ลิเวอร์พูลแชมป์ลีก20สมัย ความยืดหยุ่นสู่ความสำเร็จ

อะไรคือ “ปัจจัยสำคัญ” ในการพาสโมสรลิเวอร์พูล “พุ่งชนความสำเร็จ” จนกระทั่งก้าวทะยานขึ้นเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษสมัยที่ 20 ทั้งๆที่ “ชายผู้ถูกเลือก” ให้ก้าวมาแทนที่ “บุตรแห่งแอนฟิลด์” ผู้ปลุกให้ยักษ์หลับอย่างทีมเครื่องจักรสีแดงกลับมาเดินเครื่องได้อย่างมีชีวิตชีวาอีกครั้ง อย่าง “เยอร์เกน คลอปป์” (Jurgen Klopp) ถูกตั้งเครื่องหมายคำถามต่างๆนานามาตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล 2024/25 แล้วว่า…

เงาทะมึนแห่งความสำเร็จ รวมถึงความรักและความผูกพันธ์ที่เหล่าสเกาเซอร์มอบให้กับ The Boss คนเก่าไปจนแทบหมดใจ อีกทั้งอีกหนึ่งเงื่อนไขสำคัญ คือ สโมสรมีเงินที่จำกัดสำหรับการจับจ่ายซื้อนักเตะในแบบที่เขาต้องการ เนื่องจากได้ใช้จ่ายเงินจำนวนมากไปกับ ทีมคลอปป์ 2.0 แล้วนั้น

น่าจะกลายเป็นทั้งแรงกดดันและอุปสรรคให้กับ “ชายผู้ถูกเลือก” คนนี้ จนกระทั่งขวางกั้น ไม่ให้เขาสามารถนำพา ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์อะไรสักแชมป์ในฤดูกาลแรกของการทำงานได้อย่างแน่นอน ในขณะที่ความหวังในการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด ถูกประเมินเอาไว้ที่ อัน3 รองจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า และ อาร์เซนอล เสียด้วย จากการถูกประเมินโอกาสในการคว้าแชมป์โดย ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของ Opta Sports เพียง 5.1% (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 82.2% , อาร์เซนอล 12.2%)

แต่แล้ว...เครื่องหมายคำถามต่างๆนานาเหล่านั้น ก็ “ปลิวสลายหายไปในอากาศทันที” เมื่อ “ชายผู้ถูกเลือก” นาม “อาร์เน สล็อต” (Arne Slot) วัย 46 ปี อดีตผู้จัดทีมการเฟเยนูร์ด รอตเตอร์ดัม สามารถ เอาชนะ “ทั้งแรงกดดันและอุปสรรค” เหล่านั้น ได้สำเร็จ

“เวทย์มนต์” ที่ “อาร์เน สล็อต” เสกให้ “ทีมคลอปป์ 2.0” กลายเป็นแชมป์ลีกสมัยที่ 20 มีอะไรบ้าง? วันนี้ “เรา” ลองไปสำรวจ “คาถาความสำเร็จ” ที่ทำให้เหล่าเดอะค็อป ได้เฮจนเต็มเสียงพร้อมกับแห่ขบวนรถฉลองชัยชนะรอบเมือง ที่ว่านี้กันดู!

รับฟังเพื่อเปลี่ยนแปลงทีมไปสู่ความยืดหยุ่น :

เป็นที่รับทราบกันดีว่า ปรัชญาการเล่นแบบเฮฟวีเมทัลฟุตบอล ของ “เยอร์เกน คลอปป์” นั้น แม้จะเป็นที่ถูกอกถูกใจของเหล่าสเกาเซอร์ยิ่งนัก หากแต่ในมุมกลับกันคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า “การบุกตะลุมบอนเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามแบบชนิดไม่ให้หายใจหายคอ” นั้น นอกจากต้องใช้พลังงานในการเล่นสูงแล้ว มันอาจต้องแลกมาด้วย การบาดเจ็บของนักเตะกำลังหลัก ซึ่งมักมีผลต่อการขับเคี่ยวชิงแชมป์ลีกที่กินระยะเวลายาวนานถึง 9 เดือนอยู่เสมอๆ

