็นนักบิน เครื่องบินขับไล่ เอาไว้ว่า...
“เมื่อตอนดิฉันอายุ 7 ปี พ่อกับแม่พาดิฉันไปดูเกมอเมริกันฟุตบอลของโรงเรียนนายเรืออากาศสหรัฐ (United States Air Force Academy) เมื่อเครื่องบิน F-16 บินผ่านสนามกีฬา
ดิฉันมองไปที่พ่อและแม่ก่อนจะพูดว่า… วันหนึ่งหนูจะเป็นแบบนั้น ตอนนั้นดิฉันจำได้แค่ว่า มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ตัวเองเคยได้เห็นมา เพราะมันเป็นงานที่หากมีใครสักคนสามารถทำได้ มันต้องสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุด จากนั้นเป็นต้นมา ดิฉันจึงตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า จะต้องเป็นนักบินเครื่องบินขับไล่ให้ได้”
3. Mindsets ของแม่ ที่ทำให้มุ่งมั่นต่อการเป็นนักบินหญิงประจำกองทัพสหรัฐ :
“คุณแม่ของดิฉัน ซึ่งเป็นผู้หญิงรุ่นแรกที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรืออากาศสหรัฐ มี Mindsets อันเข้มแข็งที่ว่า ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นใคร หากคุณสามารถแสดงตัวตนและผลงานออกมาให้เห็นได้ คุณก็สามารถทำทุกอย่างที่คุณปราถนาให้สำเร็จจนลุล่วงได้
ดิฉัน จึงได้นำ Mindsets นี้มาใช้ เพราะไม่ว่าจะเป็นในห้องนักบินหรืออาชีพนักบิน ไม่มีใครสนใจว่าคุณจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย พวกเขาแค่ต้องการให้คุณเป็น Wingman ที่ดี
ตลอดอาชีพของดิฉัน เวลาที่มองไปรอบๆห้อง ดิฉันพบว่าตัวเองเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว ดิฉันจึงเตือนตัวเองอยู่เสมอๆว่า ไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งนี้มากกว่าตัวเอง ฉะนั้นตราบใดก็ตามที่ไม่ให้เรื่องนี้เข้ามารบกวนในหัว มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร”
4. ประสบการณ์การบินของ นาวาอากาศตรี เมลานี คลูสเนอร์ :
อ้างอิงจากเว็ปไซต์ กองบินขับไล่ที่ 388 ฐานทัพอากาศฮิลล์ รัฐยูทาห์ (388th Fighter Wing) หลังจบการศึกษาหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสหการและระบบ (Bachelor of Engineering (Industrial and Systems Engineering) จากมหาวิทยาลัยเซาท์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย ในปี 2014
“มัค” ได้เข้าประจำการในกองทัพอากาศสหรัฐเมื่อปี 2015 และผ่านการขับเครื่องบินขับไล่มาแล้วหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบิน T-6A Texan II , T-38 Talon , F-16 , F-35B และ F-35A โดยปัจจุบันมีชั่วโมงบินสะสมมากกว่า 800 ชั่วโมงแล้ว
สำหรับภาระหน้าที่ ณ ปัจจุบัน ในฐานะผู้บังคับหน่วยบิน F-35 Demonstration Team กองบินขับไล่ที่ 388 ซึ่งประจำการอยู่ที่ ฐานทัพอากาศฮิลล์ รัฐยูทาห์ (ซึ่งเป็นฐานทัพอากาศเดียวกันกับที่คุณพ่อของเธอเคยประจำการในฐานะนักบิน F-16) นั้น นาวาอากาศตรี เมลานี คลูสเนอร์ ต้องรับผิดชอบทีมงานซ่อมบำรุงและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนรวม 14 นาย ที่ต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจทั่วโลกแล้ว
เธอยังต้องรับผิดชอบภารกิจเสริมของทีม ด้วยการเป็นผู้นำทีมเดินทางไปจัดแสดงขีดความสามารถทางการรบของเครื่องบินรบ F-35A ทั่วโลกในแต่ละปีด้วย
5. เปลี่ยนจาก F-16 เป็น F-35? :
ภาระกิจแรกในฐานะนักบินรบ “นาวาอากาศตรี เมลานี” ถูกส่งไปประจำการที่ฐานทัพอากาศในประเทศเกาหลีใต้ โดยในช่วงเวลานั้น เธอได้ขับเครื่องบินรบ F-16 ซึ่งเป็นเครื่องบินรบรุ่นเดียวกับที่พ่อของเธอเคยบินในช่วงยุค 80
ต่อมาเมื่อกองทัพอากาศสหรัฐ ต้องการนักบินจากเครื่องบิน F-16 ที่มีประสบการณ์จำกัด เพื่อให้สามารถเปลี่ยนมาขับเครื่อง F-35 ซึ่งเป็นเครื่องบินรบรุ่นใหม่ได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้ “มัค” จึงได้รับโอกาสอันท้าทายนี้ และเธอก็สามารถคว้ามันมาไว้ในมือได้สำเร็จ
6. ขีดความสามารถในฐานะนักบินขับไล่ของ “มัค” :
ก่อนให้สัมภาษณ์กับสื่อในสหรัฐฯ เมื่อเดือนมีนาคมปี 2024 “มัค” ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้บังคับหน่วยบิน F-35 Demonstration Team ได้นำเครื่อง F-35 โชว์การบินตรงขึ้นสู่ท้องฟ้าที่ระดับความสูง เท่ากับ 3 สนามฟุตบอล ภายในระยะเวลาเพียง 1 วินาที ก่อนจะนำเครื่องพลิกกลับหัวในทันที จนสร้างความตื่นตะลึงให้กับสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอชมฝีมือของนักบินหญิงผู้นี้มาแล้ว
ทั้งนี้ “มัค” เคยให้สัมภาษณ์ยอมรับด้วยว่า เทคนิกการบินที่เธอชื่นชอบมากที่สุดคือ “ท่าบินกลับหัว” (Upside Down)
นอกจากนี้ สิ่งที่เธอมักพยายามใช้อธิบายถึงความยากลำบากในการฝึกฝน เพื่อเชิญชวนให้เหล่าหญิงสาว มาสมัครเป็นนักบินเครื่องบินขับไล่ด้วยกัน คือ...
