เปิดประวัติตู้แช่เวียดนาม การต่อสู้ที่อาจมาถึงจุดจบ

ในตอนที่แล้ว “ประวัติน้องตู้เย็น และความตั้งใจ ที่ใช้สยบดรามาโชเชียลมีเดีย”  เรา ได้พา “คุณ” ไปสำรวจข้อมูลต่างๆ เพื่อพยายามแสวงหา “คำตอบ” จากเสียงวิพากวิจารณ์ต่างๆ ที่มีต่อ “เหงียน ถิ บิช เตวียน (Nguyen Thi Bich Tuyen) นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติเวียดนาม ที่ ชาวไทย มักเรียกอย่างคุ้นปากคุ้นคำว่า “น้องตู้เย็น” กันไปแล้ว

วันนี้ “เรา” จึงอยากชวน “คุณ” ไปทำความรู้จักและสำรวจข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ อีกหนึ่งนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติเวียดนาม ที่ถูก “ตั้งคำถาม” เดียวกันกับ “น้องตู้เย็น” อย่าง “ดั่ง ธิ ฮอง” (Dang Thi Hong) หรือ ที่แฟนๆวอลเลย์บอลไทย เรียกเธอว่า “น้องตู้แช่” ซึ่งได้ถูกรายงานผ่านสื่อต่างๆในประเทศเวียดนามกันดูบ้าง

“เผื่อว่าบางที” ….ข้อมูลจากสื่อเวียดนาม อาจพอมี “คำตอบ” สำหรับ “คำถามต่างๆนานา” ที่แฟนๆวอลเลย์บอลโลก กำลังให้ความสนใจอยู่ในเวลานี้ ก็เป็นได้?

แรงบันดาลใจ :

อ้างอิงข้อมูลจาก “สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ” (Fédération Internationale de Volleyball) หรือ FIVB ระบุว่า “ดั่ง ธิ ฮอง” (Dang Thi Hong) หรือ “น้องตู้แช่” เกิดเมื่อวันที่ 12ส.ค.2006 ปัจจุบันอายุ 19 ปี สูง 172 เซนติเมตร

ขณะที่ สื่อในประเทศเวียดนาม รายงานถึงจุดเริ่มต้น การเล่นวอลเลย์บอล ของ “น้องตู้แช่” เอาไว้ว่า…

“น้องตู้แช่” เป็นชาวเผ่าเย้า ที่เกิดในหมู่บ้านสลัมเว จังหวัดบั๊กกั่น ซึ่งเป็นพื้นที่ทุรกันดารและยากจน ของ ประเทศเวียดนาม ด้วยเหตุนี้ เธอจึงต้องเดินเท้าเป็นระยะทางไกลถึง 15 กิโลเมตร ตามถนนลูกรัง เพื่อไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนท้องถิ่นในช่วงชั้นมัธยมต้น

สำหรับแรงบันดาลใจ ที่ทำให้อยากเล่นวอลเลย์บอล ในวัยเด็ก นั้น “น้องตู้แช่” เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อเวียดนามเอาไว้ว่า…

“ดิฉันรู้จักกีฬาวอลเลย์บอลครั้งแรก ตอนเรียนชั้นมัธยมต้น ตอนนั้น ดิฉันสูงกว่าเพื่อนคนอื่นๆ ทำให้ได้เปรียบเวลาเรียนวิชาวอลเลย์บอล จนกระทั่งทำให้ดิฉันรู้สึกชื่นชอบกีฬาชนิดมากขึ้น และทำให้ในเวลาต่อมา ดิฉันจึงได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันในทัวร์นาเม้นต์ต่างๆ ตั้งแต่ระดับอำเภอและระดับจังหวัด

จากนั้น เมื่อเรียนจบชั้นมัธยม 3 ได้ทราบจากคนรู้จักคนหนึ่งว่า ที่จังหวัดท้ายเงวียน มีโรงเรียนกีฬาสำหรับฝึกสอนผู้มีความสามารถพิเศษในกีฬาประเภทต่างๆ รวมถึง กีฬาวอลเลย์บอล