ด้วยเหตุนี้ เมื่อมีการเปิดรับฟังความเห็นของบรรดานักเตะในช่วงปรีซีซั่น จึงนำไปสู่การปรับเปลี่ยน “รูปแบบการฝึกซ้อมและวิธีการเล่น” ที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น การปรับกฎให้นักเตะสามารถนอนพักที่บ้านในคืนก่อนเกมนัดเหย้า แทนที่การไปรวมตัวเข้าพักที่โรงแรมเหมือนสมัย “เยอร์เกน คลอปป์”

โดย “อาร์เน สล็อต” ให้เหตุผลถึงการตัดสินใจเปลี่ยนกฎนี้ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากนักเตะทุกคนในทีมเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า…

“การพักผ่อนนอนหลับถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับการสร้างผลงานให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อีกทั้งการได้อยู่กับสมาชิกในครอบครัวก่อนลงแข่งขันนอกจากเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเหล่านักเตะแล้ว มันยังทำให้พวกเขาเตรียมพร้อมสำหรับเกมการแข่งขันได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย”

สำหรับการปรับเปลี่ยนอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ ที่ทำให้ “นักเตะเครื่องจักรสีแดง” สามารถยืนระยะได้ยาวนาน และสามารถหลีกเลี่ยงจาก อาการบาดเจ็บได้ดีขึ้นกว่าเดิมก็คือ “การปรับเปลี่ยนวิธีการฝึกซ้อมและรูปแบบในการเล่น”

โดยในส่วนของฝึกซ้อมนั้น “อาร์เน สล็อต” ปรับให้มีการใช้เวลาระยะเวลาที่มีระยะเวลายาวนานขึ้น แต่จะมีการเข้มข้นน้อยลง

แล้วระยะเวลาการฝึกซ้อมที่ยาวนานขึ้นถูกใช้ไปกับอะไรบ้าง?

นักเตะทุกคนจะถูกเรียกให้มารายงานตัว ที่สนามซ้อมตั้งแต่เวลา 09.15 นาที เพื่อรัปทานอาหารร่วมกันก่อนลงฝึกซ้อมทุกครั้ง นอกจากนี้ ในการเรียกประชุมซึ่งมีเกือบทุกวันนั้น “อาร์เน สล็อต” จะมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับผลการฝึกซ้อม และบทวิเคราะห์เกมการแข่งขันในนัดถัดไปแบบเฉพาะเจาะจง แก่ผู้เล่นทุกคนเสมอ

ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่จบการแข่งขันในแต่ละนัด “อาร์เน สล็อต” และ แดเนียล สเปียร์ริตต์ (Daniel Spearritt) สต๊าฟคนสำคัญที่ทำหน้าที่วิเคราะห์หลังเกม จะตัดคลิปช่วงเวลาสำคัญในนัดล่าสุด เพื่อนำไปให้นักเตะรับชมเพื่อเรียนรู้ความผิดพลาดและแนะนำวิธีการแก้ไขทันทีด้วย

ขณะที่ในระหว่างการฝึกซ้อมนั้น “อาร์เน สล็อต” จะให้ความสำคัญอย่างมากสำหรับการยืนตำแหน่งของนักเตะ ดังจะเห็นได้จากแม้แต่ในการเล่นลิงชิงบอลซึ่งปกติมักจะเป็นเพียงการวอร์มอัพธรรมดา แต่สำหรับกุนซือชาวดัชต์ นั้น นักเตะทุกคนจะถูกเคี่ยวกรำอย่างหนักเพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด เพื่อให้เพื่อนสามารถส่งบอลได้ง่ายขึ้นด้วย

