ญี่ปุ่นเจรจาภาษีทรัมป์ ล้วงเบื้องลึกก่อนถึงทีมไทย (ชมคลิป)
by Trust News, 24 เมษายน 2568
ญี่ปุ่นเจรจาภาษีทรัมป์ ล้วงเบื้องลึกก่อนถึงทีมไทย
หลังผู้แทนของรัฐบาลญี่ปุ่น กลายเป็น “ผู้กล้ารายแรกของชาวโลก” ที่เดินเข้าสู่ประตูทำเนียบขาว เพื่อเปิดการเจรจาทวิภาคีระดับรัฐมนตรีรอบแรก กับ สหรัฐเมริกา “เพื่อขอความกรุณา ได้โปรดปรับลดมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้” หรือ Reciprocal Tariff ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การเจรจาเป็นเวลา 50 นาทีดังกล่าว มีประเด็นสำคัญอะไรที่น่าสนใจ?
และทางฝ่ายญี่ปุ่นมีท่าทีที่จะตอบสนองต่อข้อเรียกร้องจากฝ่ายสหรัฐมากน้อยแค่ไหน?
รวมถึงมีบทวิเคราะห์อะไรที่น่าสนใจต่อการพบปะในครั้งนี้บ้าง?
วันนี้ “เรา” ลองไปพิจารณา “ข้อมูลที่น่าสนใจ” จากทางฟากฝั่งญี่ปุ่นกันดู!

ใครคือหัวหน้าผู้แทนในการเจรจาของญี่ปุ่น :
นายอิชิบะ ชิเงรุ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ LDP ได้แต่งตั้ง นายอากาซาวะ เรียวเซ รัฐมนตรีกระทรวงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สำหรับการเจรจาในครั้งนี้
สำหรับประวัติคร่าวๆ ของ นายอากาซาวะ เรียวเซ นั้น หลังจบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียว ได้เข้าไปทำงานที่กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งและการท่องเที่ยว ก่อนจะเริ่มต้นเข้าสู่ถนนทางการเมือง หลังได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในปี 2005
ส่วนประสบการณ์การทำงานทางการเมืองนั้น ก่อนหน้านี้ นายอากาซาวะ เรียวเซ เคยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีช่วยประจำสำนักงานคณะรัฐมนตรี และปัจจุบันในทางการเมือง นายอากาซาวะ เรียวเซ ถือเป็นหนึ่งในผู้ใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน นายอิชิบะ ชิเงรุ อย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด
สำหรับมุมมองในเรื่องเศรษฐกิจนั้น นายอากาซาวะ เรียวเซ เคยแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่า... การนำพาประเทศญี่ปุ่นออกจากภาวะเงินฝืดถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่สิ่งนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ หากประชาชนยังคงไม่มั่นใจว่า พวกเขาจะได้รับค่าจ้างเพิ่มมากขึ้นกว่าราคาสินค้า
ทีมญี่ปุ่นพบเจออะไรบ้างที่ทำเนียบขาว :
ขณะกำลังนอนหลับอยู่บนเครื่องบิน ที่กำลังเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา นายอากาซาวะ เรียวเซ ได้รับแจ้งข่าวเซอร์ไพรซ์จากทางทำเนียบขาวกลางทางว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นผู้มานั่งหัวโต๊ะเพื่อเจรจาด้วยตัวเอง จากเดิมที่ผู้นำในการเจรจาจะมีเพียง “นายสก็อต เบสเซนต์” (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ , นายฮาวเวิร์ด ลัทนิค (Howard Lutnick) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นายเจมีสัน กรีเออร์ (Jamieson Greer) ผู้แทนการค้าสหรัฐ
สำหรับรายละเอียดการสนทนา ที่มีการเปิดเผยจากทางฝ่ายทีมญี่ปุ่นนั้น ระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มี 3 ข้อเรียกร้องสำคัญเพื่อหวังลดการขาดดุลกับญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย ข้อที่ 1. ญี่ปุ่นต้องนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะ ข้าว , เนื้อสัตว์ , ถั่วเหลือง , อาหารทะเล และมันฝรั่ง ให้มากขึ้น
ข้อที่ 2. ญี่ปุ่นจะต้องขยายการนำเข้ารถยนต์สัญชาติอเมริกัน ส่วนข้อที่ 3 คือ ญี่ปุ่น จะต้อง “แบ่งเบา” ภาระงบประมาณสำหรับการป้องกันประเทศญี่ปุ่นไปจากสหรัฐฯ หรือพูดง่ายๆ คือ ควรซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ สำหรับการป้องกันตนเองให้มากขึ้น
โดยในระหว่างการเจรจา นายอากาซาวะ เรียวเซ ได้เปิดเผยกับสื่อในประเทศญีปุ่นว่า ผู้นำสหรัฐ ได้พูดกับเขาอย่างตรงไปตรงมาเช่น...