ดิฉันจึงขออนุญาติพ่อและแม่ เพื่อไปร่วมการคัดตัวเข้าทีมวอลเลย์บอล ทั้งๆที่ ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า จังหวัดท้ายเงวียนอยู่ที่ไหน เพราะตั้งแต่เกิดมา เคยไปได้ไกลสุดแค่ตัวเมืองจังหวัดบั๊กกั่นเท่านั้น อีกทั้งพ่อของดิฉัน ก็เป็นเพียงเกษตรกรที่ทำไร่นามาตลอดชีวิต และไม่เคยเดินทางไปที่จังหวัดท้ายเงวียนมาก่อน มันจึงทำให้พ่อรู้สึกลังเลใจ ดิฉันจึงได้หันไปปรึกษากับคุณแม่ จนกระทั่งท่านรู้สึกสงสาร และยอมพาดิฉันไปตามหาความฝันในที่สุด”

แต่ถึงแม้ว่า พ่อและแม่ยอมใจอ่อนพา “น้องตู้แช่” ลงจากภูเขา เพื่อเดินทางไปตามหาความฝันเป็นนักวอลเลย์บอล ที่ โรงเรียนกีฬาจังหวัดท้ายเงวียน หากแต่เธอก็ต้องประสบกับความผิดหวังอย่างรุนแรง หลังถูก “คัดตัวออก” เนื่องจาก “ส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์”   

โดย “น้องตู้แช่” ยอมรับว่า รู้สึกเสียใจมาก และคุณพ่อของเธอก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน อย่างไรก็ดี คุณพ่อของเธอปลอบใจว่า ไม่ผ่านการคัดตัวก็ไม่เป็นไร ก็แค่กลับไปเรียนหนังสือต่อ และอีกอย่างหนึ่งก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องไปอยู่ห่างไกลจากครอบครัว

ความยากจนไม่ใช่อุปสรรค :

แม้จะถูก “คัดตัวออก” จาก “ส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์” หากแต่ “น้องตู้แช่” ก็ไม่ยอมแพ้ เพราะเธอยังคงมุ่งมั่น ด้วยการไปสมัคร เพื่อเข้าเรียนที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดท้ายเงวียนอีกครั้ง

จนกระทั่ง “ความคล่องแคล่วและทักษะการเล่นวอลเลย์บอลที่น่าทึ่ง” ช่วยให้เธอผ่านการสอบคัดเลือก และได้เข้าเรียนที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดท้ายเงวียนได้สำเร็จ

อย่างไรก็ดี ในช่วงแรกของการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับชีวิตคนเมือง และการพัฒนาไปสู่การเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลเต็มตัว นั้น “น้องตู้แช่” ที่ครอบครัวยากจน กระทั่งต้องอดทนใช้เพียงรองเท้าเก่าๆ และมีขนาดใหญ่กว่าเท้าของเธอเพียงคู่เดียว ยอมรับว่า รู้สึกเครียดและคิดถึงครอบครัวมาก เนื่องจากต้องเผชิญหน้ากับทั้งตารางการฝึกซ้อมและการเรียน จนแทบไม่มีเวลาหายใจ

โดย “น้องตู้แช่” เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ ถึงช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้เอาไว้ว่า…

“ดิฉันได้รับเลือกให้เข้าทีม ช่วงปลายปี 2022 ตอนนั้น ตารางการฝึกซ้อมแน่นมาก ประกอบกับการที่ดิฉันรู้สึกวิตกว่า อาจจะตามการฝึกของเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆไม่ทัน ดิฉันจึงต้องพยายามทุ่มเทอย่างหนัก ทั้งในเวลาการฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมและการฝึกซ้อมส่วนตัว