ซึ่งวิธีการแนะนำแบบเฉพาะเจาะจงในแบบแทบจะรายวันนี้ “เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์” นักเตะกำลังหลักของทีมยอมรับว่า “ทำให้ตัวเขาเองมีการพัฒนาในการเล่นมากขึ้น”

“เราดูทุกเกมด้วยกัน และเจ้านายจะเน้นย้ำอยู่เสมอว่า เขาต้องการให้ผมปรับปรุงในจุดไหนบ้าง”

การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อถนอมนักเตะ และสร้างผลลัพท์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม :

“อาร์เน สล็อต” ปรับกลยุทธ์เฮฟวีเมทัลฟุตบอล ที่มีการเข้าปะทะอย่างแข็งกร้าวเปี่ยมไปด้วยวินัยและใช้พลังงานอย่างล้นปรี่ ให้ซอฟท์ลงกว่าเดิม ด้วยการเน้นไปที่ การครองครองบอลมากขึ้น และมีจังหวะจะโคนความเข้มข้นในการเพรซซิ่งแดนบนที่ลดลงเล็กน้อย

ซึ่งแน่นอนว่าวิธีการเช่นนี้ ย่อมทำให้นักเตะวิ่งด้วยความเร็วเต็มสปีดน้อยลง เหนื่อยน้อยลง และเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บน้อยลงด้วย

โดยประเด็นนี้ ยืนยันได้จากในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล มีจำนวนครั้งที่นักเตะบาดเจ็บเพียง 37 ครั้ง และสูญเสียจำนวนวันจากอาการบาดเจ็บของนักเตะรวมไปเพียง 816 วัน

ในขณะที่คู่ต่อกรสำคัญในฤดูกาลนี้อย่าง อาร์เซนอล ซึ่งมีจำนวนครั้งที่นักเตะบาดเจ็บถึง 58 ครั้ง และสูญเสียจำนวนวันจากอาการบาดเจ็บของนักเตะรวมไปถึง 1,194 วัน ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีจำนวนครั้งที่นักเตะบาดเจ็บถึง 53 ครั้ง และสูญเสียจำนวนวันจากอาการบาดเจ็บของนักเตะรวมไปถึง 1,153 วัน

ซึ่งสถิติดังกล่าวน่าจะเป็นเครื่องที่ยืนยันได้แล้วใช่ไหมว่า เพราะเหตุใด “เหล่าสเกาเซอร์” จึงได้เห็น กลุ่มนักเตะกำลัง 11 คนแรก สามารถลงเล่นในลีกได้อย่างพร้อมหน้าพร้อมตาแทบจะต่อเนื่อง ทั้งๆที่ “อาร์เน สล็อต” ไม่ชื่นชอบวิธีการโรเตชั่นนักเตะก็ตามที!

เปลี่ยนนักเตะเท่าที่มี ให้กลายเป็นร่างทองอันทรงพลังกว่าเดิม :

และไม่เพียงแต่ปรับเปลี่ยนในแง่ Concept การเล่นฟุตบอลเท่านั้น “อาร์เน สล็อต” ยังปรับ “นักเตะเท่าที่มี” ให้กลายเป็น “ร่างทองทรงพลัง” ได้อย่างเหลือเชื่อด้วย โดยเฉพาะนักเตะหมายเลข 6 ที่ในเวลานี้ กลายเป็นกำลังสำคัญที่ทีมจะขาดเสียไม่ได้ อย่าง “ไรอัน กราเฟนแบร์ก” มิดฟิลด์ที่มีทั้งมันสมอง ความสงบนิ่ง และสถิติการเข้าปะทะแย่งบอลอันน่าเหลือเชื่อ