“สหรัฐฯ เป็นฝ่ายที่ขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่นเป็นตัวเลขสูงถึง 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (4ล้านล้านบาท)”
“ผมไม่เห็นรถยนต์สัญชาติอเมริกันสักคันเดียวบนท้องถนนในประเทศญี่ปุ่น”
และ “สหรัฐกำลังแบกภาระสำหรับการปกป้องญี่ปุ่น ในขณะที่ทางฝ่ายญี่ปุ่นไม่ต้องรับผิดชอบอะไรใดๆเลย”
ในขณะที่ผู้แทนเจรจาสายเหยี่ยวอย่าง “นายเจมีสัน กรีเออร์” ซึ่งได้พบกันในรอบการเจรจาระดับรัฐมนตรีในเวลาต่อมา กล่าวว่า “ญี่ปุ่นเลือกปฏิบัติกับยานยนต์ของสหรัฐในแง่มาตรฐานความปลอดภัย เพื่อหวังปกป้องอุตสหกรรมรถยนต์ภายในประเทศ
นอกจากนี้ ยังวิพากษ์วิจารณ์ระบบการนำเข้าและจัดจำหน่ายข้าวของญี่ปุ่นอีกด้วยว่า... สร้างมาตรฐานการตรวจสอบและควบคุมการนำเข้าเกินจริง หนำซ้ำยังขาดความโปร่งใส เพื่อกีดกันสินค้าเกษตรจากทางสหรัฐฯด้วย
ข้อตอบโต้ของทีมญี่ปุ่น :
นายอากาซาวะ เรียวเซ ให้สัมภาษณ์กับสื่อของญี่ปุ่น ถึงบทสนทนาในห้องทำงานรูปไข่ ของ ทำเนียบขาว กับ ทางฝ่ายทีมสหรัฐฯ ว่า..
“ข้อเท็จจริง ณ ปี 2024 ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่นเพียง 68,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2.2ล้านล้านบาท) เท่านั้น”
นายอากาซาวะ เรียวเซ ยังได้เน้นย้ำด้วยว่า ที่ผ่านมาบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ จนนำไปสู่การสร้างงานให้กับชาวอเมริกันหลายล้านตำแหน่ง พร้อมกันนี้ หัวหน้าผู้แทนทีมญี่ปุ่น ยังปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการเลือกปฏิบัติกับรถยนต์สัญชาติอเมริกันด้วย
สำหรับในประเด็นเรื่องงบประมาณการป้องกันประเทศนั้น นายอากาซาวะ เรียวเซ ได้แจกแจงว่า ในช่วงระหว่างปีงบประมาณ 2022 - 2026 ญี่ปุ่นมีการตั้งงบประมาณสำหรับการป้องกันประเทศเป็นตัวเลขสูงถึง 1 ล้านล้านเยน (234,946ล้านบาท)
นอกจากนี้ หัวหน้าทีมญี่ปุ่น ยังได้เรียกร้องให้ผู้นำสหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้สำหรับรถยนต์ เหล็ก และอะลูมิเนียม เพราะฝ่ายญี่ปุ่นเองก็ไม่สามารถที่จะประนีประนอมในเรื่องนี้ได้เช่นกัน
การเตรียมพร้อมเจรจารอบสอง ของ ทีมญี่ปุ่น :
เมื่อทีมญี่ปุ่น นำข้อเสนอของฝ่ายสหรัฐฯกลับประเทศ ล่าสุด มีรายงานว่า นายอิชิบะ ชิเงรุ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้มีความตั้งใจที่จะผ่อนคลายท่าทีอันขึงขังของทางฝ่ายทีมสหรัฐฯ ด้วยการเตรียมยื่นข้อเสนอสำหรับการเจรจาต่อรองเบื้องต้น ในเรื่องการพิจารณานำเข้าข้าวและถั่วเหลืองเพิ่มเติมจากทางสหรัฐฯแล้ว
โดยเฉพาะในกรณีของถั่วเหลืองนั้น ฝ่ายญี่ปุ่นทราบดีว่า ปัจจุบันประเทศจีนถือเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับการส่งออกถั่วเหลือของสหรัฐฯ โดยในปี 2023 นั้น จีนมีสัดส่วนการนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐสูงถึง 54%
แต่ปัจจุบัน ด้วยเพราะปัญหาการขึ้นภาษีตอบโต้กันไปมา ประเด็นนี้จึงกลายเป็นปัญหาสหรัฐฯ ที่ญี่ปุ่นเชื่อว่า “สามารถนำไปใช้เพื่อเจรจาต่อรองเรื่องสินค้าเกษตรได้”
ส่วนเรื่องการนำเข้ารถยนต์อเมริกัน นั้น เนื่องจากทั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ และ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ได้เน้นย้ำเป็นพิเศษ ล่าสุดจึงมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กำลังเร่งเดินหน้าหามาตรการผ่อนปรนที่เฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับ ประเด็นเรื่องสินค้าเกษตร เพื่อเตรียมไว้สำหรับการเจรจาในรอบต่อไป
ขณะเดียวกัน ยังได้มีการเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการภายในประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจส่งออก ที่อาจได้รับผลกระทบจาก “ภาษีทรัมป์” ในเร็วๆนี้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ธุรกิจเหล่านั้นจะไม่ประสบปัญหาทางการเงินในระหว่างการเจรจาที่จะเกิดขึ้น
ส่วนในประเด็นเรื่องการซื้ออาวุธจากทางสหรัฐฯเพิ่มเติมนั้น เนื่องจากทางฝ่ายญี่ปุ่นมองว่า ทั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้แทนการค้าสหรัฐ ไม่ได้มีการพูดถึงในระหว่างการเจรจา จึงเชื่อว่า “ไม่น่าจะเป็นหัวข้อหลักในการรอบต่อไป”
เพียงแต่ในเมื่อผู้นำสหรัฐฯ เป็นฝ่ายที่ยกประเด็นนี้ขึ้นมาเป็นหัวข้อในการเจรจา นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจึงเชื่อว่า... แทบไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากจะต้องพ่วงเอาข้อเสนอนี้มาเป็นส่วนหนึ่งในแพ็กเก็ตการเจรจารอบต่อไป ซึ่งจะเป็นการเจรจาที่บรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า น่าจะมีการเปิดไพ่ในมือที่กลบไต๋ไว้ ให้อีกฝ่ายได้รับทราบทั้งหมด
ทั้งนี้ ล่าสุด (24เม.ย.) สำนักข่าว NHK รายงานว่า นายอากาซาวะ เรียวเซ รัฐมนตรีกระทรวงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จะเดินทางเยือนสหรัฐฯ เป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 30 เม.ย. - 1 พ.ค. และคาดว่าน่าจะมีการเปิดการเจรจาระดับรัฐมนตรีรอบสอง กับฝ่ายรัฐบาลสหรัฐฯ ในวันที่ 1 พ.ค. ตามเวลาในประเทศญี่ปุ่น

เบื้องลึกการเจรจารอบแรกสหรัฐฯ ญี่ปุ่น :
นายอากาซาวะ เรียวเซ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบตั้งแต่ก่อนเดินทางไปสหรัฐฯแล้วว่า “ไม่ใช่บุคคลที่เหมาะสมสำหรับภารกิจนี้” เนื่องจากมีประสบการณ์ทางการทูตและการเจรจาการค้าระหว่างประเทศน้อยเกินไป
ซ้ำร้ายสื่อในญี่ปุ่นยังรายงานด้วยว่า หัวหน้าทีมญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นบุคคลใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ได้แสดงพฤติกรรมที่ดู “ตื่นเต้นเกินกว่าเหตุ” ด้วยการโทรศัพท์ไปยังหน่วยงานราชการต่างๆ พร้อมกับตั้งคำถามที่ว่า มีเอกสารอะไรที่จะช่วยให้สามารถทำข้อตกลงกับผู้นำสหรัฐฯได้ จนกระทั่งทำให้เกิดความสับสนอลหม่านขึ้นไปทั่ว
ยิ่งไปกว่านั้น การวางตัวในขณะการเจรจาและแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ของ นายอากาซาวะ เรียวเซ ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้วยว่า “ทำให้ฝ่ายญี่ปุ่นดูเหมือนตกเป็นเบี้ยล่างของสหรัฐ”
จากการไปสวมหมวกที่มีสโลแกน Make America Great Again ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ฉีกยิ้มกว้างพร้อมยกนิ้วโป้ง ถ่ายรูปในทำเนียบขาว รวมถึงยังเอ่ยปากออกมาว่า “ตนเองอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าผู้นำสหรัฐฯที่สร้างเซอร์ไพรซ์มาเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว” ทั้งๆที่ตัวเขาเองเป็นผู้แทนอันชอบธรรมของรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งควรอยู่ในฐานะที่เท่าเทียมกับคู่เจรจา
นอกจากนี้ นายอากาซาวะ เรียวเซ ยังยอมรับกับสื่อญี่ปุ่นอย่างน่าตาเฉยเสียด้วยว่า ตนเองรู้สึกถึงแรงกดดันในแบบชนิดที่เรียกว่า “ไม่เคยรู้สึกมาก่อน” เมื่อต้องเจรจาต่อหน้ากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นคนที่มีรูปร่างใหญ่โตด้วย

ด้วยเหตุนี้ สื่อในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จึงมองว่า ความสำเร็จเพียงเรื่องเดียวที่ นายอากาซาวะ เรียวเซ ได้รับ คือการที่เขาทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ “รู้สึกพึงพอใจ” จนกระทั่งไม่ถูกไล่ออกจากทำเนียบขาว เช่นเดียวกับ ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ในญี่ปุ่น ยังวิเคราะห์ถึงการเจรจารอบแรก ที่เกิดขึ้นเอาไว้อย่างน่าสนใจด้วยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้จัดองค์ประกอบของการวางโต๊ะเจรจา รวมถึงเผยแพร่ภาพถ่ายระหว่างการเจรจารวม 27 ภาพ ที่จงใจให้ดูราวกับว่า...