โดยเฉพาะกับการฝึกกระโดด รวมถึง การตบหัวเสา ที่ทั้งต้องหนักหน่วงและแม่นยำให้มากกว่าคนอื่นๆ ทำให้หลังจากทุกคนฝึกซ้อมเสร็จแล้ว ดิฉันจะอยู่ซ้อมต่อคนเดียวเสมอ”

ซึ่งความพยายามของ “น้องตู้แช่” ที่ใช้ทั้งความอดทนและบอกกับตัวเองว่า ต้องพยายามและมุ่งมั่น เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองไปสู่การเป็น “นักวอลเลย์บอลให้ได้” นั้น ในที่สุด ก็ได้รับความไว้วางใจจากโค้ช ให้เป็น “ตัวทำคะแนนหลัก” ของทีม U-19 ปี ของโรงเรียนกีฬาจังหวัดท้ายเงวียน” ในที่สุด

สู่แสงสปอร์ตไลท์ :

หลังกลายเป็นตัวหลักของทีม U-19 ปี ของโรงเรียนกีฬาจังหวัดท้ายเงวียน เส้นทางสู่การเป็นนักวอลเลย์บอลอาชีพของ “น้องตู้แช่” ก็เริ่มเปิดกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ
“ทีมกิงบั๊กบั๊กนิญ” (Kinh Bac Bac Ninh) ได้ยืมตัวเธอไปลงเล่นในศึก National Youth Club Volleyball Cup ในปี 2022

จากนั้นเป็นต้นมา เธอจึงค่อยๆพาตัวเองเข้าสู่แสงสปอต ์ไลท์ จนกระทั่งปัจจุบัน ได้ถูกทีมชั้นนำของเวียดนาม อย่าง “เวียดทินแบงก์” (Yietinbank) ยืมตัวไปร่วมทีมในฐานะ “นักกีฬาดาวรุ่งมากพรสวรรค์”

สำหรับเส้นทางการติดทีมชาติเวียดนาม ของ “น้องตู้แช่” นั้น เธอติดธงครั้งแรก กับ ทีม U20 เวียดนาม ที่เข้าร่วมการแข่งขัน U20 Asian Cup 2024

โดยในทัวร์นาเมนท์ นั้น “น้องตู้แช่” โชว์ฟอร์มได้อย่างเจิดจรัส ด้วยการเป็นผู้ทำคะแนนอันดับหนึ่งของทีม และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างประวัติศาสตร์ พาทีมจบอันดับที่ 5 จนกระทั่งสามารถคว้าตั๋วไปร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก U21 ในปี 2025 ได้สำเร็จ

ทั้งนี้ โค้ชทีมโรงเรียนกีฬาจังหวัดท้ายเงวียน เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อเวียดนาม ถึงพัฒนาการที่ก้าวกระโดดภายใน 2 ปี ของ “น้องตู้แช่” เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า…

“เธอมีทั้งพลังกระโดดอันน่าทึ่ง สไตล์การเล่นที่หลากหลาย รวมถึงยังสามารถรับบอลได้ทุกสถานการณ์ ที่สำคัญมากไปกว่านั้นในการฝึกซ้อม เธอจะพยายามอย่างเต็มที่เสมอ

ขณะเดียวกันเธอยังมีความอดทนและพยายาม พร้อมที่จะเล่นเป็นทีม อ่อนน้อมถ่อมตน และเชื่อฟังการแนะนำ ด้วยเหตุนี้ เธอจึงสามารถพัฒนาการเล่นตัวเองได้อย่างรวดเร็ว”

ข้อกังขาเพศสภาพ :

ไม่ต่างจากกรณีของนักวอลเลย์บอลรุ่นพี่ อย่าง “เหงียน ถิ บิช เตวียน (Nguyen Thi Bich Tuyen) หรือ “น้องตู้เย็น” พละกำลังและลักษณะทางกายภาพ ของ “น้องตู้แช่” ถูกตั้งคำถามจากแฟนๆวอลเลย์บอลโลกอย่างตรงไปตรงมา จนกระทั่งถึงขั้นเรียกร้องให้มีการ “ตรวจเพศ”

หลัง “น้องตู้แช่” ทำคะแนนได้มากถึง 83 แต้ม จากการลงเล่นเพียง 4 แมชต์ ในศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก U21 จนกระทั่งสามารถพาทีมชาติเวียดนามเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้อย่างรวดเร็วเกินคาด

กระทั่ง ในวันที่12ส.ค. ที่ผ่านมา “สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ” (Fédération Internationale de Volleyball) หรือ FIVB ได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการทั้ง “ยกเลิกผลการแข่งขัน” และ “ตัดสิทธิ์”  1 ใน 2 นักกีฬาหญิงทีมชาติเวียดนาม ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้น คือ “น้องตู้แช่” ที่เพิ่งเข้ารับการตรวจร่างกาย ไม่ให้เข้าร่วมการแข่งขันแมชต์ที่เหลือ ของ ศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก U21 ปี 2025 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่30ส.ค. - 13ก.ย.   

อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน (สิ้นสุดวันที่25ส.ค.68) FIVB ยังคงระบุเพียงว่า “ผู้เล่นที่ถูกตัดสิทธิ์” ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 12.2 และ มาตรา 14.4 รวมถึง มาตรา 13.5.2 ของกฎระเบียบด้านวินัยและการเข้าร่วมการแข่งขัน ของ FIVB และจะมีการส่งเรื่อง เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการด้านวินัย เพื่อพิจารณา “บทลงโทษเพิ่มเติม” ที่อาจขยายให้อยู่นอกเหนือผลการแข่งขัน ที่นักกีฬาเกี่ยวข้อง รวมถึงจะมีการให้สมาคมวอลเลย์บอลเวียดนามและผู้เล่นทั้ง 2 คน ให้ข้อมูลเป็น “ลายลักษณ์อักษร” อย่างเป็นทางการด้วย

บทลงโทษ FIVB :

ทำความเข้าใจ “ระเบียบและบทลงโทษ” ที่ FIVB นำมาใช้กับ “น้องตู้แช่” และ “ทีมชาติเวียดนามU21” ซึ่งประกอบไปด้วย มาตรา 12.2  , มาตรา 14.4 และ มาตรา 13.5.2 ของกฎระเบียบด้านวินัยและการเข้าร่วมการแข่งขัน ของ FIVB

มาตรา 12.2 เป็นบทลงโทษสำหรับการเข้าร่วมการแข่งขันของทีม หรือ ผู้เล่นที่ขาดคุณสมบัติ ประกอบด้วย...

1. ตัดสิทธิผู้เล่นที่ขาดคุณสมบัติ ออกจากการแข่งขัน

2. ปรับให้ทีมแพ้ในนัดที่มีผู้เล่นคนดังกล่าวร่วมการแข่งขัน

3. สมาคมวอลเลย์บอลที่เกี่ยวข้องกับผู้เล่นที่ขาดคุณสมบัติ จะต้องเสียค่าปรับ 30,000 ฟรังก์สวิส (1.2ล้านบาท)

4. ระงับการเป็นสมาชิก FIVB ของ สมาคม , สโมสร , ผู้เล่น , และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สูงสุด 2 ปี

มาตรา 14.4 เป็นภาคขยายของบทลงโทษ ซึ่งอนุญาตให้มีการส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการด้านวินัยของ FIVB เพื่อพิจารณาบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นนอกเหนือจากบทลงโทษเดิม หากมีเหตุผลอันสมควร เช่น การแบนการเข้าร่วมการแข่งขันในทัวร์นาเมนท์อื่นๆ เพิ่มเติมอีกในอนาคต

มาตรา 13.5.2 หรือ ผลของการขาดคุณสมบัติตามกฎเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับ การปรับแพ้ในแต่ละแมชต์ ที่ “นักกีฬาที่ขาดคุณสมบัติมีส่วนร่วม” โดยการปรับแพ้ 3 ต่อ 0 เซ็ท ด้วยสกอร์ 25 ต่อ 0 ทั้งหมด ในทุกนัดที่นักกีฬาคนดังกล่าวเข้าร่วมการแข่งขัน 

ข้อโต้แย้งเวียดนาม :  

หลังถูก “น้องตู้แช่” ถูกประกาศตัดสิทธิ์อย่างเป็นทางการ ปัจจุบัน (สิ้นสุดวันที่25ส.ค.68)  สมาคมวอลเลย์บอลเวียดนาม ได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมให้กับนักกีฬาของตัวเอง ต่อ FIVB ทันที พร้อมกับมีการตั้งข้อสังเกตถึงประเด็นนี้ด้วยว่า…

“เหตุใด FIVB ซึ่งได้อนุมัติเอกสารการลงทะเบียนนักกีฬาทีมชาติเวียดนามทุกคน ก่อนหน้าที่การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นไปแล้ว จึงได้มีการขอเอกสารเพิ่มเติม รวมถึงมียังได้ มีการนำ “เงื่อนไขบางประการที่ไม่ได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้”  มาใช้เฉพาะกับ “นักกีฬาบางคน” จนกระทั่งนำไปสู่ “การตัดสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน” รวมถึง “ยกเลิกผลการแข่งขัน” ที่เชื่อมโยงกับนักกีฬาคนนี้ ในท้ายที่สุด

ทั้งๆที่ โดยปกติแล้ว การตรวจสอบในลักษณะดังกล่าวนี้ ตามระเบียบของ FIVB จะเกิดขึ้นก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้น หรือ สิ้นสุดทัวร์นาเมนต์ลงแล้วเท่านั้น แต่นักกีฬาเวียดนาม กลับถูกเรียกไปตรวจร่างกายทันที ก่อนการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย ระหว่างทีมชาติเวียดนามและทีมชาติเปอร์โตริโก จะเริ่มต้นขึ้น นอกจากนี้ ในประวัติศาสตร์การแข่งขันผ่านมา FIVB เอง ก็ไม่เคยมีการลงโทษที่รุนแรงในลักษณะเช่นนี้มาก่อนอีกด้วย

ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกีฬาของเวียดนามส่วนหนึ่ง ยัง “มองโลกในแง่ดี” ด้วยว่า เนื่องจากปัจจุบัน (สิ้นสุดวันที่25ส.ค.68) FIVB ยังไม่ได้มีการแจกแจงรายละเอียดบทลงโทษเพิ่มเติม บางทีประเด็นเรื่องขาดคุณสมบัติของนักกีฬา ที่เชื่อมโยงกับ “น้องตู้แช่” นั้น อาจเป็นเรื่องการส่งผู้เล่นที่อายุเกินเข้าร่วมการแข่งขัน หรือ อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ “สารกระตุ้น” ก็เป็นได้

อ่านมาถึงบรรทัดนี้ จากบทความอันแสนยาวยืด “คุณ” มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง?

** หมายเหตุ เป็นการรวบรวม มาจากสำนักข่าวเหงือย ลาว ด่ง , บ้าว เยิง เวียด , เยิง ตรี้
และ เยิง เวียด ของ ประเทศเวียดนาม **

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :

ประวัติน้องตู้เย็น และความตั้งใจ ที่ใช้สยบดรามาโชเชียลมีเดีย (ชมคลิป)  

สำรวจวงจรเชื่อมผลประโยชน์ สายใยที่ยึดโยงตระกูลฮุน (ชมคลิป)

สำรวจวีรเวร ที่ไม่ ใช่วีรกรรม BHQ องค์รักษ์ประจำตัว ฮุนเซน (ชมคลิป)

เรียนรู้ถึงตัวตนของฮุนเซน ผ่านการดิ้นรนเพื่อไปสู่อำนาจ (ชมคลิป)

จับ กริพเพน เทียบ F-35 และแนวคิดพึ่งตัวเองของสวีเดน (ชมคลิป)