ดังจะเห็นได้จากสถิติการลงเล่น 34 นัดในลีก “ไรอัน กราเฟนแบร์ก” แย่งบอลสำเร็จถึง 57 ครั้ง ซึ่งถือเป็นสถิติอันดับ 2 ในลีก เป็นรองเพียง อารอน วานบิสซาก้า ของ เวสต์แฮม ที่มีสถิติแย่งบอลสำเร็จ 59 ครั้ง เท่านั้น! ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล อย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค อยู่ที่ 52 ครั้งเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ “ไรอัน กราเฟนแบร์ก” จึงกลายเป็น 1 ใน 3 นักเตะของลิเวอร์พูล (ส่วนอีก 2 คนคือ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์) ที่ “อาร์เน สล็อต” จะเลือกให้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตั้งแต่วินาทีแรกในลีกทุกนัดเสมอ (สถิติจนถึงนัดที่ 34)

การทำงานของทีมงานหลังบ้าน ที่น่าสนใจ :

อีกหนึ่งรายละเอียดอันน่าสนใจ นอกเหนือจากฝีไม้ลายมือของ “อาร์เน สล็อต” ที่นำพาลิเวอร์พูลไปสู่ความสำเร็จในฤดูกาลนี้ ก็คือ การทำงานหลังบ้านของ เจ้าของสโมสร "จอห์น เฮนรี" (John Henry) ผู้บริหารกลุ่มทุน "เฟนเวย์ สปอร์ตส กรุ๊ป" (Fenway Sports Group) หรือ FSG

โดยประเด็นแรกที่ควรพูดถึง คือ การสรรหาคนที่ใช่เพื่อมาแทนที่ เยอร์เกน คลอปป์ ได้อย่างไร้รอยต่อ โดยเฉพาะในแง่ของแท็กติกการเล่น เนื่องจากทั้งใช้รูปแบบการเล่นที่แทบจะไม่ต่างกันมากนัก นั่นคือ 4-3-3

เพียงแต่ในรายละเอียดนั้น อาจแตกต่างกันเล็กน้อยตรงที่ แผงมิดฟิลด์ 3 คนที่ คลอปป์ เลือกนั้น ส่วนใหญ่มักเป็นแนววิ่งไม่มีหมดและเข้าปะทะเด็ดขาด ในขณะที่ สล็อต นั้น ต้องการหนึ่งในนั้น ทำหน้าที่เป็นหมายเลข 10

นอกจากนี้ อีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจของทั้งคู่ คือ Team Styles ยังแทบไม่มีความแตกต่างกันอีกด้วย ดังจะเห็นได้จากสถิตินี้

เยอร์เกน คลอปป์ : ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2023/24  

ค่าเฉลี่ยการครอบครองบอล : 62%
Sequence Time : 11.42 วินาที 
Passes per Sequence : 4.17 ครั้ง 
10+ Pass op Sequence : 669 ครั้ง
Build up Attacks : 148 ครั้ง 

อาร์เน สล็อต : เฟเยนูร์ด รอตเตอร์ดัม ฤดูกาล 2023/24

ค่าเฉลี่ยการครอบครองบอล : 62%
Sequence Time : 10.81 วินาที 
Passes per Sequence : 3.80 ครั้ง 
10+ Pass op Sequence : 466 ครั้ง 
Build up Attacks : 148 ครั้ง

หมายเหตุ : 
Sequence Time : ค่าเฉลี่ยเวลาการเล่นแบบกลุ่ม

PPS (Passes per Sequence) : ค่าเฉลี่ยจำนวนการส่งบอลต่อการเล่นแบบกลุ่ม 1 ครั้ง 

10+Pass (10+ Pass op Sequence) : จำนวนการเล่นแบบ Open-play แบบกลุ่มต่อครั้ง ที่มีการจ่ายบอล 10 ครั้งขึ้นไป

Build up Attacks : จำนวนครั้งการเล่นแบบ Open-play แบบกลุ่มที่มีการส่งบอลมากกว่า 10 ครั้งขึ้นไป และจบลงด้วยการยิงประตู หรือ มีการสัมผัสบอลอย่างน้อย 1 ครั้งในพื้นที่กรอบเขตโทษฝ่ายตรงข้าม

การทำงานหลังบ้านที่น่าชื่นชม :

ขณะเดียวกัน กลยุทธ์การซื้อนักเตะของ FSG ยังมีความน่าสนใจในแง่ของการใช้จ่ายเงินอย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ฤดูกาล 2024/25 ลิเวอร์พูล ซื้อนักเตะเพียง 2 คน คือ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี ผู้รักษาประตูจากสโมสรบาเลนเซีย ในราคา 30 ล้านยูโร ส่วนคนที่ 2 คือ เฟเดริโก้ เคียซา จากยูเวนตุสในราคา 12 ล้านยูโร ในขณะที่เงินที่ได้จากการขายผู้เล่นออกไป อยู่ที่ 47 ล้านยูโร ทำให้ทีมมีกำไรจากตลาดนักเตะ 5 ล้านยูโร ซึ่งแตกต่างจากกรณีของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ขาดทุนจากตลาดซื้อขายนักเตะในฤดูกาลนี้ถึง -120.8 ล้านยูโร

อีกทั้งใน 4 ฤดูกาลที่ผ่านมา สโมสรเรือใบสีฟ้าทีมเดียวกันนี้ ยังขาดทุนเฉลี่ยจากตลาดซื้อขายนักเตะเป็นตัวเลขสูงถึง -92.5 ล้านยูโรต่อฤดูกาลด้วย

และหากมองให้ลึกลงไปยิ่งกว่านั้น กลยุทธ์การซื้อนักเตะของ FSG ยังประสบความสำเร็จในแง่ความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไปมากกว่าทีมคู่แข่งอื่นๆ ด้วย นั่นเป็นเพราะ หากนับจากฤดูกาลที่ลิเวอร์พูลได้แชมป์ลีกล่าสุด เมื่อฤดูกาล 2019/20 จนถึงปัจจุบันคือ ฤดูกาล 2023/24
 
สโมสรหงส์แดงใช้เงินซื้อนักเตะใหม่ไปรวมกันทั้งสิ้น 537.6 ล้านยูโร ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 10 ของสโมสรในพรีเมียร์ลีกอังกฤษทั้งหมด หากแต่ในจำนวนนี้ เป็นการซื้อ “นักเตะ 11 ตัวจริง” คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 88% ด้วย

แต่ในทางกลับกัน กรณีของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใช้เงินไปถึง 896.4 ล้านยูโร กับ 17 นักเตะที่ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ อันดับถัดมา คือ อาร์เซนอล ใช้เงินไป 774.5 ล้านยูโร กับ 22 นักเตะที่ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ หากแต่ที่หนักที่สุด คือ เชลซี ที่ใช้เงินไปถึง 1,520 ล้านยูโร กับ 31 นักเตะที่ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ใน 5 ฤดูกาลที่ผ่านมา!

ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าวนี้ จะเห็นได้ว่า เป็นการใช้จ่ายเงินที่ทั้งเข้าเป้าและสุดคุ้มค่า รวมถึงยังได้ “คุณภาพมากกว่าปริมาณ” เมื่อเปรียบเทียบกับ บรรดาทีมชั้นนำในพรีเมียร์ลีกอย่างชัดเจนด้วย

อ่านมาถึงบรรทัดนี้ จากบทความอันแสนยาวยืด “คุณ” มีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง?

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :

ญี่ปุ่นเจรจาภาษีทรัมป์ ล้วงเบื้องลึกก่อนถึงทีมไทย

มุมมองสก็อต เบสเซนต์ ทีมเศรษฐกิจไทยจะพบกับอะไร?

สมการความสัมพันธ์ Apple made in China

คัมภีร์เข้าสู่ทำเนียบขาว ฉบับ ปีเตอร์ นาวาร์โร

ผ่ามุมคิดรัฐบาลสิงคโปร์ แม้โดนภาษีทรัมป์แค่10%