“ประธานาธิบดีสหรัฐ กำลังเรียกผู้ใต้บังคับบัญชา มารับฟังในสิ่งที่เขาต้องการสั่งการ มากกว่าที่จะดูเหมือนเป็นเจรจาที่แต่ละฝ่ายเท่าเทียมกัน”
อ่านมาถึงบรรทัดนี้ จากบทความอันแสนยาวยืด “คุณ” มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง?

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :
มุมมองสก็อต เบสเซนต์ ทีมเศรษฐกิจไทยจะพบกับอะไร?
สมการความสัมพันธ์ Apple made in China
คัมภีร์เข้าสู่ทำเนียบขาว ฉบับ ปีเตอร์ นาวาร์โร
ผ่ามุมคิดรัฐบาลสิงคโปร์ แม้โดนภาษีทรัมป์แค่10%
You might be intertested in this news.
Mostview
โทโฮคุ ชินคันเซ็น E5 ฮายาบุสะ 60 ตัวจริง จากหนังดัง "Bullet Train Explosion"
จากหนังแอ็คชั่นญี่ปุ่น "Bullet Train Explosion : ระเบิดรถด่วนขบวนระห่ำ" เรื่องราวชินคันเซ็น ขบวนฮายาบุสะ 6050B ถูกคนร้ายขู่วางระเบิด ห้ามรถวิ่งต่ำกว่า 100 กม./ชม. กับข้อมูลที่จะพาไปตามรอยเส้นทางรถไฟที่วิ่งเร็วสุดที่ 320 กม./ชม.จากชิน อาโอโมริตรงสู่โตเกียว
แนะนำหนังสือ-อีบุ๊ก นิยายน่าอ่าน ประจำเดือนพฤษภาคม
แนะนำหนังสือ-อีบุ๊ก นิยายน่าอ่าน ประจำเดือนพฤษภาคม...
เปิดตัว “พระร่วง..มหาศึกสุโขทัย” กับการตีความใหม่ที่เข้มข้น
เปิดตัว “พระร่วง..มหาศึกสุโขทัย” กับการตีความใหม่ที่เข้มข้น เมื่อสองพี่น้องต่างอุดมการณ์แตกต่างกัน จะขึ้นครองบัลลังก์อาณาจักรศรีสัชนาลัย สุโขทัย ...
ไฟฟ้าดับยุโรปคลี่คลาย สเปนกู้คืนได้ 50% โปรตุเกสไม่พบการโจมตีทางไซเบอร์
สเปน กู้คืนไฟฟ้ากลับเข้าระบบแล้ว 50% หลังไฟฟ้าดับวงกว้างกว่า 10 ชั่วโมง ด้านโปรตุเกสเจอรับผลกระทบไม่ต่างกัน จนต้องประชุมฉุกเฉิน 2 ประเทศ เร่งหาสาเหตุ-แก้ปัญหา ขณะที่ ยังไม่พบหลักฐานชี้ว่าเป็นการโจมตีทางไซเบอร์ ต่อโครงสร้างสาธารณูปโภค
ไขคดีใหม่ “ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน” เดอะ มูฟวี่ ภาค 28 : ปริศนาภาพติดตามรณะ
นาครั้งใหม่ ของภาพยนตร์อะนิเมะสืบสวนสุดเดือด “ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เดอะ มูฟวี่ ภาค 28 : ปริศนาภาพติดตามรณะ 2” จาก ค่ายยักษ์ใหญ่ บริษัท เดกซ์ (ดรีม เอกซ์เพรส) จำกัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