“ไม่ควรปิดกั้นโอกาสใดๆ เพราะในตอนที่ดิฉันเป็นเด็ก ดิฉันมักพยายามเลือกสิ่งที่ยากที่สุดเท่าที่จะทำได้เสมอ เพราะการเลือกที่จะท้าทายตัวเองอยู่เสมอนั้น มักทำให้ดิฉันมีโอกาสมากขึ้น
ขณะเดียวกัน การขับเครื่องบินขับไล่ มันก็เป็นเพียงแค่การนั่งรถไฟเหาะตีลังกา ที่คุณเป็นคนขับมันด้วยตัวเองเท่านั้น”
7. นักบินหญิงของกองทัพสหรัฐคนแรก ที่ได้ขับเครื่อง F-35 :
รู้หรือไม่? นาวาอากาศตรี เมลานี คลูสเนอร์ ไม่ใช่นักบินหญิงคนแรกที่ได้ขับเครื่อง F-35 เพราะ “หญิงแกร่งคนแรก” ที่ทำได้ คือ “นาวาอากาศโทคริสทิน มอล” (Christine Mau)
โดย “นาวาอากาศโทคริสทิน มอล” บุคคลแห่งตำนานและผู้มีอิทธิพลอย่างสูงให้เหล่าหญิงสาวชาวอเมริกัน สมัครเข้าเป็นนักบินรบในกองทัพสหรัฐมากขึ้น นั้น ได้ขับเครื่อง F-35 Lightning II ในปี 2015 ก่อนจะสิ้นสุดการรับใช้ชาติในปี 2017 ด้วยชั่วโมงการบินรบมากกว่า 500 ชั่วโมง
ทั้งนี้ “นาวาอากาศโทคริสทิน มอล” ซึ่งใฝ่ฝันอยากเป็นนักบินขับไล่ให้กับกองทัพสหรัฐมาตั้งแต่ 5 ขวบ และใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อไปให้ถึงความฝันนั้น ด้วยการเข้าเรียนที่โรงเรียนนายเรืออากาศสหรัฐได้สำเร็จ
แต่เนื่องจากในยุคนั้น กองทัพสหรัฐยังมีกฎห้ามไม่ให้ “ผู้หญิง” บินเครื่องบินขับไล่ เธอจึงต้องอดทนเพื่อเฝ้ารอโอกาส จนกระทั่งในวันที่ 28 เมษายน ปี 1993 กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้มีคำสั่งยกเลิกกฎดังกล่าว “นาวาอากาศโทคริสทิน มอล” จึงเข้ารับการฝึกหนักเพื่อทำความฝันของเธอให้เป็นจริง จนกระทั่งได้รับตำแหน่งนักบินประจำเครื่องบินรบ F-15E ซึ่งเป็นเครื่องบินรบประสิทธิภาพสูงของกองทัพสหรัฐ
ทั้งนี้ นอกจากนาวาอากาศโทคริสทิน จะเคยขับ F-15E เข้าสู่สมรภูมิที่อิรัค
อิรักแล้ว เธอยังเคยสร้างเกียรติประวัติครั้งสำคัญ ด้วยการสร้างประวัติศาสตร์ “นำทีมหญิงล้วน” ปฏิบัติภารกิจสำคัญในสมรภูมิที่อัฟกานิสถานด้วย
อ่านมาถึงบรรทัดนี้ จากบทความอันแสนยาวยืด “คุณ” มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง?
** หมายเหตุ เป็นการรวบรวมจากบทสัมภาษณ์ของ เมลานี คลูสเนอร์ ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆในสหรัฐ **
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :
What If? รัสเซียVSนาโต จำลอง3ฉากทัศน์การเผชิญหน้า
ยุโรปจะรับมือรัสเซียอย่างไร ในวันที่สหรัฐฯหันหลังให้
RareEarthบำเหน็จสงคราม สำคัญต่อสหรัฐฯแค่ไหน?
You might be intertested in this news.
Mostview
ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น
ถอดรหัส ข้าคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จริงหรือ? ต้องได้เป็นตัวจริงเท่านั้น
รีวิวหนัง Eternity สามรัก หนึ่งนิรันดร์
ถ้าโลกหน้ามีจริง คุณจะเลือกอยู่กับใคร เมื่อต้องเลือกระหว่าง อดีตสามีที่ตายไปก่อนหลายสิบปี กับสามีที่อยู่ด้วยกันมานานจนตายไปด้วยกัน...?
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (17ธ.ค.68) Sideway Up เก็งกำไรในกรอบ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ
แนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ (18ธ.ค.68) Sideway Up รอซื้อตามแนวรับ
6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)
6 ประเด็นสำคัญต้องรู้ ก่อนคิดลงทุนวันนี้ (17ธ.ค.68)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง